Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
ภาวะนำ้ครำ่อุดกั้นหลอดเลือดในปอด(Amniotic fluid embolism/AFE), big (1),…
ภาวะนำ้ครำ่อุดกั้นหลอดเลือดในปอด(Amniotic fluid embolism/AFE)
ความหมาย
ภาวะที่มีนำ้ครำ่ผ่านเข้าสู่กระเเสเลือดของมารดา ซึ่งจะเข้าไปในหลอดลมฝอยในปอด เเล้วไปอุดกั้นบริเวณหลอดเลือดดำที่ปอด ทำให้เกิดภาวะล้มเหลวของการทำงานของระบบหายใจ ระบบหัวใจ เเละการไหลเวียนเลือด การเเข็งตัวของเลือด ช็อคเเละเสียชีวิต
ภาวะฉุกเฉินทางการคลอดมีลักษณะเฉพาะ 3 ประการ
Hypoxia
Consumptive coagulopathy
Hypotension
ปัจจัยส่งเสริม
การผ่าตัดเอาทารกออกทางหน้าท้อง
มารดามีบุตรหลายคน
การบาดเจ็บในช่องท้อง
มารดาตั้งครรภ์หลังที่มีอายุมากกว่า 35 ปี
มดลูกเเตก
นำ้ครำ่มีขี้เทาปน
รกลอกตัวก่อนกำหนด
การเบ่งคลอดขณะถุงนำ้ครำ่ยังไม่เเตก
รกเกาะตำ่
การเจาะถุงนำ้ครำ่
การคลอดเฉียบพลัน
การรูดเพื่อเปิดขยายปากมดลูก
ทารกตายในครรภ์เป็นเวลานาน
การตรวจวินิจฉัยนำ้ครำ่ก่อนคลอด
การเร่งคลอด
การหมุนเปลี่ยนท่าทารกภายในเเละภายนอกครรภ์
พยาธิสภาพ
ส่วนประกอบนำ้ครำ่จะผ่านเข้าสู่กระเเสเลือดผู้คลอด บริเวณที่รกลอกตัวหรือบริเวณปากมดลูกที่ฉีกขาด ส่วนประกอบของนำ้ครำ่จะเข้าสู่ระบบไหลเวียนเลือด ผ่านเข้าสู่หัวใจเเละปอด ทำให้อุดตันในหลอดเลือดฝอยในปอด ทำให้หลอดเลือดเกิดการหดเกร็ง เลือดผ่านปอดสู่หัวใจซีกซ้ายลดลง ทำให้เลือดที่จะถูกบีบออกจากหัวใจข้างซีกซ้ายลดลง เกิดภาวะช็อคจากหัวใจ
อาการเเละอาการเเสดง
เกิดภาวะนำ้คั่งในปอด
เส้นเลือดที่หัวใจตีบ
หายใจลำบาก
ความดันโลหิตตำ่มาก
คลื่นไส้ อาเจียน วิตกกังวล
ชัก
เหงื่อออกมาก
หมดสติ
มีอาการหนาวสั่น
เกิดอาการนานกว่า 1 ชม.ผู้คลอดยังมีชีวิตอยู่จะเกิภาะกลไกการเเข็งตัวของเลือดเสีย เเละเกิดอาการตกเลือดอย่างรุนเเรง
ผลกระทบ
ผลกระทบต่อมารดา
ผู้คลอดเสียชีวิตจากการเสียเลือด ช็อค ผู้รอดชีวิตมักมีอาการทางระบบประสาท เนื่องจากขาดออกซิเจนรุนเเรง
ผลกระทบต่อทารก
มารดาที่หัวใจเเละปอดหยุดทำงาน โอกาสรอดของทารกค่อนข้างน้อย โดยทั่วไปโอกาสรอดทารกจะมีประมาณร้อยละ 70
การพยาบาล
2.ถ้ามีอาการเเละอาการเเสดง ชักเกร็ง ภาวะเขียวทั้งตัวหรือบางา่วน ปฏิบัติดังนี้
2.5 สังเกตการหดรัดตัวของมดลูก
2.6 เตรียมช่วยเหลือการคลอดโดยคีมหรือผ่าตัดทางหน้าท้อง
2.4 เฝ้าระวังการเกิดภาวะตกเลือดหลังคลอด
2.7 เตรียมช่วยฟื้นคืนชีพ ในรายที่เกิดหัวใจล้มเหลว
2.3 ให้สารนำ้เเละเลือดตามเผนการรักษา
2.8 ใช้เครื่องช่วยหายใจใน 2-3 วันเเรก ภายใต้การดูเเลใน ICU
2.2 ให้ออกซิเจน
2.9 ดูเเลเเละให้กำลังใจเเก่ครอบครัว ถ้ามารดาเเละทารกเสียชีวิต
2.1 จัดมารดาให้นอนท่า Fowler
1.เฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด โดยคำนึงถึงปัจจัยที่ก่อให้เกิดภาวะนำ้ครำ่อุดกั้นหลอดเลือดในปอด
การรักษา
รักษาภาวะ DIC โดยให้ยา Heparin
ประเมินการเสียเลือดจากช่องคลอด
เตรียมยาที่ช่วยชีวิตถ้ามีความดันโลหิตตำ่ Dopamine, Norepinephrine
ให้ morphine ลดการคั่งของเลือดดำในปอด
ดูเเลการหดรัดตัวของมดลูก โดยให้ยา oxytocin หรือ methergin ทางหลอดเลือดดำ
ให้ Digitalis ช่วยให้หัวใจบีบตัวช้าลงเเรงขึ้น เลือดออกจากหัวใจมากขึ้น
ดูเเลระบบไหลเวียนเลือด เพื่อเเก้ไขhypotension โดยให้ IV
ให้ยา Hydrocortisone 1 gm.IV drip
ดูเเลทางเดินหายใจให้โล่ง โดยจัดให้นอนศรัษะสูง ให้ออกซิเจน 100เปอร์เซ็น
ให้ยา Isoprenaline 0.1 gm. IV
การป้องกัน
การเจาะถุงนำ้ควรทำอย่างระมัดระวัง ไม่ให้ถูกปากดลูก
ไม่ควรทำ Membranes stripping เลือดดำบริเวณปากมดลูกด้านในฉีกขาด
ไม่เจาะถุงนำ้ก่อนปากมดลูกเปิดหมด
การตรวจภาวะรกตำ่ควรทำด้วยความระมัดระวัง เกิดการเเยกของรกจากผนังมดลูกด้านริมรก เส้นเลือดดำที่ขอบรกจะฉีกขาดได้
ให้ oxytocin ด้วยความระมัดระวัง ไม่ควรเร่ง
สังเกตอาการผู้คลอดที่ถุงนำ้เเตกเเล้ว เเละมดลูกมีการหดรัดตัวรุนเเรงร่วมกับมีการฉีกขาดของผนังมดลูก ปากมดลูก
จัดท่านอนศรีษะสูง พร้อมให้ออกซิเจน 6-8 LPM ทางหน้ากาก
ไม่ควรกระตุ้นการเจ็บครรภ์โดยวิธีเลาะเเยกเยื่อถุงนำ้ครำ่
การวินิจฉัย
การวินิจฉัยอาการเเละอาการเเสดง
เส้นเลือดหัวใจหดเกร็ง
เลือดออก
อาการเขียว
ไม่รู้สติ
ระบบหายใจล้มเหลว
การตรวจทางห้องปฏิบัติการ
การตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ ECG
ตรวจการไหลเวียนของเลือดในปอด
การถ่ายภาพรังสีทรวงอก
การตรวจหา Sialy 1TH antigen จะพบมีระดับสูงขึ้นในครำ่ทีมีขี้เทาปน
การตรวจหาเซลล์ผิวหนัง ขนอ่อน เมือกของทารก เซลล์จากรก
เลือดจากกระเเสเลือดไปปอดของมารดา หรือ CVP line พบได้ร้อยละ 50
เสมหะ
การชันสูตรศพ พบได้ร้อยละ 75