Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
ภาวะน้ำคร่ำอุดกั้นหลอดเลือดในปอด (amniotic fluid embolism /AFE) -…
ภาวะน้ำคร่ำอุดกั้นหลอดเลือดในปอด (amniotic fluid embolism /AFE)
ความหมาย
ภาวะน้ำคร่ำผ่านเข้าสู่กระแสเลือดของมารดา เข้าไปในหลอดเลือดฝอยในปอด แล้วไปอุดกั้นบริเวณหลอดเลือดที่ปอด ทำให้ร่างกายเกิดปฏิกิริยาต่อต้านสารประกอบน้ำคร่ำ เช่น ไขบริเวณลำตัวทารก ผม เซลล์ผิวหนัง ขนอ่อน ขี้เทา
อัตราการตายของมารดาแบะทารก ร้อยละ 80 มักเกิดในครรภ์หลังมากกว่าครรภ์แรก
ปัจจัยที่ทำให้เกิดภาวะน้ำคร่ำอุดตัน
การเร่งคลอด โดยใช้ยากระตุ้น
ทารกตายในครรภ์เป็นเวลานาน
การคลอดเฉียบพลัน
รกเกาะต่ำ
รกลแกตัวก่อนกำหนด
มดลูกแตก
การบาดเจ็บในช่องท้อง
การ C/S
มารดามีบุตรหลายคน
มารดาครรภ์หลังที่อายุมากกว่า 35 ปี
น้ำคร่ำมีขี้เทาปน
เบ่งคลอดขณะถุงน้ำคร่ำยังไม่แตก
เจาะถุงน้ำคร่ำ
การรูดเพื่อเปิดขยายปากมดลูก
การตรวจวินิจฉัยร้ำคร่ำก่อนคลอด
การหมุนเปลี่ยนท่าทารกภายในและภายนอกครรภ์
พยาธสรีรวิทยา
[ถุงน้ำแตก/รั่ว > น้ำคร่ำเข้าสู่กระเเสเลือดโดยเข้าไปที่บริเวณรกลอกตัว/บริเวณปากมดลูกฉีกขาด > แรงดันจากการหดรัดตัวทำให้น้ำคร่ำเข้าสู่กระเเเสเลือดผู้คลอด > เข้าปอดและหัวใจ > อุดตันหลอดเลือดฝอยในปอด > หลอดเลือดหดเกร็ง > เลือดที่ไหลผ่านปอดเข้าสู่หัวใจซีกซ้ายลดลงทันที > เลือดออกจากหัวใจซ้ายลดลง > Cardiogenic shock > ความดันในหลอดเลือดปอดสูง > เลือดคั่งในปอด > หัวใจซีกขวามีแรงดันปอดสูงเนื่องจากบีบดันเลือดไม่ได้ > ปอดบวมน้ำ > การแลกเปลี่ยนก๊าซออกซิเจนกับคาร์บอนไดออกไซด์ลดลง > ขาดออกซิเจนในหลอดเลือดแดง > DIC
อาการ
หนาวสั่น (chill)
เหงื่อออกมาก
หายใจลำบาก (dyspnea)
หายใจล้มเหลวทันที เขียวตามใบหน้า ลำตัว
น้ำคั่งในปอด (pulmonary edema)
เส้นเลือดหัวใจตีบ
ความดันโลหิตต่ำมาก
ชัก
หมดสติ
หากเกิดนานกว่า 1 ชั่วโมงผู้คลอดยังมีชีวิตอาจเกิด ภาวะ DIC และตกเลือดอย่างรุนแรง
การวินิจฉัย
ระบบหายใจล้มเหลว
อาการเขียว
เส้นเลือดหัวใจหดเกร็ง (cardiovascular collapse)
เลือดออก
ไม่รู้สติ
ผลตรวจทางห้องปฏิบัติการ
การตรวจหาเซลล์ผิวหนัง ขนอ่อน เมือกของทารก
เลือดจากกระแสเลือดไปปอดมารดา
การชันสูตรศพ
เสมหะ
การถ่ายภาพรังสีทรวงอก
pulmonary edema
คลื่นไฟฟ้าหัวใจ (EGC)
tachycardia ST
T wave
RV strain
การกำซาบเลือดในปอดบกพร่อง (perfusion defect)
ตรวจหา Sialy 1TH antigen สูงในน้ำคร่ำที่มีขี้เทาปน
ผลกระทบ
มารดา
ช็อคจากการเสียการเลือด
หากรอดชีวิตก็จะมีอาการทางประสาท จากการขาดออกซิเจนรุนแรง
ทารก
เสียชีวิต ในรายที่มารดาเกิดภาวะปอดและหัวใจหยุดทำงาน
ถ้ารอดชีวตก็มีอาการทางประสาท
การป้องกัน
ขณะเจ็บคลอด ไม่ควรเร่งให้มดลูกหดรัดตัวถี่เกินไป
เจาะถุงน้ำคร่ำอย่าให้ถูกปากมดลูก
ในรายที่เด็กตายในครรภ์ ใช้ oxytocin drip และ obs.อาการหดรัดตัวของมดลูก
ไม่ควรกระตุ้นการเจ็บครรภ์โดยวิธีเลาะแยกถุงน้ำคร่ำ (stripping membran)
ในรายที่มีภาวะรกเกาะต่ำ ควรตรวจภายในอย่างระมัดระวัง
ผู้คลอดเจ็บครรภ์ถี่มากเกินกำหนด ให้รายงานแพทย์
การรักษา
ดูแลทางเดินหายใจให้โล่ง จัดท่านอน fowler ' s position ให้ O2 100 % ถ้ามีการหายใจล้มเหลวให้ใส่ท่อ
ดูแลระบบไหลเวียนเลือด แก้ไขภาวะดความดันต่ำ โดยให้สารละลายทางหลอดเลือด แก้ไขภาวะสารไฟบริโนเจนในเลือดต่ำ โดยให้สารไฟบริโนเจน หากเกิดหัวใจล้มเหลวเนื่องจากขาดเลือด ให้ยากระตุ้นหัวใจ เช่น Dopamine
ดูแลการหดรัดตัว โดยให้ยา oxytocin และ methergin ทางหลอดเลือด
เจาะเลือดโดยประเมินความเข้มข้นของเลือดและการแข็งตัวผิดปกติ
รักษาภาวะ DIC โดยให้ยา Heparin
หากทารกยังไม่คลอด ประเมินการเต้นของหัวใจทารก และรีบช่วยเหลือโดยผ่าคลอด
การพยาบาล
การเฝ้าระวัง เช่น การให้ยาเร่งคลอด การเจ็บครรภ์คลอดรุนแรง การเจาะถุงน้ำคร่ำ และการตกเลือดหลังคลอด
หากมีอาการแสดง ชักโดยไม่มีความดันโลหิตสูงมาก่อน และมีอาการตัวเขียว
ให้มารดานอนในท่า fowler
ให้ออกซิเจน
ให้สารน้ำตามแผนการรักษา
เฝ้าระวังการตดเลือดหลังคลอด เนื่องจากมดลูกหดรัดตัวไม่ดี และภาวะการแข็งตัวของเลือดเสียไป
สังเกตการหดรัดตัวของมดลูก
เตรียม c/s
ให้กำลังใจต่อครอบครัวถ้ามารดาและทารกเสียชีวิต