Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
วิเคราะห์เคสกรณีศึกษา Case 5 …
วิเคราะห์เคสกรณีศึกษา Case 5
ทารกเเรกเกิดได้รับนมเเม่ทาง Orogastric tube ครั้งละ 15 ซี.ซี ทุก 3 ชั่วโมง ก่อนให้นมได้ดูดนมที่เหลือในกระเพราะได้ปริมาณ 5 ซี.ซี
ปัญหาของของทารกรายนี้
1.ทารกได้รับนมปริมาณมากเเละเร็วเกินไป
จะทำให้คาร์โบไฮเดรตที่ย่อยไม่หมดเกิดการหมัก (fermentation) โดยเเบคทีเรียในลำไส้ได้กรดไขมันสายสั้น (short chain fatty acid) ซึ่งเป็นตัวทำให้เกิดการอักเสบของเยื้อบุผนังลำไส้
การสะสมของอาหารในลำไส้จากการติดเชื้อกรัมลบรูปเเท่ง เช่น เคลบสิลล่าเเละอีโคไล (Klebsialla & E.coli) ทำให้เกิดเเก๊สในผนังลำไส้บริเวณที่พบบ่อยที่สุดคือ ลำไส้เล็กส่วนปลาย (terminal illium)
2.ทารกมีนมเหลือค้างในกระเพาะอาหาร
จากการตรวจสอบน้ำย่อยในกระเพาะอาการ(Gasrtic content ) ก่อนให้นมครั้งต่อไปพบว่ามีนมเหลือค้างในกระเพาะอาหารของทารก เนื่องจากการทำงานของระบบย่อยอาหารที่ผิดปกติ
เนื่องจากทารกมีอาหารเหลือค้างในกระเพาะอาจเกิดจากเยื่อบุช่องท้องอักเสบ
การวางเเผนการพยาบาล
สังเกตการณ์ที่มีโอกาสเกิดภาวะ NEC
บันทึกสัญญาณชีพของทารก ดูการเปลี่ยนเเปลงทารกที่มีปัญหาภาวะลำไส้ขาดเลือด NEC เฝ้าระวังทารกเสี่ยงต่อภาวะช็อค
3.จัดท่านอนศีรษะสูง (Fowler's position) เพื่อป้องกันการสำลักเเละป้องกันทารกมีอาการท้องอืด
4.ดูเเลให้สารน้ำให้เพียงพอต่อความต้องการของทารก
ในรายที่มีอาการรุนเเรงพิจารณาผ่าตัด เพื่อทำการดูเเลรักษา
ข้อวินิจฉัยทางการพยาบาล
มีภาวะพร่องออกซิเจนในร่างกายเนื่องจากประสิทธิภาพการเเลกเปลี่ยนก๊าชลดลง
ทารกมีภาวะติดเชื้อระบบทางเดินอาหาร
เสี่ยงต่อการได้รับสารอาหารไม่เพียงพอต่อความต้องการของร่างกายเนื่องจากความไม่สมบูรณ์ของระบบทางเดินอาหารเเละมีการติดเชื้อระบบทางเดินอาหาร
การรักษา
1.งดน้ำงดอาหารทางปาก
2.ให้ยาปฏิชีวนะทางหลอดเลือดดำ
ประเมินอัตราการหายใจของทารกเพื่อให้ได้รับออกซิเจนเพียงพอต่อความต้องการ
หากทารกมีอาการอืดเเน่นท้องมาก ให้ดูดอาหารออกทางสายกระเพาะอาหารทางจมูก
5.ดูเเลให้สารน้ำเเละอาหารทางหลอดเลือดดำให้เพียงพอ อาจต้องทำผ่าตัดเมื่อมีลำไส้ทะลุ
ความหมาย
เป็นภาวะที่เนื้อเยื่อของระบบทางเดินอาหารตายจากการขาดเลือด มักเป็นที่ลำไส้เล็กเเละลำไส้ใหญ่นทารกเเรกเกิดที่มีน้ำหนักตัวน้อย เเละเป็นสาเหตุการตายเเละทุพลภาพของทารกเเรกเกิดได้มาก
การพยาบาล
1.ประเมินหน้าท้องลักษณะ bowel sound เเละ gastric content >20 ให้รายงานเเพทย์
2.งดน้ำเเละนมทางปากนาน 14 วัน หรือตามเเผนการรักษาของเเพทย์
3.คาสาย OG Tube เปิดปลายสายต่อลงถุงเพื่อระบายลมเเละ content ลดอาการท้องอืด
4.ดูด content ทุก 3 ชม ประเมินลักษณะสีเเละปริมาณของ content
5.สังเกตอาการของความสามารถในการรับนมของทารกลดลง(Feeding intolerance)เช่น Bowd sound ลดลง gastric content มีมาก ท้องอืดจากการได้รับนมบ่อย รายงานเเพทย์ทราบเเละหาสาเหตุต่อไป
6.ดูเเลให้ได้รับยา Antibiotic Ampicilin 60 mg vein ทุก 12 hr,Gengamycin 6 mg vein ทุก 12 hr
ส่งเสริมเเละให้กำลังใจเเก่มารดาในการบีบนมเพื่อให้ทารกได้รับนมมารดาทางสายยางอย่างต่อเนื่องเพราะนั้น นมของมารดามีภูมิคุ้มกันโรคเเละลดความรุนเเรงของโรค NEC ได้
8.ชั่งน้ำหนักทุกวัน น้ำหนักของทารกจะเพิ่งขึ้นวันละประมาน 20-30 กรัม
สาเหตุ
ยังไม่เเน่ชัด เกิดจากหลายสาเหตุร่วมกัน คือ เกิดจากลำไส้ขาดเลือดร่วมกับมีเเบคทีเรียในลำไส้เข้ามาเสริม (Infection) การที่ทารกเคยได้รับนมเข้าสู่ระบบทางเดินอาหาร (feeding substate)โดยเฉพาะทารกคลอดก่อนกำหนดยังไม่สามารถย่อยนมได้ดี ถ้าให้นมปริมาณมากเเละเร็วเกิดไป จะทำให้คาร์โบไฮเดรตที่ย่อยไม่หมดเกิดการหมัก โดยเเบคทีเรียในลำไส้ได้กรดไขมันสายสั้น ซึ่งเป็นตัวทำให้เกิดการอักเสบของเยื่อบุผนังสำไส้ เเละจากการติดเชื้อกรัมลบรูปเเท่ง เช่น เคลบสิลล่า เเละอีโคไล เป็นต้น ตลอดจนการมีเเก๊สเกิดขึ้นในผนังลำไส้ที่พบบ่อยที่สุดือลำไส้เล็กส่วนปลาย (terminal ilium)
พยาธิสภาพ
เมื่อภาวะเเทรกซ้อนในระยะคลอดหรือการคลอดล่าช้าทำให้มีภาวะขาดออกซิเจน เลือดจากส่วนต่างๆของร่างกายจะไหลลัดไปยังอวัยวะที่สำคัญ เช่น หัวใจ สมอง เป็นต้น ทำให้มีภาวะขาดเลือดที่ลำไส้ หามีความรุนเเรงน้อยอาจมีเพียงอาการท้องอืด อาจตรวจพบเลือดในอุจารระ (Occult Blood) หากมีความรุนเเรงมากขึ้นอาจถ่ายอุจจาระเป็นมูกเลือดมีเเผลบริเวณลำไส้ทำให้เชื้อโรคเข้าสู่เยื่อบุชั้นในเเละกล้ามเนื้อของลำไส้เเละอาจทำให้ลำไส้ทะลุ