Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
ภาวะมดลูกแตก (Uterine rupture), มี3ลักษณะ ดังนี้ - Coggle Diagram
ภาวะมดลูกแตก
(Uterine rupture)
อุบัติการณ์
พบได้แตกต่างกันตั้งแต่ 1:100 - 1:1 1,000 โครงการคลอดโดยในกลุ่มที่ไม่มีแผลที่ตัวมดลูกมาก่อน อุบัติการณ์จะต่ำกว่ากลุ่มที่มีแผลที่มดลูกอย่างชัดเจน
การพยาบาล
การพยาบาลเพื่อการป้องกันไม่ให้เกิดภาวะมดลูกแตก
มารดาที่เคยผ่าตัดคลอดทางหน้าท้อง ควรแนะนำให้คุมกำเนิด และเว้นระยะในการตั้งครรภ์อย่างน้อย 2 ปี และเมื่อตั้งครรภ์และมาฝากครรภ์ครั้งแรกควรส่งพบแพทย์
ในระยะคลอดต้องเฝ้าดูแลมารดาอย่างใกล้ชิด
ตรวจการหดรัดตัวของมดลูก ถ้าพบว่าเป็นปกติ คือ interval < 2 นาที duration >90 วินาที resting period < 1 นาที,30 วินาที และintensity+4
สังเกตลักษณะมดลูก ถ้าพบว่ามีลักษณะ Bandl's ring คือมดลูกแบ่งเป็นสองลอน หน้าท้องแข็งตลอดเวลามารดากระสับกระส่าย ปวดท้องมาก แน่นอึดอัดในท้อง ฟังเสียงหัวใจทารกไม่ได้ยิน ให้รายงานแพทย์
มารดาที่มีประวัติการคลอดยาก ผ่าตัดมดลูก และเคยได้รับการทำสูติศาสตร์หัตถการ ควรแนะนำให้ฝากครรภ์อย่างสม่ำเสมอในระยะตั้งครรภ์ และแนะนำให้มาคลอดที่โรงพยาบาล
ในกรณีที่มีการตั้งครรภ์ผิดปกติ หรือมีภาวะแทรกซ้อนของการตั้งครรภ์ เช่น ทารกท่าขวาง เด็กหัวบาตร การคลอดล่าช้า เคยผ่าตัดที่มดลูก ควรรีบรายงานแพทย์เพื่อพิจารณาผ่าท้องทำคลอด
การพยาบาลเมื่อมีภาวะมดลูกแตกแล้ว
เตรียมอุปกรณ์ช่วยฟื้นคืนชีพ
ให้การดูแลจิตใจมารดาและครอบครัว ในกรณีที่สูญเสียบุตร
เตรียมมารดาเพื่อทำผ่าตัดในรายที่มีภาวะเสี่ยงต่อมดลูกแตก หรือในรายที่มดลูกแตก
ลักษณะของมดลูกแตก
1.มดลูกแตกสมบูรณ์ (Complete rupture) รอยแตกทะลุชั้นเยื่อบุช่องท้อง (peritoneum)มดลูกแตกลักษณะนี้ทารกมักจะหลุดเข้าไปอยู่ในช่องท้อง
2 มดลูกแตกไม่สมบูรณ์ (Incomplete rapture)รอยแตกไม่ทะลุชั้นperitoneumคือมีการฉีกขาดของฉันกล้ามเนื้อมดลูกเท่านั้นส่วนชั้นperitoneumยังคงปกติดีอยู่
3 มดลูกปริ (Dehiscence)อาจไม่พบอาการอะไรเลยในไลน์ที่เคยผ่าตัดมดลูก แพ้เขาอาจแยกจากกันโดยเยื่อหุ้มรกยังไม่แตก ซึ่งอาการอาจดำเนินอย่างค่อยๆเป็นค่อยๆไป และในระยะคลอดมดลูกปริ อาจจะกลายเป็นรูปแตกได้
ความหมาย
ภาวะที่มีการฉีกขาดของผนังมดลูก ในขณะตั้งครรภ์หลังจากทารกโตพอที่จะมีชีวิตอยู่ได้ หรือหลังอายุครรภ์ 28 สัปดาห์ และเกิดการฉีกขาดระหว่างตั้งครรภ์ ระหว่างเจ็บครรภ์ หรือระหว่างการคลอด โดยไม่รวมกันแตกหรือการฉีดในการตั้งครรภ์นอกมดลูก อาการทะลุของมดลูกที่ไม่ได้ตั้งครรภ์
ชนิดของมดลูกแตก
การแตกของมดลูกที่เป็นปกติ เนื่องจากได้รับการกระทบกระเทือน (Traumatic rupture of the intact uterus)
การแตกเองของมดลูก (Spontaneous rupture of the intact uterus)
การแตกของแผลเป็นที่ตัวมดลูก (Rupture previous uterine scar)
สาเหตุ
เคยผ่านการตั้งครรภ์ และการคลอดบุตรจำนวนมาก
การใช้ยากระตุ้นการหดรัดตัวของมดลูก
การบาดเจ็บบริเวณช่องท้องอย่างรุนแรงจากการได้รับอบุติเหตุ
รกฝังตัวลึกชนิด placenta percreta หรือ placenta increta
การทำสูติศาสตร์หัตถการอย่างยาก
การคลอดติดขัด (obstructed labor) จากการผิดสัดส่วนระหว่างศีรษะทารกกับช่องเชิงกราน, contracted pelvis, hydrocephalus ทารกอยู่ในท่าผิดปกติ
รอยแผลผ่าตัดเดิม จากแผลผ่าท้องคลอด หรือแผลผ่าตัดอื่นๆ
อาการและอาการแสดง
อาการและอาการแสดงเตือนว่ามดลูกจะแตก
กดเจ็บบริเวณเหนือหัวเหน่า โดยเฉพาะบริเวณส่วนล่างของมดลูก
พบ Bandl's ring หรือ pathological retraction ring จากการตรวจหน้าท้องเห็นมดลูกเป็นสองลอน
กระสับกระส่าย ชีพจรเบาเร็ว หายใจไม่สม่ำเสมอ
จากการตรวจภายในช่องคลอด พบปากมดลูกลอยสูงขึ้น เนื่องจากถูกดึงรั้งขึ้นไปและอาจพบปากมดลูกบวม
ปวดท้องน้อยบริเวณเหนือหัวเหน่าอย่างรุนแรง
อัตราการเต้นของหัวใจทารกในครรภ์ไม่สม่ำเสมอ
มดลูกหดรัดตัวตลอดเวลา ไม่สัมพันธ์กับความก้าวหน้าของการคลอด
อาจมีเลือดออกทางช่องคลอด
อาการและอาการแสดงของมดลูกแตก
เสียงหัวใจทารกจะเปลี่ยนแปลง หรือหายไปขึ้นอยู่กับพยาธิสภาพของมดลูกที่แตก
การตรวจภายในพบว่าส่วนนำถอยกลับ หรือสูงขึ้น หรือตรวจไม่ได้ส่วนนำ และอาจคลำพบรอยแตกของมดลูก
คลำส่วนของทารกได้ชัดเจนมากขึ้น และอาจคลำได้ส่วนของมดลูกอยู่ข้างๆทารก
อาจคลำได้ก้อนหยุ่นๆ ข้างมดลูก ถ้ามีเลือดเข้าไปขังอยู่ใน broad ligament
ถ้ามีภาวะ hypovolemia shock มารดาจะมีอาการกระสับกระส่าย ชีพจรเบาเร็ว คววามดันโลหิตต่ำ เหงื่อออก ตัวเย็น หายใจไม่สม่ำเสมอ และหมดความรู้สึก
สวนปัสสาวะอาจได้เลือดปนในปัสสาวะ ถ้ามีการฉีกขาดของกระเพาะปัสสาวะ
บางรายพบมีเลือดออกทางช่่องคลอดมากผิดปกติ
ปวดท้องอย่างรุนแรง รู้สึกอึดอัดเนื่องจากเลือด น้ำคร่ำและตัวทารก ก่อความระคายเคืองต่อเยื่อบุช่องท้อง
อาการปวดท้องน้อยจะทุเลาลง ภายหลังจากที่มารดาบางรายบอกว่ารู้สึกเหมือนกับการแยกออกขแงอวัยวะในช่องท้อง
การรักษา
รายงานกุมารแพทย์ เพื่อช่วยฟื้นคืนชีพทารก ในกรณีที่ทารกยังมีชีวิต
4.การเย็บซ่อมแซมหรือตัดมดลูก ขึ้นอยู่กับพยาธิสภาพการแตกของมดลูก และความต้องการมีบุตรอีกหรือไม่ ถ้าไม่ต้องการมีบุตรและเย็บซ่อมแซมได้ให้ทำหมันด้วย ซึ่งส่วนใหญ่จะตัดมดลูกออก
การผ่าตัดเปิดช่องท้อง (exploratory laparotomy) ไม่ว่าทารกจะมีชีวิตหรือไม่ เพื่อแก้ไขสาเหตุของมดลูกแตก
ถ้าเลือดออกอีกอาจต้องทำผ่าตัด เพื่อผูก hypogastric arteries ทั้งสองข้างร่วมด้วย ภายหลังกานตัดมดลูกออกแล้ว
แก้ไขภาวะช็อค
ให้เลือดทดแทน และให้ยาปฎิชีวะนะ
ผลกระทบของภาวะมดลูกแตก
ผลกระทบต่อทารก
พบว่ามีอัตราการตายปริกำเนิดของทารกจากภาวะมดลูกแตกร้อยละ 50-70 เนื่องจากทารกขาดออกซิเจน
ผลกระทบต่อมารดา
พบว่า อัตราตายของมมรดาจากมดลูกแตกเพิ่มขึ้น ซึ่งส่วนใหญ่สัมพันธ์กับการเสียเลือดทั้งก่อนและหลังคลอด และเกิดการติดเชื้อ
มี3ลักษณะ ดังนี้