Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
7.4 Psychiatric Nursing with Child Psychiatry Disorders, นางสาวสุชานันท์…
7.4 Psychiatric Nursing with Child Psychiatry Disorders
Neurodevelopmental Disorders ได้แก่
1) Intellectual Disability (ID) ระดับสติปัญญา/เชาว์ปัญญาต่ํากว่าหรือเท่ากับ 70
Mild ID: เด็กจะมีพัฒนาด้านสังคมและการสื่อสารได้ตามเกณฑ์จนอาจแยกจากเด็กที่มีสติปัญญา
Moderate ID: มักมีพัฒนาการด้านการสื่อสารล่าช้าและสามารถวินิจฉัยได้ตั้งแต่ระยะก่อนวัยเรียน
Severe ID: มีพัฒนาการหลายด้านล่าช้าอย่างค่อนข้างชัดเจนในช่วงขวบปีแรก มักตรวจได้ตั้งแต่อายุ ยังน้อย
Profound ID: จะมีพัฒนาการทุกด้านล่าช้าอย่างชัดเจนตั้งแต่วัยทารก มักเป็นโรคทางกายที่ ค่อนข้างรุนแรงร่วมด้วย จะมีการแสดงอารมณ์และความต้องการของตนเองผ่านทางสีหน้า
แบบในการป้องกันการเกิด ID สามารถแบ่ง ออกได้ดังนี้ คือ
การป้องกันระดับปฐมภูมิ (Primary Prevention) สามารถทําได้โดย 1.1 การให้ความรู้เพื่อป้องกันการเกิดจากสาเหตุที่สามารถป้องกันได้ เช่น สาเหตุของโรค การดูแลสุขอนามัย การป้องกันโรคติดต่อ
1.2 พัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชน ป้องกันหรือลดปัญหาในขณะตั้งครรภ์และส่งเสริมให้เด็กได้รับ การกระตุ้นที่เหมาะสมตามขั้นพัฒนาการ
1.3 ส่งเสริมให้ได้รับการบริการทางสาธารณสุขที่เหมาะสม
1.4 ให้คําปรึกษาด้านพันธุกรรมและให้คําแนะนําแก่ผู้ที่มีบุตรเป็น ID
การป้องกันระดับทุติยภูมิ (Secondary Prevention) เพื่อลดระยะเวลาและความรุนแรง
2.1 มีการประเมินเพื่อตรวจวินิจฉัยตั้งแต่เริ่มแรก
2.2 เสริมสร้างภาพพจน์แห่งตน (Self Image) ของเด็ก
การป้องกันระดับตติยภูมิ (Tertiary Prevention) เพื่อลดความพิการที่ยังหลงเหลืออยู่
3.1 พฤติกรรมบําบัด (Behavioral Modification) เพื่อลดพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม
3.2 การฟื้นฟูสมรรถภาพทางร่างกาย (Physical Rehabilitation)
2) Specific Learning Disorder (SLD) เป็นภาวะที่มีความสามารถที่เกี่ยวกับการเรียน บกพร่อง ได้แก่ การอ่าน การเขียน การคํานวณ
อาการแสดง สามารถแบ่งออกเป็น 3 ชนิด ได้แก่
Impairment in Reading หรือ Dyslexia: เด็กจะมีความสามารถในการ
อ่านต่ํากว่าเด็กทั่วไป ที่อยู่ในชั้นเดียวกัน
Impairment in Mathematics หรือ Dyscalculia: เด็กจะมีความสามารถในการคิดคํานวณ ต่ํากว่าเด็กทั่วไปที่อยู่ในชั้นเดียวกัน
Impairment in Written Expression Disorder หรือ Dysgraphia: เด็กจะมีความสามารถ ในการเขียนต่ํากว่าเด็กทั่วไป
แนวทางสําคัญในการพยาบาลและช่วยเหลือเด็ก SLD ประกอบด้วย
การให้การศึกษาพิเศษ ซึ่งควรเริ่มตั้งแต่เข้าโรงเรียน การได้รับการศึกษาพิเศษช้าจะทําให้ไม่สามารถเรียนทันเด็กอื่น
การให้ความรู้แก่พ่อแม่และครูเกี่ยวกับลักษณะอาการและสาเหตุของโรค โดยย้ําว่าไม่ได้เกิดจากระดับสติปัญญาหรือเด็กไม่มีความรับผิดชอบ
3) Autism Spectrum Disorder (ASD) เป็นโรคที่มีพัฒนาการหลายด้านบกพร่องอย่างรุนแรง ได้แก่ ด้านการสื่อสาร การเข้าสังคม และการมีแบบแผนพฤติกรรม
ปัจจัยต่างๆ ดังนี้
ความผิดปกติของระบบประสาท (Neurological abnormalities)
ปัจจัยทางพันธุกรรม (Genetic Factors)
ปัจจัยทางภูมิคุ้มกันวิทยา (Immunological Factors)
ปัจจัยขณะตั้งครรภ์หรือขณะคลอด (Perinatal factors)
อาการและอาการแสดง
ระดับสติปัญญา (IQ) ของเด็ก ASD มักใกล้เคียงกับเด็กอายุ 27 ปี ระดับสติปัญญาของเด็กจะต่ํากว่าปกติ ปัญหาในการเข้าสังคม เด็กไม่สามารถสร้างสัมพันธภาพกับบิดา มารดาหรือคนอื่น ไม่มีการยิ้มแย้มขณะเข้าสังคม (Social Smile) ไม่มีการสบตา (Eye Contact) ไม่สามารถจํา และแยกคนสําคัญในชีวิต
จําแนกลักษณะทั่วไปของ Autism Spectrum Disorder ได้ดังนี้
ด้านสังคมและความบกพร่องด้านมนุษยสัมพันธ์และสัมพันธภาพระหว่างบุคคล
ทารก (0-1 ปี) เด็กจะไม่ชอบให้อุ้ม
วัยอนุบาล (2-5 ปี) โดยทั่วไปเด็กปกติจะสนใจเล่นกับเพื่อน รับรู้ได้ว่าคนอื่นโกรธ
วัยเรียน (6-9 ปี) หากเด็กได้รับการพัฒนาก่อนอายุ 5 ปี ได้รับความเข้าใจและฝึกฝนอย่างสม่ําเสมอ
ความบกพร่องของการสื่อสาร
2.1 ไม่เข้าใจภาษาพูด
2.2 ตอบสนองต่อสิ่งต่างๆ แปลกไปจากเด็กทั่วไป คล้ายเด็กหูหนวก
2.3 ในเด็กเล็ก ๆ พบว่ามีเสียงในคอหยอกล้อกับพ่อ แม่ น้อยมาก
2.4 ไม่มีการแสดงท่าทางเพื่อบอกอารมณ์ เช่น ประหลาดใจ ดีใจ สงสาร
ความผิดปกติของการเล่นและจินตนาการ
3.1 สนใจสิ่งของซ้ํา ๆ และทําพฤติกรรมซ้ํา ๆ
3.2 เล่นโดยขาดจินตนาการ ไม่สามารถสมมุติ
3.3 กลัวแบบไม่มีเหตุผลในสิ่งที่ไม่น่ากลัว เช่น กลัวเสียง กลัวรูปร่าง
จัดรูปแบบการรักษาดังต่อไปนี้
การฝึกผู้ปกครองเป็นผู้รักษาร่วม
การสอนเด็กในชั้นเรียนพิเศษ
การให้การปรึกษาพ่อแม่
กลุ่มผู้ปกครองช่วยเหลือกัน
การให้คําปรึกษาทางโทรศัพท์
การฝึกครูเพื่อการสอนเด็ก ASD
4) Attention Deficit/Hyperactivity Disorder (ADHD) เป็นโรคที่มีลักษณะขาดสมาธิ และ/หรืออยู่ ไม่นิ่ง หุนหันพลันแล่น
อาการสําคัญของ ADHD นี้ สามารถแบ่งออกเป็นกลุ่มใหญ่ๆ ได้ 3 กลุ่ม คือ
ขาดสมาธิ สมาธิของเด็กจะมีช่วงสั้น
อยู่ไม่นิ่ง เด็กจะมีลักษณะอยู่ไม่นิ่ง ซุกซน
หุนหันพลันแล่น
การรักษาที่เป็นหลัก คือ
การรักษาด้วยยา ยาที่ใช้กันมากและได้ผลดี คือ CNS stimulants
การรักษาทางจิตสังคม
วิธีการที่อาจใช้ได้ คือ จิตบําบัดรายบุคคล พฤติกรรมบําบัด การให้คําปรึกษา
5) Motor disorders เป็นโรคที่มีการประสานงานของกล้ามเนื้อผิดปกติ เช่น ดูดนิ้ว กัดเล็บ เอาหัวโขกพื้น เป็นต้น
ระดับเล็กน้อย (Mild) ปัญหาพฤติกรรมนั้นก่อผลเสียเพียงเล็กน้อยต่อบุคคลอื่น (โกหก หนี้โรงเรียน ออกจาก บ้านกลางคืนโดยไม่ได้รับอนุญาต)
ระดับปานกลาง (Moderate) จํานวนและผลของปัญหาจะอยู่ระหว่างระดับเล็กน้อยกับระดับรุนแรง
ระดับรุนแรง (Severe) ปัญหาพฤติกรรมนั้นก่อให้เกิดผลเสียอย่างชัดเจนต่อบุคคลอื่น
อาการและอาการแสดง
ก้าวร้าวและทําร้ายบุคคลอื่น หรือสัตว์
ทําลายทรัพย์สิน
หลอกลวง หรือลักขโมย
ฝ่าฝืนกฎเกณฑ์อย่างร้ายแรง
แนวทางในการช่วยเหลือรักษานี้ต้องใช้หลายแนวทางร่วมกัน
พฤติกรรมบําบัด
ครอบครัวบําบัด
การฝึกทักษะวิชาชีพ
การรักษาด้วยยา
4.1 Haloperidot: รักษาพฤติกรรมก้าวร้าว
ให้การช่วยเหลือในการฝึกทักษะการเผชิญหน้ากับปัญหาและทักษะในการเข้าสังคม
ให้การช่วยเหลือในการเรียนรู้ที่จะเข้าใจตนเองและสามารถตอบสนองความต้องการของตนเองได้อย่างเหมาะสม
ความผิดปกติทางการรับประทาน (Feeding and Eating Disorders)
โรคคลั่งผม (Anorexia nervosa)
เกณฑ์การวินิจฉัย ตามเกณฑ์ของ DSM-5 ได้แก่
A. จํากัดการบริโภคอาหารเมื่อเทียบกับความต้องการของร่างกายจนส่งผลให้น้ําหนักตัวต่ํากว่า
B. กลัวน้ําหนักเพิ่มขึ้นหรือกลัวอ้วนอย่างมาก หรือมีพฤติกรรมที่ขัดขวางการเพิ่มขึ้นของน้ําหนัก
C. มีการรับรู้น้ําหนักตัวหรือรูปร่างของตนเองผิดปกติ หรือการประเมินตนเองขึ้นอยู่กับน้ําหนักตัว
ชนิดของ Anorexia nervosa แบ่งเป็น
Restricting type ในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา ผู้ป่วยไม่มีพฤติกรรมจํากัดการรับประทานอาหารการอดอาหาร (Binge-eating) หรือมีพฤติกรรมในการขจัดอาหารที่รับประทานด้วยวิธีการต่างๆ หรือการใช้ยาระบาย ยาขับปัสสาวะ เป็นต้น (Pursing)
2.Binge-eating/Purging type ในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา ผู้ป่วยมีพฤติกรรม Binge-eating หรือ Purging
กลุ่มที่มีอาการสงบเป็นกลุ่มที่หลังจากที่มีอาการต่างๆ ครบถ้วนตามเกณฑ์
วินิจฉัย แล้วไม่พบอาการตามเกณฑ์ข้อใดอีก
กลุ่มที่มีอาการสงบบางส่วน (Partial remission) เป็นกลุ่มที่หลังจากที่
วินิจฉัย แล้วไม่พบอาการตามเกณฑ์ข้อใดอีก
มีอาการต่างๆ ครบถ้วนตาม เกณฑ์วินิจฉัย แล้วไม่พบอาการต่างๆ ตามเกณฑ์ในข้อ A อีกแต่ยังคงมีอาการต่างๆ ตามเกณฑ์ใน ข้อ B และ C
ลักษณะอาการและอาการแสดงโดยทั่วไป
ด้านร่างกาย น้ําหนักลดลงอย่างเห็นได้ชัด ผอมจนผิวหนังหุ้มกระดูก ผิวหนังแห้งเป็นแผ่นหรือเป็น จําๆ ผมร่วง
ด้านจิตใจ ไม่พึงพอใจในรูปร่างและภาพลักษณ์ของตนเอง
ด้านพฤติกรรม แยกตัวหรือหลีกเลี่ยงการเข้าสังคมที่เกี่ยวข้องกับการรับประทานอาหาร
โรคล้วงคอ (Bulimia Nervosa)
เกณฑ์การวินิจฉัย ตามเกณฑ์ของ DSM-5 ได้แก่
A. มีพฤติกรรมการกินอาหารที่มากผิดปกติ (Binge eating) โดยมีลักษณะ 2 ประการดังนี้เกิดขึ้นอยู่บ่อยๆ
มีการกินอาหารในช่วงเวลาหนึ่ง (เช่น ช่วงเวลา 2 ชั่วโมง) ในปริมาณที่มากกว่าคนทั่วไป ะกินได้อย่างชัดเจนภายใต้สถานการณ์ที่คล้ายกัน และมีช่วงเวลาที่เท่ากัน
มีความรู้สึกว่าไม่สามารถควบคุมการกินอาหารได้ในช่วงเวลานั้น
B. มีพฤติกรรมที่ชดเชยเพื่อป้องกันการเพิ่มขึ้นของน้ําหนักที่ไม่เหมาะสม
C. พฤติกรรมชดเชยที่ไม่เหมาะสมเกิดขึ้นโดยเฉลี่ย
อย่างน้อย 1 ครั้งต่อสัปดาห์ในระยะเวลา 3 เดือน
D. มีการประเมินตนเองขึ้นอยู่กับเรื่องน้ําหนักตัวหรือรูปร่างเป็นอย่างมาก E. ความผิดปกตินี้ไม่ได้เกิดเฉพาะช่วงที่เป็น
ลักษณะอาการและอาการแสดงโดยทั่วไป
ด้านร่างกาย น้ําหนักเปลี่ยนแปลงขึ้นๆ ลงๆ ต่อมน้ําลายบวม
ด้านจิตใจ อารมณ์เปลี่ยนแปลงง่าย ซึมเศร้า
ด้านพฤติกรรม จะมีพฤติกรรมการกินอย่างมากมาย และควบคุมคนเองไม่ได้ระยะหนึ่ง หลังจากนั้น ผู้ป่วยจะพยายามควบคุมน้ําหนักโดยการล้วงคอให้อาเจียน
การช่วยเหลือสําหรับผู้ที่มีความผิดปกติทางการรับประทาน เป้าหมายของการรักษาทางกายคือ ให้ผู้ป่วยมีน้ําหนักตัวเพิ่มขึ้นจนถึงประมาณร้อยละ 90 ของ น้ําหนักปกติ การให้อาหารควรค่อยเป็นค่อยไป เพราะหากให้อาหารรวดเร็วเกินไปอาจทําให้ผู้ป่วยเกิดภาวะ Refeeding Syndrome
พยาบาลสามารถในการดูแลช่วยเหลือได้ดังต่อไปนี้
ในระยะแรกของการช่วยเหลือพยาบาลต้องสร้างสัมพันธภาพเพื่อการบําบัดให้ผู้ป่วยเกิดความ ไว้วางใจ รับฟังผู้ป่วยระบายความรู้สึกกับของใจด้วยความตั้งใจ ใส่ใจ ไม่อคติ
ประเมินสภาพจิต (Mental Status)
ทําจิตบําบัดรายบุคคลโดยมุ่งให้เกิดความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับรูปร่างและปัญหาที่แท้จริงของตนเอง
. ทําจิตบําบัดรายกลุ่มร่วมกับผู้ป่วยที่มีความผิดปกติแบบเดียวกัน เพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้
นางสาวสุชานันท์ บุญยี่ 6031901151