Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
การพยาบาลเด็กโรคติดเชื้อของสมอง, นางสาวสุกัลยา บุญยิ่ง เลขที่ 82 ห้อง 2B …
การพยาบาลเด็กโรคติดเชื้อของสมอง
สมองอักเสบ (Encephalitis)
เป็นการอักเสบของเนื้อสมอง บางครั้งการอักเสบของเนื้อสมองอาจมีการอักเสบของเนื้อเยื่อ หุ้มสมองและไขสันหลังเกิดร่วมด้วยก็ได้
สาเหตุ
Primary viral encephalitis หมายถึง การที่มีไวรัสเข้าไปสู่สมองแล้วทำให้เกิดการอักเสบขึ้น
Secondary viral encephalitis หมายถึง การที่มีสมองอักเสบโดยเป็นผลมาจากปฏิกิริยาที่มีไวรัสเข้าสู่ร่างกาย เชื้อที่สำคัญในประเภทนี้ได้แก่ หัด หัดเยอรมัน อีสุกอีใส คางทูม รวมทั้งวัคซีนป้องกันพิษสุนัขบ้า
อาการและอาการแสดง
ชัก มีการเคลื่อนไหวผิดปกติ (Involuntary movement)
กระสับกระส่าย อารมณ์ผันแปร เพ้อคลั่ง อาละวาด มีอาการทางจิต
ซึมลง จนกระทั่งถึงขั้นโคม่า ภายใน 24 –72 ชั่วโมง
การหายใจไม่สม่ำเสมอ อาจหยุดเป็นห้วง ๆ
ไข้ มักสูงได้มาก ๆ ปวดศีรษะ ปวดต้นคอ คอแข็ง
การวินิจฉัยโรค
1.ประวัติจากผู้เลี้ยงดู ให้ข้อมูลว่าผู้ป่วยมีไข้สูง ซึม คอแข็ง เป็นต้น
2.อาการและอาการแสดงดังที่กล่าวข้างต้น
3.การตรวจทางห้องปฏิบัติการ
การตรวจคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าสมอง (MRI)
การตรวจคลื่นไฟฟ้าสมอง (EEG)
การตรวจน้้ำไขสันหลัง
การตรวจวินิจฉัยแยกสาเหตุของเชื้อ
การตรวจนับเม็ดเลือดขาวในเลือด ในช่วง 2-3 วันแรกเม็ดเลือดขาวสูง และนิวโตรฟิลขึ้นสูงต่อมาจะอยู่ในเกณฑ์ปกติ
การรักษา
ไม่มีการรักษาเฉพาะโรค ยกเว้นไข้สมองอักเสบจากเชื้อไวรัสเริม
แพทย์มักจะให้การรักษาแบบประคับประคองตามอาการ
การให้ยา
ยาป้องกันและรักษาความสมองบวม เช่น 20% mannital ให้ทางหลอดเลือดดำ
ยานอนหลับ เพื่อลดอาการกระสับส่ายอาการเพ้อคลั่ง
ยาป้องกันและรักษาความสมองบวมตั้งแต่ระยะแรกๆ ยาที่ลดอาการบวมของสมอง
ยา acyclovir ทางหลอดเลือดด า ในผู้ป่วยที่ได้รับการวินิจฉัยโรคไข้สมองอักเสบจากเชื้อไวรัสเริม (herpes simplex virus)
ยาระงับชัก Phenob กล้ามเนื้อเช่น Gardinal เป็นต้นarbital ยากันชักชนิดฉีดเข้า
ยาลดไข้ เพราะอุณหภูมิที่สูงขึ้นจะทำให้เกิดผลเสียของต่อสมอง เนื่องจากร่างกายจะเกิดการเผาผลาญมากขึ้นและต้องการออกซิเจนมากขึ้นด้วย
ยาต้านจุลชีพหรือยาปฏิชีวนะ เพื่อรักษาภาวะแทรกซ้อน
รักษาสมดุลของปริมาณน้ำเข้า-ออกของร่างกาย โดยให้สารน้ำทางหลอดเลือดดำ
1.ดูแลระบบหายใจของผู้ป่วยให้ปกติและหายใจสม่ำเสมอ
การให้สารสารอาหารที่มีแคลอรีเพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย ถ้าผู้ป่วยไม่รู้สึกตัว แพทย์อาจพิจารณาให้อาหารทางสายยางหรือสารอาหารทางหลอดเลือดดำ
ภาวะแทรกซ้อน
ผู้ป่วยที่มีอาการของโรครุนแรงอาจเสียชีวิต
ผู้ป่วยที่มีอาการของโรคไม่รุนแรงอาจหายเป็นปกติ
มีความพิการของสมอง
การหดเกร็งของกล้ามเนื้อ (spastic)
อาการสั่น (tremor)
โรคลมชัก
อัมพาตครึ่งซีก (paralysis)
พูดไม่ชัดหรือพูดไม่ได้
ความจำเสื่อมและความคิดต่ำกว่าวัย
พฤติกรรมเปลี่ยนแปลง
มีความผิดปกติทางอารมณ์
เยื่อหุ้มสมองอักเสบ (Meningitis)
เป็นการติดเชื้อในเยื่อหุ้มสมอง (Meningitis) เป็นบริเวณส่วนที่เป็นเมมเบรน ปกป้องหุ้มเนื้อสมองและไขสันหลัง
1.เยื่อหุ้มสมองอักเสบจากเชื้อแบคทีเรีย
สาเหตุ
การติดเชื้อผ่านทางกระแสโลหิตโดยที่มีแหล่งติดเชื้ออยู่ที่ส่วนอื่นของร่างกายแล้วแบคทีเรียเข้าสู่กระแสโลหิต(Bacteremia) ไปสู่ Subarachnoid Space ได้
การติดเชื้อลุกลามโดยตรง พวกนี้การติดเชื้อกระจายสู่ Subarachnoid Space โดยตรงโดยมีแหล่งติดเชื้อบริเวณใกล้เคียง
ได้รับเชื้อโดยตรงจากการเปื้อนของเชื้อ เช่น มีการแตกหักของกะโหลกศีรษะ หรือมีกระดูกแตกที่บริเวณฐานของกะโหลกศีรษะ ท าให้น้ าไขสันหลังไหลออกมาทางจมูกหรือหู
อาการและอาการแสดง
อาการที่แสดงว่ามีการระคายของเยื่อหุ้มสมอง
Kernig’s Sign Positive
Brudzinski’s Sign Positive
อาการคอแข็ง (Stiftness of Neck)
อาการที่แสดงถึงภาวะแทรกซ้อน
สมองบวม
มีน้ำหรือหนองในช่องใต้เยื่อหุ้มสมอง
มีฝีในสมอง
อาการที่แสดงว่ามีการติดเชื้อ
จะกระสับกระส่ายหรือหงุดหงิด
ไม่ยอมดูดนม
เบื่ออาหาร
อาเจียน
มีไข้สูง หนาวสั่น
การวินิจฉัย
ประวัติของผู้ป่วย โดยบิดมารดา หรือผู้เลี้ยงดูจะให้ข้อมูลว่า ผู้ป่วยมีไข้สูง ปวดศีรษะและปวดคอ ซึม อาเจียน เด็กเล็กไม่ยอมดูดนม ร้องกวน กระสับกระส่าย
การตรวจห้องปฏิบัติการและการตรวจพิเศษ
การตรวจน้ำไขสันหลัง
การย้อมสีน้ำไขสันหลัง (gram stain)
การตรวจเลือด
การตรวจคอมพิวเตอร์สมอง (CT scan)
การรักษา
การรักษาทั่วไปตามอาการและการรักษาแบบประคับประคอง
ให้ยากันชักในผู้ป่วยที่มีอาการชักเกร็ง
ให้ยาลดอาการบวมของสมองในผู้ป่วยที่มีอาการสมองบวม เช่น ม่านตาโตขึ้น หัวใจเต้นช้า ซึมลง เป็นต้น
ให้ยานอนหลับเพื่อลดอาการกระสับกระส่าย
ให้สารน้ำทางหลอดเลือดดำ เพื่อรักษาภาวะสมดุลของน้ำและอิเลคโตไลท์
ให้ยาลดไข้เมื่อมีไข้สูง
เจาะคอ หรือใช้เครื่องช่วยหายใจในผู้ป่วยที่มีปัญหาการหายใจ หรือภาวะหมดสติ
การรักษาภาวะแทรกซ้อน
ฝีในสมอง (brain abscess)
ความดันในกะโหลกศีรษะสูง
ของเหลวคั่งในช่องใต้เยื่อหุ้มสมอง (subdural effusion)
การมองเห็นและการได้ยินผิดปกติ
การรักษาเฉพาะ
แพทย์จะให้ยาต้านจุลชีพหรือยาปฏิชีวนะ
2.เยื่อหุ้มสมองอักเสบจากเชื้อวัณโรค (Tuberculous meningitis)
เกิดจากเชื้อ mycobacterium tuberculosis ซึ่งเป็นจุลินทรีย์ประเภท acid fast bacilli
อาการและอาการแสดง
แบบเฉียบพลัน
มีไข้ ซึมลง
การรับรู้เปลี่ยนแปลง
ชัก
มีอาการระคายเคืองของเยื่อหุ้มสมอง
และเกิดการเลื่อนของสมอง (cerebral herniation)
แบบเรื้อรัง
2.ระยะเปลี่ยนแปลง (transitional stage) เมีความดันในกะโหลกศีรษะสูง ปวดศีรษะ อาเจียน ชัก ซึมมากขึ้น
3.ระยะสุดท้าย (terminal stage) อาการค่อนข้างหนัก ไข้สูง ซึมมากขึ้น หายใจเร็วตามด้วยช้าลง
1.ระยะนำ (prodomal stage) มีไข้ต่ำๆ บางรายไข้สูงลอย หงุดหงิด โกรธง่าย เบื่ออาหาร ซึม นอนไม่หลับปวดศีรษะ อาเจียน กระสับกระส่าย ร้องกวนผิดปกติ
การวินิจฉัย
มีประวัติการป่วยเป็นวัณโรคของสมาชิกในครอบครัว ผู้ใกล้ชิดผู้ป่วย
อาการอาการแสดงที่กล่าวข้างต้น
การตรวจทางห้องปฏิบัติการ และการตรวจพิเศษ
การเจาะหลัง (Lumbar puncture)
การถ่ายภาพรังสีทรวงอกจะพบ primary tuberculosis ที่ปอด
การทดสอบทูเบอร์คูลิน (tuberculin test)
การตรวจคอมพิวเตอร์สมอง (CT scan) เพื่อติดตามการรักษา
การรักษา
การรักษาเฉพาะ แพทย์จะให้ยาปฏิชีวนะร่วมกับยาต้านวัณโรค อย่างน้อย 2 ชนิดขึ้นไป เพื่อป้องกันเชื้อดื้อยา
pyrazidamide
streptomycin
rifampin
ethambutal (EMB)
isoniazid (INH)
การรักษาแบบประคับประคอง
การให้สารน้ำและเกลือแร่ทางหลอดเลือดดำ
การให้นม/อาหารที่ให้พลังงาน วิตามิน เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย
การรักษาภาวะแทรกซ้อน
การให้ยากันชักในรายที่มีอาการชักเกร็ง จะช่วยป้องกันไม่ให้สมองเสียหายมากขึ้น
การให้ยาลดอาการบวมของสมอง
การพยาบาล
ไม่สุขสบายพักหลับได้น้อยเนื่องจากภาวะ ICP มีการระคายเคืองจากการอักเสบของเยื่อหุ้มสมองหรือเนื้อเยื่อสมอง มีไข้ มีความเจ็บปวด
วางแผนการพยาบาลเพื่อให้ผู้ป่วยมีเวลาพักและสงบอย่างเพียงพอ
เช็ดตัวและให้ยาลดไข้ หรือยาบรรเทาอาการเจ็บปวด
จัดสิ่งแวดล้อม จัดท่านอนให้เหมาะสม การจับตัวหรือพลิกตัวควรทำอย่างนุ่มนวล
เสี่ยงต่อการเกิดภาวะอุดกั้นของทางเดินหายใจ และเซลลสมองขาดออกซิเจน
จัดท่านอนให้หายใจสะดวกเปลี่ยนท่าทุก 2 ชั่วโมง
ดูแลทางเดินหายใจให้โล่ง เช่น ดูดเสมหะบ่อยตามความจำเป็น จัดท่านอนระบายเสมหะร่วมกับการเคาะปอด
ประเมินการหายใจ และภาวะขาดออกซิเจน
ให้ออกซิเจนตามแผนการรักษา
อาจได้รับสารอาหารและน้ำไม่เพียงพอ เนื่องจากอาการและพยาธิสภาพทางสมองและการได้รับยาขับน้ำ
ประเมินและบันทึก I/O
ติดตามผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการที่เกี่ยวข้อง
ประเมินน้ำหนักตัวและภาวะการณ์ขาดน้ำ
ดูแลการได้รับน้ำและสารอาหาร เช่น IV, gavage feeding, กระตุ้นให้ดูดนม เป็นต้น
พัฒนาการล่าช้า
ดูแลให้ผู้ป่วยได้รับการตอบสนองความต้องการพื้นฐาน
เปิดโอกาสให้ผู้ปกครองมีส่วนร่วมในการดูและส่งเสริมพัฒนาการ
ประเมินพัฒนาการ
จัดกิจกรรมสันทนาการให้เหมาะสมกับอาการและวัย
ผู้ปวยเด็กมีภาวะความดันสูงในกะโหลกศีรษะและเสี่ยงต่อการเกิดอันตรายจากการชัก
ให้ยาปฏิชีวนะ ยาลดอาการบวมในสมอง ยาป้องกันและยาตานการชักตามแผนการรักษาและสังเกตอาการขางเคียงจากการใช้ยา
ดูแลผู้ป่วยก่อนและหลังการผ่าตัดเกี่ยวกับทางสมอง (ถ้ามี)
ดูในการพยาบาลผู้ปวยเด็กที่มี ICP และการพยาบาลผูปวยเด็กที่มีอาการชัก
นางสาวสุกัลยา บุญยิ่ง เลขที่ 82 ห้อง 2B รหัสนักศึกษา 613601191