Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
การพยาบาลมารดาที่มีภาวะมดลูกแตก (Uterine rupture / Rupture of the…
การพยาบาลมารดาที่มีภาวะมดลูกแตก
(Uterine rupture / Rupture of the uterus)
ภาวะที่มีการฉีกขาดของผนังมดลูก ในขณะตั้งครรภ์หลังจากทารกโตพอที่จะมีชีวิตอยู่ได้ หรือหลังอายุครรภ์ 28 สัปดาห์
ลักษณะของมดลูกแตก
มดลูกแตกสมบูรณ์ (Complete rupture)
รอยแตกทะลุชั้นเยื่อบุช่องท้อง (peritoneum) มดลูก ทารกมักจะหลุดเข้าไปอยู่ในช่องท้อง
มดลูกแตกไม่สมบูรณ์ (Incomplete rupture)
รอยแตกไม่ทะลุชั้น peritoneum คือ มีการฉีกขาดของชั้นกล้ามเนื้อมดลูกเท่านั้น ส่วนชั้น peritoneum ยังคงปกติดีอยู่
มดลูกปริ (Dehiscence)
รายที่เคยผ่าตัดมดลูก แผลเก่าอาจปริแยกจากกันโดยเยื่อหุ้มรกยังไม่แตก ในระยะคลอดมดลูกปริ อาจจะกลายเป็นมดลูกแตกได้
ชนิดของมดลูกแตก
การแตกของแผลเป็นที่ตัวมดลูก (Rupture previous uterine scar)
่มดลูกแตกจากแผลเป็นของการผ่าท้องทำคลอดในการผ่าตัดชนิดคลาสสิคัล (classical)
การแตกของมดลูกที่เป็นปกติ
ได้รับการกระทบกระเทือน (Traumatic rupture of the intact uterus) การแตกชนิดนี้พบได้น้อยระหว่างตั้งครรภ์ เกิดจากอุบัติเหตุและมีการบาดเจ็บที่บริเวณช่องท้อง ส่วนมากจะพบรกลอกตัวก่อนกำหนดเท่านั้น
การแตกเองของมดลูก (Spontaneous rupture of the intact uterus)
การแตกเองของมดลูกเป็นภาวะที่ค่อนข้างรุนแรง เพราะมีอันตรายต่อมารดาและทารกมาก พบได้บ่อยในมารดาตั้งครรภ์หลังอายุมาก ได้รับยากระตุ้นการหดรัดของมดลูก
สาเหตุ
รอยแผลผ่าตัดเดิมจากแผลผ่าท้องคลอดหรือแผลผ่าตัดอื่นๆ
การทำสูติศาสตร์หัตถการอย่างยาก
การบาดเจ็บบริเวณช่องท้องอย่างรุนแรง (severe abdominal trauma)
เคยผ่านการตั้งครรภ์และการคลอดบุตรจำนวนมาก (grand multiparty)
การใช้ยากระตุ้นการหดรัดตัวของมดลูก
อาการและอาการแสดง
อาการและอาการแสดงเตือนว่ามดลูกจะแตก (threatened uterine rupture)
มดลูกหดรัดตัวตลอดเวลา (tetanic uterine contraction)
ปวดท้องน้อยบริเวณเหนือหัวเหน่าอย่างรุนแรง
กระสับกระส่าย ชีพจรเบาเร็ว หายใจไม่สม่ำเสมอ
กดเจ็บบริเวณเหนือหัวเหน่า
พบ Bandl’s ring หรือ pathological retraction ring จากการตรวจหน้าท้องเห็นมดลูกเป็นสองลอน
ตรวจภายในช่องคลอด พบปากมดลูกลอยสูงขึ้น
อัตราการเต้นของหัวใจทารกในครรภ์ไม่สม่ำเสมอ
อาจมีเลือดออกทางช่องคลอด
อาการและอาการแสดงของมดลูกแตก (uterine rupture)
ปวดท้องน้อยจะทุเลาลง
มีเลือดออกทางช่องคลอดมากผิดปกติ
มารดาจะมีอาการกระสับกระส่าย ชีพจร เบาเร็ว ความดันโลหิตต่ า เหงื่อออก ตัวเย็น หายใจไม่สม่ำเสมอ และหมดความรู้สึก
คลำส่วนของทารกได้ชัดเจนมากขึ้น
เสียงหัวใจทารกจะเปลี่ยนแปลง
ผลกระทบต่อมารดา
อัตราตายของมารดาจากมดลูกแตกเพิ่มขึ้น ซึ่งส่วนใหญ่สัมพันธ์กับการเสียเลือดทั้งก่อนและหลังคลอด และเกิดการติดเชื้อ
ผลกระทบต่อทารก
อัตราการตายปริกำเนิดของทารกจากภาวะมดลูกแตกเนื่องจากทารกขาดออกซิเจน
การรักษา
งดน้ำงดอาหาร
ดูแลให้สารน้ำ Ringer's lactate solution
ดูแลให้ออกซิเจน
รายงานกุมารแพทย์ เพื่อช่วยฟื้นคืนชีพทารก ในกรณีที่ทารกยังมีชีวิต
การเย็บซ่อมแซมหรือตัดมดลูก
ให้เลือดทดแทน และให้ยาปฎิชีวนะอย่างเต็มที่
กรณีที่เย็บซ่อมแซมไม่ได้ควรตัดมดลูกทิ้ง (bilateral hypogastrics arteries ligation)
การพยาบาล
การพยาบาลเพื่อการป้องกันภาวะมดลูกแตก
มารดาที่มีประวัติการคลอดยาก ผ่าตัดมดลูก และเคยได้รับการทำสูติศาสตร์หัตถการ ควรแนะนำให้ฝากครรภ์อย่างสม่ำเสมอในระยะตั้งครรภ์
มารดาที่เคยผ่าตัดคลอดทางหน้าท้อง ควรแนะนำให้คุมกำเนิด และเว้นระยะในการตั้งครรภ์อย่างน้อย 2 ปี และเมื่อตั้งครรภ์และมาฝากครรภ์ครั้งแรกควรส่งพบแพทย์
ระยะคลอดต้องเฝ้าดูแลมารดาอย่างใกล้ชิด
งดน้ำงดอาหาร
ตรวจการหดรัดตัวของมดลูก ถ้าพบว่าผิดปกติ คือ interval ‹ 2 นาที, duration › 90 วินาที resting period ‹ 1 นาที, 30 วินาที และ intensity +4
สังเกตลักษณะมดลูก ถ้าพบว่ามีลักษณะ Bandl’s ring คือมดลูกแบ่งเป็น สองลอน หน้าท้องแข็งตลอดเวลามารดากระสับกระส่วย ปวดท้องมาก แน่นอึดอัดในท้อง ฟังเสียงหัวใจทารก ไม่ได้ยิน ให้รายงานแพทย์
การตั้งครรภ์ผิดปกติ หรือมีภาวะแทรกซ้อนของการตั้งครรภ์ ควรรายงานแพทย์ เพื่อพิจารณาผ่าท้องทำคลอด
การพยาบาลเมื่อมีภาวะมดลูกแตกแล้ว
เตรียมมารดาเพื่อทำผ่าตัดในรายที่มีภาวะเสี่ยงต่อมดลูกแตกหรือในรายที่มดลูกแตก
รายงานแพทย์
งดน้ำงดอาหาร
จัดท่านอนหงายราบศีรษะต่ำ
รักษาความอบอุ่นของร่างกาย
ดูแลให้สารน้ำ Ringer's lactate solution
ดูแลให้ออกซิเจน 5 ลิตร/นาที
ให้เลือดทดแทน
เตรียมผ่าตัดทางหน้าท้อง
บันทึกสัญญาณชีพทุก 5-15 นาที
เตรียมอุปกรณ์ช่วยฟื้นคืนชีพทารก
ปลอบโยนและให้กำลังแก่ผู้คลอด