Please enable JavaScript.

Coggle requires JavaScript to display documents.

PBL ครั้งที่ 3, image, อ้างอิง, โฉมพิลาศ จงสมชัยภาควิชาสูติศาสตร์และนรีเวช…

- - - - การตรวจสอบประวัติการคลอด และการตรวจร่างกายทั่วไปดูระดับความรู้สึกตัว ดูภาวะซีด
      - วัดสัญญาณชีพตั้งแต่หลังรกคลอดทันที ติดตามทุก 15 นาที ใน 1 ชั่วโมงแรก ทุก 30 นาที ในชั่วโมงที่ 2-4 และทุก 4 ชั่วโมงจนครบ 24 ชั่วโมงแรกหลังคลอด
    - - การประเมินลักษณะของเต้านม หัวนม และการไหลของน้านม เพื่อประเมินความพร้อมในการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ การอุ้มลูกดูดนม
      - 3 ด.
        
        ดูดเร็ว คือ ดูดนม 15-3นาที หลังคลอด
        
        ดูดบ่อย คือ ดูดทุกๆ 2-3 ชั่วโมง
        
        ดูดให้ถูกวิธี คือ ให้ลูกงับนมถึงลานนม,ไม่มีเสียงดูด
    - - ประเมินกระเพาะปัสสาวะ กระตุ้นให้มารดาหลังคลอดปัสสาวะเองภายใน 6 ชั่วโมงหลังคลอด การประเมินระดับยอดมดลูก และการหดรัดตัวของมดลูก ระยะหลังคลอดใหม่ควรประเมินการหดรัดตัวของมดลูกทุก 15 นาที 4 ครั้ง และทุก 1 ชั่วโมงจนเป็นปกติ ต่อจากนั้น ควรวัดและบันทึกระดับยอดมดลูกทุกวันอย่างน้อยวันละ 1 ครั้ง ในเวลาเดียวกัน
    - - ประเมินลักษณะและปริมาณของเลือดหรือน้าคาวปลาที่ออกจากช่องคลอด ไม่ควรเกิน 500 cc. เพราะอาจเสี่ยงต่อการตกเลือด ทำการบันทึกทุก 15 นาที ในระยะ 2 ชั่วโมงแรก บันทึกทุก 1-2 ชั่วโมงในระยะ 4 ชั่วโมงหลังคลอด และบันทึกทุก 4 ชั่วโมงจนครบ 24 ชั่วโมงแรกหลังคลอด
      - ชั่วโมงแรกควรออกไม่เกิน 60 ซีซี และชั่วโมงต่อไป ไม่เกิน 30 ซีซี
      - ประเมินบริเวณช่องทางคลอดและแผลฝีเย็บ REEDA Scale
        
        Redness คือ แผลมีลักษณะ แดงอักเสบหรือไม่
        
        Edema คือ แผลมีลักษณะบวม หรือไม่
        
        Ecchymosis คือ แผลมีรอยช้าเลือดหรือจ้าเลือด หรือไม่
        
        Discharge คือ แผลมีเลือดน้าเหลืองหรือหนอง ซึมออกมาหรือไม่
        
        Approximate คือ แผลฝีเย็บ ขอบเรียบชิดติดกันดีหรือไม่
    - - การประเมินทวารหนักและอวัยวะโดยรอบ ว่ามีอาการปวด บวม แดง หรือมีเลือดคั่งหรือไม่ ซึ่งต้องระวัง เพราะรายที่มีการตกเลือดอาจเกิดจากการมีเลือดคั่งที่แผลฝีเย็บ