Please enable JavaScript.

Coggle requires JavaScript to display documents.

ระบบประสาท - Coggle Diagram

- - - - มีไข้ร่วมกับชักในเด็กอายุ 6 เดือน ถึง 5 ปี
      - การชักเป็นแบบทั้งตัว ( generalized seizure)
      - ระยะเวลาในการชักเกิดขึ้นช่วงสั้นๆไม่เกิน 15 นาที
      - ไม่มีการชักซ้ำในการป่วยครั้งเดียวกัน
      - ก่อน - หลัง ชัก ไม่มีอาการทางระบบประสาท
    - - การชักเป็นแบบเฉพาะที่หรือทั้งตัว
      - ระยะเวลาในการชัก เกิดนานมากว่า 15 นาที
      - เกิดการชักซ้ำในการป่วยครั้งเดียวกัน
      - หลังชักจะมีความผิดปกติของระบบประสาท
      - ** เด็กที่ชักชนิด complex มีอัตราเสี่ยงสู.ที่จะเกิดลมชัก แพทย์จะให้ยาป้องกันการชัก เช่น Phenobarbital หรือ Valprooic acid
  - - - ไข้ การติดเชื้อ ประวัติครอบครัว การได้รับวัซีน โรคประจำตัว ประวัติการชัก ระยะเวลาของการชักเป็นต้น
- - - - การผ่าตัดใส่สายระบายน้ำในโพรงสมอง ออกนอกร่างกาย (External Ventricular Drainage , EVD, Ventriculostomy)
      - การผ่าตัดใส่สายระบายน้ำในโพรงสมอง สู่งช่องในร่างกาย
        
        โพรงสมองลงช่องท้อง (Ventriculo-peritoneal shunt)
        
        โพรงสมองลงช่องหัวใจ (Ventriculo-atrial shunt )
        
        โพรงสมองลงช่องใต้เยื่อหุ้มสมอง (Ventriculo-cisterm magna shunt)
        
        โพรงสมองทารกในครรภ์ลงถุงน้ำคร่ำ (Transabdminal percutaneous Ventriculo-amniotic shunt)
  - - - การจัดท่านอนนอนราบศีรษะสูง 15 – 30 องศา เพื่อช่วยให้การ
        ไหลเวียนของน้ำไขสันหลังกลับสู่หลอดเลือดดำได้ดีขึ้น
      - กรณีผู้ป่วยมีการเปลี่ยนแปลงทางระบบประสาทอย่างรวดเร็ว ซึม ไม่รู้สึกตัว แพทย์จะรักษาโดยการใส่ท่อหลอดลมคอและช่วยหายใจ เพื่อลดความดัน PaCO2 ในหลอดเลือดแดงให้อยู่ระหว่าง 30 – 35 mmHg
      - การให้ยาขับปัสสาวะ (Diuretic) ทางหลอดเลือดดำ
- - - - ผิดปกติของการปิดของส่วนโค้งกระดูกสันหลังทำให้มีการยื่นของไขสันหลัง หรือเยื่อหุ้มสมองผ่านกระดูกออกมาให้เห็นเป็นถุงหรือก้อน มี 2 ชนิด
        
        Meningocele
        
        ก้อนหรือถุงนำประกอบไปด้วยเยื่อหุ้มสมองน้ำไขสันหลัง ไม่มีเนื้อเยื่อประสาทไขสันหลัง ไขสันหลังอยู่ต่ำแหน่งปกติ ไม่เกิดอัมพาต
        
        Myelomeningocele หรือ Meningomyelocele
        
        กระดูกสันหลังผิดปกติ มีก้อนยื่นออกมา ก้อนหรือถุง มีเยื่อหุ้มสมองน้ำไขสันหลังและไขสันหลัง พบบ่อย อันตรายและเกิดความพิการ ความรุนแรงขึ้นกับตำแหน่ง พบระบบการขับถ่ายผิดปกติ เท้าปุก การหดรั้งของข้อ สมองบวมน้ำ
    - - ผิดปกติกระดูกสันหลังส่วน Vetebral archesไม่รวมตัวกัน เกิดเป็นช่องโหว่ระหว่างแนวกระดูกสันหลัง เกิดบริเวณ L5หรือ S1 ไขสันหลังและเยื่อหุ้มสมองยังอยู่ในกระดูกสันหลัง
- - - - ติดเชื้อระบบประสาทส่วนกลาง
      - การคลอดที่ผิดปกติ
      - รับอุบัติเหตุที่ศีรษะ
      - ความผิดปกติของสมดุลเกลือแร่ในร่างกาย
      - น้ำตาลในเลือดต่ำ
      - ความผิดปกติกับพัฒนาการทางสมอง
      - โรคหลอดเลือดสมอง
      - สารพิษและยา
      - โรคระบบประสาท ร่วมกับความผิดปกติของผิวหนัง
      - โรคทางพันธุกรรม
    - - จากความผิดปกติของ Neurotransmission ซึ่งเกิดจากความผิดปกติของยีนส์
    - - มีพยาธิสภาพภายในสมอง จัดอยู่ในกลุ่ม Symtomatic epilepsy
  - - - preictal period ระยะก่อนชัก
        
        อาการนำ มีอาการนำบางอย่างก่อนอาการชัก ไม่มีอากรเฉพาะ
        
        อาการเตือน ลักษณะอาการเตือนแตกต่างกันตามตำแหน่งของสมอง
      - Ictal event หรือ Peri-ictal period คือ ระยะที่เกิดอาการชัก มีระยะเวลาตั้งแต่วินาที จนถึงนาที มักจะไม่นานเกินครึ่งชั่วโมง
        
        เกิดขึ้นทันทีทันใด
        
        เกิดในระยะเวลาสั้นๆไม่เกิน 5 นาที แล้วหยุดเอง
        
        เกิดขึ้นเอง แต่บางครั้งมีปัจจัยกระตุ้น
        
        ส่วนใหญ่มีลักษณะเหมือนกันทุกครั้ง
      - postictal peroid ระยะเวลาเมื่อการชักสิ้นสุดลง
        
        สับสน อ่อนเพลีย ปวดศีรษะ
        
        postical paralysis หรือ Todd's paralysis กล้ามเนื้ออ่อนแรงเฉพาะที่
        
        Automatism การเคลื่อนไหวของร่างกายเป็นไปโดยอัตโนมัติขณะชัก เช่น เคี้ยวปาก กระพริบตาถี่ๆ ตีมือคว่ำหงายสลับกัน
      - Interictal period
        
        ช่วงเวลาระหว่างการชัก เริ่มตั้งแต่เวลาหลังการชักครั้งที่ 1 สิ้นสุดลง ไปจนถึงเริ่มเกิดชักครั้งใหม่ โดยทั่วไปไม่มีอาการแสดงใดๆ แต่อาจพบคลื่นไฟฟ้าสมองผิดปกติ
    - - อาการชักเฉพาะที่ (Partial / Focal seizure)
        
        1.1 ชักเฉพาะที่ แบบมีสติ (simple partial seizures ) ขณะชักผู้ป่วยรู้ตัวตลอดเวลา
        
        1.2 อาการชักเฉพาะที่แบบขาดสติ (Complex partial) ขณะชักจะสูญเสียความรับรู้ เมื่อสิ้นสุดการชัก จะจำเหตุการณ์ช่วงชักไม่ได้
        
        1.3 อาการชักเฉพาะที่ ตามด้วยชักทั้งตัว Focal with secondarily generalized seizures) เป็นอาการชักที่เริ่มจากส่วนหนึ่งส่วนใดของร่างกาย แล้วค่อยๆกระจายไปอยู่่ส่วนใกล้ๆต่อไป
      - อาการชักทั้งตัว (Generalized seizures)
        
        อาการชักเหม่อ (Absence)
        
        กลุ่มอาการชักเหม่อแบบตรง ( Typical absence seizures) ระยะเวลาที่เกิดอาการประมาณ 5-10 วินาที อาการเกิดขึ้นทันทีและหายทันที
        
        อาการชักเหม่อไม่รู้ตัวหรือไร้สติเท่านั้น
        
        ชักเหม่อที่มีอาการกระตุก หรือสะดุ้งเป็นช่วงเวลาสั้นๆ อาจมีหนังตากระตุกร่วมด้วย
        
        ชักเหม่อที่มีอาการตัววอ่อนร่วมด้วย
        
        ชักเหม่อที่มีอาการเกร็งกล้ามเนื้อร่วมด้วย
        
        อาการเกร็งกระตุก (Tonic clonic seizures)
        
        ผู้ป่วยจะหมดสติ ร่วมกับมีอาการเกร็งทั้งตัว ไม่นานเกิน 30 วินาที ตามด้วยกล้ามเนื้อกระตุกเป็นจังหวะ นานประมาณ 1-2 นาที รวมแล้ว อาการจะไม่เกิน 5 นาที
        
        อาการชักกระตุก (Clonic seizures)
        
        ลักษณะเป็นการกระตุก
        
        อาการชักเกร็ง (Tonic seizures)
        
        เป็นการชักที่มีลักษณะเกร็งแข็ง เกิดนานประมาณ 2-10 วินาที เมื่อมอาการจะมีลักษณะ แขนขาเหยียดตรง อาจเกิดทันทีหรือค่อยเป็นค่อยไป เสี่ยงต่ออันตรายขณะชัก
        
        อาการชักตัวอ่อน (Atonic seizures)
        
        เป็นอาการชักที่มีการเสียความตึงตัวของกล้ามเนื้ออย่างทันที เมื่อเกิดอาการชัก เวลาประมาณ 1-2 วินาที มักพบในผู้ที่อายุน้อยกว่า 5 ปีและมีพัฒนาการช้า
        
        อาการชักสะดุ้ง (myoclonic seizures)
        
        การชักที่มีลักษณะสะดุ้ง มีการหดตัวของกล้ามเนื้ออย่างรุนแรง และรวดเร็ว แต่ละครั้งใช้เวลาสั้นมาก
- - - - Meningococcemia
        
        Acute Meningococcemia อาการเกิดอย่างฉับพลัน มีอาการปวดศีรษะ เจ็บคอและไอ เป็นอาการนำมาก่อน ตามด้วยไข้สูง หนาวสั่น ปวดตามข้อและตามกล้ามเนื้อ โดยเฉพาะที่ขาและหลัง นอกจากนี้ อาจมาด้วยไข้และมีผื่นแดงจ้ำขึ้นตามตัวในเวลา 2-3 วันต่อมา จะเปลี่ยนเป็นีคล้ำจนเป็นสะเก็ด บางทีเป็นตุ่มน้ำ มุีจุดแดงอยู่ตรงกลาง ส่วนใหญ่จะมีผื่นหลังไข้ขึ้น 24-48 ชั่วโมง
        
        Chronic Meningococcemia พบได้น้อย ส่วนใหญ่มักมีไข้ขึ้น ผื่นตามผิวหนัง อาจเป็นผื่นจ้ำแดง ปวดและเจ็บข้อยู่เป็นเดือน ไข้จะเป็นๆหายๆ
        
        Fulminant Meningococcemia เป็นอย่างรุนแรง ระบบไหลเวียนโลหิตไม่ทำงาน อาจช็อคถึงเสียชีวิตได้ ในเวลาไม่นานหลังเริ่มอาการ ส่วนมากมีอาการไข้สูงทันที อ่อนเพลียมาก แล้วเสียชีวิตอย่างรวดเร็ว
      - Meningitis
        
        ไข้ ปวดหัว คอแข็ง ซึมและสับสน อาการจะแย่ลงอย่างรวดเร็ว
- - - - 1.2 Splastic diplegia
        
        มีความผิดปกติกล้ามเนื้อแขนขาทั้ง 2ข้าง ขาเป็นมากกว่าแขน
      - 1.3 Splastic hemiplegia
        
        ผิดปกติที่แขนขาซีกใดซีกหนึ่ง
      - 1.1 Splastic quadriplegia
        
        มีความผิดปกติกล้ามเนื้อแขนขาทั้ง 2 ข้าง คอและลำตัวอ่อนผิดปกติ ศีรษะเล็ก น้ำลายไหล
    - - การเคลื่อนไหวผิดปกติตลอดเวลาขณะตื่น บังคับส่วนต่างๆของร่างกายให้ไปในทิศทางที่ต้องการไม่ได้ กล้ามเนื้ออ่อนปวกเปียก
    - - มีเดินเซ ล้มง่าย กล้ามเนื้อตึงตัวน้อย ทรงตัวได้ไมดี สติปัญญาปกติ
    - - หลายอย่างร่วมกัน
- - - - ยิ้ม ฟัง มองตาม ร้องเสียงดัง พูดจ้อ = 5 คะแนน
      - เปล่งเสียงตามพัฒนาการ พูดคุยเป็นคำและประโยค ร้องไห้เมื่อถูกทำให้ระคายเคือง ร้องไห้แต่หยุด = 4 คะแนน
      - ร้องไห้ตลอด กรีดร้องเมื่อเจ็บ = 3 คะแนน
      - ส่งเสียงครางเมื่อเจ็บ หรือกระวนกระวาย พักไม่ได้ = 2 คะแนน
      - ไม่เปล่งเสียง ไม่ตอบสนอง = 1 คะแนน
    - - พูดได้ไม่สบสน = 5 คะแนน
      - พูดได้แต่สับสน = 4 คะแนน
      - พูดได้เป็นคำๆ ค่อนข้างสับสน หรือพูดโดยไม่สอดคล้องกับคำถาม = 4 คะแนน
      - เปล่งเสียงได้ แต่ไม่เป็นคำพูด = 2 คะแนน
      - ไม่เปล่งเสียง = 1 คะแนน
  - - - เคลื่นไหวได้เอง = 6 คะแนน
      - ชักแขนขาหนี เมื่อจับ = 5 คะแนน
      - ชักแขนขาหนี เมื่อเจ็บ = 4 คะแนน
      - แขน ขา มีอาการเกร็ง แบบ ศอกงอ (Decorticate) = 3 คะแนน
      - ไม่มีปฏิกิริยาใดๆ หรือไม่เคลื่อนไหวเลย = 1 คะแนน
      - แขน ขา มีอาการเกร็ง แบบ ศอกเหยียด (Decerebrate) = 2 คะแนน
    - - ทำตามคำสั่งได้ = 6 คะแนน
      - เคลื่อนไหวเมื่อรู้สึกเจ็บหรือทราบตำแหน่งที่ เจ็บ = 5 คะแนน
      - ชักแขนขาหนี เมื่อเจ็บ = 4 คะแนน
      - แขน ขา มีอาการเกร็ง แบบ ศอกงอ (Decorticate) = 3 คะแนน
      - แขน ขา มีอาการเกร็ง แบบ ศอกเหยียด (Decerebrate) = 2 คะแนน
      - ไม่มีปฏิกิริยาใดๆ = 1 คะแนน
- - - - ไข้สูง หนาวสั่น ปวดศีรษะรุนแรง ปวดข้อ ชักและซึมลงจนหมดสติ มีอากรคอแข็ง ตรวจพบ Kernic sign และ brudzinski sign ให้ผลบวก รีเฟล็กลึกไวเกิน มีอาการแสดงว่าเส้นประสาทสมองถูกรบกวนหรือถูกทำลาย ตรวจ Babinski ได้ผลบวก
      - ในรายที่เกิดจากเชื้อ เมนิงโกคอคคัส จะพบผื่นแดงที่ผิวหนัง จุดเลือดออกกระจายไปทั่วๆ มีเลือดออกที่ต่อมหมวกไต พบ Neutrophil ถึงร่อยละ 85-95 ใน CFS ประมาณ 1000-100,000 เซลล์ / คิวบิคมิลลิเมตร
  - - - ค่าปกติของน้ำไขสันหลัง ปกติจะไม่มีสี
      - ความดันระหว่าง 75-180 มม.น้ำ (5-15 มม.ปรอท)
      - ไม่มีเม็ดเลือดแดงและเม็ดเลือดขาว
      - โปรตีน 15-45 mg / 100 ml (1% ของ serum protein )
      - กลูโคส 50 - 75 mg /100 ml
      - Culture & Latex agglutination
      - คลอไรด์ 700 - 750 mg / 100 ml
- - - - พบในเด็กหมดสติ ที่มีการทำลายของเนื้อสมองส่วน cerebral cortex อย่างรุนแรง
  - - - พบในเด็กที่ midbrain ไม่สามารถทำงานได้ตามปกติได้