Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
การพยาบาลมารดาที่ภาวะมดลูกแตก(Uterine rupture/Rupture of the uterus),…
การพยาบาลมารดาที่ภาวะมดลูกแตก(Uterine rupture/Rupture of the uterus)
ภาวะที่มีการฉีกขาดของผนังมดลูก ในขณะตั้งครรภ์หลังจากทารกโตพอที่จะมีชีวิตอยู่ได้ หรือหลังอายุครรภ์ 28 สัปดาห์ และเกิดการฉีก ขาดระหว่างตั้งครรภ์ ระหว่างเจ็บครรภ์ หรือระหว่างการคลอด
อุบัติการณ์
พบได้แตกต่างกันตั้งแต่ 1 : 100 – 1 : 11,000 ของการคลอด โดยใน กลุ่มที่ไม่มีแผลที่ตัวมดลูกมาก่อน อุบัติการณ์จะต่ ากว่ากลุ่มที่มีแผลที่ตัวมดลูกอย่างชัดเจน
ลักษณะของมดลูกแตก
มดลูกแตกไม่สมบูรณ์ (Incomplete rupture) รอยแตกไม่ทะลุชั้น peritoneum คือ มีการฉีกขาด ของชั้นกล้ามเนื้อมดลูกเท่านั้น ส่วนชั้น peritoneum ยังคงปกติดีอยู่
มดลูกปริ (Dehiscence) อาจไม่พบอาการอะไรเลย ในรายที่เคยผ่าตัดมดลูก แผลเก่าอาจปริแยก จากกันโดยเยื่อหุ้มรกยังไม่แตก
มดลูกแตกสมบูรณ์ (Complete rupture) รอยแตกทะลุชั้นเยื่อบุช่องท้อง (peritoneum) มดลูก แตกลักษณะนี้ ทารกมักจะหลุดเข้าไปอยู่ในช่องท้อง
ชนิดของมดลูกเเตก
การแตกเองของมดลูก (Spontaneous rupture of the intact uterus) การแตกเองของ มดลูกเป็นภาวะที่ค่อนข้างรุนแรง เพราะมีอันตรายต่อมารดาและทารกมาก พบได้บ่อยในมารดาตั้งครรภ์หลัง อายุมาก
การแตกของแผลเป็นที่ตัวมดลูก (Rupture previous uterine scar)ส่วนใหญ่มดลูกแตกจากแผลเป็นของการผ่าท้องทำคลอดในการผ่าตัดชนิดคลาสสิคัล (classical) ซึ่งพบมากเป็น 3-4 เท่าของชนิด low transverse โดยชนิด classical มดลูกจะแตกใน ระหว่างตั้งครรภ์ช่วงไตรมาสที่ 3 ส่วนชนิด low transverse จะแตกในระหว่างการเจ็บครรภ์
การแตกของมดลูกที่เป็นปกติ เนื่องจากได้รับการกระทบกระเทือน (Traumatic rupture of the intact uterus) การแตกชนิดนี้พบได้น้อยระหว่างตั้งครรภ์ แต่อาจพบการแตกชนิดนี้ในระหว่างการคลอดสูติศาสตร์หัตถการต่าง ๆ
สาเหตุ
เคยผ่านการตั้งครรภ์ และการคลอดบุตรจำนวนมาก (grand multiparty)
การใช้ยากระตุ้นการหดรัดตัวของมดลูก
การบาดเจ็บบริเวณช่องท้องอย่างรุนแรง (severe abdominal trauma)
รกฝังตัวลึกชนิด placenta percreta หรือ placenta increta
การทำสูติศาสตร์หัตถการอย่างยาก เช่น การทำคลอดด้วยคีม
การคลอดติดขัด (obstructed labor) จากการผิดสัดส่วนระหว่างศีรษะทารกกับช่องเชิงกราน (cephalopelvic disproportion)
รอยแผลผ่าตัดเดิม จากแผลผ่าท้องคลอด หรือแผลผ่าตัดอื่นๆ
อาการและอาการแสดง
อาการและอาการแสดงเตือนว่ามดลูกจะแตก (threatened uterine rupture)
1.4 กดเจ็บบริเวณเหนือหัวเหน่า โดยเฉพาะบริเวณส่วนล่างของมดลูก
1.5 พบ Bandl’s ring หรือ pathological retraction ring จากการตรวจหน้าท้องเห็นมดลูก เป็นสองลอน
1.3 กระสับกระส่าย ชีพจรเบาเร็ว หายใจไม่สม่ำเสมอ
1.6 จากการตรวจภายในช่องคลอด พบปากมดลูกลอยสูงขึ้น
1.2 ปวดท้องน้อยบริเวณเหนือหัวเหน่าอย่างรุนแรง
1.1 มดลูกหดรัดตัวตลอดเวลา (tetanic uterine contraction)
1.8 อาจมีเลือดออกทางช่องคลอด
1.7 อัตราการเต้นของหัวใจทารกในครรภ์ไม่สม่่ำเสมอ
อาการและอาการแสดงของมดลูกแตก (uterine rupture)
2.5 เสียงหัวใจทารกจะเปลี่ยนแปลง
2.6 การตรวจภายในพบว่าส่วนนำถอยกลับ หรือส่วนนำลอยสูงขึ้น
2.4 คลำส่วนของทารกได้ชัดเจนมากขึ้น
2.7 อาจคลำได้ก้อนหยุ่น ๆ ข้างมดลูก
2.3 มีอาการช็อกหรือไม่ ขึ้นอยู่กับพยาธิสภาพของมดลูกแตก ว่ามีเลือดออกมากน้อย เพียงใด
2.8 สวนปัสสาวะอาจได้เลือดปนในปัสสาวะ
2.2 บางรายพบมีเลือดออกทางช่องคลอดมากผิดปกติ
2.9 ปวดท้องอย่างรุนแรง
2.1 อาการปวดท้องน้อยจะทุเลาลง
การรักษา
รายงานกุมารแพทย์ เพื่อช่วยฟื้นคืนชีพทารก ในกรณีที่ทารกยังมีชีวิต
การเย็บซ่อมแซมหรือตัดมดลูก ขึ้นอยู่กับพยาธิสภาพบริเวณรอยแตกของมดลูก
การผ่าตัดเปิดช่องท้อง (exploratory laparotomy
ถ้าเลือดออกอีกอาจต้องท าผ่าตัด เพื่อผูก hypogastric arteries ทั้งสองข้างร่วมด้วย
แก้ไขภาวะช็อค
ให้เลือดทดแทน และให้ยาปฎิชีวนะอย่างเต็มที่
ผลกระทบต่อมารดา
อัตราตายของมารดาจากมดลูกแตกเพิ่มขึ้น ซึ่งส่วน ใหญ่สัมพันธ์กับการเสียเลือดทั้งก่อนและหลังคลอด และเกิดการติดเชื้อ
ผลกระทบต่อทารก
มีอัตราการตายปริกำเนิดของทารกจากภาวะมดลูก แตกร้อยละ 50-70 เนื่องจากทารกขาดออกซิเจน
การพยาบาล
การพยาบาลเพื่อการปูองกันภาวะมดลูกแตก
1.2 มารดาที่เคยผ่าตัดคลอดทางหน้าท้อง ควรแนะนำให้คุมกำเนิด และเว้นระยะในการ ตั้งครรภ์อย่างน้อย 2 ปี และเมื่อตั้งครรภ์และมาฝากครรภ์ครั้งแรกควรส่งพบแพทย์
1.3 ในระยะคลอดต้องเฝูาดูแลมารดาอย่างใกล้ชิด
1.3.1 ตรวจการหดรัดตัวของมดลูก
1.3.2 สังเกตลักษณะมดลูก ถ้าพบว่ามีลักษณะ Bandl’s ring คือมดลูกแบ่งเป็น สองลอน ให้รีบรายงานเเพทย์
1.1 มารดาที่มีประวัติการคลอดยาก ผ่าตัดมดลูก และเคยได้รับการทำสูติศาสตร์หัตถการ แนะนำให้มาคลอดที่โรงพยาบาล
1.4 ในกรณีที่มีการตั้งครรภ์ผิดปกติ ควรรายงานแพทย์ เพื่อพิจารณาผ่าท้องทำคลอด
การพยาบาลเมื่อมีภาวะมดลูกแตกแล้ว
NPO
จัดท่านอนให้ผู้คลอดนอนหงายราบศีรษะต่ำ
ให้การพยาบาลเพื่อเเก้ไขภาวะShock
รักษาอุณหภูมิร่างกาย
รายงานเเพทย์
ให้สารน้ำ Ringer Lactase Soiution ทางหลอดเลือดดำ
การประเมินสภาพ
คลำส่วนนำของทารกชัดเจน
ผู้คลอดมีอาการกระสับกระส่าย ชีพจรเบาเร็ว
ปวดท้องรุนเเรง
อัตราการหายใจไม่สม่ำเสมอ
ประเมินอาการของBandl’s ring
มีเลือดออกทางช่องคลอด
ข้อวินิจฉัยทางการพยาบาล
เสี่ยงต่อการเกิดภาวะช็อค เนื่องจากเสียเลือดมากจากภาวะมดลูกแตก
มีโอกาสเกิดการติดเชื้อ เนื่องจากมดลูกปริหรือแตก
ทารกมีโอกาสเกิดภาวะขาดออกซิเจน เนื่องจากมดลูกหดรัดตัวถี่และรุนแรง
มารดาและครอบครัวมีความวิตกกังวลหรือกลัว เนื่องจากมีภาวะมดลูกปริหรือแตก
เสี่ยงต่อการเกิดภาวะมดลูกแตก เนื่องจากเคยผ่าตัดคลอดทางหน้าท้อง
ความหมาย
นางสาวนัทฐธิดา ด้วงทองกุล รหัส601001060