Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
การพยาบาลสตรีที่ได้รับการช่วยคลอดด้วย สูติศาสตร์หัตถการ - Coggle Diagram
การพยาบาลสตรีที่ได้รับการช่วยคลอดด้วย สูติศาสตร์หัตถการ
Forceps Extraction
delivery delivery
ข้อบ่งชี้การช่วยคลอดด้วยคีม
ทารกอยู่ในท่าศีรษะหรือท่าหน้าที่เป็น (chin anterior anterior)
ช่วยคลอดศีรษะทารกท่าก้น (after coming head )
ศีรษะทารกลงสู่ช่องเชิงกราน รู้ตาแหน่งศีรษะแน่นอน
ไม่มีภาวะผิดสัดส่วนศีรษะทารกกับช่องเชิงกราน (CPDCPD) + เนื้องอกภายในอุ้งเชิงกราน
ปากมดลูกเปิดหมด (cervical fully dilate dilate)
Membrane rupture
Empty bladder
ได้ยาระงับความรู้สึกเฉพาะที่หรือยาชา เพื่อบรรเทาอาการปวด และเพื่อให้ช่องคลอดหย่อนตัว
ทราบ FHS pattern
เตรียมพร้อม set c/s emergency เสมอ กรณีการช่วยคลอดด้วยคีมล้มเหลว
การพยาบาล
การพยาบาลก่อนทำ
อธิบายให้ทราบเกี่ยวกับแผนการช่วยคลอด เหตุผล และภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้น เพื่อลดความวิตกกังวลและให้ความร่วมมือ
จัดท่าผู้คลอดท่า Lithotomy ทำความสะอาดอวัยวะสืบพันธ์ภายนอก + ฝีเย็บ ด้วยน้ายาฆ่าเชื้อ ปูผ้าสะอาดปราศจากเชื้อ และสวนปัสสาวะ
เตรียมอุปกรณ์ช่วยคลอด ได้แก่ forcep , สารหล่อลื่น, อุปกรณ์ช่วยเหลือทารก
ให้สารน้าทางหลอดเลือดดา + ยากระตุ้นการหดรัดตัวมดลูกตามแผนการรักษา
การพยาบาล (ขณะทำ)
ฟัง FHS ทุก 5 นาที / On EFM
ให้กำลังใจผู้คลอด อยู่เป็นเพื่อน + รายงานความก้าวหน้าของการคลอดให้ทราบเป็นระยะ
ดูแลความสุขสบาย โดยการเช็ดหน้าด้วยผ้าเย็น ให้ผู้คลอดพักขณะมดลุกคลายตัว เมื่อมดลูกหดรัดตัวกระตุ้นให้เบ่งพร้อมดึง
ประเมิน V/S เป็นระยะ
ให้ผู้คลอดหยุดเบ่งเมื่อศีรษะทารกมาตุงที่ฝีเย็บและแพทย์กำลังตัดฝีเย็บ หลงจากนั้นกระตุ้นเบ่งตามการหดรัดตัวของมดลูกจนศีรษะคลอดให้หยุดเบ่ง ทำการดูดน้ำคร่ำเช็ดตา เหมือนการคลอดปกติ และทำคลอดไหล่และลำตัว
การพยาบาล (หลังทำ)
ระวังการเกิดภาวะ PPH
แนะนำการคลึงมดลูก ไม่กลั้นปัสสาวะ เพื่อป้องกันการตกเลือด
แนะนาการสังเกตอาการและอาการแสดงของการตกเลือด และอาการปวดแผลฝีเย็บจากการเกิด hematoma
ดูแลการได้รับยากระตุ้นการหดรัดตัวของมดลูกต่อ อย่างน้อย 2 ชั่วโมงหลังคลอด
Vacuum Extraction
delivery delivery
ข้อพิจารณาก่อนทำ
ถุงน้ำคร่ำแตกแล้ว
กระเพาะปัสสาวะไม่เต็ม
ไม่มีก้อนเนื้องอกมาขวางช่องทางคลอด
ทราบท่าทารกและระดับส่วนนำ
ปากมดลูกเปิดหมด
ได้รับยาระงับความรู้สึกเฉพาะที่เพียงพอ
การพยาบาลก่อนทำ
จัดท่าผู้คลอดท่า Lithotomy ทำความสะอาดอวัยวะสืบพันธ์ภายนอก + ฝีเย็บ ด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อ ปูผ้าสะอาดปราศจากเชื้อ และสวนปัสสาวะ
ให้สารน้ำทางหลอดเลือดดา + ยากระตุ้นการหดรัดตัวมดลูกตามแผนการรักษา
การพยาบาลขณะทำ
ฟัง FHS ทุก 5 นาที / On EFM
เมื่อแพทย์วางถ้วยสุญญากาศในตาแหน่งที่เหมาะสมและต่อสายยางเข้าเครื่องดูดเรียบร้อย จะเริ่มลดความดันจนถึง 0.8 กก./ตร.ซม พยาบาลต้องจับเวลาในขณะที่เครื่องลดความดัน
เมื่อทาการลดความดันครบตามเวลา และได้ความดันที่ต้องการแล้ว ขณะมดลูกหดรัดตัวกระตุ้นให้ผู้คลอดเบ่งพร้อมกับแพทย์ที่เริ่มดึงถ้วยสุญญากาศ เมื่อมดลูกคลายตัวดูแลความสุขสบาย และกระตุ้นเบ่งซ้าเมื่อมีการหดรัดตัวใหม่
การพยาบาล (หลังทำ)
ระวังการเกิดภาวะ PPH
แนะนำการคลึงมดลูก ไม่กลั้นปัสสาวะ เพื่อป้องกันการตกเลือด
ดูแลการได้รับยากระตุ้นการหดรัดตัวของมดลูกต่อ อย่างน้อย 2ชั่วโมงหลังคลอด
Cesarean section
ข้อบ่งชี้
การคลอดติดขัด (mechanical dystocia dystocia)
การคลอดไม่ก้าวหน้า ( failure to progress in labor labor) เช่น ภาวะ CPD
รกเกาะต่ำ
ทารกมีภาวะ fetal destress
ภาวะสายสะดือพลัดต่า
มารดาที่เคยผ่าตัดคลอดครรภ์ก่อน
โรคแทรกซ้อนทางอายุรกรรมเช่น ความดันโลหิตสูง เบาหวาน
ครรภ์แฝดที่ทารกไม่อยู่ท่าศีรษะทั้งคู่
มีประวัติคลอดยาก
ติดเชื้อเริม ที่อวัยวะสืบพันธ์ ระยะใกล้คลอด
**ทารกตายในครรภ์ เว้น มีข้อบ่งชี้ทางมารดา เช่น ภาวะ PPH
ทารกพิการ ไม่สามารถรอดชีวิตได้หลังคลอด
การพยาบาลก่อนทำ
NPO หลังเที่ยงคืน / ก่อนผ่าตัดอย่างน้อย 6 8ชม.
เจาะG/M เตรียมเลือดอย่างน้อย 2 ยูนิต
ให้ IV fluid
Retained foley s catheter
บันทึก V/S และ FHS
การพยาบาลขณะทำ
ประเมิน V/S ผู้คลอดทุก 5 15นาที
สังเกตและบันทึกอาการและอาการแสดงของภาวะแทรกซ้อนจากการได้รับยาระงับความรู้สึก เช่น หายใจลาบาก กระสับกระส่าย คลื่นไส้ อาเจียน เป็นต้น
ประเมินและบันทึกปริมาณปัสสาวะ ควรออก > 30 ซีซี/ชั่วโมง
หลังทารกคลอดครบดูให้ยากระตุ้นการหดรัดตัวของมดลูกจามแผนการรักษา
การพยาบาลหลังทำ
ประเมิน V/S ผู้คลอดทุก 15นาที ใน 1ชม.แรก ทุก 30นาที ใน 1ชั่วโมงที่สอง หลังจากนั้นประเมินทุก 1ชม. จนอาการคงที่
ประเมินแผลผ่าตัดดูเลือดซึมบริเวณที่ก็อซปิด
ประเมินอาการปวดแผลและแนะนาใช้มือประคองแผลเวลาลุกนั่ง ไอ หรือ จาม ให้นอนท่า semi fowler
รายที่ได้รับยาระงับความรู้สึกแบบ spinal block ให้นอนราบหลังผ่าตัดอย่างน้อย 8 12ชั่วโมง
กระตุ้นการ early ambulate การสังเกตอาการตกเลือด การขับถ่ายปัสสาวะหลังเอาสายสวนปัสสาวะออก การเริ่มรับประทานอาหารในระยะหลังผ่าตัด
Version
External version version
ข้อบ่งชี้
อายุครรภ์มากกว่า 37สัปดาห์
ครรภ์เดี่ยวที่ทารกอยู่ในท่าก้น/ท่าขวาง ไม่มีภาวะแทรกซ้อนระหว่างตั้งครรภ์
การพยาบาลก่อนทำ
ให้ NPO อย่างน้อย 8ชม. ก่อนทำ
ดูแลการได้รับการultrasound เพื่อยืนยันท่าและส่วนนาทารก + NST เพื่อประเมินภาวะสุขภาพทารกในครรภ์
ดูแลให้ IV fluid และยายับยั้งการหดรัดตัวของมดลูกตามแผนการรักษา
การพยาบาลขณะทำ
ประเมิน FHS ทารกและอาการเจ็บปวดขณะทาการหมุนเปลี่ยนท่าเป็น
ระยะๆ >> FHS > 120 ครั้ง/นาที หรือ สตรีมีอาการเจ็บปวดมากให้หยุดการหมุนเปลี่ยนท่าทันที
อยู่เป็นเพื่อนสตรี เพื่อลดความกลัวและความกังวล
การพยาบาลหลังทำ
ประเมิน FHS ต่อไปอีกอย่างน้อย 30นาที
ดูแลให้ได้รับการตรวจ U/S เพื่อยืนยันว่าเป็นท่าศีรษะ
ตรวจ NST เพื่อประเมินภาวะสุขภาพทารกในครรภ์ หากเป็น NR >> ทำ CST ต่อ หากผลเป็น positive พิจารณายุติการตั้งครรภ์
ดูแลให้ได้รับ Rh immunoglobulin (anti D immune globulin
ประเมินและให้คำแนะนำสังเกตอาการผิดปกติที่อาจเกิดขึ้น เช่น ถุงน้ำคร่ำแตก เลือดออกทางช่องคลอด มดลูกหดรัดตัวแรงขึ้น หรือทารกน้อยลง
Internal podalic
version version
ข้อบ่งชี้
การคลอดแฝดคนที่สอง (ท่าขวางหรือท่าศีรษะ) มีปัญหาต้องคลอด่วน เช่น fetal distress สายสะดือย้อย หรือมีเลือดออกมาก
ทารกท่าขวางที่ปากมดลูกเปิดหมดแล้ว
ก่อนทำ >> เช่นเดียวกับการหมุนเปลี่ยนท่าภายนอก แต่ ไม่ NPO ผู้คลอด
ขณะทำ >> อยู่เป็นเพื่อน ให้กาลังใจ + ประเมิน FHS และอาการปวดเป็นระยะ
หลังทำ
ประเมิน FHS และ V/S ผู้คลอดเป็นระยะๆ
ดูแลช่วยเหลือการชวยคลอดท่าก้นต่อ เช่น การเตรียม piper forceps สำหรับช่วยคลอดศีรษะทารก พร้อมทั้งช่วยเหลือกรณีเกิดภาวะฉุกเฉิน เช่น การคลอดติดศีรษะ
ประเมินภาวะแทรกซ้อนหรือการบาดเจ็บ เช่น ช่องทางคลอดฉีกขาด มดลูกแตก , รกลอกตัวก่อนกาหนด กระดูกทารกหัก การบาดเจ็บของศีรษะทารก หรือทารกเสียชีวิต
Breech delivery
การพยาบาลก่อนทำ
จัดท่าผู้คลอด Lithotomy
ทำความสะอาดอวัยวะสืบพันธ์ภายนอกและฝีเย็บด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อ
อุปกรณ์ CPR ทารก + เครื่องช่วยหายใจ
ให้ IV fluid
การพยาบาลขณะทำ
ประเมิน FHS ทุก 5 นาที / On EFM
แนะนำผู้คลอดผ่อนคลายกล้ามเนื้อไม่เกร็ง
ประเมิน Contraction และกระตุ้นเบ่งเมื่อมดลูกหดรัดตัว
การพยาบาลหลังทำ
เฝ้าระวังการตกเลือดหลังคลอด
แนะนำการคลึงมดลูกแก่มารดาไม่กลั้นปัสสาวะ
ดูแลการได้รับยากระตุ้นการหดรัดตัวของมดลูกตามแผนการรักษา
Placenta removal
ข้อบ่งชี้
ภายหลังทารกคลอดครบ ระยะที่ 3นานกว่า 30นาที และเลือดออกไม่เกิน 400มิลลิลิตร
มีเลือดออกมากกว่า 400มิลลิลิตร ภายหลังทารกคลอดโดยไม่คานึงถึงระยะเวลาที่รกค้าง
สายสะดือขาดและหดกลับเข้าไปในช่องคลอด โดยไม่สามารถเข้าไป Clamp จุดที่ขาดได้
**ห้าม ผู้คลอดอยู่ในภาวะช็อค
การพยาบาลก่อนทำ
ดูแลการได้รับยาระงับความรู้สึกแบบทั่วไปโดยวิสัญญี
จัดท่า Lithotomy
เตรียมอุปกรณ์ล้วงรกให้พร้อม
ดูแลการได้รับ IV fluid ตามแผนการรักษา
การพยาบาลขณะทำ
ประเมิน V/S ทุก 5นาที
ประเมิน contraction ปริมาณเลือดที่ออกจากช่องคลอดละฝีเย็บ
ดูแลการได้รับยากระตุ้นการหดรัดตัวของมดลูก
การพยาบาลหลังทำ
เฝ้าระวังการเกิดภาวะ PPH
แนะนำการคลึงมดลูก ไม่กลั้นปัสสาวะ
ดูแลได้รับยากระตุ้นการหดรัดตัวของมดลูกต่ออย่างน้อย 2ชม.หลังคลอด
Induction of labor
ข้อบ่งชี้สาหรับชักนาการคลอด
Postterm pregnancy
Premature rupture of membrane
Preeclampsia, eclampsia
Gestational
hypertension
Chorioamnionitis
Fetal demise
Abruption placenta
Maternal medical conditions : eg . Diabetes mellitus, renal disease, chronic pulmonary disease, chronic hypertension, antiphospholipid syndrome
Fetal compromise : eg . Severe fetal growth restriction, isoimunization , oligohydramnios
ข้อห้าม
Vasa previa
Placenta previa
Transverse fetal lie
Umbilical cord prolapse
Previous classical cesarean delivery
Previous myomectomy entering the endometrial cavity
Active genital herpes infection
การพยาบาล
เตรียมยาให้ถูกต้องตามแผนการรักษา
ประเมิน Contraction หลังได้รับยา 15 นาที ต่อไปทุก 30 นาที และทุกครั้งก่อน/หลังการปรับหยด 2 3นาที
ปรับเพิ่มหยดทุก 15 30 นาที โดยเพิ่มครั้งละ 1 2 มิลลิยูนิต/นาที (Duration = 40 60 นาที, Interval = 2 3 นาที )
ฟัง FHS ทุก 30 นาที
หากได้รับยาเกิน 24 ชม. ให้สังเกต Bandl s ring ความดันโลหิตต่า ภาวะสารน้าเป็นพิษ คลื่นไส้อาเจียน กระสับกระส่าย
ระยะหลังคลอด
ดูแลการได้รับยาต่อเนื่องอย่างน้อย 2 ชั่วโมง