Please enable JavaScript.

Coggle requires JavaScript to display documents.

ความผิดปกติด้านพฤติกรรม - Coggle Diagram

- - - - การพยาบาลและการช่วยเหลือ
        
        ฝึกเทคนิคการจัดการความเครียด
        
        ฝึกให้ความสนใจกับความรู้สึกสัมผัส
        
        การบำบัดคู่สมรส เช่นเทคนิคการสื่อสาร
        
        CBT
      - ลักษณะอาการและอาการแสดง
        
        ไม่มีอารมณ์ทางเพศ ไม่สามารถปฏิบัติกิจกรรมทางเพศได้ตามปกติ
      - ปัจจัยเหตุุ
        
        การเปลี่ยนแปลงของระดับฮอร์โมน
        
        การรับประทานยาหรือสารบางชนิดที่ส่งผลต่อความต้องการทางเพศ
        
        ปัญหาความเครียด /วิตกกัวล
        
        ประสบการณ์ในอดีตเกี่ยวกับเพศที่ไม่ดี
        
        การเลี้ยงดูที่เข้มงวดในเรื่องเพศ
        
        การแข็งตัวอวัยวะเพศมีปัญหา หลั่งเร็ว สอดใ่แล้วรู้สึกเจ็บมาก
    - - ลักษณะอาการและอาการแสดง
        
        แสดงลักษณะเป็นเพศตรงข้ามอยู่เสมอ
        
        รู้สึกอัดอัดต่อเพศตามร่างกายของตนเอง
      - การพยาบาลและการช่วยเหลือ
        
        ให้ผู้ป่วยระบายความรู้สึกกับเรื่องทางเพศด้วยท่าทีที่สงบ
        
        ช่วยให้ผู้ป่วยรู้จัก และยอมรับอารมณ์ความต้องการที่แท้จริงของตนเอง
        
        CBT,PST
        
        ส่งเสริมให้เผชิญปัญหาที่เหมาะสม
        
        ให้ความรู้ที่ถูกต้องเกี่ยวกับปัญหาทางเพศของผู้ป่วย
      - ปัจจัยเหตุ
        
        ส่งเสริมพฤติกรรมที่เป็นเพศตรงข้าม
        
        การเกลียดชังเพศของเด็ก
        
        ความผิดปกติของโครโมโซม ความไม่สมดุลของฮอร์โมน
        
        บทบาทของบิดา มารดาไม่เหมาะสม ขาดผู้เลียนแบบพฤติกรรม เช่นการไม่มีบิดา
        
        การที่เด็กไม่ได้การยอมรับ
      - คำจำกัดความ
        
        เพศสรีระ(sex)
        
        เพศชาย เพศหญิงตามลักษณะทางกาย
        
        เพศสภาพ(Gender)
        
        เพศชาย เพศหญิง ตามสิ่งที่ได้รับจากปัจจัยทางสังคม
        
        อัตลักษณ์ทางเพศ(Gender Identity)
        
        การรับรู้ทางจิตใจของบุคคลหนึ่งว่าตนเป็นเพศใด
        
        เพศวิถี(Sexuality)
        
        วิถีชีวิตทางเพศในทางกามรมณ์ ในด้านความรัก และความรู้สึกรวมถึงรสนิยมทางเพศ
        
        การรักเพศตรงข้าม
        
        การรักเพศเดียวกัน
        
        การรักสองเพศ
        
        Pansexual
    - - ปัจจัยเหตุ
        
        ความผิดปกติของฮอร์โมนเพศ
        
        ประสบการณ์ การเลี้ยงดู การเรียนรู้ทางเพศที่ไม่เหมาะสมตั้งแต่เด็ก
        
        มีความคิดที่บิดเบือน
        
        เกิดจากจิตใจที่ถดถอยไปสู่ช่วงพัฒนาการทางจิตใจช่วงต้นของชีวิต
      - ลักษณะอาการและอาการแสดง
        
        Anomalous Target Preference
        
        Fetishism
        
        เกิดอารมณ์กับวัตถุหรืออุปกรณ์ที่ไม่ได้ใช้กับกิจกรรมทางเพศ
        
        Transvestic fetishism
        
        เกิดอารมณ์เมื่อสวมใส่เครื่องแต่งกายของเพศตรงข้าม
        
        Pedophilia
        
        เกิดอารมณ์กับเด็ก น้อยกว่า 13 ปี ผู้กระทำอายุอย่างน้อย 16 ปี ขึ้นไป และห่างกับเด็กอย่างน้อย 5 ปี
        
        Anomalous Activity Preference
        
        Sexual masochism
        
        เกิดอารามณ์ทางเพศ เมื่อตนเองได้รับความเจ็บปวด/ทุกข์ทรมาน
        
        Sexual sadism
        
        เกิดอารมณ์ทางเพศ โดยการทำให้ผู้อื่นเจ็บปวด ทุกข์ทรมาน
        
        Frotteurism
        
        ถูไถอวัยวะเพศกับเพศตรงข้าม ขณะยังใส่เสื้อผ้า
        
        Exhibitionism
        
        ชอบโชว์อวัยวะเพศ
        
        Voyeurism
        
        แอบดูผู้อืนเปลือยกาย/ร่วมเพศ
      - คำจำกัดความ
        
        พฤติกรรมทางเพศที่วิปริต หรือ กามวิปริต
        
        พฤติกรรมเบี่ยงเบน โดยมีความรู้สึกหรืออารมณ์ทางเพศด้วยวิธีผิดธรรมชาติ เป็นอันตรายต่อสังคม
        
        จะถูกกระตุ้นใกห้ตื่นตัวทางเพศด้วยสิ่งเร้า เป็นประจำนานกว่า 6 เดือน
      - การพยาบาลและการช่วยเหลือ
        
        SSRIs
        
        ให้เผชิฺญความคิดที่บิดเบือน
        
        พัฒนาทักษะทางสังคมของผู้ป่วย
        
        CBT
        
        การทำเพศบำบัด
- - - - Dopamin ลด,Endophins สูง ----เฉื่อยชามากขึ้น
      - Testosterone,Estrone สูงกว่าปกติ---หุนหันพลันแล่น
    - - อารมณ์พื้นฐานในเด็กสัมพันธ์กับพฤติกรรมผิดปกติในผู้ใหญ่
      - Cognitive
        
        ความคิดอัตโนมัติ
        
        ความคิดการรับรู้ที่บิดเบือน
        
        แบบแผนการมีปฏิสัมพันธ์
      - ผู้ที่มี fixation ระยะ Oral stage มักมองโลกในแง่ร้าย หรือดีมากเกินไป หลงตัวเอง อิจฉา เรียกร้องความสนใจ
      - ผู้ที่มี fixation บริเวณ anal stage มักเจ้าระเบียบ รักความสะอาดมากเกินไป ตระหนี่
  - - - ลักษณะสำคัญ
        
        คิดแปลก พฤติกรรมแปลก
        
        ไม่ไว้วางใจผู้อื่น คิดหมกมุ่น แยกตัว
      - Paranoid Personality Disorder(บุคลิกภาพแบบหวาดระแวง)
        
        คิดลบ โกรธง่าย โมโหร้าย
        
        ไม่ไว้วางใจใคร
        
        กลไกทางจิต แบบ Projection คือ กล่าวโทษ โยนความผิดให้ผู้อื่นเสมอ
      - Schizoid Personality Disorder(บุคลิกภาพแบบเก็บตัว)
        
        แยกตัว อยู่คนเดียว มีความสุขกับการอยู่คนเดียว
        
        หน้าเฉยชา ไม่ค่อยแสดงอารมณ์ เย็นชา ไม่สนใจคนอื่น
        
        ยังไม่สูญเสียการรับรู้ความเป็นจริง
      - schizotypal Personality Disorder(บุคลิกภาพแบบจิตเวช)
        
        ขาดมนุษยสัมพันธ์ที่ดี มีพฤติกรรมแปลกประหลาด
        
        มีความเชื่อที่แปลก เชื่องเรื่องไสยศาสตร์
    - - ลักษณะสำคัญ
        
        อารมณ์ผันผวน ไม่แน่นอน
        
        เจ้าอารมณ์ มีพฤติกรรมเหมือนแสดงละคร
      - Antisocial Personality Disorder(บุคลิกภาพแบบต่อต้านสังคม)
        
        มีพฤติกรรมไม่เคารพกฏเกณฑ์ของสังคม
        
        มักมีประวัติ conduct disorder ก่อนอายุ 15 ปี
        
        ไม่สำนึกผิด/ไม่สนใจความรู้สึกคนอื่น
      - Histrionic Personality Disorder(บุคลิกภาพแบบฮิสทีเรีย)
        
        มีการแสดงออกทางความคิด ความรู้สึกเกินจริง
        
        ลักษณะท่าทางเหมือนคนกำลังแสดงละคร มีลักษณะการพูดจีบปากจีบคอ
        
        มีการแสดงของอารมณ์รุนแรง เอาแต่ใจ เรียกร้องความสนใจ
      - Borderline Personality Disorder(บุคลิกภาพแบบก้ำกึ่ง)
        
        มุ่งให้ได้รับความสนใจ
        
        มีการเปลี่ยนแปลงอารมณ์ได้ง่าย
        
        มีพฤติกรรมควบคุม บงกร
        
        ทำร้ายตนเอง ฆ่าตัวตายสูง
      - Narcissistic Personality Disorder(บุคลิกภาพแบบหลงตัวเอง)
        
        คิดว่าตนเหนือกว่าคนอื่น
        
        ตนต้องได้สิ่งที่ดีๆมากกว่าคนอื่น อิจฉาคนอื่น ไวต่อความรู้สึก
    - - ลักษณะสำคัญ
        
        วิตกกังวลง่าย ขี้กลัว ติดมาก
        
        ยึดติดกับเหตุผลและกรอบความคิดของตนเอง
        
        แยกตัว เก็บกด
      - Avoidant Personality Disorder(บุคลิกภาพแบบหลีกเลี่ยง)
        
        วิตกกังวลต่อเนื่อง มากกว่าหรือเท่ากับ 6 เดือน
        
        ไวต่อการถูกปฏิเสธหรือถูกทอดทิ้งจากบุคคลอื่น
        
        รู้สึกอยากเข้าสังคม แต่ไม่กล้า
        
        รู้สึกว่าตนเองด้อย ขาดความมั่นใจตนเอง
      - Dependent Personality Disorder(บุคลิกภาพแบบพึ่งพา)
        
        มีลักษณะพึ่งพาผู้อื่น ไม่สามารถตัดสินใจหรืออยู่ได้ด้วยตนเอง
        
        มีีโอกาสสูงที่จะติดสารเสพติด ติดเกม ติดบุหรี่
      - Obsessive-Compulsive Personality Disorder(บุคลิกภาพแบบย้ำคิดย้ำทำ)
        
        พฤติกรรมขาดความยืดหยุ่น มีความดื้อรั้น และใส่รายละเอียดมากเกินไป (Perfectionism)
        
        ยึดมั่นในศีลธรรม
  - - - อุปนิสัยเฉพาะของบุคคล
      - จะมีลักษณะเด่น 1-2 traits เท่านั้น
    - - ลักษณะที่บุคคลมีพฤติกรรมเบี่ยงเบน จากสังคม วัฒนธรรม ของบุคคลนั้นอย่างชัดเจน
      - ต้องการให้คนอื่นปรับตัวเข้าหาตนเองแทนการที่ตนเองจะปรับตัว
    - - ลักษณะจำเพาะแต่ละคนที่แสดงออกมาจากผลรวมนึกคิด การรับรู้ และพฤติกรรมของบุคคล
  - - - การวางแผนการพยาบาล มีเกณฑ์การประเมินที่วัดได้และเป็นไปได้จริง
        
        ระยะสั้น----ป้องกันอันตรายที่เกิดแก่ผู้ป่วยและผู้อื่น
        
        ระยะยาว---พัฒนาทักษะต่างๆให้เหมาะสมตามความต้องการพื้นฐานของตนเองได้อย่างมีความมั่นใจ
      - การปฏิบัติการพยาบาล
        
        แนวทาง
        
        Paranoid
        
        ไม่แสดงความใกล้ชิดหรือเป็นกันเองกับผู้ป่วยมากกว่าปกติ
        
        ให้ความสม่ำเสมอและรักษาสัญญา
        
        Schizotypal
        
        ไม่แสดงท่าทีขบขันต่อความคิดหรือพฤติกรรมที่แปลกประหลาดของผู้ป่วย
        
        Antisocial
        
        เน้นปรับพฤติกรรมก้าวร้าว แสดงความจริงใจต่อการให้การพยาบาล
        
        ฺBorderline
        
        พยาบาลควรมีความมั่นคงทางอารมณ์
        
        รักษาระยะห่างกับผู้ป่วย สื่อสารพูดชัดเจนกับผู้ป่วย เข้าใจง่าย
        
        Avoidant
        
        ควรแสดงท่าทียอมรับ
        
        ไม่บังคับหรือเผชิญหน้ากับผู้ป่วย
        
        Histrionic
        
        มีพฤติกรรมยั่วยวน พยาบาลต้องตระหนักในตนเอง
        
        ต้องมีความชัดเจนต่อสัมพันธภาพ
        
        Narcissistic
        
        สื่อสารกับผู้ป่วยอย่างตรงไปตรงมา
        
        Schizoid
        
        ตระหนักความเป็นส่วนตัวของผู้ป่วย
        
        Obsessive-Compulsive
        
        อดทน ตระหนักรู้ตน เข้าใจผู้ป่วย
        
        สื่อสาร โน้มน้าวให้ผู้ป่วยให้ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม
        
        Dependent
        
        เน้นเป็นแบบอย่างที่ดี
        
        ให้ผู้ป่วยเรียนรู้พฤติกรรมที่เหมาะสม
      - การประเมินผล
      - การตั้งข้อวินิจฉัยทางการพยาบาล
      - การประเมินและรวบรวมข้อมูลของผู้ป่วย
- - - - Sleep apnea
      - หยุดหายใจชั่วขณะระหว่างหลับ
    - - ง่วงช้ากว่าคนทั่วไป
      - ตื่นเร็วกว่าคนทั่วไป
      - มีการนอนช่วงสั้นๆ
    - - ละเมอเดิน
      - ฝันผวา
    - - เกิดการเตะ ต่อย วิ่งจากเตียง ขบเขี้ยวขณะหลับ โขกศีรษะขณะหลับ
    - - หลับง่าย แต่หลับไม่สนิท
      - ตื่นบ่อย
  - - - ช่วงเวลาที่ไม่มีกิจกรรม ผ่อนคลาย มีความสงบ ทั้งร่างกายและใจ
    - - การรบกวนต่อเนื่องต่อปริมาณและคุณภาพการนอนส่งผลต่อการทำหน้าที่ของบุคคล
    - - สภาวะที่การรับรู้ต่อสิ่งเร้าภายนอกลดลง โดยรับรู้ได้ง่ายว่ารู้สึกง่วงและรู้ตัวว่านอนหลับ เมื่อตื่นรู้สึกตัวได้ง่าย
- - - - เกณฑ์การวินิจฉัย
        
        ยังคงเสพอย่างต่อเนื่อง
        
        มีความลดลงหรือบกพร่องในกิจกรรมหลัก
        
        เสพสารซ้ำๆ จนไม่สามารถจัดการกิจวัตรประจำวัน
        
        เสพสารซ้ำๆ แม้ในสถานการณ์ซึ่งอาจเกิดอันตรายต่อร่างกาย
        
        มีความกระหายหรือความต้องการเป็นอย่างมาก
        
        ใช้เวลาอย่างมากและหมดไปกับการได้สารมา การเสพ หรือการพักฟื้นจาการใช้สาร
        
        ยังเสพอย่างต่อเนื่อง แม้จะทราบว่าเกิดปัญหาทางร่างกายหรือจิตใจต่อเนื่อง
        
        มีความตั้งใจอยู่เสมอที่จะลดปริมาณการเสพลง แต่ไม่ประสบผลสำเร็จ
        
        อาการดื้อยา (Tolerance)
        
        ใช้สารในปริมาณที่มากกว่าหรือนานกว่าที่ตั้งใจ
        
        อาการขาดยา (Withdrawal symptom)
    - - ภาวะถอนพิษหรือขาดสาร (withdrawal)
      - ะความผิดปกติทางจิตจากการใช้สารเสพติด (Substance-induced mental disorders)
      - ภาวะพิษจากการใช้สารเสพติด (intoxication)
  - - - Opioid (ฝิ่น)
        
        เฮโรอิน (Heroin) เป็นสารเสพติดซึ่งเป็นอนุพันธ์ของสารฝิ่น
        
        นำมาใช้ใน การรักษาโรค เช่น ยาแก้ปวด ยาสลบ ยาแก้ท้องเสีย และยาแก้ไอ
        
        อาการ
        
        อาการขาดฝิ่น (Opioid withdrawal)
        
        คลื่นไส้ หรืออาเจียน ไวต่ออาการปวด ปวดกล้ามเนื้อ วิตกกังวล หงุดหงิดง่าย อยากเสพฝิ่น
        
        อาการพิษฝิ่น (Opioid Intoxication)
        
        มีอาการร่าเริงสนุกสนานในระยะแรก แล้วเปลี่ยนมาเป็นเฉยเมย ง่วงนอนหรือหมดสติ พูด ไม่ชัด สมาธิและความจำเสีย อาจไม่มีความสนใจใน สิ่งแวดล้อม
        
        อาการได้รับยาเกินขนาด ได้แก่ หมดสติ ไม่ รู้สึกตัว Coma หายใจช้า อุณหภูมิร่างกายต่ำ
        
        อาการติดฝิ่น (Opioid Dependence)
        
        ซึมเศร้า ผู้ป่วยมักนอนไม่หลับ
        
        การรักษา
        
        naloxone ฉีดเข้าหลอดเลือดดำ โดยฉีดซ้ำทุก 3 ชั่วโมง ผู้ป่วยจะมีอาการดีขึ้นทันที
        
        ใช้เมธาโดน (methadone) และคลอดินิน (clodinine) ล้างพิษ
        
        การให้ฝิ่นระยะยาว
      - Cannabis (กัญชา)
        
        อาการ
        
        อาการพิษกัญชา (Cannabis Intoxication)
        
        ตาแดง รับประทานจุ ปากแห้ง และหัวใจเต้นเร็ว
        
        สึกง่วง นอน ผ่อนคลาย มีอารมณ์ทางเพศเพิ่มขึ้น รู้สึกว่าเวลาผ่านไปช้ามาก ถูกชักจูงง่าย ขาดการควบคุมตัวเอง การตัดสินใจเสีย เกิดภาพลวงตา และมีจิตใจที่ดุร้ายผิดปกติได้
        
        แยกตัวจากสังคม
        
        การรักษา
        
        ช่วยให้ผู้ป่วยสงบ ให้ความมั่นใจว่าอาการจะหายไปได้ในไม่ช้า
        
        จัดให้อยู่ในบรรยากาศที่เงียบสงบ ไม่มีเสียงรบกวน
        
        ใช้ยากลุ่มคลายวิตกกังวล และ ยารักษาโรคจิต
        
        อาการขาดกัญชา (Cannabis Withdrawal)
        
        นอนไม่หลับ ความอยากอาหารลดลง น้ำหนักตัวลด ปวดท้อง เหงื่อออกมาก มีไข้ ปวดศีรษะกฃฃ
        
        มีอารมณ์เศร้า โกรธ ก้าวร้าว วิตก กังวล
        
        การรักษา
        
        เน้นการรักษาแบบประคับประคองตามอาการ
        
        อาการติดกัญชา (Cannabis Dependence)
        
        มักจะเสพมากเป็นพัก ๆ ไอเรื้อรัง หรือ ง่วงนอนมาก
        
        การรักษา
        
        การทำจิตบำบัดรายบุคคล ครอบครัวบำบัด และกลุ่มจิตบำบัด
        
        ป้องกันการกลับเป็นซ้ำ คือ การหยุดใช้
      - Cocaine (โคเคน)
        
        ลักษณะอาการ
        
        อาการพิษโคเคน
        
        ลักษณะอาการคล้ายอาการติดโคเคน
        
        มีการเคลื่อนไหวผิดปกติ กล้ามเนื้อตึงแข็ง อาการรุนแรงทำให้ผู้ป่วยหมดสติ
        
        อาการขาดโคเคน
        
        รู้สึกไม่สบายใจอย่างรุนแรง อ่อนเพลียไม่มีแรงและมีอาการเศร้า
        
        อาจมีอาการพูดมาก ปวดศีรษะ หวาดระแวง หลงผิด หูแว่ว ประสาทหลอน แสดงพฤติกรรมก้าวร้าว
        
        อาการติดโคเคน
        
        ไม่สามารถยับยั้งชั่งใจที่จะไม่ เสพเมื่อมีโคเคน
        
        เกิดอารมณ์รื่นเริงสนุกสนานมากที่สุด ทำให้ผู้ป่วยเสพสารระยะสั้นเกิดอาการติดสาร
        
        ความรับผิดชอบที่สำคัญของผู้ป่วยจะบกพร่อง
        
        ความคิดหวาดระแวง พฤติกรรมก้าวร้าวรุนแรง วิตกกังวล อาการซึมเศร้า และน้ำหนักลด
        
        การรักษา
        
        ใช้ยารักษาโรคจิต ร่วมกับยาที่มีฤทธิ์เพิ่ม dopaminergic transmission
        
        amantadine ใช้รักษาอาการอยากโคเคนได้ดี
      - Caffeine
        
        อาการ
        
        อาการพิษคาเฟอีน (Caffeine Intoxication)
        
        ระวนกระวาย ตื่นเต้น นอนไม่หลับ หน้าแดง ปัสสาวะมาก กล้ามเนื้อกระตุก พูดมาก ความคิดเปลี่ยนเรื่องเร็ว หัวใจเต้นเร็ว พลุ่งพล่าน
        
        อาการขาดคาเฟอีน (Caffeine Withdrawal)
        
        อาการปวดศีรษะ ง่วงนอน อ่อนเพลีย ห คลื่นไส้ อาเจียน ต้องการดื่มมากกว่าปกติ ความอยากอาหารเพิ่มขึ้น น้ำหนัก ตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อย
        
        พบมีอารมณ์เกียจคร้าน ซึมลงเล็กน้อย
        
        อาการติดคาเฟอีน (Caffeine dependence)
        
        ภาวะดื้อคาเฟอีน (caffeine tolerance) พบว่า มีการเพิ่มปริมาณการ ดื่มที่มากขึ้น
        
        มีความต้องการดมื่คาเฟอีนตลอด
        
        เมื่อหยุดจะเกิด caffeine withdrawal
        
        มีการใช้คาเฟอีนอยู่ ถึงแม้ว่าจะมีผลข้างเคียง
        
        การรักษา
        
        ค่อยๆ ลดปริมาณคาเฟอีนที่ดื่มลงมาตามลำดับ
        
        มีการแทนที่ คาเฟอีนด้วยเครื่องดื่มที่พร่องคาเฟอีน (decaf)
        
        ถ้ามีอาการมากอาจพิจารณาให้การล้างท้องหรือฟอกเลือด
      - Amphetamines
        
        เกิดจากการหลั่งสารสื่อประสาทเพิ่มขึ้น (โดยเฉพาะ dopamine)
        
        หวังผลในแง่ของการกระตุ้นร่างกายให้ สดชื่น ไม่ง่วงนอน และเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของตน
        
        ต้องใช้ยาในปริมาณมากขึ้นเรื่อยๆ เพื่อให้ผลของยาเท่าเดิม
        
        ลักษณะอาการ
        
        อาการพิษแอมเฟตามีน
        
        ชอบพบปะสังสรรค์กระวนกระวาย มีความรู้สึกตื่นตัวสูง หงุดหงิดง่าย พูดมาก วิตกกังวล เครียด อาการเจ็บหน้าอก ความดันโลหิตเพิ่มขึ้นหรือลดลง เหงื่อออก หรือสั่น คลื่นไส้/อาเจียน น้ำหนักลด กล้ามเนื้ออ่อนแรง การหายใจถูกกด สับสน ชัก
        
        การรักษา
        
        เฝ้าระวังอาการชัก และภาวะเลือดออกมากอาจประคบด้วยน้ำเย็น
        
        เน้นป้องกันการทำร้ายตนเองและผู้อื่น
        
        ให้อยู่ในสิ่งแวดล้อมที่สงบ
        
        อาการขาดแอมเฟตามีน
        
        นอนไม่หลับ หรือ หลับมาก รับประทานจุ เชื่องช้า หรือพรุ่งพล่าน กระวนกระวาย
        
        การรักษา
        
        การรักษาแบบประคับประคอง และบรรเทาอาการที่เกิดขึ้น
        
        รุนแรงมาก
        
        (1) อ่อนเพลียอย่างมาก
        
        (2) มีอารมณ์เศร้าอย่างรุนแรงเป็นเวลาหลายวัน และอาจมีความคิดอยากตาย
        
        อาการโรคจิตเนื่องจากแอมเฟตามีน
        
        อาการหูแว่ว หรือหลงผิดในขณะที่เสพจนเกิด อาการพิษ ผู้ป่วยคิดว่ามีคนปองร้าย รู้สึกว่า รูปร่างตนเองผิดส่วน และเห็นใบหน้าตนเองผิด จากความจริง มีประสาทหลอนสัมผัส อาการ อาจอยู่หลายสัปดาห
        
        การรักษา
        
        ให้ยาต้านเศร้า Imipramine เพื่อรักษาอาการเศร้า ยาต้านอาการทางจิต หรือ ยาควบคุมอารมณ์
        
        รักษาด้านจิตสังคมร่วม โดยการทำครอบครัวบำบัด จิตบำบัดรายบุคคล จิตบำบัดรายกลุ่ม
        
        อาการติดแอมเฟตามีน
        
        มีพฤติกรรมก้าวร้าว หรือ รุนแรง วิตกกังวลอย่างมาก หวาดระแวง เพิ่มปริมาณที่เสพขึ้น ผู้ที่ไวต่อสาร เสพเพียงเล็กน้อย จะเกิดอาการตื่นตัว อาการทางจิตเวช
        
        การรักษา
        
        เน้นการรักษาทางจิตสังคม ป้องกันการกลับเป็นเสพซ้ำ และการประคับประคอง
      - Inhalants (สารระเหย)
        
        เช่น สีทาบ้าน สีพ่น กาวทินเนอร์ เชื้อเพลิง น้ำมันเบนซิน
        
        อาการ
        
        อาการติดสารระเหย (Inhalant Dependence)
        
        นอนไม่หลับ มือสั่น หงุดหงิด เหงื่อออกมาก คลื่นไส้ และแปลสิ่งเร้าผิด
        
        การรักษา
        
        ให้การปรึกษา
        
        การให้ความรู้ร่วมกับการรักษาทางจิตอื่น ๆ
        
        อาการพิษสารระเหย (Inhalant Intoxication)
        
        พฤติกรรมก้าวร้าวรุนแรง ทำร้ายบุคคลอื่น อารมณ์ครื้นเครงหรือ อารมณ์เฉยเมย การตัดสินใจเสีย มีความบกพร่องด้านกิจกรรม
        
        ผู้ที่เสพขนาดสูง อาจมีอาการเซื่องซึม ง่วง ความคิด และการเคลื่อนไหวช้า ไม่ค่อยรู้ตัว หรือหมดสติ
        
        การรักษา
        
        ในระยะที่มีอาการพิษจากสาร ไม่ควรให้การรักษาด้วยยาทุกชนิดเพราะจะทำให้เกิดอาการซึมเศร้า
        
        ให้อาหาร วิตามินและน้ำ อย่างเพียงพอ
        
        รักษาโดยการใช้จิตบำบัด พฤติกรรมบำบัด และครอบครัวบำบัด
      - Alcohol
        
        อาการ
        
        อาการพิษสุรา (alcohol intoxication)
        
        ประสาทรับความรู้สึกเสีย กล้ามเนื้อทำงานไม่สัมพันธ์ กัน เดินเซ พูดอ้อแอ้ มองเห็นภาพไม่ชัด ระยะการ ตัดสินใจช้าลงมาก
        
        ตาพร่า มองเห็นภาพซ้อน แขนขาเกร็ง
        
        การช่วยเหลือ
        
        ในกรณีที่ให้ glucose IV ควรให้ thiamine 100 มก.ร่วม
        
        ใช้ Group support
        
        ให้ diazepam
        
        จัดให้อยู่ในสิ่งแวดล้อมที่สงบ
        
        อาการขาดสุรา (alcohol withdrawal)
        
        ระดับเล็กน้อย
        
        มือสั่นเหงื่อออกมาก หงุดหงิด ปวดมึนศีรษะ ใจสั่น วิตกกังวล นอนไม่หลับ
        
        ระดับปานกลาง
        
        กระวนกระวาย ผุดลุกผุดนั่ง ตัวสั่น/ มือสั่นมาก ขึ้น ชีพจรเต้นเร็ว >120 ครั้ง/นาที คลื่นไส้ อาเจียน ความดันโลหิตสูง มาก
        
        ระดับรุนแรง
        
        ชักจากการขาดสุรามีลักษณะเกร็ง กระตุกทั่วร่างกาย
        
        พูดสับสนเรื่อง เวลา สถานที่ และบุคคล (Disorientation) มีอาการระแวง กลัว หูแว่ว ประสาทหลอน
        
        การช่วยเหลือ
        
        การบำบัดแบบสั้น (Brief intervention)
        
        CBT
        
        diazepam หรือ lorazepam รับประทานเฉพาะเวลามีอาการเท่านั้น
        
        family therapy, group therapy, self-help group
        
        รักษาอาการ Delirium Tremens (DT)
        
        ให้ยา Benzodiazepine
        
        ดูแลให้ได้รับอาหารที่แคลอรี่และ มีคาร์โบไฮเดตสูง
        
        เฝ้าระวังภาวะขาดน้ำ ควรให้สารน้ำทดแทน
        
        เฝ้าระวังในเรื่องความปลอดภัย ทั้งจากการทรงตัวที่ไม่ดี และอาการ ประสาทหลอนของผู้ป่วย อาจทำร้ายตนเองหรือทำร้ายผู้อื่น
        
        อาการติดสุรา (alcohol dependence)
        
        เมื่อดื่มแล้วไมส่ามารถหยุดดมื่ได้ ต้องดื่มในปริมาณมาก
        
        ต้องดื่มทุกวัน แต่ปริมาณไม่มาก
        
        การช่วยเหลือ
        
        การใช้วิธีการล้างพิษ (Detoxification)
        
        รักษาโดยการใช้ยา: Disulfuram (Antabuse) รับประทานก่อนดื่มแอลกอฮอล์
        
        การปรับความคิดหรือมุมมองใหม่ (Cognitive therapies: CT)
        
        การทำจิตบำบดัแบบประคับประคอง และการทำพฤตกิรรมบำบัดทั้งรายบุคคล หรือรายครอบครัว
        
        การบำบัดแบบสั้น (Brief interventions)
        
        FRAMES ของ Miller และ Sanchez
        
        6 more items...
      - Nicotine (นิโคติน)
        
        อาการติดนิโคติน (Nicotine Dependence)
        
        คลื่นไส้ อาเจียน น้ำลายไหลมากขึ้น ซีด อ่อนแรง ปวดท้อง ท้องเดิน มีนงง ปวดศีรษะ หัวใจเต้น เร็ว ในรายที่ได้รับในปริมาณสูงผู้เสพอาจไม่มีสมาธิ สับสน
        
        อาการขาดนิโคติน (Nicotine Withdrawal)
        
        มีอารมณ์เศร้า นอนไม่หลับ หงุดหงิด หรือ โกรธง่ายวิตกกังวล สมาธิ เสีย กระวนกระวาย หรือขาดความอดทน หัวใจเต้นช้าลง น้ำหนักเพิ่ม
        
        การรักษา
        
        ให้ความรู้รวมทั้งให้คำปรึกษา ปัญหาเกี่ยวกับการเสพและการเลิกบุหรี่
        
        ให้เข้ารับการรักษาด้วยนิโคตินทดแทน เช่น นิโคตินในรูปเคี้ยวแบบหมากฝรั่ง
        
        nicotine gum ให้ 1 ชิ้น ทุก 1 ชั่วโมงในขณะตื่นติดต่อกัน 3 เดือน
        
        ผลข้างเคียง เป็นแผลในปาก สะอึก ปวดขากรรไกร ท้องอืด อาหารไม่ย่อย คลื่นไส้ เบื่ออาหาร และใจสั่น
        ข้อห้ามใช้ เป็นโรคข้อที่ขากรรไกร มีปัญหาเกี่ยวกับฟันและใส่ฟันปลอม โรคหัวใจขาดเลือด
        
        ให้ความรู้ผู้ป่วยเกี่ยวกับ ผลดีของการเลิกสูบ กระบวนการเลิกสูบ และอาการขาดนิโคติน
        
        ประเมินผลความคืบหน้าของการเลิกสูบ ให้การสนับสนุนและกำลังใจ
        และช่วยเหลือในกรณีที่กลับ
      - ยานอนหลับและยาคลายกังวล
        
        อาการพิษยา (Sedative, Hypnotic or Anxiolytic Intoxication)
        
        พูดไม่ชัด เสียการทรงตัว นัยน์ตากระตุก ความจำเสีย ขาดสมาธิ
        
        พฤติกรรมทางเพศ อย่างไม่เหมาะสม มีพฤติกรรมก้าวร้าว อารมณ์ เปลี่ยนแปลงง่าย มีปัญหาด้านกิจกรรม
        
        อาการขาดยา (Sedative, Hypnotic or Anxiolytic Withdrawal)
        
        หัวใจเต้นเร็ว หายใจเร็ว ความดันโลหิตสูง หรืออุณหภูมิของร่างกายสูงขึ้น มือสั่น นอนไม่หลับ วิตกกังวล คมีอาการประสาทหลอน หรือแปลสิ่งเร้าผิด โดยที่ภาวะรู้ตัวยังดี หรืออาจมีอาการเพ้อ
        
        อาการติดยา (Sedative, Hypnotic or Anxiolytic Dependence)
        
        เกิดอาการชินยาและอาการขาดยา
        
        การรักษา
        
        diazepam, benzodiazepine
        
        สนับสนุนให้กำลังใจผู้ป่วยในการหยุดยา
        
        ลดขนาดยาลงมาทีละน้อย ให้ฟีโนบาร์บิทาลทดแทน
        
        ให้ผู้ป่วยได้ปรับตัวและแก้ไขปัญหาชีวิตที่มีอยู่ในปัจจุบัน
  - - - ข้อมูลจากญาติหรือบุคคลใกล้ชิดจะช่วยให้การรวบรวมน่าเชื่อถือ
    - - บกพร่องในการดูแลสุขอนามัยส่วนบุคคล เนื่องจากความสนใจในตนเองลดลง
      - การรับรู้เกี่ยวกับตนเองผิดจากความจริงเนื่องจากพยายามหลีกเลี่ยงปัญหาโดยการปฏิเสธ ความจริงและไม่ยอมรับปัญหาที่แท้จริงของตน
      - มีพฤติกรรมที่เป็นปัญหาต่อตนเอง ครอบครัวและสังคม เนื่องจากขาดความรับผิดชอบ ในการกระทำที่เป็นผลเสียต่อตนเองและผู้อื่น
    - - เป้าหมายระยะสั้น
        
        ช่วยเหลือให้เกิดความปลอดภัย
        
        ประเมินสภาวะอันอาจเกิดจากการเจ็บป่วยทางกาย
        
        ให้กำลังใจและจัดสภาพแวดล้อมให้ผู้ป่วยได้พัก
      - เป้าหมายในระยะกลาง
        
        ประเมินอาการต่างๆ ที่เกิดในตอนถอนพิษสารเสพติด พร้อมกำหนดระยะเวลาช่วยเหลือ และแจ้งผลการรักษาต่อผู้ป่วยและครอบครัว
        
        กระตุ้นผู้ป่วยให้เข้าร่วมโครงการรักษาต่อไป และส่งเสริมให้เกิดความเข้าใจเกี่ยวกับสารเสพ ติดร่วมกับการที่ต้องพึ่งพาสารเสพติดต่างๆ
      - เป้าหมายระยะยาว
        
        กระตุ้นให้ผู้ป่วยมีส่วนร่วมในแผนการรักษและมุ่งเน้นให้เกิดความเข้าใจในปัญหา
        
        ประเมินสภาวะเครียดและแรงกดดันต่างๆ ที่อาจทำให้ผู้ป่วยกลับไปใช้สารเสพติดอีก
        
        สนับสนุนให้ผู้ป่วยได้เปิดเผย หรือบอกได้ถึงแรงจูงใจต่างๆ ที่ทำให้ต้องใช้สารเสพติดอีก
    - - ซักประวัติ ตรวจร่างกาย ตรวจทางห้องปฏิบิตการ และ การใช้เครื่องมือต่างๆ
    - - การรักษาด้วยยา
      - การบำบัดรายบุคคล
      - การบำบัดรายกลุ่ม
      - ครอบครัวบำบัด
      - การให้ความรู้
      - การจัดสภาพแวดล้อมเพื่อการบำบัด
      - การให้การปรึกษาด้านอาชีพ
      - การจัดกิจกรรมบำบัด
- - - - ยอมรับข้อดี/คุณสมบัติที่ดีของผู้ที่ติดการพนันและ ติดอินเทอร์เน็ต
      - เข้าใจถึงความจำเป็นในการบำบัดรักษาปัญหา
      - บอกให้ผู้เสพติดทราบว่าครอบครัวกำลังค้นหาความช่วยเหลือ
      - ใช้น้ำเสียงสงบเมื่อพูดกับผู้เสพติด
    - - .แยกผู้ที่ติดการพนัน/ติดอินเทอร์เน็ตออกจากการเป็น สมาชิกและกิจกรรมของครอบครัว
      - .คาดหวังว่าการฟื้นฟูทันที
      - จ่ายเงิน (เคลียร์เงิน) ให้นักการพนัน
      - สอนหรือยินยอมให้ตัวเองสูญเสียการควบคุมความ โกรธ
      - .ปกปิดหรือปฏิเสธปัญหาที่เกิดขึ้นกับตัวเอง ครอบครัว หรือคนอื่นๆ