Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
ความผิดปกติด้านพฤติกรรม - Coggle Diagram
ความผิดปกติด้านพฤติกรรม
Substance-related and addictive
1.ความผิดปกติของการใช้สารเสพติด
เกณฑ์การวินิจฉัย
1.ใช้สารในปริมาณที่มากกว่าหรือนานกว่าที่ตั้งใจ
2.มีความตั้งใจจะลดแต่ไม่ประสบผล
3.ใช้เวลาหมดไปกับการเสพมาก
4.มีความต้องการอย่างมาก
5.เสพสารซ้ำๆจนไม่สามารถทำกิจวัตรประจำวัน
6.เสพอย่งต่อเนื่อง
7.อาชีพการงานบกพร่อง
8.เสพสารซ้ำๆ
9.เสพอย่างต่อเนื่องแม้ว่าร่างกายจะมีปัญหา
10.มีอาการดื้อยา
11.อาการขาดยา
2.ความผิดปกติที่เกิดจากสารเสพติด
อาการทางจิตเวช
อาการติดสารเสพติด
1.การติดสารทางกาย
2.การติดสารทางจิตใจ
อาการฝ่าใช้สารเสพติด
สารเสพติดที่พบบ่อย
Alcohol
อาการติดสุรา
1.ต้องดื่มทุกวัน แค่ปริมาณไม่มาก ผู้ป่วยกลุ่มนี้มักไไม่ทราบว่าตนเองติดสุรา จนมีเหตุการณ์บางอย่างทำให้ต้องหยุดดื่ม
2.เมื่อดื่มแล้วไม่สามารถหยุดได้ต้องดื่มปริมาณมาก จะมีบางครั้งอาจหยุดดื่มได้ชั่วระยะหนึ่ง ้ช่น เมื่อเจ็บป่วยหรือขาดเงิน
การรักษา
1.การใช้วิธีการล้างพิษเมื่อมีอาการขาดสุราที่รุนแรงหรือมีโรคทางกายที่ยังควบคุมไม่ได้
2.รักษาโดยการใช้ยา Antabuse รับประทานก่อนดื่มแอลกอฮอล
3.รักษาทางด้านจิตสังคม
-ให้คำแนะนำและให้การปรึกษาโดยการช่วยให้ผู้ป่วยมองเห็นปัญหาและยอมรับ
-ปรับความคิดหรือมุมมอง
-ทำจิตบำบัดแบบไม่ประคับประคอง
-ให้ครอบครัวมีส่วนร่วม
อาการพิษสุรา
1.ระดับแอลในเลือด 50-150 mg% จะทำให้การตัดสินใจช้าลง สมองส่วนควบคุมการคิดถูกกดการทำงาน การมองเห็นและการทำงานร่วมของกล้ามเนื้อ
2.ระดับแอลในเลือด 151-300mg% ทำให้ประสาทรับความรู้สึกเสีย กล้ามเนื้อทำงานไม่สัมพันธ์กัน เดินเซ พูดอ้อแอ้
3.ระดับแอลในเลือดมากกว่า 300 mg% จะทำให้กล้ามเนื้อทำงานไม่สัมพันธ์ ตาพร่า มองเห็นภาพซ้อน
การรักษา
1.จัดอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่สงบ
2.ควรทำ hemodialysis
3.ระวังการทำร้านเองและผู้อื่น
4.บางรายใช้สารเสพติดอื่นร่วม
5.กรณีที่ให้ glucose iv ควรให้ thiamine 100 มก.ร่วม
6.ใช้ group support
อาการขาดสุรา
ระดับเล็กน้อย จะพบมือสั่นเหงื่อออกมาก หงุดหงิด ปวดศีรษะ ใจสั่น วิตกกังวล นอนไม่หลับ
ระดับปานกลาง มีอาการกระวนกระวาย ผุดลุกผุดนั่ง ตัวสั่น/มือสั่นมาก ชีพจรเต้นเร็ว >120 ครั้ง/นาที คลื่นไส้ อาเจียน
การรักษา
1.การรักษาโดยการใช้ยา ใช้การรักษาตามระดับความรุนแรงของอาการขาดสุรา เช่น diazepam , lorazepam
2.บำบัดจิตใจแบบประคับประคอง ปรับเปลี่ยนความคิด พฤติกรรมบำบัด
Amphetamines
อาการติดแอมเฟตามีน
มีพฤติกรรมก้าวร้าวหรือรุนแรงและมีอาการวิตกกังวลอย่างมากเป็นอยู่ชั่วคราว นอกจากนั้นยังมีความคิดหวาดระแวง
การรักษา
เน้นการรักษาทางจิตสังม ป้องกันการกลับเป็นเสพซ้ำ
อาการพิษแอมเฟตามีน
มีการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมและจิตใจ รู้สบายผิดปกติ ร่วมกับอารมณ์รื่นเริงสนุกสนาน มีพลัง การเปลี่ยนแปลงการเข้าสังคม เช่น ชอบพบปะสังสรรค์ มีกิจกรรมมาก
การรักษา
1.เน้นป้องกันการทำร้ายตนเองและผู้อื่น
2.ลดอาการกระวนกระวายโดยให้อยู่ในที่สงบ
3.เฝ้าระวังอาการชักและภาวะเลือดออกมาก อาจประคบด้วยน้ำเย็น
อาการขาดแอมเฟตามีน
ด้านร่างกาย นอนไม่หลับ หรือหลับมาก รับประทานุ เชื่องช้าหรือพลุ่งพล่าน กระวนกระวาย
ด้านจิตอารมณ์ความคิด ไม่ความรู้สึกไม่สบาย หดหู่อ่อนเพลีย อยากเสพยาอย่างรุนแรง
การรักษาแบบประคับประคองและบรรเทาอาการที่เกิดขึ้น
อาการโรคจิตเนื่องจากแอมเฟตามีน
อาการหูแว่ว หรือหลงผิดในขณะที่เสพจนเกิดอาการพิษ ผู้ป่วยคิดว่ามีคนปองร้าย รูู้สึกว่ารูปร่างตนเองผิดส่วนและเห็นใบหน้าตนเองผิดจากความจริง มีประสาทหลอนสัมผัส
1.โดยใช้ยา รักษาอาการขาดสารโดยให้ยาค้านเศร้า Imipramine เพื่อรักษาอาการเศร้า ความรู้สึกอยากยาอารมณ์เศร้าและยาต้านอาการทางจิต
2.รักษาด้านจิตสังคมร่วม โดยการทำครอบครัวบำบัดจิต จิตบำบัดรายกลุ่ม
Cocain
อาการติดโคเคน
เกิดอารมณ์รื่นเริงสนุกสนานที่สุด ไม่สามารถยับยั้งชั่งใจที่จะไม่เสพเมื่อมีโคเคน มีความคิดหวาดระแวง พฤติกรรมก้าวร้าวรุนแรง วิตกกังวล อาการซึมเศร้าและน้ำหนักลด
อาการพิษโคเคน
หัวใจเต้นเร็วหรือช้า ม่านตาขยาย ความดันโลหิตเพิ่มขึ้น หรือลดลงเหงื่อออกมากหรือรู้สึกหนาว คลื่นไส้อาเจียน น้ำหนักลด พลุ่งพล่านกระวนกระวาย
อาการขาดโคเคน
มีอารมณ์หงุดหงิดโกรธง่าย อ่อนเพลีย ฝันร้าย นอนไม่หลับหรือหลับมาก รับประทานจุ ความคิดและการเคลื่อนไหวเชื่องช้า มีความรู้สึกอยากเสพโคเคนมากขึ้น
การรักษา
ใช้ยารักษาโรคจิต ร่วมกับยาที่มีฤทธิ์เพิ่ม dopaminergic transmission
Heroin
อาการติดฝิ่น
ขาดการยับยั้งชั่งใจ โดยไม่ได้เป็นไปเพื่อการรักษาโรค มักมีปัญหาหย่าร้าง ไม่มีงานทำ บุคลิกภาพต่อต้านสังคม เสี่ยงเกิดอาการซึมเศร้า
อาการพิษฝิ่น
มีอาการสนุกสนานในระยะแรกแล้วเปลี่ยนมาเป็นเฉยเมย รู้สึกไม่สบายใจพลุ่งพล่าน กระวนกระวาย ง่วงนอนหรือหมดสติ ไม่มีสมาธิและความจำเสีย
อาการขาดฝิ่น
อาจมีคลื่นไส้ อาเจียน ปวดกล้ามเนื้อ ปวดตามตัว น้ำมูกไหล ม่านตาขยาย กระวนกระวาย มีไข้และนอนไม่หลับ
การรักษา
1.รักษาอาการพิษ ยาที่ใช้คือ naloxone ฉีดเข้าหลอดเลือดดำ ทุก3ชั่วโมง
2.การล้างพิษ เมธาโดนและคลอดินิน ผลข้างเคียง ความดันต่ำ ง่วงนอน
3.การให้ฝิ่นระยะยาว
Cannabis
อาการติดกัญชา
เสพนานอาจเกิดการดื้อสาร อาจเสพชนิดแรงตลอดวันเป็นเวลาหลายเดือนหรือหลายปี อาจมีไอเรื้อรัง ง่วงนอนมาก
การรักษา
เน้นการรักษาด้านจิตสังคม ป้องกันการกลับเป็นซ้ำ เน้นให้ผู้ป่วยหาเป้าหมาย สาเหตที่ทำให้กลับเป็นซ้ำ
อาการพิษกัญชา
ตาแดง รับประทานจุ ปากแห้ง หัวใจเต้นเร็ว หัวเราะแบบไม่มีเหตุผล รู้สึกง่วงนอน ผ่อนคลาย มีอารมณ์ทางเพศเพิ่มขึ้น
การรักษา
1.รักษาโดยการใช้ยา ใช้ยากลุ่มคลาวิตกกังวล ยารักษาโรคจิต
2.ช่วยให้ผู้ป่วยสงบ ให้ความมั่นใจว่าอาการจพหายไปได้ในไม่ช้า
3.จัดให้อยู่ในบรรยากาศที่เงียบสงบ ไม่มีเสียงรบกวน
อาการขาดกัญชา
นอนไม่หลับ ความอยากอาหารลดลง น้ำหนักตัวลด ปวดท้อง เหงื่อออก
การรักษา
รักษาแบบประคับประคองตามอาการ
Inhalant
อาการติดสารระเหย
นอนไม่หลับ มือสั่น หงุดหงิด คลื่นไส้ แปลสิ่งเร้าผิด
การรักษา
ป้องกันไม่ให้เปลี่ยนไปใช้สารที่รุนแรงกว่า โดยให้การปรึกษา ให้ความรู้ร่วมการรักษาจิตทางอื่น
อาการพิษสารระเหย
พฤติกรรมก้าวร้าว ทำร้ายบุคคลอื่น อารมณ์ครื้นเครงหรือ อารมณ์เฉยเมย การตัดสินใจเสีย มีความบกพร่องด้านกิจกรรมสังคม เวียนศีรษะ มองภาพไม่ชัด การเรียนตกต่ำ
การรักษา
1.ในระยะมีอาการพิษจากสาร ไม่ควรให้การรักษา จะเกิดอาการซึมเศร้า 2.ให้อาหาร วิตามิน น้ำ เพียงพอ
3.รักษาโดยใช้จิตตบำบัด พฤติกรรมบำบัด
Caffein
อาการติดคาเฟอีน
มีอาการอย่างน้อย 3ใน4อาการ
1.ภาวะดื้อคาเฟอีน มีการเพิ่มปริมาณเพิ่มมากขึ้น เพื่อให้ได้ฤทธิ์กระตุ้น เกิดความสบายใจ
2.มีความต้องการดื่มคาเฟอีนตลอดหรือไม่สามารลดปริมาณ
3.เมื่อหยุดดื่มจะเกิด caffeine withdraw
4.มีการใช้คาเฟอีนอยู่แม้ว่าจะมีผลข้างเคียง
อาการพิษจากคาเฟอีน
กระวนกระวาย ตื่นเต้น นอนไม่หลับ หน้าแดง ปัสสาวะมาก กล้ามเนื้อกระตุก หัวใจเต้นเร็ว มีพลังเป็นช่วงๆ
อาการขาดคาเฟอีน
ง่วงนอน อ่อนเพลีย หาวมากกว่าปกติ ตลื่นไส้ อาเจียน ความอยากอาหารเพิ่มขึ้น น้ำหนักตัวเพิ่มเล็กน้อย มีอารมณ์เกียจคร้าน ซึมลงเล็กน้อย
การรักษา
ลดปริมาณคาเฟอีนที่ดื่มลงมาตามลำดับ จนสามารถหยุดดื่มในที่สุด ไม่ควรให้หยุดตาเฟอีนทันทีเนื่องจากจะทำให้เกิดอาการรุนแรง ถ้ามีอาการมากอาจให้การล้างท้องหรือฟอกเลือด
นิโคติน
อาการติดนิโคติน
มีความใส่ใจการเรียนรู้ ตอบสนองต่อสิ่งกระตุ้น อารมณ์ขึ้น ความเครียดลดลง คลื่นไส้ อาเจียน น้ำลายไหลมากขึ้น ซีด อ่อนแรง ปวดท้อง ท้องเดิน ปวดศีรษะ
อาการขาดนิโคติน
ไม่สบายใจหรือมีอารมณืเศร้า หงุดหงิดหรือโกรธง่าย สมาธิเสีย ขาดอดทน มีอาการซึมเศร้าหลังหยุดสูบ
การรักษา
1.ระยะประเมิน ประวัติการสูบบุหรี่ ความรุนแรง ประสบการณ์เกี่ยวกับการเลิกบุหรี่ ความสนใจของผู้ป่วยที่จะเลิก
2.ระยะรักษา 4ระยะ
2.1ให้ความรู้เกี่ยวกับผลดี กระบวนการ อาการขาด
2.2บอกผลดีของการเลิกสูบ
2.3พิจารณาวิธีการเลิกสูบ
2.4พิจารณาวิธีการหยุดสูบ
2.5บอกผลข้างเคียง ข้อห้ามใช้
3.ระยะติดตามผล
ยานอนหลับและยาคลายกังวล
อาการติดยา
เกินอาการชินยาและขาดยา ความรุนแรงจะขึ้นอยู่กับคุณสมบัติของยาแต่ละชนิด
อาการพิษยา
พฤติกรรมทางเพศไม่เหมาะสม พฤติกรรมก้าวร้าว อามรมณ์เปลี่ยนแปลงง่าย พูด เสียการทรงตัว ความจำเสีย ขาดสมาธิ อาจทำให้เกิดอุบัติเหตุ
อาการขาดยา
มีอาการไม่สบายหลังหยุดยา หัวใจเต้นเร็ว ความดันโลหิตสูง นอนไม่หลับ สิตกกังวง คลื่นไส้อาเจียน มีอาการเพ้อ บางรายมีความดันต่ำ
การรักษา
1.รักษาอาการพิษ อาการพิษจะอยู่นาน 6-48ชั่วโมง รักษาอาการเพ้อ รักษาตามอาการ
2.ด้านจิตใจ สนับสนุนให้กำลังใจผู้ป่วยในการหยุดยา ให้ผู้ได้ปรับตัวและแก้ไขปัญหาตรวจโดยใกล้ชิด
การพยาบาล
การรักษาด้วยยา
การบำบัดรายบุคคล
การบำบัดรายกลุ่ม
ครอบครัวบำบัด
การให้ความรู้
การจัดสภาพแวดล้อมเพื่อการบำบัด
การให้การปรึกษาด้านอาชีพ
การจัดกิจกรรมบำบัด
Psychiatric nursing with behavioral disorders patiennt
บุคลิกภาพผิดปกติ
การวินิจฉัยโรค
มีอาการอย่างน้อย 2ใน4กลุ่มต่อไปนี้
1.cognitive รับรู้คลาดเคลื่อนจากความจริง
2.affectivity ตอบสนองทางอารมณ์ไม่เหมาะสม
3.interpersonal function
4.impulse control
เกิดขึ้นเกือบตลอดเวลา ส่งผลให้เกิดปัญหาที่ชัดเจนในการทำงาน เกิดขึ้นสม่ำเสมอและต่อเนื่องยาวนาน ไม่ใช่อาการของโรคทางจิตเวช ไม่เกิดจากการใช้สารเสพติด
ลักษณะอาการทางคลินิค
บุคลิกภาพผิดปกติในกลุ่ม A
paranoid,schizoid,schizotypal
ไม่ไว้วางใจผู้อื่น หมกมุ่น แยกความคิด แยกตัว
บุคลิกภาพผิดปกติในกลุ่ม B
antisocial,borderline,narcissistic,histrionic
อารมณ์ผันผวน ไม่แน่นอน ไม่อยู่กับร่องรอย เจ้าอารมณ์
บุคลิกภาพผิดปกติในกลุ่ม C
dependent,osessive compulsive,avoidant
วิตกกังวลง่าย ขี้กลัว คิดมาก พฤติกรรมหลีกหนี แยกตัว
การรักษา
ใช้ยา
ยา thiothixine ลดระดับของอาการประสาท อาการย้ำคิดย้ำทาง อาการตื่นตระหนกตกใจ หลงผิด
ไม่ใช้ยา
ช่วยเหลือทางด้านจิตสังคม เน้นสัมพันธภาพระหว่างบุคคล การบวนการคิดวิเคราะห์ บำบัดพฤติกรรม
การพยาบาล
Paranoid ไม่แสดงท่าที่ใกล้ชิดหรือแสดงความเป็นกันเองกันผู้ป่วยมากกว่าปกติเพราะอาจทำให้ผู้ป่วยหวาดระแวงมากขึ้นให้ความสม่ำเสมอและรักษาสัญญาซึ่งเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้ผู้ป่วยไว้วางใจในพยาบาล
Schizoid พยาบาลควรตระหนักถึงความต้องการความเป็นส่วนตัวของผู้ป่วยในการสร้างสัมพันธภาพควรรักษาระดับที่ไม่ทำให้ผู้ป่วยรู้สึกว่าถูกล่วงล้ำความเป็นส่วนตัวเพราะอาจทำให้ผู้ป่วยไม่วางใจและไม่ให้ความร่วมมือในการรักษาได้
Schizotypal ไม่แสดงท่าทีขบขันต่อความคิดหรือพฤติกรรมที่ดูแปลกประหลาดของผู้ป่วย
Antisocial ค่อนข้างยากในการบำบัดหรือการสร้างสัมพันธภาพมักจะเน้นการปรับหรือสดพฤติกรรมก้าวร้าวมากกว่า แต่อย่างไรก็ตามในการสร้างสัมพันธภาพพยาบาลควรแสดงความจริงใจและสม่ำเสมอในการให้การพยาบาล
Borderline ผู้ป่วยกลุ่มนี้มักมีการแสดงออกทางอารมณ์ที่ไม่มั่นคงอาจทำให้พยาบาลมีอารมณ์ต่อผู้ป่วยได้ง่าย (Countertransference) ดังนั้นพยาบาลควรมีความมั่นคงทางอารมณ์รักษาระห่างที่เหมาะสมกับผู้ป่วยสื่อสารด้วยคำพูดที่ชัดเจนเข้าใจง่าย
Histrionic ผู้ป่วยกลุ่มนี้จะแสดงพฤติกรรมในลักษณะยั่วยวนไม่เหมาะกับกาลเทศะโดยเฉพาะกับเพศตรงข้ามดังนั้นพยาบาลต้องตระหนักในตนเองแสดงออกถึงความมั่นคงและชัดเจนถึงขอบเขตของการสร้างสัมพันธภาพกับผู้ป่วย
Narcissistic ผู้ป่วยกลุ่มนี้ต้องการเป็นคนที่สมบูรณ์แบบเพื่อปกป้องความอ่อนแอภายในของตนที่ขาดความภาคภูมิใจในตนเองถ้าผู้ป่วยไม่ได้รับซึ่งความรู้สึกนี้มีโอกาสที่จะเกิดภาวะ / โรคซึมเศร้าได้ดังนั้นจึงค่อนข้างยากในการดูแลอย่างไรก็ตามมีการศึกษาพบว่าการสื่อสารกับผู้ป่วยอย่างตรงไปตรงมา (Assertive) ทำให้ผู้ป่วยดีขึ้น แต่ก็มีความเสี่ยงที่ผู้ป่วยจะปฏิเสธไม่ให้ความร่วมมือได้เช่นกัน
Avoidant ผู้ป่วยกลุ่มนี้จะกลัวการถูกปฏิเสธดังนั้นพยาบาลควรแสดงท่าที่ยอมรับและมีความระมัดระวังในการมีปฏิสัมพันธ์กับผู้ป่วยไม่ควรใช้วิธีการบังคับหรือการเผชิญหน้ากับผู้ป่วยกลุ่มนี้
Dependent พยาบาลควรเน้นการเป็นแบบอย่างที่ดีเปิดโอกาสให้ผู้ป่วยได้เรียนรู้พฤติกรรมการแสดงออกที่เหมาะสม
ความผิดปกติทางเพศ
เกณฑ์การวินิจฉัยความบกพร่องในการตอบสนองจ่อทางเพศ
Delayed Ejaculation (ภาวะหลั่งซ้า) เป็นอาการใดอาการหนึ่ง ได้แก่ 1) หลั่งอสุจิช้าอย่างชัดเจนหรือ 2) ไม่สามารถหลั่งอสุจิได้ทั้งๆที่มีการกระตุ้นและมีความรู้สึกตื่นตัวทางเพศอย่างเพียงพอพบได้ต่ำกว่าร้อยละ 1
Erectile Disorder เป็นอาการใดอาการหนึ่งที่ 1) อวัยวะเพศชายไม่มีการแข็งตัวหรือ 2) ไม่นานพอในระหว่างกิจกรรมทางเพศหรือ 3) แข็งตัวไม่เต็มที่มีการลดลงของการแข็งตัวของอวัยวะเพศอย่างเห็นได้ชัดพบว่ามีความสัมพันธ์กับอายุที่เพิ่มขึ้นพบได้ประมาณร้อยละ 13-21 ในเพศชายอายุ 40-80 ปี
Female Orgasmic Disorder เป็นอาการใดอาการหนึ่งที่เพศหญิง 1) ไม่เกิดความรู้สึกถึงจุดสุดยอด (Orgasm) หรือ 2) รู้สึกลดลงอย่างมากขณะมีเพศสัมพันธ์ทั้งๆที่มีการกระตุ้นทางเพศอย่างเพียงพอพบได้ประมาณร้อยละ 10-45 ขึ้นอยู่กับอายุวัฒนธรรมและความรุนแรงของอาการ
Female Sexual Interest / Arousal Disorder ไม่มีความสนใจหรือมีความรู้สึกตื่นตัวทางเพศโดยแสดงออกอย่างน้อย 3 อาการดังนี้
1) การไม่มีหรือลดลงของความสนใจในกิจกรรมทางเพศ
2) การไม่มีหรือลดลงของความคิดหรือจินตนาการทางเพศ
3) การไม่มีหรือลดลงของการเริ่มต้นกิจกรรมทางเพศรวมถึงการไม่ตอบสนองต่อความพยายามเริ่มต้นกิจกรรมทางเพศของคู่ด้วย
4) การไม่มีหรือลดลงของความรู้สึกตื่นเต้นทางเพศ
5) การไม่มีหรือลดลงของความสนใจ / ความรู้สึกตื่นเต้นทางเพศในการตอบสนองต่อสัญญาณทางเพศ
Genito-Pelvic pain / Penetration Disorder อย่างน้อย 1 อาการที่ 1) มีความยากลำบากในการสอดใส่ทางช่องคลอดไม่ว่าจะเป็น Sexual Intercourse หรือการตรวจภายใน
2) เจ็บบริเวณอวัยวะเพศหรือช่องท้องส่วนล่างเมื่อมีความพยายามจะสอดใส่
3) มีความรู้สึกกลัวต่อการสอดใส่หรือมีการเกร็งและตึงของกล้ามเนื้อบริเวณอุ้งเชิงกราน
4) กล้ามเนื้อบริเวณอุ้งเชิงกรานเกิดการรัดเกร็งขณะพยายามสอดใส่ทางช่องคลอด
Male Hypoactive Sexual Desire Disorder เป็นอาการที่เพศชายมีความต้องการทางเพศลดลง
Premature (Early) Ejaculation หลั่งภายในไม่เกิน 1 นาทีหลังสอดใส่และเกิดขึ้นก่อนที่บุคคลนั้นต้องการ
การรักษา
การช่วยเหลือด้านร่างกาย-การหลีกเลี่ยงการใช้สารที่ส่งผลต่อสมรรถภาพทางเพศเช่นบุหรี่สุราและสารเสพติด-กรณีที่ยาที่ใช้อยู่ในปัจจุบันส่งผลต่อสมรรถภาพทางเพศให้ปรึกษาแพทย์เพื่อพิจารณาปรับเปลี่ยนยา-กรณีที่เกิดจากการมีระดับฮอร์โมนที่ผิดปกติเช่น Testosterone ต่ำอาจพิจารณาในการเพิ่มระดับฮอร์โมนโดยการฉีดหรือการใช้แผ่นแปะหรือใช้ยา Bromocriptine เพื่อรักษาระดับของฮอร์โมน Prolactin ที่เพิ่มมากไปเป็นต้น
การช่วยเหลือด้านจิตสังคม ได้แก่ -สนับสนุนและเปิดโอกาสให้ผู้ป่วยได้สำรวจความรู้สึกของตนเองกับปัญหาที่เกิดขึ้น-ให้ความรู้ปรับทัศนคติและฝึกทักษะหรือเทคนิคที่จำเป็นต่างๆ
ปัญหาเอกลักษณ์ทางเพศ
การวินิจฉัย
มีการแสดงออกอย่างชัดเจนถึงความไม่สอดคล้องกันของเพศที่แสดงออกหรือเพศที่ต้องการเป็นกับเพศที่ถูกกำหนดมาหรือเพศที่เป็นอยู่โดยมีระยะเวลาไม่น้อยกว่า 6 เดือน
ภาวะในข้อ 1 ส่งผลให้บุคคลนั้นเกิดความรู้สึกทุกข์ใจอย่างมากหรือทำให้เกิดความบกพร่องในหน้าที่ทางสังคมการงาน / การเรียนหรือหน้าที่สำคัญอื่น ๆ
อาการ
แสดงออกทางพฤติกรรมในลักษณะของเป็นเพศตรงข้ามอยู่เสมอหรือยืนยันว่าตนเองเป็นเพศตรงข้ามโดยในเด็กชายพบว่าชอบแต่งตัวซุดเด็กผู้หญิงหรือคล้ายผู้หญิง
ชอบเล่นเป็นเพศตรงข้ามมากในการละเล่นบทบาทสมมุติหรือมีจินตนาการว่าเป็นเพศตรงข้ามโดยเป็นอยู่ตลอดต้องการร่วมในเกมที่เป็นของเพศตรงข้ามหรือมีงานอดิเรกแบบเพศตรงข้ามมาก
ต้องการที่จะมีเพื่อนเล่น / เพื่อนคู่หูเป็นเพศตรงข้ามอย่างมาก
มีความรู้สึกอึดอัดไม่สบายใจกับเพศตามร่างกายของตนหรือรู้สึกว่าบทบาทตามเพศของตนเองนั้นไม่เหมาะสมอยู่ตลอด
ต้องการอย่างมากที่จะทำให้ผู้อื่นเชื่อว่าตนเองมีความรู้สึกและการแสดงออกแบบเดียวกับเพศตรงข้ามกับเพศที่ถูกกำหนดมา
มีความไม่ชอบอย่างมากในอวัยวะเพศของตนต้องการอย่างมากที่จะกำจัดลักษณะทางเพศ
การรักษา
ด้านร่างกาย
ช่วงวัยเด็ก
การช่วยเหลือให้เด็กก้าวเข้าสู่การใช้ชีวิตแบบเพศที่ต้องการได้อย่างสมบูรณ์ไม่มองว่า Gender Dysphoria นี้เป็นความผิดปกติโดยดูแลประคับประคองทางด้านจิตใจ
การให้ความสำคัญกับความต้องการของพ่อแม่ผู้ปกครอง) ในการบำบัดภาวะ Gender dysphoria ในเด็กโดยการพยายามให้เด็กได้มีการแสดงออกที่สอดคล้องกับเพศที่ตนเป็นอยู่ให้มากที่สุด
การจัดการกับปัญหาที่เกิดขึ้นในปัจจุบันของเด็กและผู้ปกครองไม่เน้นการจัดการกับ Gender Dysphoria โดยตรงเพื่อให้เด็กและครอบครัวได้
ช่วงวัยรุ่น
ประเมินและซักประวัติให้ครอบคลุมทั้งด้านร่ายกายจิตใจการปรับตัวในการใช้ชีวิตแบบเพศที่ต้องการในชีวิตประจำวันเพื่อกำหนดแนวทางในการช่วยเหลือโดยเน้นการประคับประคองด้านจิตใจการให้ความรู้ทั้งแก่วัยรุ่นและครอบครัวบางรายอาจพิจารณาให้ฮอร์โมนเพื่อชะลอการเปลี่ยนแปลงเข้าสู่วัยรุ่นเช่น Gonadotropin-releasing hormone (GnRH) ทำให้วัยรุ่นได้ค้นหาอัตลักษณ์ทางเพศที่แท้จริงของตนผู้ใหญ่
ด้านจิตใจ
ให้ข้อมูลความรู้ที่ถูกต้องเกี่ยวกับปัญหาทางเพศของผู้ป่วยรวมทั้งความรู้เกี่ยวกับการตอบสนองทางเพศปกติของบุคคล
เปิดโอกาสให้ผู้ป่วยพูดระบายความรู้สึกและได้ซักถามปัญหาข้อข้องใจต่างๆเกี่ยวกับเรื่องทางเพศด้วยท่าทีที่สงบปราศจากอคติ
ช่วยให้ผู้ป่วยรู้จักเข้าใจตนเองยอมรับอารมณ์และความต้องการที่แท้จริงของตนเองกรณีที่ผู้ป่วยเลือกที่จะเป็นเพศตรงข้าม
ทำจิตบำบัดรายบุคคลและครอบครัวบำบัดเพื่อช่วยให้บุคคลและครอบครัวมีวิธีการปรับแก้ปัญหาที่เหมาะสมและมีประสิทธิภาพเช่น CET, PST
ส่งเสริมให้มีทักษะการเผชิญกับปัญหาที่เหมาะสมโดยให้ผู้ป่วยระบุปัจจัยที่เป็นสาเหตุหรือความรุนแรงของพฤติกรรมการจัดการปัญหาที่ใช้ในปัจจุบัน
ประเมินความต้องการในการผ่าตัดแปลงเพศให้ผู้ป่วยสำรวจความต้องการที่แท้จริงและให้พิจารณาประโยชน์และผลที่จะตามมา
ภาวะพฤติกรรมทางเพศที่วิปริต
เกณฑ์การวินิจฉัย
Anomalous Activity Preferences ความเบี่ยงเบนที่เกิดขึ้นจากลักษณะของกิจกรรมที่ทำให้เกิดอารมณ์ทางเพศ
Anormalous Target Preferences ความเบี่ยงเบนที่เกิดขึ้นจากลักษณะของเป้าหมายที่มีกิจกรรมทางเพศด้วย
Other specified paraphilic disorder
การรักษา
การช่วยเหลือทางด้านร่างกาย
การใช้ยา เช่น กลุ่มที่เกี่ยวข้องกับฮอร์โมน
การช่วยเหลือทางด้านจิตสังคม
บำบัดรายบุคคคล
ทำพฤติกรรมบำบัด
เพศบำบัด
การวางแผนการพยาบาล
sexual dusfunction
มีแบบแผนการแสดงออกทางเพศที่มีประสิทธิภาพ
มีสัมพันธภาพที่ดีกับคู่สมรส
มีความรู้และทักษะในการปฏิบัติตัวที่ถูกต้อง
gender dysphoria
เข้าใจและยอมรับความรู้สึก
ใช้ชีวิตตามเพศที่ถุกต้องการ
paraphilic disorders
สามารถควบคุมตนเองได้เมื่อมีความตื่นเต้นทางเพศ
มีการแสดงออกทางเพศที่เหมาะสม
ปัญหาการนอน
โรคนอนไม่หลับ
โรคนอนหลับมากผิดปกติ
โรคลมหลับ
โรคนอนหลับจากปัญหาการหายใจ
ความผิดปกติของเวลาการหลับและตื่น
โรคการตื่นตัวผิดปกติขณะนอนหลับ
โรคฝันร้าย
โรคความผิดปกติของพฤติกรรมในช่วง REM
โรคขาอยู่ไม่สุข
โรคการนอนที่เกิดจากสาร
การพยาบาล
เป้าหมายสำคัญขึ้นอยู่กับข้อวินิจฉัยทางการพยาบาลและข้อมูลสนับสนุน
การรักษา
การช่วยเหลือผู้ป่วยที่นอนไม่หลับ
พฤติกรรมบำบัดเช่น-เทคนิคการผ่อนคลาย (Relaxation therapy)-การใช้การป่าบัดแนวปรับความคิด (Cognitive intervention) ซึ่งเป็นเทคนิคที่ปรับเปลี่ยนสิ่งที่อยู่ในใจที่กระตุ้นความวิตกกังวลและความกลัวให้พ้นไปอาจแนะนำให้“ ปิดสวิตซ์” ความคิดที่แล่นในใจอ่านหนังสือก่อนนอนจนกระทั่งเริ่มง่วงนอนใช้การนับถอยหลังเป็นต้น
การบำบัดโดยการควบคุมสิ่งเร้าใช้สำหรับผู้ที่นอนหลับไม่พอจนเป็นนิสัยให้เข้านอนตอนกลางคืนเมื่อง่วงมากเท่านั้นหากไม่ง่วงให้ลุกมาทำกิจกรรมจนกว่าจะง่วงแล้วจึงเข้านอนและตื่นเช้าให้เป็นเวลาเสี่ยงการงีบหลับในตอนกลางวัน
การนอนหลับแบบ จำกัด เวลานอนใช้การบันทึกระยะเวลานอน (Sleep diary) โดยบันทึกเวลาที่คิดว่าเข้านอนบนที่นอนและเวลาที่คาดว่าหลับจริงจากนั้นให้ผู้ป่วยนอนเท่าเวลาที่เขาคิดว่าหลับได้จริงเช่นผู้ป่วยบอกว่าสามารถหลับได้นานเพียง 4 ชั่วโมงจากปกติที่นอน 8 ชั่วโมงจะต้องปลุกให้ตื่นเมื่อครบเวลา 4 ชั่วโมงและไม่ให้จีบนอนต่อระหว่างวันเมื่อผู้ป่วยนอนได้ร้อยละ 90 ของเวลาจึงเพิ่มเวลาให้นอนต่อได้ 15 นาทีวิธีนี้จะทำให้ผู้ป่วยอ่อนเพลียและหลับได้ในเวลาต่อมา
การช่วยเหลือสำหรับผู้ที่นอนหลับมาก
1) พิจารณาสาเหตุแล้วจึงแก้ไขตามสาเหตุ
2) ดูแลเรื่องความปลอดภัยเพราะการนอนมากหรือง่วงตลอดเวลามีความสัมพันธ์กับการขาดสมาธิและปัญหาด้านความจ้า
3) ให้ผู้ป่วยหรือให้คนใกล้ชิดบันทึกเวลาที่ง่วงเวลากับเวลาตื่นเพื่อพิจารณาว่าอาการง่วงที่ผู้ป่วยรับรู้นั้นอยู่ในเกณฑ์ปกติหรือผิดปกติ
4) ให้ผู้ป่วยจัดตารางการทำกิจกรรมและการพักผ่อนเพื่อช่วยในการควบคุมอาการง่วง
5) พยายามอยู่ในพื้นที่ที่มีแสงสว่างมากหากง่วงให้สุกเดินหรือเปลี่ยนสถานที่หรือทำกิจกรรรมที่ทำให้เกิดความเพลิดเพลิน
6) ตั้งนาฬิกาปลุกช่วยและเปิดหน้าต่างผ้าม่านให้แสงสว่างผ่านเข้ามาว่าผู้ป่วยที่มี