Please enable JavaScript.

Coggle requires JavaScript to display documents.

Neonatal jaundice, ทารกกก, นางสาวสุพัตรา สุทธิพันธ์ 611001058 เลขที่ 57 -…

- - - - 4.บันทึกอุณหภูมิก่อนทำ ขณะทำและหลังทำ on radiant warmer และอุ่นเลือดก่อนให้
      - 5.บันทึก RR,Pulse,สีผิว,BP ก่อนทำ ขณะทำ หลังทำและsuction ให้เมื่อมีเสมหะ
      - 3.ตรวจชื่อนามสกุล กรุ๊ปเลือดให้ตรงกับผู้บริจาค
      - 6.บันทึกระยะเวลา และจำนวนเลือดที่ดูดออกและนำเข้า
      - 2.เจาะเลือดผู้ป่วยประมาณ5-10 ml ใส่ขวดที่ไม่มีสารกันเลือดแข็งตัว เพื่อช่วยในการหาหมู่เลือด และทดสอบเลือดของผู้บริจาค
      - 7.สังเกตอาการผิดปกติ เช่น หนาวสั่น มีผื่นตามตัว คัน อาการกระตุกรอบๆปาก รีเฟลกซ์ไว อาการแสเงของภาวะ Hypercalcemia
      - 1.NPO 3-4ชั่วโมง ก่อนทำและดูด gastric content ออก
      - 8.สังเกตอาการแสดงของ electrolyte imbalance เช่น ชัก หยุดหายใจ bradycardia หรือ diarrhea และติดตามผล serum Ca และ K
      - 9.สังเกต bleeding บริเวณที่ทำหลังให้เลือด และควรสังเกตอาการผิดปกติต่ออีก 6-12ชั่วโมง
      - 10.ติดตาม Hp/Hct ก่อนและหลังทำ
  - - - 3.บันทึก I/O ประเมินความเพียงพอของน้ำที่ได้รับ
      - 4.ตรวจหาระดับ bilirubin total และ direct bilirubin ตลอดจนอัตราการเพิ่มตามแผนการรักษาของแพทย์
      - 1.สังเกตผิวหนังถึงอาการตัวเหลือง และรายงานแพทย์เมื่อพบอาการตัวเหลืองขึ้น
      - 5.ร่วมมือในการตรวจหา CBC,albumin,electrolyte,Hct และการเพาะเชื้อ
      - 2.สังเกตและบันทึกปริมาณและสีของอุจจาระและปัสสาวะ
      - 6.สังเกตอาการที่แสดงถึงเซลล์สมองถูกทำลายได้แก่ ดูดนมน้อย หายใจลำบาก แขนขาอ่อนแรงตัวอ่อน ปวกเปียก ร้องเสียงแหลมปฏิกิริยาตอบสนองลดลง ระดับอุณหภูมิเปลี่ยนแปลงไม่แน่นอน ถ้าพบรายงานแพทย์
  - - - 4.ให้นมและสารน้ำตามแผนการรักษาของแพทย์
      - 5.เช็ดทำความสะอาดอวัยวะเพศทุกครั้งหลังถ่ายอุจจาระ และเช็ดให้แห้งทุกครั้งและสังเกตอาการก้นแดง-บันทึกลักษณะสี จำนวนครั้งของอุจจาระและปัสสาวะ
      - 3.บันทึก V/S ทุก 4 ชั่วโมง
      - 6.บันทึก I/O ชั่งน้ำหนักอย่างน้อยวันละครั้ง
      - 2.เปลี่ยน eye pad ทุก 8 ชั่วโมง
      - 7.สังเกตอาการตัวร้อน ผิวแห้ง กระหม่อมนุ่ม
      - 1.ปิดตาด้วย eye pads และสังเกต eye discharge ถ้ามีเช็คทำความสะอาดด้วย NSS และรายงานแพทย์
      - 8.เมื่อนำเด็กให้มารดาป้อนนม เปิดeyen pad ได้ และส่งเสริมให้มารดาสบตากับทารก
- - - - คำแนะนำการใช้ยา
        
        ให้คำแนะนำแก่หญิงที่มี Rh-ve ให้หลีกเลี่ยงชายที่ Rh+ve
        
        หลีกเลี่ยงการใช้ยาที่แย่งจับกับ bilirubin มากกว่า albumin
        
        ใช้สารพวก Tin-Mersoporphyrin ซึ่งช่วยในการระงับเอนไซม์ heme oxygenase ทำให้การสร้าง bilirubin ลดลง
        
        ให้นมเด็กเร็วที่สุด เพื่อลด enterohepatic circulation
  - - - กรณีที่ทารกมีภาวะตัวเหลืองร่วมกับมีภาวะ Hypothemia Hypoglycemia,acidosis anoxia หรือ Hypoalbuminemia
      - ระดับ Bilirubin สูงใน 24ชั่วโมงแรก
        
        โดยทารกที่เกิดครบกำหนดสูงเกิน 14มก./ดล.และเกิน 10มก./ดล.ในทารกเกิดก่อนกำหนด
      - ซีดมาก ตรวจ Coomb's test ให้ผลบวก Hct <35%
      - ระดับ Bilirubin สูง อายุเกิน 24ชั่วโมง
        
        ใช้เกณฑ์มากกว่า 20มก./ดล. ในทารกคลอดครบกำหนด และเกิน 18 มก./ดล. ในทารกเกิดก่อนกำหนด
    - - Acid Citrate Dextrose(ACD)
      - Citrate Phosphate Dextrose(CPD)
      - Heparinized blood
    - - thrombosis Cardiac arrhythmia
      - arrest Electrolyte
      - Vascular embolism
      - Hypoglycemia
      - Volume overload
      - Hypothemia
      - Infection
- - - - ทารกมีอาการซึม
      - ดูดนมไม่ดี
      - ร้องเสียงสูง
      - ไม่ค่อยมีแรง
    - - ร้องกวนมาก
      - ทารกมีอาการชักเกร็ง ถ้ามากอาจถึงตายได้
- - - - มีผลต่อการพัฒนาของระบบประสาท
        
        ทำให้เกิดอันตรายต่อเซลล์สมองของทารก
        
        สมองถูกทำลาย
        
        เนื้อสมองพิการ
        
        พัฒนาการทางระบบประสาทบกพร่อง
        
        เกิดความพิการหรือเสียชีวิต
      - ทำให้ทารกมีภาวะตัวเหลืองเพิ่มขึ้น
        
        ภาวะเกิดก่อนกำหนด
        
        ภาวะเลือดข้น
        
        มารดาเป็นเบาหวาน
        
        ความผิดปกติของเมตาบอลิซึม
        
        ได้รับนมไม่เพียงพอ