Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
การส่งเสริมสัมพันธภาพมารดาและทารกหลังคลอด - Coggle Diagram
การส่งเสริมสัมพันธภาพมารดาและทารกหลังคลอด
กระบวนการพัฒนาสัมพันธภาพระหว่างมารดากับทารก
มารดาจะแสดงความรักความผูกพันกับลูก ตั้งแต่นาทีแรกหลังคลอดจนกระทั่งถึง
1 ชั่วโมงแรกหลังคลอด เป็นช่วงเวลาที่มารดามีความรู้สึกไวที่สุด (Sensitive period) และทารกมีความตื่นตัว จึงเป็นช่วงเวลาสำคัญ ที่ก่อให้เกิดความรักใคร่ผูกพันระหว่างมารดาทารก
พฤติกรรมปฏิสัมพันธ์ระหว่างมารดาและทารก
1.การสัมผัส (Touch, Tactile sense) พฤติกรรมสำคัญที่จะผูกพันมารดาและบุตร
2.การประสานสายตา (Eye to eye contact) เป็นสื่อที่สำคัญต่อการเริ่มต้นพัฒนาการด้านความเชื่อมั่น ความไว้วางใจ และความสัมพันธ์กับบุคคลอื่น
การใช้เสียง (Voice) การตอบสนองเริ่มทันทีที่ทารกเกิด มารดาจะรอฟังเสียงทารกร้องครั้งแรก เพื่อยืนยันภาวะสุขภาพของทารก
การเคลื่อนไหวเป็นจังหวะตามเสียงพูด (Entrainment) ทารกจะเคลื่อนไหวส่วนต่างๆ ของร่างกายเป็นจังหวะสัมพันธ์กับเสียงพูดสูงต่ำของมารดา
จังหวะชีวภาพ (Biorhythmcity) หลังคลอดทารกจะต้องปรับตัวให้เข้ากับสิ่งแวดล้อมภายนอกที่แตกต่างจากในครรภ์ของมารดา มารดาจะช่วยทารกให้สร้างจังหวะชีวภาพได้ โดยขณะที่ทารกร้องไห้ ้มารดาอุ้มทารกไว้แนบอก
การรับกลิ่น (Odor) มารดาจำกลิ่นกายของทารกได้ตั้งแต่แรกคลอด และแยกกลิ่นทารกออกจากทารกอื่นได้ภายใน 3-4 วันหลังคลอด ส่วนทารกสามารถแยกกลิ่นมารดาและหันเข้าหากลิ่นน้ำนมมารดาได้ภายในเวลา 6 –10 วันหลังคลดด
การให้ความอบอุ่น (Body warmth หรือ Heat) หลังทารกคลอดทันที ได้รับการเช็ดตัวให้แห้ง ห่อตัวทารกและนำทารกให้มารดาโอบกอด ทารกจะไม่เกิดการสูญเสียความร้อน จะเกิดความผ่อนคลายเมื่ดได้รับความอบอุ่นจากมารดา
การให้ภูมิคุ้มกันทางน้ำนม (T and Blymphocyte) ทารกจะได้รับภูมิคุ้มกันในนมแม่ ได้แก่T lymphocyte, Blymphocyte และ Immunoglobulin A ช่วยป้องกันและทำลายเชื้อโรคในระบบทางเดินอาหาร
การให้ภูมิคุ้มกันทางเดินหายใจ (Bacterianasal flora) ขณะที่มารดาอุ้ม โอบกอดทารก จะมีการถ่ายทอดเชื้ดโรคในระบบทางเดินหายใจ (normal flora) ของมารดาสู่ทารก เกิดภูมิคุ้มกันช่วยป้องกันทารกติดเชื้อจากสิ่งแวดล้อมภายนอก
การประเมินสัมพันธภาพระหว่างมารดากับทารก
ใช้การสังเกต สอบถาม ซึ่งมีแนวทางการประเมินสัมพันธภาพ ดังนี้
ความสนใจในการดูแลตนเองของตนเองและทารก
พฤติกรรมปฏิสัมพันธ์ระหว่างมารดาและทารก
ความสามารถในการปฏิบัติบทบาทการเป็นมารดา
ความสามารถในการตอบสนดงความต้องการของทารก
บทบาทของพยาบาลผดุงครรภ์ในการส่งเสริมสัมพันธภาพระหว่างมารดากับทารก
ระยะตั้งครรภ์
ยอมรับการตั้งครรภ์
ครอบครัวคอยให้กำลังใจ
การปรับบทบาทการเป็น บิดา มารดา
ยอมรับความเป็นบุคคลของทารกในครรภ์
การกระตุ้นพัฒนาการทารกในครรภ์
ระยะคลอด
สร้างบรรยากาศให้เกิดความไวว้างใจ
ลดความวิตกกังวลของผู้คลอด
ใหข้อมูลเป็นสื่อกลางระหว่างผู้คลอดและครอบครัว
ส่งเสริมให้การคลอดผ่านไปอย่างปลอดภัย
ระยะหลังคลอด
ส่งเสริมให้มารดาสัมผัส โอบกอดทารกทันทีหลังคลอดในระยะ sensitive period
Rooming in โดยเร็วที่สุด
ให้คำแนะนำในการดูแลบุตร
ตอบสนองความต้องการของมารดา
กระตุ้นให้มีปฏิสัมพันธ์กับทารก
เป็นตัวแบบในการสร้างสัมพันธภาพกับทารก
ให้มารดา ทารก บิดา ได้ดยู่ด้วยกันตามลำพัง
กระบวนการพัฒนาสัมพันธภาพระหว่างมารดากับทารก
ระยะก่อนการตั้งครรภ์
ขั้นที่ 1การวางแผนการตั้งครรภ์
ระยะตั้งครรภ์
ขั้นที่ 2การยืนยันการตั้งครรภ์
ขั้นที่ 3การยอมรับการตั้งครรภ์
ขั้นที่ 4การรับรู้การเคลื่อนไหวของทารกในครรภ์
ขั้นที่ 5การยดมรับว่าทารกในครรภ์เป็นบุคคลคนหนึ่ง
ระยะคลอดและระยะหลังคลอด
ขั้นที่ 6การสนใจดูแลสุขภาพตนเองและทารกในครรภ์
และการแสวงหาการคลอดที่ปลดดภัย
ขั้นที่ 7การมองดูทารก
ขั้นที่ 8การสัมผัสทารก
ขั้นที่ 9การดูแลทารกและให้ทารกดูดนม