Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
ภาวะตกเลือดหลังคลอด - Coggle Diagram
ภาวะตกเลือดหลังคลอด
ชนิดของการตกเลือดหลังคลอด
การตกเลือดหลังคลอดระยะแรก
(Early or immediate postpartum hemorrhage)
สาเหตุ
การมดลูกหดรัดตัวไม่ดี (uterine atony)
การเจ็บครรภ์คลอดที่เนินนาน หรือ การคลอดเร็วเกินไป
กล้ามเนื้อมดลูกมีการยืดขยายมากผิดปกติ ได้แก่ ครรภ์แฝด ครรภ์แฝดน้ำ ทารกตัวโต
คลอดบุตรหลายครั้ง โดยเฉพาะมากกว่า 5 ครั้ง
การคลอดยาก หรือ การใช้สูติศาสตร์หัตถการช่วยคลอด
ภาวะเลือดออกก่อนคลอดจากภาวะรกเกาะต่ า หรือ รกลอกตัวก่อนกำหนด
การฉีกขาดของช่องทางคลอด
การทำคลอดและการช่วยคลอดที่ไม่ถูกต้อง
การคลอดเร็วผิดปกติทำให้ช่องทางคลอดปรับตัวหรือขยายตัวไม่ทัน เกิดการฉีกขาด
การตัดฝีเย็บที่ไม่ถูกวิธี
มดลูกบางกว่าปกติ
รกหรือเศษรกค้างภายในโพรงมดลูก (Tissue)
การมีรกค้าง
การทำคลอดรกผิดวิธี เช่น การดึงสายสะดือ การล้วงรก
ความผิดปกติของรก เช่น รกมีขนาดใหญ่ หรือ รกเกาะลึกร่วมกับการทำคลอดรกผิดวิธี
การมีรกน้อย เช่น Placenta succenturiata
ความผิดปกติของการแข็งตัวของเลือด (Thrombin)
ภาวะเลือดแข็งตัวผิดปกติ
การวินิจฉัยการตกเลือดหลังคลอดระยะแรก
อาการและอาการแสดง
การมีเลือดออก ซึ่งอาจไหลออกมาให้เห็นทางช่องคลอด หรืออาจไม่มีเลือดออกมาให้เห็นแต่ขังอยู่ข้างใน
เกิดเลือดคั่งที่เอ็นยึดมดลูก จะไม่ปรากฏเลือดไหลออกมาให้เห็นภายนอก
มดลูกปลิ้นก็จะพบว่ามีเลือดพุ่งออกมาให้เห็นเป็นจำนวนมาก และอาจมีลิ่มเลือดสีแดงคล้ำปนออกมาด้วย
การฉีกขาดของหนทางคลอด เลือดที่ไหลออกมาจะเป็นสีแดงสด
การฉีกขาดของหลอดเลือดฝอยจะพุ่งแรงตามจังหวะของชีพร และจะไหลไม่หยุดแม้จะทำให้มดลูกแข็งตัวแล้ว
กรณีที่เกิดจากการที่มดลูกหดรัดตัวไม่ดี ส่วนใหญ่เลือดจะมีสีคล้ำลิ่มเลือดปนและเลือดจะหยุดไหลเมื่อมดลูกหดรัดตัวดี
หากมีเศษรกค้าง ส่วนใหญ่จะเกิดการตกเลือดหลังคลอดทันที
มดลูกหดรัดตัวไม่ดี จะคลำได้มดลูกนุ่ม ไม่ตึงตัว
อาการแสดงของภาวะตกเลือด หน้าซีด ชีพจรเต้นเร็ว ระยะแรกจะหายใจเร็วต่อมาจะหายใจช้า ใจสั่น เหงื่อออกมาก อ่อนเพลีย ความดันหิตต่ำหมดสติและถึงแก่ชีวิตได้
ผลจากการตกเลือดหลังคลอดระยะแรก
ผู้คลอด
มีอาการใจสั่น ซีดลง ชีพจรเบาเร็ว ความดันโลหิตต่ำ ช็อก มีการ
ขาดออกซิเจน เกิดภาวะอวัยวะล้มเหลว ได้แก่ ไตวาย หัววาย
ทารก
อ่อนเพลีย ซีด สุขภาพทรุดโทรม และภาหลังพบว่า
อาจจะเกิด Anterior pituitary necrosis
การป้องกันการตกเลือดหลังคลอดระยะแรก
ระยะก่อนคลอด
การซักประวัติอย่างละเอียดเพื่อหาปัจจัยเสี่ยงที่จะเกิดการตกเลือดหลัง
คลอด
การตรวจร่างกาย ค้นหาภาวะโลหิตจาง รวมทั้งแก้ไขและให้ธาตุเหล็กเสริมกับผู้ป่วยที่มาฝากครรภ์ทุกราย
ระยะคลอด
ดูแลไม่ให้เกิดการคลอดยาวนาน
ระวังการให้ยาแก้ปวดในขนาดที่มากเกินไป
เพราะอาจเกิดผลต่อการหดรัดตัวของมดลูก
ทำคลอดในระยะที่ 2 และระยะที่ 3 อย่างถูกต้องเหมาะสม
ตรวจรกและช่องทางคลอดอย่างละเอียด
ระยะหลังคลอด
ดูแลให้กระเพาะปัสสาวะว่าง โดยกระตุ้นให้ถ่ายปัสสาวะภายใน 2 ชั่วโมงแรกหลังคลอด
ในรายที่ได้รับยากระตุ้นให้เกิดการเจ็บครรภ์ อาจให้ Oxytocin ต่อภายหลัง การคลอดอย่างน้อย 2 ชั่วโมง
กระตุ้นให้บุตรดูดนมมารดาทันทีหลังคลอด เพื่อกระตุ้นให้ฮอร์โมน Oxytocin หลั่งมากขึ้นเพื่อให้มดลูกหดรัดตัวดี
การตกเลือดหลังคลอดระยะหลัง
(Late or Delay postpartum hemorrhage) เป็นการตกเลือด
ระยะที่เกิดขึ้นภายหลังคลอด 24 ชั่วโมงไปแล้วจนถึง 6 สัปดาห์หลังคลอด
กรณีมดลูกหดรัดตัวไม่ดี
คลึงมดลูกให้หดรัดตัวตลอดเวลา
สวนปัสสาวะออกให้หมด แล้วคาสายสวนไว้ เพื่อให้กระเพาะปัสสาวะว่าง ไม่ขัดขวางการหดรัดตัวของมดลูก
ให้สารน้ำทางหลอดเลือดดำ
ฉีด Methergin 0.2 mg เข้าทางหลอดเลือดดำ
วางกระเป๋าน้ าแข็งบริเวณหน้าท้อง
และคลึงให้มดลูกหดรัดตัวตลอดเวลา
กรณีมีการฉีดขาดของช่องทางคลอด
มีการฉีกขาด ต่อจากแผลฝีเย็บและบริเวณด้านข้างของปากมดลูก
ให้เย็บรอยฉีกขาดเหล่านั่นจนเลือดหยุด
สาเหตุ
มีก้อนเลือด หรือเศษรกค้างอยู่ภายในโพรงมดลูก
ภาวะติดเชื้อภายในโพรงมดลูก
เลือดออกจากแผลภายในช่องคลอดมักเกิดจาก
การติดเชื้อบริเวณแผลภายในช่องคลอด
ผลของการตกเลือดหลังคลอดระยะหลัง
ภาวะซีด อ่อนเพลีย สุขภาพทรุดโทรม
ภูมิต้านทานโรคต่ำ ติดเชื้อได้ง่าย
เกิด Necrosis ของต่อมใต้สมองส่วนหน้า (Sheehan’ s syndrome)
การรักษา
การตกเลือดหลังคลอดระยะแรก
ตรวจวัดความดันโลหิต ชีพจร การหายใจ
ให้สารน้ำทางหลอดเลือดดำ คือ 5% D/W หรือ 5% D/NSS หรือ Ringer lactasesolution (RLS) 1,000 ml. ร่วมกับ Oxytocin 10 – 20 unit โดยเร็ว
ใส่สายสวนปัสสาวะคาไว้ เพื่อวัดปริมาณของปัสสาวะที่ออกมา และลดสิ่งขัดขวางการหดรัดตัวของมดลูก
ตรวจรกที่คลอดแล้วอย่างละเอียด
คลึงมดลูกให้หดรัดตัวตลอดเวลา
การตกเลือดหลังคลอดระยะหลัง
รายที่มีเศษรกค้าง ให้Oxytocin แล้วทำการขูดมดลูกด้วย
ความระมัดระวัง
รายที่มีการติดเชื้อภายในโพรงมดลูกพิจารณาให้ยาช่วยการหดรัดตัวของมดลูก เพื่อช่วยให้มดลูกหดรัดตัวดี ร่วมกับให้ยาปฏิชีวนะ
รายที่มีเลือดออกจากแผลภายในช่องคลอด ให้ทำความสะอาดและเย็บแผลให้เลือดหยุด
ความหมาย
ภาวะที่มีการเสียเลือดหลังคลอด ตั้งแต่ 500 มิลลิลิตรขึ้นไป หลังจากเสร็จสิ้นการคลอดในระยะที่ 3 (ภายหลังรกคลอด)
กระบวนการพยาบาลในการดูแลมารดา
หลังคลอดที่มีภาวะตกเลือด
การประเมินสภาพ
การซักประวัติ
ประวัติส่วนตัว เช่น ภาวะโลหิตจาง การแข็งตัวของเลือดผิดปกติ
ประวัติทางสูติศาสตร์
ประวัติความผิดปกติในระยะตั้งครรภ์ เช่น ภาวะครรภ์เป็นพิษ
การตรวจร่างกาย ตามระบบต่างๆ
การหดรัดตัวของมดลูก มักคลำได้นุ่ม
การฉีกขาดของช่องทางคลอด
การบวมเลือดของอวัยวะสืบพันธุ์
การมีรกหรือเศษเยื่อหุ้มรกค้างในโพรงมดลูก
มีเลือดสดออกทางช่องคลอด
การตรวจทางห้องปฏิบัติการที่จ้าเป็น
CBC, การตรวจหาหมู่เลือด และการตรวจเลือดเพื่อประเมิน
การแข็งตัวของเลือด เช่น Platelets, PT, PTT , Fibrinogen depression
การพยาบาล
ข้อวินิจฉัยการพยาบาลข้อที่ 1
มารดาเกิดการตกเลือดหลังคลอด
เนื่องจากมดลูกหดรัดตัวไม่ด
กิจกรรมการพยาบาล
คลึงมดลูกจนหดรัดตัวกลมแข็ง และไล่ก้อนเลือดที่อาจค้างอยู่ในมดลูก
ดูแลกระเพาะปัสสาวะให้ว่าง โดยการสวนคาสายปัสสาวะไว้ เพื่อไม่ให้ขัดขวางการหดรัดตัวของมดลูก และบันทึกปริมาณปัสสาวะทุก 1 ชั่วโมง
ดูแลให้ได้รับ RLS 1,000 ซีซี + syntocinon 20 ยูนิต ทางหลอดเลือดด า rate 82 ml./hrตามแผนการรักษา
หากมีการเสียเลือดรีบรายงานแพทย์ดูแลให้ได้รับเลือด (PRC) 20 ยูนิต ทางหลอดเลือดด าตามแผนการรักษา
สังเกตลักษณะและจำนวนเลือดที่ออกทางช่องคลอด เพื่อประเมินความรุนแรงของการตกเลือด
ติดตามสัญญาณชีพทุก 15 นาที พร้อมประเมินการหดรัดตัวของมดลูก และการเสียเลือดเพื่อประเมินภาวะ Shock เช่น ชีพจรเบาเร็ว ความดันโลหิตต่ าลง เหงื่อออก ตัวเย็น