Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
การพยาบาลเด็กที่มีปัญหากระดูกและกล้ามเนื้อ - Coggle Diagram
การพยาบาลเด็กที่มีปัญหากระดูกและกล้ามเนื้อ
โรคคอเคียงแต่กำเนิด(Congenital muscular Torticollis)
เป็นลักษณะที่ศีรษะเอียงจากแนวกึ่งกลางไปด้านใดด้านหนึ่ง สามารถเห็นได้แต่อายุน้อยๆ จากที่เนื้อเยื่อบริเวณคอถูกกดขณะคลอด
อาการ
มักคลำพบก้อนที่กล้ามเนื้อข้างคอด้านที่เอียง และก้อนจะค่อย ๆ ยุบลงไป การปล่อยให้มีภาวะคอเอียงอยู่นานจะส่งผลให้กะโหลกศีรษะ ใบหน้าข้างที่กดทับกับพื้นที่นอนแบนกว่าอีกข้าง ศีรษะบิดเบี้ยวไม่สมดุล
การวินิจฉัย
การตรวจร่างกาย ลักษณะของผู้ป่วย ซักประวัติ
ภาพรังสีกระดูกคอ
การรักษา
ยืดกล้ามเนื้อบริเวณคอที่หดสั้น
ได้ผลดีเมื่อทำในเด็กอายุน้อยกว่า 1 ปี โดย
การยึดโดยวิธีตัด (passive stretch) จัดทำให้นอนหงายจัดให้หูข้างตรงข้ามกับกล้ามเนื้อหดสั้น
สัมผัสกับไหล่ข้างเดียวกัน หรือหันหน้าจัดให้คางสัมผัสกับไหล่ข้างที่กล้ามเนื้อหดสั้น
การยึดแบบให้เด็กหันศีรษะเอง (active stretch) โดยหาวิธีการให้เด็กหันหน้ามาด้านที่คอเคียงที่กล้ามเนื้อหดสั้น
เช่น การให้นม หาวัตถุล่อให้มองตามจากของเล่นต่าง ๆ จัดท่าขณะนอนหลับ
การใช้อุปกรณ์พยุง (orthosis) ปรับตำแหน่งศีรษะ
การผ่าตัด ถ้ายืดกล้ามเนื้อที่หดสั้นไม่ได้ผลภายหลังอายุ 1 ปี
ควรรับการรักษาโดยการผ่าตัด อายุที่เหมาะสม ในช่วงอายุ 1-4ปี จะได้ผลดี โดยการผ่าตัด bipolar release
ตัดปลายเอ็นยึดเกาะของกล้ามเนื้อด้านคอทั้งสองปลาย หลังผ่าตัดอาจต้องใช้อุปกณ์พยุงคอ
และต้องยึดกล้ามเนื้อเพื่อให้คอตรงและป้องกันการกลับ
โรคกระดูกอ่่อน (Ricket)
พบได้มากในเด็กอายุ 6 เดือน-3ปี จากการขาดวิตามินดี โรคไตที่ทำให้เกิดความผิดปกติของการจับเกาะเกลือแร่ที่กระดูกอ่อน ทำให้เกิดความผิดปกติของเนื้อกระดูก ทำให้กระดูกหักง่าย ผิดรูปมีผลต่อพัฒนาการเด็ก
สาเหตุ
ความผิดปกติของปกติของการเผาผลาญ Vit D
ความผิดปกติของการเผาผลาญแคลเซียมจากโรคของลำไส้
ดูดซึมแคมเซียมกลับได้น้อย ท้องเดินเรื้อรัง หรือ
รับประทานสารที่ขัดวางการดูดซึมของแคมเซียมและวิตามินตี
เช่น อะลูมิเนียมไฮดรอกไซด์ บาร์บิทูเรต
โรคไตบางชนิดทำให้ไม่สามารถดูดกลับอนุมูลแคลเซียมและฟอสเฟต
เช่น Renal Tubular Insuficienyและ Chronic renal Insufficiency
ภาวะฟอสเฟตต่ำ (Hypophsphatasia)
จากขาด Alkaline Phosphatase
ซึ่งเป็นตัวสำคัญที่ทำให้เกิดการจับเกาะของเกลือแร่
การรักษา
1.แบบประคับประคอง ใช้หลักการรักษากระดูกหักทั่วไป
2.การรักษาสาเหตุ เช่น ให้วิตามินดี
อาหารและอาการแสดง
ในเด็กเล็ก ความตึงตัวของกล้ามเนื้อจะน้อย กล้ามเนื้อหย่อน อ่อนแรง หลังแอ่น ขวบปีแรกเด็กจะมีความผิดรูป ได้แก่ กะโหลกศีรษะใหญ่กว่าปกติ รอยต่อที่กระหม่อมปิดช้า ส่วนหลังของกะโหลกศีรษะแบนราบลง หรือกะโหลกนิ่ม หน้าผากนูน ฟันขึ้นช้ำ ผมร่วง หลังหนึ่งขวบแล้วจะพบความผิดรูปมากขึ้น พบขาโก่ง ขานิ่ง กระดูกสันหลังคดหรือหลังค่อม ทำเดินคล้ายเป็ด อาจเกิดกระดูกหักได้
การป้องกัน
-ให้ร่างกายได้รับแสงแดดช่วงเช้าและเย็น
การรับประทานอาหารโดยเฉพาะโปรตีนและแคลเซียม
-ให้วิตามินดี 200 หน่วยต่อวันต่อน้ำหนักตัวสำหรับเด็กคลอดก่อนกำหนด
-ให้ออกกำลังกายกระตุ้นการสร้างของกระดูก
ระวังและหลีกเสี่ยงการใช้ยาที่ขัดวางการดูดซึมแคมเซียม เช่น ยากันซัก ยาลดกรด ยาเตรกตราชัยคลิน ยาระบาย ยาขับปัสสาวะ
Bone and Joint infection
คำจำกัดความ
Definite:ติดเชื้อกระดูกอย่างแน่นอน
Probable:น่าจะติดเชื้อที่กระดูก
Likely:คล้ายติดเชื้อที่กระดูก
การวินิจฉัยการติดเชื้อที่ข้อ
อุณหภูมิร่างกาย > 38.3 องศาเซลเชียส
มีอาการปวดข้อ
ปวดมากเมื่อขยับข้อ
ข้อบวม
มีอาการทาง systemic โดยไม่พบพยาธิสภาพอื่น ๆ ร่วม
ตอบสนองดีต่อการให้ยาปฏิชีวนะ
Osteomyelitis
พบในเด็กอายุน้อยกว่า 13 ปี ติดเชื้อที่กระดูกท่อนยาวที่สุด
สาเหตุ
เป็นเชื้อแบคทีเรีย เชื้อรา เข้าสู่กระดูกจากการทิ่มแทงจากภายนอก การแพร่กระจายจากกระแสเลือด
การวินิจฉัย
1.ประวัติ มีอาการปวด เด็กเล็กแสดงออกโดยไม่ใช้แขน ขา
ส่วนนั้นทารกนอนนิ่งไม่ขยับแขนชาข้างที่เป็น(pseudoparalysis)
เด็กโตบอกตำแหน่งที่ปวดได้ อาการไข้ อ่อนเพลีย
เบื่ออาหาร อาจมีการบาดเจ็บเฉพาะที่ร่วมด้วย
การตรวจร่างกาย มีปวด บวม แดง ร้อน เฉพาะที่
บริเวณที่มีพยาธิสภาพอาจมีความผิดปกติ ปวด ปวดมาก
การตรวจห้องปฏิบัติการ ผล CBC พบ Leucorytosis , ESR, CRP มีค่ำสูง ผลGam stain และ culture ขึ้นเชื้อที่เป็นสาเหตุ
4.การตรวจทางรังสี
Plain flim พบเนื้อเยื่อส่วนลึกบวม โดยเฉพาะบริเวณ metaphysls
Bone scan ได้ผลบวก บอกตำแหน่งได้เฉพาะ
MRI (Magnatic resonance imaging) พบ soft tissue abcess,
bone marrow edema ค่าใช้จ่ายสูงในเด็กเล็กๆ
ต้องทำตอนเด็กหลับ
การรักษา
1.ยาปฏิชีวนะตามแผนการรักษาของแพทย์
การผ่าตัด เอาหนอง ชิ้นเนื้อ กระดูกตายออก
อาการแทรกซ้อน
1.กระดูกและเนื้อเยื่อตาย
2.กระทบต่อ physis เป็นส่วนเจริญเติบโตของกระดูก ทำลาย physeal plate ยับยั้งการเจริญของกระดูกตามยาวทำให้กระตกส่วนนั้นสั้น มีการโก่งผิดรูปของกระดูก อาจต้องผ่าตัดเพื่อยืดกระดูกให้ยาวขึ้น
ข้ออักเสบติดเชื้อ(Septic arthritis)
การวินิจฉัย
1.ลักษณะทางคลินิค มีไข้ มีการอักเสบ ปวดบวมแดง ภายใน 2-3 วันแรกของการติดเชื้อข้อ มักเป็นที่ ข้อเข่า ข้อสะโพก ข้อเท้า รองลงมา ข้อศอก ข้อไหล่ ข้อมือ ข้อเล็ก ๆ เช่น ข้อนิ้ว
ผลLab เจาะดูดน้ำในข้อ (joint aspiration) มาย้อม gram stain
ผล CBCพบ ESR, CRP สูงขึ้นเล็กน้อย
การตรวจทางรังสี
Plain flim อาจพบช่องระหว่างข้อกว้าง
Ultrasound บอกถึงภาวะมีน้ำในข้อมาก หรือเคลื่อนหลุด
Bone scan/M ช่วยบอกถึงการติดเชื้อกระดูก
การรักษา
การให้ยาปฏิชีวนะ
การผ่าตัด ได้แก่ Arthrotomy and drainage มีข้อบ่งชี้ เพื่อระบายหนอง หยุดยั้งการทำลายข้อ และเพื่อได้หนองและชิ้นเนื้อในการส่งตรวจ
ภาวะแทรกซ้อน
1.Growth plate ถูกทำลายทำให้การเจริญเติบโตตามความยาวกระดูก
และการทำหน้าที่เสียไป
ข้อเคลื่อน (Dislocation)
ข้อถูกทำลาย (joint destruction)
หัวกระดูกข้อสะโพกตายจากการขาดเลือด (avascular necrosis)
Tuberculous Osteomyelitis and Tuberculous Arthitis
วัณโรคกระดูกและข้อในเด็กพบร้อยละ 4 ของการติดเชื้อวัณโรคปอด วัณโรคปอดพบร้อยละ 25 ของวัณโรคในเด็กที่อายุต่ำกว่า 15 ปี และวัณโรคกระดูกสันหลัง (spinal tuberculosis) พบประมาณครึ่งหนึ่งของวัณโรคกระดูก
ตำแหน่งที่พบบ่อย
ข้อสะโพก ข้อเข่า ข้อเท้า
สาเหตุ
เชื้อMycobacterium tuberculosis เข้าสู่ปอดโดยการหายใจ จากการไอ จาม ของผู้ป่วย เชื้อเจริญเติบโตและแพร่กระจายผ่านทาง lympho- hematogenous spread ยังอวัยวะต่าง ๆ และจะถูกระบบภูมิต้านทานของร่างกายทำลายแต่อาจมีเชื้อบางส่วนที่อยู่ตามอวัยวะต่าง ๆ จะลุกลามเมื่อมีปัจจัยเหมาะสม
อาการและอาการเเสดง
วัณโรคกระดูกและข้อในเด็กอาการจะเริ่มแสดงหลังการติดเชื้อประมาณ1 - 3 ปีที่กระดูก รอยโรคเริ่มที่ metaphysis ของlong bone ซึ่งมีเลือดมาเลี้ยงมาก อาจเป็นตำแหน่งเดียวหรือมากกว่า กระดูกจะถูกทำลายมากขึ้น กระดูกจะบางลงหรือแตกนอกกระดูกเกิดเป็นโพรงหนองที่ไม่มีลักษณะการอักเสบหรือแตกเข้าสู่ข้อใกล้เคียง และจะทำลายกระดูอ่อนของผิวข้อ ที่กระดูกสันหลังเชื้อจะเข้าทางท่อน้ำเหลืองจากต่อมน้ำเหลืองข้างกระดูกสันหลังหรือระบบไหลเวียนเลือด ท่อน้ำเหลืองจากกระดูกที่ติดเชื้อใกล้เคียง เชื้อจะทำลายกระดูกสันหลัง
ลักษณะทางคลินิก
อ่อนเพลีย เบื่อหาร น้ำหนักลดมีใช้ต่ำๆ ตอนบ่ายหรือเย็น ต่อมน้ำเหลืองโต ประวัติใกล้ชิดกับผู้ที่เป็นวัณโรค มีปวดข้อ อาการขึ้นกับตำแหน่งที่เป็น เช่น ที่ขาจะปวดขา เดินกะเผลก ขอยึด กระดูกสันหลัง จะปวดหลัง หลังแข็งเดินหลังแอ่น กระดูกสันหลังยุบ กล้ามเนื้ออ่อนแรง อัมพาต ชาแขนขา
การตรวจทางห้องปฏิบัติการ
CBC อาจพบ WBC ปกติหรือสูงไม่มาก ค่า CRP,ESRสูง ทดสอบ tuberculin test ผล +
กรตรวจทางรังสี
plaint film , MRI
การรักษา
ให้ยาต้านวัณโรค
การผ่าตัด การตรวจชิ้นเนื้อ การผ่าตัดระบายหนอง ผ่าตัดเพื่อแก้การกดทับส้นประสาท การแทรกซ้อนทางกระดูกและข้อ
อาการแทรกซ้อนทางกระดูกและข้อ
กระดูกสันหลังค่อมหรืออาการกดประสาทไขสันหลัง จนอ่อนแรงหรือเป็นอัมพาต (Pott's paraplegia) ปวดข้อ ผิวข้อขรุขระ ข้อเสื่อม ขอยึดติด พิการ
Ciub Foot (เท้าปุก)
สาเหตุ
ทราบสาเหตุ
positinal ciubfoot
teratologoc clubfoot
neuromuscular
ไม่ทราบสาเหตุ
พบมาแต่กำเนิด
การวินิจฉัย
การตรวจลักษณะรูปร่างเท้าตามลักษณะตามคำจำกัดความ เท้าจิกลง บิดเอียงเข้าข้างใน
พยาธิสภาพ
เริ่มตั้งแต่การสร้างกระดูก รูปร่างกระดูก: รูปร่าง และขนาดจะบิดผิดรูปไปทางเท้าปกติ, Joint capsule และ Ligament: จะหดสั้นแข็ง, Tendon และ Muscle: เอ็นกล้ามเนื้อขาข้างที่มีเท้าปุกเล็กกว่าปกติ, Nerve และ Vessel: มีขนาดเล็กกว่าปกติ พบสิ่งผิดปกติได้บ่อยกว่่า
การรักษา
จุดมุ่งหมาย
ทำให้เท้ามีรูปร่างใกล้เคียงปกติมากที่สุด
สามารถใช้ฝ่าเท้ารับน้ำหนัก ได้เหมือนใกล้เคียงปกติ
เท้าสามารถเคลื่อนไหวใกล้เคียงปกติและสามารถใช้เท้าได้โดยไม่เจ็บป่วย
การเลือกวิธีการรักษา
การดัดและใส่เฝือก:อาศัยหลักการดัดให้รูปเท้าปกติ ได้ผลดีในกรณีที่แข็งไม่มากมารักษาอายุน้อย ดัดใส่เฝือกเพื่อรักษารูปเท้า
การผ่าตัด:รายที่เนื้อเยื่อมีความแข็งของกระดูกแข็งผิดรูป ไม่สามารถดัดโดยใช้แรงจากภายนอกทำให้รูปเท้าดีขึ้น
การผ่าตัดเนื้อเยื่อ(subtalar soft tissue release):ทำในเด็กอายุน้อยกว่า 3 ปี ทำให้เคลื่อนไหวของข้อเท้าใกล้เคียงปกติ
การผ่าตัดกระดูก(osteotomy):ทำในอายุ 3-10 ปี ตกแต่งกระดูกให้รูปร่างใกล้เคียงปกติ
การผ่าตัดเชื่อมข้อกระดูก(triple fusion):ช่วงอายุ 10 ปีขึ้นไป รูปร่างเท้าใกล้เคียงปกติ
ฝ่าเท้าแบน(Flat feet)
อาการ
อาการขึ้นอยู่กับความรุงแรงของความแบนราบ
ผู้ป่วยอาจจะมีตาปลาหรือผิวหนังฝ่าเท้าจะหนาผิดปกติ
รองเท้าผู้ป่วยจะสึกเร็ว
ผู้ป่วยจะมีอาการปวดน่อง ขา และสะโพก
สาเหตุ
เป็นพันธุกรรมในครอบครัว
เกิดจากการเดินที่ผิดปกติ เช่น การเดินแบบเป็ดคือการบิดของเท้าข้างใน
เกิดจากเอ็นข้อเท้าฉีกขาด
โรคเกี่ยวกับสมองหรือไขสันหลัง
การรักษา
พบแพทย์ผู้เชี่ยวชาญโดยเฉพาะ
ใส่รองเท้าที่มีขนาดพอดี
อย่ารักษาตาปลาด้วยตนเอง
ใส่แผ่นรองเท้าเสริมส้น
อาจจะใช้ ultrasound หรือ laser เพื่อบรรเทาอาการเจ็บปวด
Cerebral Palsy
ความพิการทางสมอง ซึงเด็กจะมีการเคลื่อนไหวผิดปกติ
ก่อนคลอด
อาจมีสาเหตุจากการติดเชื้อ
มารดาเป็นโรคแทรกซ้อนขณะตั้งครรภ์ ได้แก่ ความดันโลหิต เบาหวาน
อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นกับมารดาขณะตั้งครรภ์
ระหว่างคลอด/หลังคลอด
คลอดยาก,สมองกระทบกระเทือน,ขาดแแกซเจน,ทารกคลอดก่อนกำหนด โดยปกตินั้นเด็กแรกเกิดเนื้อสมองจะยังเจริญเติบโตไม่สมบูรณ์
จำแนกการเคลื่อนไหว
Spastic CP: จะมีอาการกล้ามเนื้อเกร็งแน่นไม่สามารถหดตัวได้เหมือนกล้ามเนื้อปกติ มีลักษณะแข็งทื่อ
Hemiplegia
Doubie hemiplegia
quadriplegia
Diplegia
อื่นๆ
Ataxic CP:กล้ามเนื้อจะยืดหดอย่างไม่เป็นระบบระเบียบ ทำให้ไม่สามารถควบคุมกล้ามเนื้อได้ หากเด็กมีอาการตื่นเต้น กล้ามเนื้อจะยิ่งผิดปกติ
Athetoid CP: มีอาการกล้ามเนื้อไม่ผสานกัน ทำให้เด็กควบคุมสมดุลไม่ได้ หกล้มได้ง่าย
Mixed CP:เป็นการผสมผสานลักษณะทั้งสามคือ เด็กคนเดียวอาจมีลักษณะที่กล่าวมาแล้ว
การรักษา
ป้องกันความผิดรูปของข้อ
กายภาพบำบัด จะช่วยให้เด็กได้เรียนรู้การเคลื่อนไหวและปรับสมดุลของร่างกาย
อรรถบำบัด จะได้ฝึกทักษะการสื่อสาร
ลดความเกร็ง โดยใช้ขา
ยากิน กลุ่ม diazepam
ยาฉีด เฉพาะที่ กลุ่ม Botox
การผ่าตัด
ผ่าตัดลดความตึงของกล้ามเนื้อโดยผ้่คลายเฉพาะกล้ามเนื้อที่ยึดตึง
การย้ายเอ็น เพื่อสร้างความสมดุลของข้อ
การผ่าตัดกระดูก ในรายที่กระดูกถูกดึงจนผิดรูป
การให้การดูแลรวมถึงการให้กำลังใจ โดยจากพ่อแม่ผู้ปกครอง
การรักษาด้านอื่นๆ เช่น การผ่าตัดตาเหล่ น้ำลายยืด
ภาวะกระดูกสันหลังคด (scoliosis)
สาเหตุ
ขนิดไม่มีการเปลี่ยนแปลในเนื้อกระดูกสันหลัง พวกนี้จะไม่มีการเปลี่ยนแปลงของกระดูกสันหลังหรือโครงสร้างที่เกี่ยวข้อง แก้ไขความคดได้โดยการเอียงตัวด้านข้าง
ชนิดที่มีการเปลี่ยนแปลงของกระดูกสันหลัง มีการเปลี่ยนแปลงของโครงกระดูกสันหลัง เนื้อเยื่อรอบๆ กระดูกสันหลังหรือทั้งสองอย่าง
ทราบสาเหตุ
ไม่ทราบสาเหตุ
การตรวจวินิจฉัย
การซักประวัติเกี่ยวกับการเจ็บป่วยในอดีต
การตรวจร่างกาย
การตรวจทางห้องปฏิบัติการ
อาการและอาการแสดง
ความพิการของกระดูกสันหลังพบกระดูกสันหลังโค้งไปด้านข้าง อาจเกิดโค้งทดแทนเพื่อรักษาสมดุล
เมื่อผู้ป่วยก้มตัวไปด้านหน้าจะมองเห็นโหงก จากการหมุนตัวของกระโหลกซี่โครง
ทรวงอกเคลื่อนไหวจำกัด มักหายใจตื้น หายใจลึกทำได้ยาก
พบการเคลื่อนของกระดูกสันหลังออกจากแนวกลางตัว
กล้ามเนื้อและเอ็นด้านเว้าจะหดสั้นและหนา ส่วนด้านโค้งออกจะฝ่อลีบและบาง
ข้อศอกและขอบกระดูกเชิงกราน ไม่อยู่ระดับเดียวกัน
ผู้ป่วยเอียงตัวไปด้านข้าง ระยะห่างของแขนและเอวไม่เท้ากัน
สังเกตว่าใส่เสื้อผ้าไม่พอดี
เกิดอาการปวดเมื่อหลังคดมาก แต่ในเด็กพบอาการปวดไม่บ่อย
เริ่มมีอาการ เมื่ออายุยิ่งน้อยจะเริ่มมีความพิการมาก และกระดูกสันหลังส่วนเอวคดมีพยากรณ์โรคดีกว่ากระดูกสันหลังส่วนอกคด
การรักษา
จุดประสงค์การรักษา ควบคุมหรือลดของกระดูกสันหลังไม่ให้เพิ่มมากยิ่งขึ้น
แนวการรักษา
ไม่ผ่าตัด:การใส่อุปกรณ์ดัดลำตัว ข้อบ่งชี้สำหรับการใส่ Brace คือ ในเด็กอายุน้อยกว่า 11-12 ขวบ
ผ่าตัด:เมื่อพบว่ามุมของการคดของกระดูกสันหลังเกิน 45-50 องศา มีการเอียงของลำตัว และมีโอกาสคดเพื่ออย่างรวดเร็ว
แนวการพยาบาลผู้ป่วยที่มาภาวะสันหลังคด
แนะนำการปฏิบัติตัวก่อนและหลังผ่าตัด
ดูแลความไม่สุขสบายจากความปวดหลังผ่าตัดและกระดูกสันหลัง โดยสังเกตและประเมินความเจ็บปวด
ป้องกันการติดเชื้อที่แผลและเกิดแผลกดทับ โดยประเมินผิวหนังทั่วไปและบริเวณผ่าตัดว่ามีอาการ บวม ชา น้ำเหลืงซึม แผลเปิดหรือไม่
แนะนำการปฏิบัติตัวในการใส่อุปกรณ์ดัดลำตัว
มะเร็งกระดูก(Osteosarcoma)
พบในเด็ก>ในผู้ใหญ่ พบในเพศชาย>เพศหญิง
อาการและอาการแสดง
ปวดบริเวณที่มีก้อนเนื้องอก
น้ำหนักลด
มีไข้
การเคลื่อนไหวของต่ำแหน่งที่ผิดปกติ รับน้ำหนักไม่ได้ มักมีประวัติการเกิดอุบัติเหตุ
อาจมีกระดูกหักบริเวณนั้น
การวินิจฉัย
การซักประวัติ:ระยะเวลามีก้อนเนื้องอก อาการปวด การเคลื่อนไหว
การตรวจร่างกาย:น้ำหนัก ตำแหน่งของก้อน การเคลื่อนไหว ตำแหน่งของต่อมน้ำแหน่ง
การตรวจทางห้องปฏิบัติการ:MRI ,CI เพื่อดูการแพร่กระจายของโรค
การพยากรณ์
ตำแหน่งของโรคที่มีการพย่กรณที่ดีที่สุด คือ ส่วยปลายของกระดูกต้นขา ที่ไม่ดีคือ บริเวณกระดูกกลางลำตัว
ถ้าสามารถผ่าตัดออกได้หมดจะมีพยากรณ์ที่ดีขึ้น
ถ้ามีการแพร่กระจายตัวของโรคพยากรณจะไม่ดี
การรักษา
การผ่าตัด
เคมีบำบัด
รังสีรักษา
การพยาบาล
ไม่สุขสบายจากการปวดแผลผ่าตัดเเละปวดหลอน(phantom pain) บริเวณเเขน ขา ที่ถูกตัด
เสี่ยงต่อการเกิดภาวะแทรกซ้อนของกระดูกที่ทำการผ่าตัด
เสี่ยงต่อการเกิดภาวะเเทรกซ้อนจากเคมีบำบัดเเละรังสีรักษา
มีความวิตกกังวลเนื่องจากขาดความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับโรคเเละการรักษาพยาบาล
omphaloceie
เป็นความผิดรูปเเต่กำเนิดของผนังหน้าท้องโดยมีการสร้างผนังหน้าท้องโดยไม่สมบูรณ์ทำให้บางส่วนขาดหายไปมีแต่เพียงชั้นบางๆ
ลักษณะทางคลีนิก
การตรวจก่อนการคลอด การใช้อัลตราซาวนด์ตรวจทารกในครรภ์มารดาสามารถวินิจฉัยภาวะ omphaloceie ภายหลังคลอดพบบริเวณกลางท้องทารกมีถุง omphloceie ติออยู่กับผิวหนังอวัยวะที่อยู่ในถุงอาจประกอบไปด้วย ลำไส้เล็ก ลำไส้ใหญ่ กระเพาะอาหาร ม้าม เเละตับ
การรักษา
conservative
ทำได้โดยสารฆ่าเชื้อทาที่ผนังถุงการใช้สารละลายฆ่าเชื้อทาถุงมีผลทำให้ผนังแปลสภาพเป็น Eschar การรักษาด้วยวิธีนี้เหมาะสำหรับในรายที่มี omphalocele มีขนาดใหญ่
operative
ผ่าตัด
การเย็บผนังหน้าท้องปิดเลย ( primary fascial closure )
มักจะทำเมื่อ omphaloceie มีขนาดเล็ก เเละมีอวัยวะอยู่ภายในไม่มาก
การปิดผนังหน้าท้องโดยทำเป็นขั้นตอน ( stager repair )
Gastroschisis
เป็นความผิดปกคิเเต่กำเนิดเกิดเป็นช่องเเคบยาวที่ผนังท้องภายหลังจากผนังช่องท้องพัฒนาเเล้วเกิดการเเตกทะลุของ hermia of umbilical cord
การวินิจฉัย
เมื่อคลอดพบว่าที่หน้าท้องทารกจะพบถุงสีขาวขุ่นบางขนาดต่างๆกันสามารถมองเห็นขดลำไส้หรือตับผ่านผนังถุงอาจมีส่วนของถุง wharton's jelly สายสะดือติดอยู่กับตัวถุงขนาดที่พบตั้งเเต่ 4-10 cm
การพยาบาล
การเเก้ไขปัญหาฉุกเฉิน
lncubator หรือ ผ้าอุ่น กระเป๋าน้ำร้อน
การประเมินการหายใจ เตรียม endotrachoal tube, suction
ใส่ orogastric tube ปลายเปิดลงถุง
Rectal irrigation ด้วย NSS อุ่น
การดูแลโดยทั่วไป
การอาบน้ำไม่ต้องทำเนื่องจากจะทำให้เด็กตัวเย็นมากขึ้น
ให้ vitamine K 1 mg intramusculur
การรักษาความอุ่น
ประเมินภาวะทั่วไป ความสามารถในการหายใจ
decompression stomach
การค้นหาความพิการร่วม
การดูแลเฉพาะ
การทำแผลสะอาดมาดๆไม่รัด
การพยาบาลก่อนการผ่าตัด(nursing peroperative care )
เช็ดทำความสะอาด ลำไส้ส่วนที่สกปรก ป้องกันการติดเชื้อ
การพยาบาลหลังการผ่าตัด( nursing postopertive care)
probiem
respiratory distress
hypothermia
hypoglycemia,hypocalcemia
fluid and nutrition support
peripheral parenteral nutrition
enteral nutrition
antibotic prophylaxis
wound care
ถ้าเป็น omphalocele ใหญ่ให้ดูเเลทำความสะอาดแผลกว่าจะเริ่มดีขี้น พอให้ไปดูเเลเองต่อได้ gastroschisis ที่ใส่ silo ก็เช็ด silo เช้าเย็นทำแผลเช่นเดียวกับก่อนผ่าตัด ถ้าเป็นเเผลเช่นเดียวกับก่อนผ่าตัด ถ้าเป็นเเผลเย็บ ทำเเผลวันละครั้ง ดูการเปลี่ยนแปลงของเเผล
การติดตามการรักษา
เด็กจะมีน้ำหนักน้อยกว่าปกติ แต่จะกลับเข้าสู่ภาวะปกติเมื่ออายุ 6 เดือน ภาวะที่อาจต้องเเก้ไขต่อไปเช่น ventarl hernia นัดมาเเกไข้ประมาณ อายุ 2 - 4 ปี ปัญหาอื่นๆ ที่อาจเกิด ได้เเก่ intestinal obstruction, volvulus หรือ ปัญหาในการวินุจฉัยภาวะใส้ติ่งอักเสบ