Please enable JavaScript.

Coggle requires JavaScript to display documents.

ENZYME - Coggle Diagram

- - - - protease
        
        ย่อยโปรตีน
      - lipase
        
        ย่อยไขมัน
      - amylase
        
        ย่อยแป้ง
    - - ย่อยอาหารภายในระบบทางเดินอาหาร
      - ย่อยอาหารเพื่อส่งสารอาหารไปยังเซลล์ต่างๆ
  - - - เกี่ยวกับทุกปฏิกิริยาที่เกิดขึ้ยในร่างกาย
      - ซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ
      - ช่วยระบบภูมิคุ้มกัน
- - - - กลายเป็นสารประกอบเอนไซม์รวมกับสารตั้งต้น (Enzyme-Substrate complex)
        
        เกิดการเปลี่ยนสารตั้งต้นให้กลายเป็นผลผลิต (Product)
- - - - เกิดสารประกอบระหว่างเอนไซม์กับผลผลิต
        
        ได้ผลผลิตออกมา และได้เอนไซม์กลับมาเหมือนเดิม
- - - - 1.0 IU คือ แอคติวิตีของเอนไซม์หรือปริมาณของเอนไซม์ที่เร่งการเปลี่ยน 1.0 ไมโครโมลของซับสเตรทใน 1 นาที ที่ 25 องศาเซลเซียส
- - - - บริเวณที่สำคัญของเอนไซม์
      - ทำหน้าที่จับกับซับสเตรทเพื่อเร่งปฎิกิริยา
      - รูปทรง สภาวะแวดล้อมทางเคมีในบริเวณเร่งทำให้เกิดปฏิกิริยาเคมีง่ายขึ้น
- - - - Alcohol Dehydrogenase เปลี่ยนแอลกอฮอล์เป็นอัลดีไฮด์
      - Catalase แยกสลาย H2O2ให้เป็น H2O และ O2
      - Lactate Dehydrogenase เปลี่ยน Lactate เป็น Pyruvate
  - - - Hexokinase ย้ายหมู่ฟอตเฟต จาก ATP
      - Transaminase ย้ายหมู่อะมิโน
      - DNA Polymerase ย้ายนิวคลีโอไทด์ไปต่อสาย DNA
  - - - Protease ย่อยสลายพันธะเปปไทด์ในโปรตีน เช่น Pepsin , Trypsin , Chymotrypsin
      - Carbohydrase ย่อยสลายพันธะไกลโคซิดิกของคาร์โบไฮเดรตเช่น Sucrase , Amylase
  - - - Decarboxylase ดึง CO2ออกจาก Carboxylic Acidได้เป็น H2CO3
      - Carbonic Anhydrase เติม H และ O เข้าในพันธะคู่ของคาร์บอนไดออกไซด์
  - - - Glucose Isomerase เปลี่ยน Glucose เป็น Fructose
  - - - Pyruvate Carboxylase เปลี่ยน Pyruvate เป็น Oxaloacetate
- - - - Cofactor
        
        ไอออนของโลหะ เช่น Mg2+, Zn2+ , Fe2+ ,K+ , Co2+
        
        อยู่ในโมเลกุลของเอนไซม์ ทำให้บริเวณเร่งมีโครงรูปที่เหมาะสมกับการเร่ง
        
        อยู่ที่บริเวณเร่ง อาจจับอยู่กับกรดอะมิโน มีส่วนร่วมในการจับกับซับสเตรท
      - Coenzyme
        
        เป็นสารอินทรีย์พวกวิตามินหรืออนุพันธ์ของวิตามิน
        
        NAD เป็นอนุพันธ์ของ Niacin (Vit. B3) ทำงานร่วมกับเอนไซม์ dehydrogenase
        
        FAD เป็นอนุพันธ์ของ Ribofavin(Vit. B2) เป็นหมู่พรอสเธติก ของเอนไซม์ dehydrogenase
- - - - X คือตัวเลข
      - XXแรก คือ ชนิดองเอนไซม์
      - XX ที่ 2 คือชนิดย่อยของรหัสที่ 1
      - XX ที่ 3 คือ ชนิดย่อยของรหัสตัวที่ 2
      - XX ที่ 4 คือ รหัสเฉพาะของเอนไซม์นั้น
  - - - เอนไซม์เร่งการย่อย Sucrose ชื่อSucrase
      - เอนไซม์เร่งปการย่อย Glucose ชื่อ Glucosidase
    - - เอนไซม์ชื่อ Oxidase เร่งปฏิกิริยา Oxidation
      - Lactate Dehydrogenase เร่งปฏิกิริยา Dehydration
    - - Papain
      - Bromelain
      - Pepsin
- - - - อัตราเร็วของปฏิกิริยาเป็นสัดส่วนตามความเข้มข้นของ substrate
    - - อัตราเร็วของปฏิกิริยาจะเพิ่มขึ้น
      - จะถึงจุดอิ่มตัวเมื่อ enzyme เข้าจับกับซับเสตรตจนหมด
      - ถ้าเปลี่ยนความเข้มข้นของ enzyme ทำให้ v max เปลี่ยนตาม
  - - - Irreversible inhibitors
        
        จับกับ functional groups ของ amino acids ตรงบริเวณ active site
        
        เป็นปฏิกิริยาแบบผันกลับไม่ได้
      - Reversible inhibitors
        
        สามารถกำจัดออกไปได้
        
        เป็นปฏิกิริยาแบบผันกลับได้
        
        แบ่งเป็น
        
        การยับยังแบบแข่งขัน
        
        ไม่ขึ้นกับความเข้มข้นของ substrate
        
        ยับยั้งโดยจับกับ enzyme แต่ไม่ได้จับตรงactive site
        
        มีผลต่อโครงสร้างของเอนไซม์ทำให้จับกับซับสเตรตไม่ได้
        
        การเพิ่มความเข้มข้นซับสเตรตไม่สามารถแก้ไขได้
        
        การยับยั้งแบบไม่แข่งขัน
        
        ต้องแข่งกับ substrate ในการเข้าจับที่ active site
        
        ขัดขวางไม่ให้ซับสเตรทเข้าจับได้
        
        การทำงานแปรผันตามความเข้มข้น
        
        มีโครงสร้างใกล้เคียงกับโครงสร้าของ substrate
        
        แก้ไขโดยเพิ่มความเข้มข้นขิงซับสเตรต
        
        การยับยั้งแบบไม่แข่งขันโดยตรง
        
        ไม่ได้จับกับ active site
        
        เพิ่มความเข้มข้นของซับสเตรตไม่สามารถแก้ไขได้
        
        จับกับ enzyme substrate complex
        
        ทำให้ไม่สามารถเป็น product ได้
- - - - ได้จากการผลิตของตับอ่อน
      - P-Amylaseอาจชี้ได้ว่ามีความเสี่ยงเป็นโรคตับอ่อนหรือมีความผิดปกติ
    - - เมื่อผู้ป่วยมีอาการปวดภายในช่องท้องอย่างรุนแรงแบบเฉียบพลัน
      - พบค่าไปในทางมาก แสดงว่าตับอ่อนไม่สามารถควบคุมการปล่อย Lipaseออกมาได้
      - การกินยารักษาโรคบางชนิด ทำให้มีค่าสูง