Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
การพยาบาลเด็กเมื่อเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล, นางสาว รัตน์ศิการ์ ยิ้มใหญ่…
การพยาบาลเด็กเมื่อเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล
ความคิดรวบยอดเกี่ยวกับความเจ็บป่วยของเด็ก
ประเภท 0 : ตอบแบบไม่เข้าใจ
ระดับความคิดความเข้าใจก่อนขั้นปฏิกิริยา(อายุ 18 เดือน – 7 ปี)
ประเภทที่ 1 : ตอบตามปรากฏการณ์
ประเภทที่ 2 : สาเหตุสัมพันธ์กับวัตถุ หรือบุคคลที่อยู่ใกล้ๆ
ระดับความคิดความเข้าใจในขั้นปฏิบัติการด้วยรูปธรรม(อายุ 7-11 ปี)
ประเภทที่ 3 : การปนเปื้อน
ประเภทที่ 4 : ภายในร่างกาย
ระดับปฏิบัติการด้วยนามธรรม(อายุ 11-12 ปี จนถึงวัยผู้ใหญ่
ประเภทที่ 5 : ความเจ็บป่วยเกิดจากอวัยวะภายในร่างกายทำงานไม่ดี หรือไม่ทำงาน
ประเภทที่ 6 : เข้าใจถึงสาเหตุของความเจ็บป่วยที่พัฒนาถึงขึ้นสูงสุด
ความคิดรวบยอดเกี่ยวกับความตายของเด็กแต่ละช่วงวัย
วัยแรกเกิดและวัยทารก
ยังไม่รู้จักความตาย
อายุ < 6 เดือน ไม่เข้าใจความหมาย
อายุ > 6 เดือน ผูกพันกับผู้เลี้ยงดู รู้สึกแยกจาก
เชื่อมโยงกับคนรอบข้าง ผ่านการสัมผัส กลิ่น เสียง จะร้องเมื่อหิว
วัยเดินและวัยก่อนเรียน
คิดว่าตายแล้วสามารถกลับคืนมาได้(Reversible)
เหมือนเที่ยวชั่วคราว
การตายเปรียบเหมือนการนอนหลับ
ทำให้เด็กกลัวการนอนหลับ กลัวว่าจะไม่ตื่นมาอีก
ความตายเป็นจุดสุดท้ายของชีวิต
วัยเรียน
มองความตายที่มีต่อตนเองได้ชัดขึ้น
เรียนรู้ว่าตายแล้วจะกลับคืนมาอีกไม่ได้
กลัวการสูญเสียตนเองและบุคคลที่รัก
วัยรุ่น
ยังมองความตายเป็นเรื่องที่ไกลตนเอง
ยอมรับความตายของตนเองยากที่สุดเหมือนการลงโทษ
ปฏิกิริยาของเด็กป่วยที่เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล
ทำให้เกิดความเครียดส่งผลต่อการปรับตัวของเด็กและครอบครัว
พัฒนาการตามวัยของเด็ก
ประสบการณ์เดิมของเด็กที่เคยเผชิญในการเจ็บป่วยครั้งก่อน
ความสามารถของเด็กต่อการปรับตัวตัวในการเผชิญความเครียด
ความรุนแรงของความเจ็บป่วย
ระบบการดูแลและการช่วยเหลือเด็ก
ผลกระทบของความเจ็บป่วยของเด็กแต่ละช่วงวัย
วัยทารก
การเจ็บป่วยท าให้เด็กรู้สึกไม่สุขสบาย
ส่งผล
กินได้น้อยลง
ถูกจำกัดกิจกรรม
เจ็บปวด
เด็กต้องอยู่โรงพยาบาล
มารดาจึงไม่มีโอกาสโอบอุ้มเลี้ยงดูบุตร
อาจส่งผลต่อพัฒนาการเด็ก
วัยเดิน
วัยที่อิสระ
อยากรู้อยากเห็น
ยังไม่เคยแยกจากบิดามารดา
เด็กจะไม่ยอมอยู่ในอำนาจและไม่สามารถริเริ่มทำอะไรได้ด้วยตนเอง
วัยก่อนเรียน
มีผลต่อการปรับตัว
เด็กคิดว่าการเจ็บป่วยและการอยู่ในโรงพยาบาล
เป็นการถูกลงโทษ เนื่องจากตนเองคิดหรือทำในสื่งที่ไม่ดีมากที่สุด
วัยเรียน
าให้รู้สึกสูญเสียการนับถือตนเอง
รู้สึกมีปมด้อย
ถูกปฏิเสธจากกลุ่ม
วัยรุ่น
มีการค้นหาเอกลักษณ์ความเป็นตัวของตัวเอง
มีความเป็นอิสระ
ปฏิกิริยาของเด็กต่อการเจ็บป่วย
ความวิตกกังวลจากการแยกจาก (separation anxiety)
ความเจ็บปวดทางกายเนื่องจากการตรวจรักษา (body injury and pain)
ความเครียดและการปรับตัวของเด็กและครอบครัว
การสูญเสียความสามารถในการควบคุม (loss of control)
การเปลี่ยนแปลงภาพลักษณ์ (body image)
ความตาย
ปฏิกิริยาของบิดามารดาต่อการเจ็บป่วยของเด็ก
การเจ็บป่วยรุนแรงของเด็ก
การปฏิเสธ และไม่เชื่อ ในระยะแรก
ความรู้สึกโกรธและโทษตัวเอง เมื่อรู้แน่ชัดว่าเด็กป่วยจริง
ความรู้สึกกลัว และวิตกกังวล
มักจะมีความสัมพันธ์กับอาการรุนแรงของโรคที่เด็ก
ความรู้สึกหงุดหงิด คับข้องใจและการขาดอำนาจต่อรอง
ความรู้สึกเศร้า
แนวคิดและหลักการพยาบาลใช้ครอบครัวเป็นศูนย์กลาง
องค์ประกอบที่สำคัญ
การตระหนักและการเคารพ (Respect)
เคารพและยอมรับในความแตกตางทางวัฒนธรรม
ความเป็นบุคคล ค่านิยม ความเชื่อ
ความมีอิสระ ทางความคิดและการกระทำ การตัดสินใจ
การร่วมมือ (Collaboration)
การสนับสนุน (Support)
หลักการดูแลเด็กโดยใช้ครอบครัวเป็นศูนย์กลาง
เคารพและตระหนักว่าครอบครัวคือส่วนคงที่ในชีวิตเด็ก ในขณะที่บุคลากรด้านสุขภาพและระบบบริการสุขภาพมีการเปลี่ยนแปลง
ให้ความส าคัญกับการตัดสินใจของสมาชิกในครอบครัว
ช่วยเหลือครอบครัวในการตัดสินใจในการดูแลเด็ก
ให้ความสำคัญกับสิ่งที่ครอบครัวกังวล
สนับสนุนครอบครัวให้ทำหน้าที่ผู้ดูแลเด็กขณะเจ็บป่วยใน โรงพยาบาล
สนับสนุนให้เกิดความร่วมมือระหว่างบิดามารดากับทีมสุขภาพในทุกระดับของการบริการดูแลสุขภาพทั้งที่โรงพยาบาล บ้าน และชุมชน
มีการสื่อสารในทางที่ดี เปิดเผย และต่อเนื่อง
ให้เกียรติซึ่งกันและกัน และให้ความไว้วางใจ
สื่อสารทำความเข้าใจถึงบทบาท
วางแผนการดูแลรักษา และตัดสินใจร่วมกัน
มีการแลกเปลี่ยนข้อมุลข่าวสารที่จำเป็นและสมบูรณ์แก่บิดามารดาอย่างต่อเนื่อง
อธิบายคำศัพท์ทางการแพทย์ให้ครอบครัวให้เข้าใจ
ให้ข้อมูลทั้งทางวาจาและสายลักษณ์อักษร
อธิบายเป้าหมายและเหตุผลของการรักษา
ตอบข้อสงสัยของบิดามารดา
เข้าใจและผสานความต้องการ
ลงมือปฏิบัติสนับสนุน
ส่งปรึกษา
ยอมรับว่าครอบครัวมีจุดแข็ง
เสริมสร้างพลังอ านาจ (Empowerment)
เคารพยอมรับในความหลากหลายของเชื้อชาติ วัฒนธรรม
ต้องไม่ขัดต่อแผนการรักษา
กระตุ้นและสนับสนุนให้เกิดเครือข่ายครอบครัว
ช่วยเหลือระหว่างครอบครัว
จัดบริการให้มีความยืดหยุน เข้าถึงได้
สนับสนุน กระตุ้น ให้เกิดการดูแลแบบสหสาขา
Pain assessment
การประเมินจากการเปลี่ยนแปลงด้านสรีรวิทยา
การประเมินจากการเปลี่ยนแปลงทางพฤติกรรม
การประเมินความเจ็บปวดด้วยตนเอง
เครื่องมือที่ใช้ประเมินpainในเด็ก
การประเมินความเจ็บปวดควรถามเกี่ยวกับ
ความรุนแรงของความปวด
ตำแหน่งที่ปวด
รูปแบบ ระยะเวลาความเจ็บปวด
ลักษณะการเจ็บปวด
ผลกระทบต่อความปวด
ปัจจัยที่ทำให้ปวดมากขึ้น ลดลง
CRIES Pain Scale
ร้องไห้
0 คะแนน ไม่ร้อง
1 คะแนน เสียงสูง
2 คะแนน ปลอบไม่หยุด
O2forSaO2>95%
0 คะแนน ไม่ใช้
1 คะแนน <30%O2
2 คะแนน >30%O2
Vital signs
0 คะแนน HRorBP</=preop
1 คะแนน HRorBP<20% preop
2 คะแนน HRorBP>20% preop
การแสดงออก
0 คะแนน ไม่มี
1 คะแนน หน้าเบ้
2 คะแนน หน้าเบ้/คราง
การนอนไม่หลับ
0 คะแนน ไม่มี
1 คะแนน ตื่นบ่อย
2 คะแนน ตื่นตลอด
Neonatal Infants Pain Scale (NIPS)
0=เฉยๆ
สบาย
0=ไม่ร้อง
0=หายใจ
สม่ำเสมอ
0=วาง
แขนสบายๆ
0=วาง
ขาสบายๆ
0=หลับ/ตื่น
1=แสยะ ปากเบะ จมูกย่น คิ้วย่น ปิดตาแน่น
1=ร้องคราง
2=กรีดร้อง
1=หายใจเร็วขึ้นหรือช้าลงหรือกลั้นหายใจ
1=แขนงอ
1=ขางอ/
เหยียด
1=กระสับกระส่ายวุ่นวาย
0-7 คะแนน > 4 = pain ให้ยาแก้ปวด
ทารก- 1 ปี
CHEOPS (Children’s Hospital of Eastern Ontario Pain Scale )
0=ยิ้ม
1=ไม่ร้อง
0=พูดสนุกสนาน ร่าเริงไม่พูด
1=ลำตัวธรรมดาสบายๆ
1=ไม่มีการสัมผัสแผล
1=ขาท่าสบาย
1=สีหน้าเฉย
2=คราง
ร้องไห้
1=บ่นอื่นๆ
หิว ร้องหาแม่
2= ดิ้นเกร็ง
2=เอื้อมมือมา
แตะแผล
2=บิดตัว เตะ
ดึงขาหนี เกร็ง
2=สีหน้าเบ้
3=หวีดร้อง
2=บ่นปวด
บ่นอื่นๆ
ใช้กับเด็ก 1-6 ปี หรือไม่รู้สึกตัว
คะแนนอยู่ระหว่าง 4-13
การแปลผล
4 = ไม่ปวด
5-7 = ปวดน้อย
8-10 = ปวดปานกลาง
11-13 = ปวดมาก
FLACC Scale (Face ; Legs ; Activity ; Cry ; ConsolabilityScale)
0=เฉยๆไม่ยิ้ม
0=ไม่ร้อง(ตื่นหรือ
หลับก็ได้)
0=นอนเงียบๆท่า ปกติเคลื่อนไหวสบาย
0=ขาอยู่ในท่าปกติ
0=เชื่อฟังดี สบายๆ
1=แสยะปากเบะ,
1=ครางฮือๆ
1=บิดตัวไปมา
1=อยู่ในท่าไม่สบาย
1=สามารถปลอบโยน
ด้วยการสัมผัส
2=คางสั่น,กัดฟัน
2=ร้องไห้ตลอด
2=ตัวงอ
2=เตะหรืองอขาขึ้น
2=ยากที่จะปลอบ
ใช้กับเด็ก 1เดือน-6 ปี หรือไม่รู้สึกตัว
การแปรผล
1-3 = ปวดน้อย
7-10 = ปวดมาก
0 = ไม่ปวด
4-6 = ปวดปานกลาง
Faces scale
การใช้รูปภาพแสดงสีหน้าบอกความรู้สึกปวด
เริ่มตั้งแต่ไม่ปวดแทนด้วยภาพสีหน้ายิ้มร่าเริง
ปวดพอทนแทนด้วยภาพหน้านิ่วคิ้วขมวด
ปวดมากที่สุด แทนด้วยภาพน้ำตาไหลพราก
นิยมใช้ในเด็กเล็ก คนชรา
Numeric rating scales
คะแนนอยู่ระหว่าง 0-10
การแปลผล
0 = ไม่ปวด
4-6 = ปวดปานกลาง
7-10 = ปวดมาก
1-3 = ปวดน้อย
การประเมินความปวดตามวัย
แรกเกิด-3 ปี
ชี้ได้
ดูพฤติกรรม
3-6 ปี
เชื่อถือได้น้อย
6ปี
ให้บอกเอง ชี้
บทบาทของพยาบาลกับการประเมินความปวด
สร้างสัมพันธภาพที่ดี ใช้คำพูดสุภาพ เข้าใจง่าย
ให้ความสนใจโดยเป็นผู้ฟังที่ดี และเชื่อในคำบอกเล่าของผู้ป่วย
ระหว่างการประเมินควรบันทึกพฤติกรรม แนวคิด สภาพอารมณ์ จิตใจ
ถ้าผู้ป่วยไม่สามารถตอบข้อซักถามได้ อาจใช้วิธีสัมภาษณ์จากคนดูแลใกล้ชิด
เด็ก
เด็กที่มีอายุ 7 ปีบริบรูณ์ แต่ยังไม่เกิน 14 ปีบริบูรณ์
เด็กที่มีอายุต่ำกว่า 15 ปีลงมา
ผู้ที่มีอายุไม่เกิน 18 ปีบริบูรณ์
ความหมายด้านสุขภาพ
บุคคลตั้งแต่แรกเกิด ถึง 15 ปี
แบ่งตามระยะพัฒนาการ
Newborn
ทารกแรกเกิด 28 วันหลังคลอด
Infant
ทารกอายุมากว่า 28 วัน -1 ปี
Toddler
เด็กวัยเดิน อายุ 1-3 ปี
Preschool age
เด็กวัยก่อนเรียน 3-5 ปี
School age
เด็กวัยเรียน 6-12 ปี
Aldolescent
วัยรุ่น 13-15 ปี
สิทธิเด็ก (Convention on the Right of the Child)
สิทธิในการมีชีวิต
สิทธิของเด็กที่คลอดออกมาแล้วจะต้องมีชีวิตอยู่รอดอย่างปลอดภัย
Child)วันที่ 20 พฤศจิกายน ของทุกปี
"วันสิทธิเด็ก"
ประเทศไทยลงนามเข้าเป็นภาคี อนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็ก
วันที่ 12 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2535
สิทธิที่จะได้รับการปกป้องคุ้มครอง
สิทธิที่จะใช้ชีวิตที่ดีอย่างมีศักดิ์ศรี
และได้รับการส่งเสริมให้พึ่งพาตนเองได้
สิทธิที่เด็กได้รับปกป้องคุ้มครองจากการทารุณกรรมทุกรูปแบบ
การทารุณกรรมทางร่างกาย จิตใจ และทางเพศ
การค้าประเวณีเด็ก การขายเด็ก การนำเด็ก
ไปใช้ขอทาน
สิทธิในด้านพัฒนาการ
เด็ก ทุกคนจะได้รับสิทธิให้มีสภาพความเป็นอยู่ที่เหมาะสม
พัฒนาการร่างกาย จิตใจ
ความพึงพอใจ ความสุข
การมีส่วนร่วมในกิจกรรมครอบครัวในโรงเรียน หรือสังคม
มีโอกาสเล่น พักผ่อน รับข้อมูลสื่อสารอย่างอิสระ
สิทธิในการมีส่วนร่วม
สิทธิที่ให้ความสำคัญกับการแสดงออกทั้งในด้านความคิดและการกระทำของเด็ก
สิทธิในการปกป้องเรียกร้องผลกระทบที่เกิดกับชีวิตความเป็นอยู่ของ เด็ก
พระราชบัญญัติคุ้มครองเด็ก พ.ศ.2546
บัญญัติหลักเกณฑ์ครอบคลุมสิทธิเด็กตามอนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็ก
คณะกรรมการคุ้มครองเด็ก
มีคณะกรรมการ ทำหน้าที่ ดำเนินการและให้คำปรึกษาแก่หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
สงเคราห์คุ้มครองสวัสดิกาภาพและส่งเสริมพฤติกรรมเด็ก
การปกป้องคุมครองเด็ก
กฎหมายกำหนดต้องปฏิบัติต่อเด็กที่เหมาะสมไว้อย่างชัดเจน
ฝ่าฝืนมีโทษทางปกครองและทางอาญา
ระยะของการเจ็บป่วย
ระยะเฉียบพลัน (Acute)
เกิดทันทีทันใดเฉียบพลัน
รุนแรงมาก
ระยะเรื้อรัง (Chronic)
รักษาไม่หายขาด
ระยะวิกฤต (Crisis)
ดูแลเน้นการรักษา
เป็นระยะที่มีโอกาสเสียชีวิตได้อย่างรวดเร็ว
พยาบาลต้องมีความรู้และมีสติ
ระยะสุดท้าย / ใกล้ตาย (Death / Dying)
อยู่ได้ประมาณ 6 เดือน หรือน้อยกว่า
การพยาบาลเด็กแต่ละระยะของการเจ็บป่วย
การพยาบาลเด็กระยะเฉียบพลันและระยะวิกฤติ
ความวิตกกังวลจากการแยกจาก (separation anxiety)
ระยะประท้วง (protest)
เด็กจะร้องไห้อย่างรุนแรงมาก
ร้องตลอดเวลาจะหยุดร้องเฉพาะเวลานอนเท่านั้น
เด็กจะปฏิเสธทุกอย่าง
ไม่ยอมร่วมมือในการรักษา ไม่ยอมกิน
ไม่ยอมนอน พยายามจะ
ปีนเตียงลงมาข้างล่าง
เมื่อมารดามาเยี่ยมแด็กจะประท้วงมากขึ้น
ระยะสิ้นหวัง(despair)
อาการโศกเศร้าเสียใจอย่างลึกซึ้ง
แยกตัวอยู่เงียบ ๆ ร้องไห้น้อยลง
เสียงครางโยเยท่าทางอ่อนเพลีย
มีพฤติกรรมที่ถดถอย
เมื่อมารดาไม่อยู่เด็กจะมีพฤติกรรมดีกว่า
ไม่ส่งเสริมให้มารดามาเยี่ยม ซึ่งเป็นการปฏิบัติที่ผิด
ระยะปฏิเสธ(denial)
ระยะนี้เด็กจะหันกลับมาสนใจสิ่งแวดล้อมรอบตัว
เด็กปรับตัวได้ แต่เด็กเพียงเก็บกดความรู้สึกที่มีต่อมารดา
เด็กแสดงท่าทางราวกับว่าไม่เดือดร้อนไม่ว่ามารดาจะมาหรือจะไป
จะหันไปสร้างสัมพันธภาพอย่างผิวเผินกับคนรอบข้าง
แต่หลีกเลี่ยงที่จะไปใกล้ชิดกับบิดามารดาต่อไป
ความเจ็บปวดทางกายเนื่องจากการตรวจรักษา (body injury and pain)
Critical care concept
Stress and coping
การพยาบาลเด็กระยะเรื้อรังและระยะสุดท้าย
การเปลี่ยนแปลงภาพลักษณ์ (body image)
ความตาย
Preparation for Hospitalization and Medical Procedures
วัยทารก
เปลี่ยนสิ่งแวดล้อม
ตอบสนองความต้องการของเขา
พ่อแม่มีส่วนร่วม
ทราบ routines
วัยเด็ก
ให้พ่อแม่มีส่วนร่วม
เด็กร้องดิ้น
ต่อต้าน
ยอมจำนน
แยกตัวเอง
พยาบาลปล่อบให้อยู่คนเดียว
เด็กสร้างปฏิสัมพันธ์กับคนรอบข้าง
วัยเรียน
อธิบายให้เห็นจริง
ให้ทางเลือก
ให้เพื่อนมาเยี่ยม
เด็กยอมรับในการกระทำ
วัยรุ่น
มีส่วนร่วมในการตัดสินใจในการรักษา ไว้วางใจ
สูญเสียการควบคุม
เข้าใจอะไรที่เป็นนามธรรมได้
นางสาว รัตน์ศิการ์ ยิ้มใหญ่ เลขที่ 19 รุ่น 36/2 รหัสนักศึกษา 612001099