Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
กรณีศึกษาที่ 2 ไตอักเสบชนิดเฉียบพลัน Acute Glomerulonephritis : AGN,…
กรณีศึกษาที่ 2
ไตอักเสบชนิดเฉียบพลัน
Acute Glomerulonephritis : AGN
อาการและอาการแสดงที่ผิดปกติ
บวมที่หนังตาและขา
ปัสสาวะออกน้อย
ปวดศีรษะ
ความดันโลหิตสูง 150/110 ( ค่าปกติ 120/80 )
เจ็บคอ
blood urea nitrogen (BUN) 60 mg/dl สูง (ค่าปกติ 8 - 20 mg/dl )
RBC numerous/HPF มาก (ค่าปกติ 0-5/HPF )
creatinine 0.7 mg/dl ต่ำ (ค่าปกติ 0.8 - 2 mg/dl )
หายใจเร็ว R = 40 ครั้ง/นาที (ค่าปกติ 20–30 ครั้ง/นาที )
ปัสสาวะสีแดงออกน้ำตาล ( red-brown color )
สาเหตุและกลไกของการเกิดความผิดปกติ
สาเหตุ
แบคทีเรีย
Group A beta hemolytic Streptococcus
Streptococcus pneumoniae
Klebsiella pneumoniae
ไวรัส
Hepatitis B
Cytomegalovirus
Measles
Varicella zoster
พาราสิต
Plasmodium malariae
Plasmodium falciparum
ริกเก็ดเซีย
Scrub Typhus
กลไก
เกิดเป็นปฏิกิริยาเชิงซ้อน (antigen antibody complex) เกาะติดที่ผนังหลอดเลือดฝอยในไต เกิดการอักเสบของผนังหลอดเลือด (endothelial cell)
เริ่มตั้งแต่ร่างกายได้รับเชื้อซึ่งเป็นตัวกระตุ้น เรียกว่า แอนติเจน (antigen) ทำให้ร่างกายสร้างภูมิต้านทานแอนติบอดี (antibody) ขึ้น
พบนิวโตรฟิล (neutrophil) และโมโนชัยท์ (monocyte) มีการหลั่งเอนไซม์ทำลายผนังหลอดเลือด พบว่ามีการรั่วของเลือดและโปรตีนปนออกมากับปัสสาวะ
ส่วนระบบ coagulation นำไปสู่การกระจายทั่วผนังหลอดเลือด พบว่ามีการรั่วของเลือดและโปรตีนปนออกมากับปัสสาวะ
ส่วนระบบ coagulation นำไปสู่การกระจายทั่วผนังหลอดเลือดในไต ทำให้การไหลเวียนของเลือดผ่านไตน้อยลง (GFR ลดลง)
ประสิทธิภาพการทำงานของไตลดน้อยลง มีการคั่งค้างของน้ำ เกลือ และของเสียในร่างกาย
คำแนะนำในการใช้ยาอย่างปลอดภัยและสมเหตุผล
ยาที่ช่วยลดปริมาตรของน้ำในร่างกาย คือ ยาขับปัสสาวะ เช่น furosemide หรือ lasix ขนาด 1-2 มิลลิกรัม/กิโลกรัม/ครั้ง ทางหลอดเลือดดำ ยาจะออกฤทธิ์ภายใน 5 นาที และอาจให้ซ้้ำได้ทุก 6 ชั่วโมง
ยาขยายหลอดเลือด นิยมใช้ hydralazine ขนาด 0.15-0.30 มิลลิกรัม/กิโลกรัม/ครั้ง ให้ทางกล้ามเนื้อหรือทางหลอดเลือดดำ ยาออกฤทธิ์ภายใน 10-25 นาที ให้ซ้ำได้ทุก 4-6 ชั่วโมง
ยาต้านฤทธิ์ adrenalin ได้แก่ propranolol ซึ่งเป็น beta-adrenergic blocking agent ขนาด 0.5-1 มิลลิกรัม/
กิโลกรัม/วัน แบ่งให้ทุก 6 ชั่วโมง โดยให้ชนิดรับประทาน ยาออกฤทธิ์ภายในเวลา 30 นาที
โรคนี้ไม่มีการรักษาที่เฉพาะเจาะจง แต่เป็นการรักษาตามอาการที่เกิดขึ้น และ/หรือตามอาการที่เปลี่ยนแปลง เพื่อ
ป้องกันภาวะแทรกซ้อนเฉียบพลัน
การรักษาด้วยยาปฏิชีวนะ ยาที่ใช้ ได้แก่ penicillin, chephalosporins หรือ broad spectrum macrolides
การให้ออกซิเจนในรายที่มีอาการเหนื่อยหอบ
คำแนะนำ
ไม่ควรปรับขนาดยาเอง
ไม่ควรซื้อยารับประทานเองเนื่องจากอาจจำเป็นต้องมีการปรับขนาดยาบ่อยครั้งตามความจำเป็น
ตรวจเลือดเพื่อหาผลข้างเคียงจากยาที่ได้รับด้วย
ยาความดันแต่ละกลุ่มอาจไม่สามารถทดแทนกันได้เนื่องจากยาแต่ละตัวมีข้อบ่งใช้รวมทั้งข้อห้ามแตกต่างกัน
ควรใช้ยาตามที่แพทย์แนะนำอย่างเคร่งครัด ไม่ควรใช้ยาในปริมาณมากหรือเป็นเวลานานกว่าที่แพทย์แนะนำ
ไม่ควรหยุดใช้ยาเองโดยไม่ได้ปรึกษาแพทย์ เพราะอาจทำให้อาการแย่ลงได้
ควรใช้ยาตามที่แพทย์แนะนำจนครบ แม้ว่าจะมีอาการดีขึ้นแล้วก็ตาม เพราะอาการของความดันโลหิตมักจะไม่แสดงให้เห็นชัดเจน และอาจทำให้ผู้ป่วยไม่ทราบว่าเมื่อไรที่ความดันโลหิตสูง
หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์
ควรเก็บยาไว้ในอุณหภูมิห้อง เก็บให้พ้นจากความร้อน แสงแดด และความชื้น หากยาหมดอายุให้ทิ้งทันที
ปัญหาทางการพยาบาล
ผู้ป่วยเสี่ยงต่อการเกิดอาการชักจากการมีความดันโลหิตสูง เนื่องจากการเพิ่มปริมาตรของน้ำและเกลือในร่างกาย และจากการไหลเวียนของ GFR ลดลง ทำให้เกิด total peripheral resistance เพิ่มขึ้น
กิจกรรมการพยาบาล
จัดให้ผู้ป่วยพักนอนในบริเวณที่ใกล้กับเคาน์เตอร์พยาบาล จะได้สะดวกในการดูแลช่วงระยะแรกที่มีภาวะความ
ดันโลหิตเปลี่ยนแปลงและมีโอกาสเกิดภาวะเฉียบพลันได้
จัดสภาพแวดล้อมให้เงียบ สงบ เพื่อให้ผู้ป่วยพักผ่อนอย่างเต็มท
เฝ้าระวังอาการชัก โดยการสังเกตอาการเตือนหรืออาการบ่งชี้ก่อนชัก และเตรียมการช่วยเหลือหากมีการชัก
จำกัดกิจกรรม การเคลื่อนไหว หรือการออกกำลังกาย
ดูแลเรื่องการได้รับยาลดความดันโลหิตตามแผนการรักษา
สังเกตอาการเปลี่ยนแปลงและสัญญาณชีพ พร้อมบันทึกลงในรายงานผู้ป่วยเป็นระยะ
บันทึกน้ำดื่ม และปัสสาวะ เพื่อประเมินภาวะน้ำเกินในระบบไหลเวียนซึ่งส่งผลให้มีความดันโลหิตสูงตามมา
รายงานอาการเปลี่ยนแปลงของผู้ป่วยให้แพทย์ทราบ จนกว่าผู้ป่วยจะมีความดันโลหิตลดลงอยู่ในเกณฑ์
ใกล้เคียงปกติ
จัดหาของเล่น หรือกิจกรรมการเล่นที่ไม่ต้องใช้กำลังมาก เหมาะสมกับวัย เพื่อทุเลาจาก
ที่ไม่สุขสบายต่าง ๆ
ดูแลให้อาหารโปรตีนต่่ำและรสจืด
ผู้ป่วยมีการคั่งของน้้ำเกลือ และของเสียในร่างกาย
กิจกรรมการพยาบาล
ดูแลการจำกัดน้ำดื่ม และดูแลให้ความสำคัญกับปริมาณน้ำที่ผู้ป่วยได้รับนอกจากน้ำดื่มปกติที่จัดไว้ให้
ดูแลให้รับประทานอาหารที่จำกัดเกลือ
การดูแลให้ยาขับปัสสาวะเพื่อแก้ไขอาการบวม โดยยึดหลักความถูกต้อง 5 ประการ
ดูแลให้รับประทานอาหารประเภทโปรตีนต่ำ เพื่อลดของเสียของโปรตีน
ชั่งน้ำหนักตัวเพื่อประเมินภาวะบวมทุกวัน
บันทึกน้ำดื่มและปัสสาวะทุกวันเพื่อทราบความสมดุลของ น้ำที่ร่างกายได้รับและถ่ายออก
ติดตามผลการตรวจเลือดทางห้องปฏิบัติการ
ผู้ป่วยปัสสาวะออกน้อย อาจมีเลือดออกในปัสสาวะ (hematuria)
กิจกรรมการพยาบาล
สังเกตลักษณะสีปัสสาวะอาจต้องบันทึกปริมาณทุก 1 ชั่วโมง
ตวงและบันทึกสารน้ำเข้า - ออกร่างกายอย่างเคร่งครัด
ติดตามผลการตรวจทางห้องปฎิบัติการ เช่น BUN,Cr ความถ่วงจำเพาะของปัสสาวะ
นางสาวรัชดา เที่ยงธรรม เลขที่ 85 รหัสนักศึกษา 611901089