Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
การดูแลเด็กเมื่อเข้ารับการรักษาใน โรงพยาบาล, นางสาวศรัญญา กันธวัง …
การดูแลเด็กเมื่อเข้ารับการรักษาใน
โรงพยาบาล
เด็ก
ความหมายจาก พจนานุกรม
คนที่มีอายุยังน้อย
อายุยังไม่ครบ 18 ปีบริบูรณ์
บุคคลที่มีอายุ 15 ปีลงมา
บุคคลที่มีอายุไม่เกิน 18 ปี บริบูรณ์
ความหมายด้านสุขภาพ
บุคคลตั้งแต่แรกเกิดถึง15 ปี
ช่วงวัยเด็ก
Toddler เด็กวัยเดิน อายุ 1-3 ปี
Preschool age เด็กวัยก่อนเรียน 3-5 ปี
Infant ทารกอายุมากว่า 28 วันถึง 1 ปี
School age เด็กวัยเรียน 6-12 ปี
Newborn ทารกแรกเกิด 28 วันหลังคลอด
Aldolescent วัยรุ่น 13-15 ปี
สิทธิเด็ก
4 ด้าน
สิทธิในการมีชีวิต
สิทธิของเด็กที่คลอดออกมาแล้วจะต้องมีชีวิตอยู่รอดอย่างปลอดภัย
สิทธิที่จะได้รับการปกป้องคุ้มครอง
สิทธิที่เด็กได้รับปกป้องคุ้มครองจากการทารุณกรรมทุกรูปแบบ
สิทธิในด้านพัฒนาการ
ทุกคนจะได้รับสิทธิให้มีสภาพความเป็นอยู่ที่เหมาะสมกับ
พัฒนาการ ร่างกาย จิตใจ สังคม รวมถึงความพึงพอใจและความสุข
สิทธิในการมีส่วนร่วม
สิทธิที่ให้ความสำคัญกับการแสดงออกทั้งในด้านความคิดและการกระทำของเด็ก
ระยะของการเจ็บป่วย
ระยะเฉียบพลัน
ในทันทีทันใด เช่น อาการหัวใจวายเฉียบพลัน
ระยะเรื้อรัง
เป็นระยะที่รักษาไม่หายขาด
ระยะวิกฤต
เป็นระยะที่มีโอกาสเสียชีวิตได้อย่างรวดเร็ว
ระยะสุดท้าย / ใกล้ตาย
เป็นระยะที่ได้รับการวินิจฉัยการเจ็บป่วยถึงขั้นสูญเสียชีวิต
พรบ.คุ้มครองเด็ก 2546
กำหนดให้มีคณะกรรมการทำหน้าที่ดำเนินการและให้คำปรึกษาแก่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องในเรื่องสงเคราะห์คุ้มครองและส่งเสริมความประพฤติเด็ก
การปกป้องคุ้มครองเด็ก ได้กำหนดหน้าที่ผู้ปกครองและบุคคลผู้เกี่ยวข้องให้ปฏิบัติต่อเด็กที่เหมาะสม
ความคิดรวบยอดเกี่ยวกับความเจ็บป่วย
ประเภท 0 : ตอบแบบไม่เข้าใจ
ระดับความคิดความเข้าใจก่อนขั้นปฏิกิริยา
อายุ 18 เดือน - 7 ปี
มี 2 ประเภท
ประเภทที่ 1 : ตอบตามปรากฏการณ์
ประเภทที่ 2 : สาเหตุสัมพันธ์กับวัตถุ หรือบุคคลที่อยู่ใกล้ๆ
ระดับความคิดความเข้าใจในขั้นปฏิบัติการด้วยรูปธรรม
อายุ 7-11 ปี
มี 2 ประเภท
ประเภทที่ 3 : การปนเปื้อน
ประเภทที่ 4 : ภายในร่างกาย
ระดับปฏิบัติการด้วยนามธรรม
อายุ 11-12 ปี จนถึงวัยผู้ใหญ่
มี 2 ประเภท
ประเภทที่ 5 : ความเจ็บป่วยเกิดจากอวัยวะภายในร่างกายทำงานไม่ดี หรือไม่ทำงาน
ประเภทที่ 6 : เข้าใจถึงสาเหตุของความเจ็บป่วยที่พัฒนาถึงขึ้นสูงสุด
ความเข้าใจเกี่ยวกับความตาย
วัยเดินและวัยก่อนเรียน
คิดว่าตายแล้วสามารถกลับคืนมาได้ เหมือนการไปเที่ยวชั่วคราว
ความตายเปรียบเหมือนการนอนหลับ
เด็กวัยนี้บางคนอาจเข้าใจความตายเป็นจุดสุดท้ายของชีวิต
วัยแรกเกิดและวัยทารก
อายุ < 6 เดือน ไม่เข้าใจความหมาย ผูกพันกับผู้เลี้ยงดู รู้สึกแยกจาก
มีปฏิกิริยาด้วยการตอบสนองต่อสู้ให้ตนเองมีชีวิตรอด
ทารกจะเชื่อมโยงกับคนรอบข้างโดยผ่านทางการสัมผัส กลิ่น เสียง
วัยเรียน
รู้ว่าตายแล้วจะกลับคืนมาอีกไม่ได้
เรียนรู้ ว่า ตนเองอาจจะมีชีวิต เติบโต หรือตายจากไป
สามารถจินตนาการเรื่องความตาย
สามารถเข้าใจเรื่องโรค
สนใจพิธีการในงานศพ
กลัวการสูญเสียตนเองและบุคคลอันเป็นที่รัก
วัยรุ่น
เป็นตัวของตัวเองมาก ต้องการจัดการสิ่งที่เกิดขึ้นและเกี่ยวข้องกับตัวเองด้วยตัวเอง
เป็นวัยที่ยังมองความตายเป็นเรื่องที่ไกลตนเอง
การเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล
พัฒนาการตามวัยของเด็ก
ประสบการณ์เดิมของเด็ก
ความสามารถต่อการปรับตัวกับความเครียด
ความรุนแรงของความเจ็บป่วย
ระบบการดูแลและการช่วยเหลือเด็ก
ผลกระทบของความเจ็บป่วยแต่ละช่วงวัย
วัยทารก
ส่งผลต่อความต้องการทั่วไปของทารก
กินได้น้อยลง เจ็บปวด
เด็กจะขาดการกระตุ้นประสาทสัมผัสจากมารดา
ส่งผลต่อพัฒนาการของเด็กได้
วัยเดิน
คิดว่าบิดามารดาทอดทิ้งเขาไป
ยังไม่เคยแยกจากบิดามารดา
ทำให้รู้สึกหวาดกลัว
วัยเรียน
ทำให้หย่อนความสามารถเรื่องการเรียน
ทำให้รู้สึกสูญเสียการนับถือตนเอง รู้สึกมีปมด้อย
ถูกปฏิเสธจากกลุ่ม
ขาดเรียนบ่อยๆอาจต้องเรียนซ้ำชั้น
วัยก่อนเรียน
ความเจ็บป่วยและการต้องอยู่ในโรงพยาบาลเป็นการถูกลงโทษ
เนื่องจากตนเองคิดหรือทำในสิ่งที่ไม่ดีมากที่สุด
วัยรุ่น
ความเชื่อมั่นในตนเอง
ภาพลักษณ์ บุคลลิกภาพ
ปฏิกิริยาของเด็กต่อการเจ็บป่วย
ความวิตกกังวลจากการแยกจาก
ความเจ็บปวดทางกายเนื่องจากการตรวจรักษา
ความเครียดและการปรับตัวของเด็กและครอบครัว
การสูญเสียความสามารถในการควบคุม
การเปลี่ยนแปลงภาพลักษณ์
ความตาย
การพยาบาลเด็กแต่ละระยะของการเจ็บป่วย
ระยะเฉียบพลันและระยะวิกฤติ
Separation anxiety
ระยะประท้วง
เด็กจะร้องไห้อย่างรุนแรงมาก
ระยะสิ้นหวัง
อาการโศกเศร้า เสียใจ แยกตัว
ระยะปฏิเสธ
ระยะนี้เด็กจะหันกลับมาสนใจสิ่งแวดล้อมรอบตัว เก็บกดความรู้สึกที่มีต่อมารดาไว้
Pain management
Critical care concept
Stress and coping
ระยะเรื้อรังและระยะสุดท้าย
Body image
Death and dying
ปฏิกิริยาของบิดามารดา
การปฏิเสธ และไม่เชื่อ ในระยะแรก
ความรู้สึกโกรธและโทษตัวเอง
ความรู้สึกกลัว และวิตกกังวล
ความรู้สึกหงุดหงิด คับข้องใจ
ความรู้สึกเศร้า
แนวคิดและหลักการพยาบาลใช้ครอบครัวเป็นศูนย์กลาง
องค์ประกอบที่สำคัญ
เคารพและยอมรับในความแตกตางทางวัฒนธรรม ความเป็นบุคคล
การร่วมมือ
การสนับสนุน
หลักการดูแลเด็ก
เคารพและตระหนักว่าครอบครัวคือส่วนคงที่ในชีวิตเด็ก
สนับสนุนให้เกิดความร่วมมือระหว่างบิดามารดากับทีมสุขภาพ
มีการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารที่จำเป็นแก่บิดามารดา
เข้าใจและผสานความต้องการตามระยะพัฒนาการ
สนุบสนุนช่วยเหลือครอบครัวที่มีปัญหา
ยอมรับว่าครอบครัวมีจุดแข็งและมีลักษณะเฉพาะ
เคารพยอมรับความหลากหลายของเชื้อชาติ
กระตุ้นและสนับสนุนให้เกิดเครือข่ายผู้ปกครอง
จัดบริการให้เข้าถึงได้
Pain assessmen
การประเมินจากการเปลี่ยนแปลงด้านสรีรวิทยา
การประเมินจากการเปลี่ยนแปลงทางพฤติกรรม
การประเมินความเจ็บปวดด้วยตนเอง
เครื่องมือที่ใช้ประเมินpainในเด็ก
การประเมินความเจ็บปวด
ความรุนแรงของความปวด
ตำแหน่งที่ปวด
รูปแบบ ระยะเวลาความเจ็บปวด
ลักษณะการเจ็บปวด
ผลกระทบต่อความปวด
ปัจจัยที่ทำให้ปวดมากขึ้น ลดลง
เครื่องมือ
CRIES Pain Scale
Neonatal Infants Pain Scale (NIPS)
CHEOPS
ใช้กับเด็ก 1-6 ปี หรือไม่รู้สึกตัว
คะแนนอยู่ระหว่าง 4-13
พยาบาลเป็นผู้ประเมิน
การแปลผล
4 = ไม่ปวด
5-7 = ปวดน้อย
8-10 = ปวดปานกลาง
11-13 = ปวดมาก
FLACC Scale
ใช้กับเด็ก 1เดือน-6 ปี หรือไม่รู้สึกตัว
คะแนนอยู่ระหว่าง 0-10
พยาบาลเป็นผู้ประเมิน
การแปลผล
0 = ไม่ปวด
1-3 = ปวดน้อย
4-6 = ปวดปานกลาง
7-10 = ปวดมาก
Faces scale
การใช้รูปภาพแสดงสีหน้าบอกความรู้สึกปวด
Numeric rating scales
คะแนนอยู่ระหว่าง 0-10
ใช้ได้ตั้งแต่เด็กวัยเรียนขึ้นไป
การแปลผล
0 = ไม่ปวด
1-3 = ปวดน้อย
4-6 = ปวดปานกลาง
7-10 = ปวดมาก
หลักการประเมินความปวด
ประเมินก่อนให้การพยาบาล
ควรประเมินอย่างสม่ าเสมอและต่อเนื่อง
เลือกวิธีที่เหมาะสมกับผู้ป่วยแต่ละราย
เด็กเล็ก, ผู้สูงอายุ, ผู้ที่มีการรับรู้บกพร่อง ควรดูแลเป็นพิเศษ
มีการบันทึกเป็นหลักฐาน
หลีกเลี่ยงคำถามนำอันเป็นเหตุให้บดบังข้อเท็จจริง
บทบาทของพยาบาล
สร้างสัมพันธภาพที่ดี
ให้ความสนใจโดยเป็นผู้ฟังที่ดี
บันทึกพฤติกรรม แนวคิด สภาพอารมณ์
อาจใช้วิธีสัมภาษณ์จากคนดูแล
การดูแลด้านจิตสังคม
เตรียมเด็กและครอบครัวก่อนเข้ารับการรักษา
ป้องกันและลดผลกระทบจากการแยกจาก
ลดผลกระทบของปฏิกิริยาการสูญเสียการควบคุม
ส่งเสริมพัฒนาการตามวัยและจัดกิจกรรมที่เหมาะสม
บำบัดรักษาด้านจิตสังคม
ช่วยส่งเสริมการปรับตัวของเด็ก
ผ่อนคลายความตึงเครียด
ส่งเสริมพัฒนาการตามวัย
เกิดความสนุกสนานเพลินเพลิน
ส่งเสริมการฟื้นฟูสภาพร่างกาย
นางสาวศรัญญา กันธวัง เลขที่ 28 รุ่น 36/2 รหัสนักศึกษา 612001108