Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
การพยาบาลเด็กที่มีปัญหาเกี่ยวกับกล้ามเนื้อและกระดูก - Coggle Diagram
การพยาบาลเด็กที่มีปัญหาเกี่ยวกับกล้ามเนื้อและกระดูก
โรคแทรกซ้อนและการป้องกัน
Osteomyelitis
สาเหตุ
เชื้อแบคทีเรีย,เชื้อรา เข้าสู่กระดูกจากการทิ่มแทงจากภายนอก หรือจากอวัยวะใกล้เคียง การแพร่กระจายจากกระแสเลือด
การวินิจฉัย
ประวัติ มีอาการปวด เด็กเล็กแสดงออกโดยไม่ใช้แขน ขา ส่วนนั้นทารกนอนนิ่งไม่ขยับแขนขาข้างที่เป็น(pseudoparalysis) เด็กโตบอกต้าแหน่งที่ปวดได้ อาการไข้ อ่อนเพลีย เบื่ออาหาร อาจมีการบาดเจ็บเฉพาะที่ร่วมด้วย
การตรวจร่างกาย มีปวด บวม แดง ร้อน เฉพาะที่ บริเวณที่มีพยาธิสภาพอาจมีความผิดปกติ ปวด ปวดมากขึ้นถ้ากดบริเวณนั้น
การตรวจทางห้องปฏิบัติการ ผล CBC พบ Leucocytosis , ESR , CRP มีค่าสูง ผล Gram stain และculture ขึ้นเชื้อที่เป็นสาเหตุ
.การตรวจทางรังสี
Plain flim พบเนื้อเยื่อส่วนลึกบวม โดยเฉพาะบริเวณ metaphysisBone scan ได้ผลบวก บอกต้าแหน่งได้เฉพาะ
MRI (Magnatic resonance imaging) พบ soft tissue abcess , bone marrow edemaค่าใช้จ่ายสูง ในเด็กเล็ก ๆ ต้องท้าตอนเด็กหลับ
การรักษา
ยาปฏิชีวนะตามแผนการรักษาของแพทย์
. การผ่าตัด เอาหนอง ชิ้นเนื้อ กระดูกตายออก
อาการแทรกซ้อน
กระดูกและเนื้อเยื่อตาย
กระทบต่อ physis เป็นส่วนเจริญเติบโตของกระดูก ท้าลาย physeal plate ยับยั้งการเจริญของกระดูก
ตามยาวท้าให้กระดูกส่วนนั้นสั้น มีการโก่งผิดรูปของกระดูก อาจต้องผ่าตัดเพื่อยืดกระดูกให้ยาวขึ้น
ข้ออักเสบติดเชื้อ (septic arthritis)
สาเหต
เชื้อเข้าสู่ข้อ เช่น จากการทิ่มแทงเข้าในข้อ หรือแพร่กระจายจากบริเวณใกล้เคียง จากกระแสเลือด เชื้อที่เป็น
สาเหตุส่วนใหญ่ เช่น แบคทีเรีย
การวินิจฉัย
.ลักษณะทางคลินิค มีไข้ มีการอักเสบ ปวดบวมแดง ภายใน 2-3 วันแรกของการติดเชื้อข้อ มักเป็นที่ ข้อเข่าข้อสะโพก ข้อเท้า รองลงมา ข้อศอก ข้อไหล่ ข้อมือ ข้อเล็ก ๆ เช่น ข้อนิ้ว
ผล Lab เจาะดูดน้้าในข้อ (joint aspiration) มาย้อม gram stain ผล CBC พบ ESR , CRP สูงขึ้นเล็กน้อย
การตรวจทางรังสี
Plain flim อาจพบช่องระหว่างข้อกว้าง
Ultrasound บอกถึงภาวะมีน้้าในข้อมาก หรือเคลื่อนหลุด
Bone scan / MRI ช่วยบอกถึงการติดเชื้อกระดูก
การรักษา
การให้ยาปฏิชีวนะ
การผ่าตัด ได้แก่ Arthrotomy and drainage มีข้อบ่งชี้ เพื่อระบายหนอง หยุดยั้งการท้าลายข้อ และเพื่อได้หนองและชิ้นเนื้อในการส่งตรวจ
ภาวะแทรกซ้อน
Growth plate ถูกท้าลายท้าให้การเจริญเติบโตตามความยาวกระดูกและการท้าหน้าที่เสียไป
ข้อเคลื่อน (Dislocation)
ข้อถูกท้าลาย (joint destruction)
หัวกระดูกข้อสะโพกตายจากการขาดเลือด (avascular necrosis)
Tuberculous Osteomyelitis and Tuberculous Arthitis
ตำแหน่งที่พบบ่อย
ข้อสะโพก ข้อเข่า ข้อเท้า
สาเหตุ
เชื้อ Mycobacterium tuberculosis เข้าสู่ปอดโดยการหายใจ จากการไอ จาม ของผู้ป่วยเชื้อเจริญเติบโตและ
แพร่กระจายผ่านทาง lympho- hematogenous spread ยังอวัยวะต่าง ๆ และจะถูกระบบภูมิต้านทานของร่างกายท้าลายแต่อาจมีเชื้อบางส่วนที่อยู่ตามอวัยวะต่าง ๆ จะลุกลามเมื่อมีปัจจัยเหมาะสม
อาการและอาการแสดง
วัณโรคกระดูกและข้อในเด็กอาการจะเริ่มแสดงหลังการติดเชื้อประมาณ1 – 3 ปีที่กระดูก
รอยโรคเริ่มที่ metaphysis ของ long bone ซึ่งมีเลือดมาเลี้ยงมาก อาจเป็นต้าแหน่งเดียวหรือมากกว่า กระดูกจะถูกท้าลายมากขึ้น กระดูกจะบางลงหรือแตกนอกกระดูกเกิดเป็นโพรงหนองที่ไม่มีลักษณะการอักเสบหรือแตกเข้าสู่ข้อ
ใกล้เคียง และจะท้าลายกระดูกอ่อนของผิวข้อ ที่กระดูกสันหลังเชื้อจะเข้าทางท่อน้้าเหลืองจากต่อมน้้าเหลืองข้างกระดูกสันหลังหรือระบบไหลเวียนเลือด ท่อน้้าเหลืองจากกระดูกที่ติดเชื้อใกล้เคียง เชื้อจะท้าลายกระดูกสันหลัง
การตรวจทางห้องปฏิบัติการ
CBC อาจพบ WBC ปกติหรือสูงไม่มาก ค่า CRP , ESR สูง ทดสอบ tuberculin test ผล +
การตรวจทางรังสี
plaint film , MRI
การรักษา
ให้ยาต้านวัณโรค
การผ่าตัด การตรวจชิ้นเนื้อ การผ่าตัดระบายหนอง ผ่าตัดเพื่อแก้การกดทับเส้นประสาท
อาการแทรกซ้อนทางกระดูกและข้อ
กระดูกสันหลังค่อมหรืออาการกดประสาทไขสันหลัง จนอ่อนแรงหรือเป็นอัมพาต (Pott’s paraplegia) ปวดข้อ ผิวข้อขรุขระ ข้อเสื่อม ข้อยึดติด พิการ
Club Foot (เท้าปุก)
รูปร่างของเท้าที่มีลักษณะข้อเท้าจิกลง (equinus) ส้นเท้าบิดเข้าใน (varus) ส่วนกลางเท้าและเท้าด้านหน้าบิด
งุ้มเข้าใน (adduction and cavus)
สาเหต
แบบยังไม่ทราบสาเหต(ideopathic clubfoot)หรือ Ideopatic Talipes EquinoVarus (ITCEV) พบตั้งแต่
ก้าเนิด
แบบทราบสาเหตุ
positional clubfoot เกิดจาก uterus impaction affect
teratologoc clubfoot เป็นชนิดที่มีความแข็งมาก พบใน Syndrome หลายชนิดเช่น arthogryposismultiplex congenita
neuromuscular clubfoot พบได้ทั้งแบบเป็นตั้งแต่เกิด / ภายหลัง เช่นใน cerebral palsy ,myelomeingocele , neurological injury , other neuromuscular disease
การวินิจฉัย
การตรวจดูลักษณะรูปร่างเท้าตามลักษณะตามค้าจ้ากัดความ “เท้าจิกลง บิดเอียงเข้าด้านใน”ควรแยกระหว่างเท้าปุกที่สามารถหายได้เองจากผลของท่าของเท้าที่บิดขณะอยู่ในครรภ์positional clubfoot : ขนาดเท้าใกล้เคียงเท้า
ปกติบิดผิดรูปไม่มากนัก เมื่อเขี่ยด้านข้างของเท้าเด็กสามารถกระดกเท้าขึ้นเหมือนรูปเท้าปกติได้ idiopatic clubfootไม่สามารถหายได้เองต้องได้รับการรักษา
พยาธิสภาพ
รูปร่างกระดูก : รูปร่าง และขนาดจะบิดผิดรูปไปจากเท้าปกติ โดยเฉพาะกระดูก talus , calcaneus ,navicular และ cuboid boืำ
Joint capsule และ Ligament : จะหดสั้นแข็ง
Tendon และ Muscle : เอ็นและกล้ามเนื้อขาข้างที่มีเท้าปุกจะเล็กกว่าปกติ
Nerve และ Vessel : มีขนาดเล็กกว่าปกติ พบสิ่งผิดปกติได้บ่อยกว่า เช่น absence ของ Dosalis pedisartery ร้อยละ 50
การรักษา
การดัดและใส่เฝือก อาศัยหลักการดัดให้รูปร่างเท้าปกติ ได้ผลดีกรณีที่แข็งไม่มากมารักษาอายุน้อย ดัดใส่เฝือกเพื่อรักษารูปเท้า เปลี่ยนเฝือกทุก 1 – 2 สัปดาห์ เพราะจะหลวมรักษารูปเท้าได้ไม่ดีเพื่อให้ได้ผลดีควรใส่เฝือกตั้งแต่แรกเกิด การดัดใส่เฝือกอาจช่วยให้การผ่าตัดรักษาง่ายขึ้น ใส่นาน 2 – 3 เดือน และนัดมา F/U เนื่องจากโอกาสกลับมาบิดซ้้าถึงร้อยละ 50
การผ่าตัด รายที่เนื้อเยื่อมีความแข็งกระดูกแข็งผิดรูป ไม่สามารถดัดโดยใช้แรงจากภายนอกท้าให้รูปเท้าดีขึ้น
ฝ่าเท้าแบน Flat feet
อาการ
ผู้ป่วยอาจจะมีตาปลาหรือผิวหนังฝ่าเท้าจะหนาผิดปกติ
รองเท้าผู้ป่วยจะสึกเร็ว
ปวดฝ่าเท้า
รายที่แบนรุนแรงผู้ป่วยจะมีอาการปวดน่อง เข่า และปวดสะโพก
สาเหตุ
เป็นพันธุกรรมในครอบครัว
เกิดจากการเดินที่ผิดปกติเช่นการเดินแบบเป็ดคือมีการบิดของเท้าเข้าข้างใน
เกิดจากเอ็นของข้อเท้ามีการฉีกขาด
โรคเกี่ยวกับสมองหรือไขสันหลัง
การรักษา
พบแพทย์ผู้เชี่ยวชาญโดยเฉพาะ
ใส่รองเท้าที่กว้างและมีขนาดพอดี
อย่ารักษาตาปลาด้วยตัวเอง
ใส่แผ่นรองเท้าเสริม
อาจจะใช้ultrasound หรือ laser เพื่อบรรเทาอาการเจ็บปวด
Cerebral Palsy
ความพิการทางสมอง ซึ่งเด็กจะมีการเคลื่อนไหวร่างกายที่ผิดปกติ การขยับแขนขา ล้าตัว ใบหน้า ลิ้น รวมถึง
การทรงตัวที่ผิดปกติ
ก่อนคลอด
อาจมีสาเหตุมาจากการติดเชื้อ
มารดาเป็นโรคแทรกซ้อนขณะตั้งครรภ์ ได้แก่ ความดันโลหิตสูง เบาหวาน
อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นกับมารดาขณะตั้งครรภ์
ระหว่างคลอด /หลังคลอด
ปัญหาระหว่างคลอด : คลอดยาก , สมองกระทบกระเทือน ,ขาดออกซิเจน , ทารกคลอดก่อนก้าหนด
จำแนกโดยลักษณะการเคลื่อนไหวได้ 4 ประเภท
Spastic CPจะมีอาการกล้ามเนื้อเกร็งแน่นไม่สามารถหดตัวได้เหมือนกล้ามเนื้อปกติ มีลักษณะแข็งทื่อ
Ataxic CPกล้ามเนื้อจะยืดหดอย่างไม่เป็นระบบระเบียบ ท้าให้ไม่สามารถควบคุมกล้ามเนื้อได้ หากเด็กมีความ
เก็บกดทางอารมณ์ หรือเมื่อเวลาตื่นเต้น กล้ามเนื้อจะยิ่งผิดปกติมากขึ้น
Athetoid CPมีอาการกล้ามเนื้อไม่ประสานกัน ท้าให้เด็กควบคุมสมดุลไม่ได้ ท้าให้โซเซและหกล้มได้ง่าย
ประมาณ 1 ใน 4 ของเด็กที่เป็นซีพี จะมีอาการเป็น Atheloid CP
Mixed CPเป็นการผสมผสานลักษณะทั้งสามคือ เด็กคนเดียวอาจมีลักษณะที่กล่าวมาแล้ว โดยประมาณกันว่า
1 ใน 4 ของคนที่เป็น ซีพี จะมีลักษณะของการผสมผสานประเภทนี้
spastic cerebral palsy
Hemiplegia คือพวกที่มี spasticity ของแขนและขาข้างใดข้างหนึ่งส่วนอีกข้างหนึ่งปกติ
Double hemiplegia คือ มีลักษณะของ hemiplegia ทั้ง 2 ข้างเพียงแต่ความรุนแรงของแต่ละข้างไม่เท่ากัน
quadriplegia หรือ total body involvement พวกนี้มี involvement ของทั้งแขนและขาทั้ง 2 ข้างเท่า ๆกัน ส่วนใหญ่ของ cases พวกนี้มักจะมี neck หรือ cranial nerve involvement ด้วย ปัจจุบันจึงนิยมที่จะเรียก total body involvement มากกว่า quadriplegia
Diplegia คือ involved มากเฉพาะที่ขาทั้ง 2 ข้าง ในขณะที่แขนทั้ง 2 ข้าง gross movement เกือบจะปกติมีเฉพาะส่วนของ fine movement เท่านั้นที่ถูก involved
การรักษา
ป้องกันความผิดรูปของข้อ ต่างๆ โดยใช้ วิธีทาง
กายภาพบ้าบัด(Physical Therapy) จะช่วยให้เด็กซีพี เรียนรู้การเคลื่อนไหวและการปรับสมดุลของร่างกายได้ดีขึ้น
อรรถบ้าบัด (Speech and Language Therapy) เด็กๆ ที่เป็นซีพี จะได้ฝึกทักษะการสื่อสาร
ลดความเกร็ง โดยใช้ยา
ยากิน
ยาฉีด
การผ่าตัด
การผ่าตัดลดความตึงของกล้ามเนื้อโดยผ่าคลายเฉพาะกล้ามเนื้อที่ยึดตึง
การย้ายเอ็น เพื่อสร้างความสมดุลของข้อ
การผ่าตัดกระดูก ในรายที่กระดูกถูกดึงจนผิดรูปแล้ว
การให้การดูแลรวมถึงให้ก้าลังใจ โดยพ่อแม่ผู้ปกครองมีส่วนส้าคัญกับการพัฒนาการด้านอารมณ์
การรักษาด้านอื่นๆ เช่น การผ่าตัดแก้ไขตาเหล่ น้้าลายยืด การใช้เครื่องช่วยฟังใช้ยาควบคุมการชัก
รวมถึงปัญหาด้านจิตเวช
ภาวะกระดูกสันหลังคด (Scoliosis)
ชนิดที่ไม่มีการเปลี่ยนแปลงในเนื้อกระดูกสันหลัง (Non Structurial Scoliosis)
ชนิดที่มีการเปลี่ยนแปลงของกระดูกสันหลัง (structural Scoliosis)
การตรวจวินิจฉัย
การซักประวัติถามเกี่ยวกับประวัติการเจ็บป่วยในอดีต ได้แก่ ประวัติการผ่าตัดที่เคยได้รับ ข้อมูลความพิการของกระดูกสันหลัง ประวัติท้าวแสนปมในครอบครัว ถามอาการปวดหลัง ความอ่อนแรงของกล้ามเนื้อผลของ
ความพิการต่อผู้ป่วยและครอบครัว
การตรวจร่างกาย ได้แก่ การสังเกตความพิการหลัง แนวล้าตัว ความสูง น้้าหนักตัว ความกว้างของ
แขน ท่านั่ง ท่ายืน ระดับไหล่ สะโพกสองข้างสูงเท่ากันหรือไม่ ท้า Adam’ s forward bending test
.การตรวจทางห้องปฏิบัติการพิเศษอื่น ๆ ได้แก่ การถ่ายภาพเอกซเรย์ในท่ายืนตรงและด้านข้างตั้งแต่กระดูกทรวงอกถึงกระดูกก้นกบ เพื่อดูต้าแหน่งทิศทางของการคด มุมการคด องศาการโค้ง
อาการและอาการแสดง
1.ความพิการของกระดูกสันหลังพบกระดูกหลังโค้งไปด้านข้างอาจเกิดโค้งทดแทนเพื่อรักษาไว้ซึ่งสมดุลและท่าที่กระดูกสะบักพบกระดูกสะบักสองข้างไม่เท่ากัน สะบักไม่อยู่ระดับเดียวกันคือไหล่ข้างหนึ่งสูงกว่าอีกข้าง
2.เมื่อให้ผู้ป่วยก้มตัวไปด้านหน้าจะมองเห็นตะโหงก (Hump) จากการหมุนของกระดูกซี่โครง
3.ทรวงอกเคลื่อนไหวจ้ากัด มักหายใจตื้น หายใจลึกท้าได้ยาก
4.พบการเลื่อนของกระดูกสันอกจากแนวกลางตัว ความจุในทรวงอกข้างไม่สมมาตรกัน จากการหมุนขอซี่โครงไปด้านหน้า
5.กล้ามเนื้อและเอ็นด้านเว้าจะหดสั้นและหนา ส่วนด้านโค้งออกจะฝ่อลีบและบาง
6.ข้อศอกและขอบกระดูกเชิงกราน (Iliac Creast) ไม่อยู่ระดับเดียวกัน
7.ผู้ป่วยเอียงตัวไปด้านข้าง ระยะห่างของแขนและเอวไม่เท่ากัน
8.สังเกตว่าใส่เสื้อผ้าไม่พอดี สายเสื้อในข้างหนึ่งหลุดบ่อยและความสูงขอบกระโปรงไม่เท่ากัน
9.เกิดอาการปวดเมื่อหลังคดมาก แต่ในเด็กพบอาการปวดไม่บ่อย
10.เริ่มมีอาการ เมื่ออายุยิ่งน้อยจะยิ่งมีความพิการมาก และกระดูกสันหลังส่วนเอวคดมีพยากรณ์โรคดีกว่ากระดูกสันหลังส่วนอกคด
การรักษา
.การรักษาแบบไม่ผ่าตัด
การรักษาแบบผ่าตัด มีข้อบ่งชี้เมื่อพบว่า มีมุมการคดของกระดูกสันหลังเกิน 45-50องศา มีการเอียงของล้าตัว และมีโอกาสคดเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
แนวทางการพยาบาลผู้ป่วยที่มีภาวะสันหลังคด
ให้ความรู้เกี่ยวกับโรค การรักษาและการปฏิบัติตนโดยใช้คู่มือ วีดิทัศน์ เพื่อให้เกิดความเข้าใจและ
ความคุ้นเคย
1.2 บอกผู้ป่วยต้องนอนในหออภิบาลหลังผ่าตัด เพราะต้องดูแลอย่างใกล้ชิดหลังผ่าตัดใหญ่
อธิบายวิธีการพลิกตัวหลังผ่าตัดโดยให้ไหล่และสะโพกพลิกไปพร้อมกัน (Logrolling) พร้อมสาธิต
วิธีการเปลี่ยนท่านอน
แนะน้าให้รายงานอาการผิดปกติต่างๆที่อาจเกิดหลังผ่าตัด เช่น อาการปวด ชา สูญเสีความรู้สึก
สอนและสาธิตวิธีการไอ หายใจอย่างมีประสิทธิภาพ การออกก้าลังแขน ขาและหลัง
แนะน้าการใช้หม้อนอน การรับประทานและดื่มบนเตียง การลุกออกจากเตียงและเข้าเตียงโดยให้หลังตรงใช้ท่าตะแคงหรือนอนคว่้า
บอกผู้ป่วยให้ทราบวิธีการเตรียมความสะอาดร่างกายทั่วไป การโกนขนบริเวณผ่าตัด การงดอาหาร
และน้้าหลังเที่ยงคืน การสวนอุจจาระเช้าวันผ่าตัด
บอกผู้ป่วยให้ทราบหลังผ่าตัดมีสายน้้าเกลือ สายระบายจากแผลผ่าตัด แผลผ่าตัดจะมี 2 แห่งที่หลังและบริเวณ Iliac Crease
อธิบายให้ทราบว่าหลังผ่าตัดต้องนอนบนเตียงประมาณ 2 สัปดาห์ หลังจากนั้นแพทย์จะใส่เฝือก
และให้เดินได้
ให้ผู้ป่วยคุ้นเคยกับเฝือกปูนและการดึงถ่วงน้้าหนัก โดยใช้ตุ๊กตาเป็นแบบส้าหรับผู้ป่วยเด็กเล็ก
มะเร็งกระดูก (Osteosarcoma)
อาการและอาการแสดง
ปวดบริเวณที่มีก้อนเนื้องอก
น้้าหนักลด
มีไข้
การเคลื่อนไหวของต้าแหน่งที่เป็นผิดปกติ รับน้้าหนักไม่ได้ มักมีประวัติการเกิดอุบัติเหตุ
อาจมีกระดูกหักบริเวณนั้น ๆ
การวินิจฉัย
การซักประวัติ : ระยะเวลาการมีก้อนเนื้องอก อาการปวด การเคลื่อนไหว
การตรวจร่างกาย : น้้าหนัก ต้าแหน่งของก้อน การเคลื่อนไหว ต่อมน้้าเหลือง
การตรวจทางห้องปฏิบัติการ : MRI , CT เพื่อดูการแพร่กระจายของโรค หาระดับอัลคาไลน์ฟอสฟาเตส(ALP) และระดับ แลคเตส ดีไฮโดรจิเนส (LDH) มีค่าสูงขึ้น
การรักษา
การผ่าตัด
เคมีบ้าบัด
รังสีรักษา
การพยาบาล
ไม่สุขสบายจากการปวดแผลผ่าตัดและปวดหลอน (Phantom pain)บริเวณแขน/ขา ที่ถูกตัด
เสี่ยงต่อการเกิดภาวะแทรกซ้อนของกระดูกที่ท้าการผ่าตัด
เสี่ยงต่อการเกิดภาวะแทรกซ้อนจากเคมีบ้าบัดและรังสีรักษา
มีความวิตกกังวลเนื่องจากขาดความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับโรคและการรักษาพยาบาล
Omphalocele
การรักษา
การรักษาแบบ conservativeท้าโดยใช้สารละลายฆ่าเชื้อ (antiseptic solution) เช่น Tr. Mercurochrome , Povidenesolution หรือ topical antibacterial cream เช่น Silver Zinc Sulfadiazine ทาที่ผนังถุง การใช้สารละลายฆ่าเชื้อหรือ cream ทาถุง มีผลท้าให้หนังแปรสภาพเป็น Eschar ที่เหนียวไม่แตกง่าย
การรักษาด้วยวิธีผ่าตัด
วิธีแรกเป็นการเย็บผนังหน้าท้องปิดเลย (primary fascial closure)
อีกวิธีเป็นการปิดผนังหน้าท้องโดยท าเป็นขั้นตอน (staged repair)
การวินิจฉัย
เมื่อคลอดพบว่าที่หน้าท้องทารกจะพบถุงสีขาวขุ่นบาง ขนาดต่าง ๆ กัน สามารถมองเห็นขดล้าไส้หรือตับผ่านผนังถุงอาจมีส่วนของถุงบรรจุ wharton’s jelly สายสะดือติดอยู่กับตัวถุง ขนาดที่พบตั้งแต่ 4 – 10 cm
การพยาบาล
การแก้ไขปัญหาฉุกเฉิน
Incubator หรือ ผ้าอุ่น กระเป๋าน้้าร้อน
การประเมินการหายใจ เตรียม endotrachial tube, suction
ใส่ orogastric tube ปลายเปิดลงถุง
Rectal irrigation ด้วย NSS อุ่น
ตรวจระดับ น้้าตาล เกลือแร่ในกระแสเลือดเจาะเลือดแม่เพื่อเตรียมท้าการจองเลือด เผื่อว่าต้องท้าการให้เลือด
เริ่มให้antibiotic ได้ทันที
การดูแลโดยทั่วไป
การอาบน้้า ไม่ต้องท้าเนื่องจากจะท้าให้เด็กตัวเย็นมากขึ้น
ให้ vitamine K 1 mg intramuscular
การรักษาความอบอุ่น
ประเมินภาวะทั่วไป ความสามารถในการหายใจ
decompression stomach
การค้นหาความพิการร่วม
การดูแลเฉพาะ
การท้าแผล สะอาด หมาดๆ ไม่รัด
การพยาบาลก่อนการผ่าตัด (Nursing preoperative care)
เช็ดท้าความสะอาด ล้าไส้ส่วนที่ สกปรก ป้องกันการติดเชื้อ
การพยาบาลหลังการผ่าตัด (Nursing postoperative care)
Respiratory distress : ใส่ endotrachial tube และให้muscle relaxant 1-2 วัน หลังผ่าตัด
Hypothermia : ต้องให้เด็กอยู่ในตู้อบ (incubator) ปรับอุณหภูมิตามตัวเด็ก
Hypoglycemia, Hypocalcemia : สังเกตว่าเด็กจะมี tremor, cyanosis หรือ convulsion รายที่มี
hypocalcemia อาจจะเกิด periodic apnea
General care จัดท่านอนหงาย , สังเกตการหายใจ , การขับถ่าย , ตรวจดูว่ามี discharge ออกมาจากแผล ,
swab culture
Fluid and nutrition support
ถ้าเป็น omphalocele ให้IV fluid เป็น 10%DN/5 เป็น maintenanceบวกกับที่สูญเสียออกมาทางOG tube
ถ้าเป็นgastroschisis มี Insensible loss เฉลี่ย daily requirment 200 ml./kg./day
Wound care
ถ้าเป็น omphalocele ใหญ่ให้ดูแลท้าความสะอาดแผลกว่าจะเริ่มดีขึ้น พอให้ไปดูแลเองต่อได้gastroschisis ที่ใส่ silo ก็เช็ด silo เช้าเย็นท้าแผลเช่นเดียวกับก่อนผ่าตัด ถ้าเป็นแผลเย็บ ท้าแผลวันละครั้ง ดูการเปลี่ยนแปลงของแผล
การติดตามการรักษา
เด็กจะมีน้้าหนักน้อยกว่าปกติ แต่จะกลับเข้าสู่ภาวะปกติเมื่ออายุประมาณ 6 เดือน ภาวะที่อาจจะต้องแก้ไขต่อไปเช่น ventral herniaนัดมาแก้ไขประมาณ อายุ 2 - 4 ปี ปัญหาอื่น ๆ ที่อาจจะเกิด ได้แก่ intestinal