Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
การเปลี่ยนแปลงในระยะหลังคลอด, อ้างอิง, นางสาวเพ็ญพิชชา ราโชธร ชั้นปีที่ 2…
การเปลี่ยนแปลงในระยะหลังคลอด
การเปลี่ยนแปลงด้านจิตสังคมของมารดา
ในระยะหลังคลอด
การปรับตัวมารดาหลังคลอด
taking-in phase
ระยะที่ต้องพึ่งพาผู้อื่นทั้งด้านร่างกายและจิตใจ เกิดใน
1-2 วันแรก
ส่งเสริมให้มารดาได้รับการพักผ่อนอย่างเพียงพอ มีความสุขสบาย เปิดโอกาสระบายความรู้สึก
taking-hold phase
ระยะที่เริ่มเป็นตัวเองมากขึ้น เกิดในช่วง 3-10 วัน
หลังคลอด
ให้คำแนะนำการดูแลบุตร ฝึกบทบามการดูแลบุตร
letting-go phase
ระยะที่มารดามีความเป็นตัวเองมากขึ้น เกิดขึ้นประมาณ 2 สัปดาห์ หลังคลอด
ส่งเสริมมารดามีการตอบสนองความต้องการของทารกที่เหมาะสม
การดำรงบทบาทการเป็นมารดา
ระยะคาดหวังบทบาท
ระยะการกระทำบทบาทตามรูปแบบ
ระยะกระทำบทบาทของตนเองที่ไม่เป็นตามรูปแบบเฉพาะ
ระยะการกระทำบทบาทตามเอกลักษณ์ของตนเอง (1-4 เดือนหลังคลอด)
ปัจจัยที่มีผลต่อการปรับตัวของมารดาหลังคลอด
สัมพันธภาพระหว่างคู่สมรส
ภาวะสุขภาพของบุตร
ภาวะสุขภาพของมารดา
ด้านครอบครัว สังคม และสิ่งแวดล้อม
ระดับการศึกษาและรายได้ครอบครัว
อายุ
อารมณ์เศร้าหลังคลอด (postpartum blues)
เกิดระยะแรกหลังคลอดจนถึง 3-4 วันหลังคลอด
หงุดหงิด ร้องไห้ วิตกกังวล
อาการอาจคืนสู่สภาวะเดิม
ภาวะซึมเศร้าภายหลังคลอด (postpartum Depression)
มีการเปลี่ยนแปลงในกิจกรรมนอนหลับ ความอยากอาหาร หงุดหงิด วิตกกังวล จัดการปัญหาไม่ได้
มีความรุนแรงจนถึงขั้นรบกวนความเป็นอยู่ การเลี้ยงดูทารก
อาการอยู่นานเกิน 2 สัปดาห์
โรคจิตหลังคลอด (postpartum psychosis)
มีความผิดปกติของอารมณ์มากที่สุด
อาการเริ่มต้นใน 48-72 ชั่วโมงภายหลังคลอด
มีการพัฒนาอาการภายใน 2 สัปดาห์
แสดงอารมณืเศร้าหรือมีความสุข อาการเปลี่ยนอย่า
มีอาการหลงผิดและเห็นภาพหลอนร่วมด้วย
การเปลี่ยนแปลงด้านสรีรวิทยาของมารดา
ในระยะหลังคลอด
การเปลี่ยนแปลงของระบบสืบพันธุ์
มดลูก
Involution of uterus
การหดรัดตัวของใยกล้ามเนื้อมดลูก
(contraction of muscle fibers)
กระบวนการย่อยสลายโมเลกุล (catabolism)
กระบวนการกลับคืนสู่สภาพเดิมของมดลูก
(regeneration of uterine epithelium)
ขนาดและน้ำหนักของมดลูก
ภายหลังคลอด หนักประมาณ 1,000 กรัม ยามประมาณ 15 เซนติเมตร
การลดระดับของมดลูก
ภายใน 12-24 ชั่วโมง แรกหลังคลอด ยอดมดลูกจะอยู่ที่ระดับสะดือ และจะลดลงอย่างต่อเนื่อง
เยื่อบุโพรงมดลูก
1.ชั้นนอก (spongy layer) เกิดน้ำคาวปลา
2.ชั้นใน (basal layer) สร้างเยื่อบุโพรงมดลูกขึ้นใหม่
น้ำคาวปลา (lochia)
lochia rubra
lochia serosa
lochia alba
อาการปวดมดลูก
เกิดจากการหดรัดตัวและการคลายตัวของมดลูกสลับกัน
ปากมดลูก
-ปากมดลูกเคยผ่านการคลอดคล้ายปากปลา
(fish mouth)
-บริเวณ internal os กลับสู่ภาวะปกติ ประมาณสัปดาห์ที่ 4-6
ช่องคลอด
3-4 สัปดาห์ หลังคลอด ผนังช่องคลอดจะค่อยๆฟื้นตัวช้าๆ
6-10 สัปดาห์ ผนังช่องคลอดฟื้ตัวกลับสู่ภาวะปกติ
ฝีเย็บ
ไม่สุขสบายปวดแผลฝีเย็บ
4-6 เดือน แผลหายเหมือนก่อนการตั้งครรภ์
หัวนมและเต้านม
ฮอร์โมน estrogen และ progesterone ลดลง
ผลิต Prolactin เพิ่มขึ้น
เกิดกลไกการผลืตน้ำนม และหลั่งน้ำนม
การเปลี่ยนแปลงของระบบต่อมไร้ท่อ
HPL มีระดับลดลงและตรวจไม่พบระยะหลังคลอด 24 ชม.
HCG มีระดับต่ำลงอย่างรวดเร็ว และต่ำลงจนกระทั่งมีการตกไข่
Estrogen ลดลงต่ำสุดใน 7 วันหลังคลอด
Progesterone ประมาณ 1 สัปดาห์ ตรวจไม่พบ progesterone serum และจะผลิตอีกครั้งเมื่อตกไข่รอบใหม่
Prolactin มีระดับสูงขึ้นเรื่อยๆ ตั้งแต่ตั้งครรภ์จนกระทั่งหลังคลอด
FSH มารดาหลังคลอดไม่มีการตกไข่ เนื่องจาก Estrogen และ Progesterone ในเลือดลดลงอย่างเร็ว ร่วมกับ Prolactin เพิ่มขึ้นกดการทำงานของรังไข่
LH ประจำเดือนครั้งแรกไม่มีการตกไข่ การตกไข่จะเกิดขึ้นเร็วสุด ประมาณวันที่ 25 หลังคลอด
การเปลี่ยนแปลงของระบบทางเดินปัสสาวะ
ไต การทำงานของไตลดลง ท่อไตและกรวยไตกลับคืนสู่สภาพปกติ
ส่วนประกอบของน้ำปัสสาวะ หลังคลอดพบ lactosuria และระดับ blood urea nitrogen สูงในมารดา
การขับออกทางเหงื่อและปัสสาวะในระยะหลังคลอด 2-3 วันแรกมารดาเหงื่ออกมากตอนกลางคืนและปัสสาวะออกมาประมาณ 2,000-3,000 ml
การเปลี่ยนแปลงของระบบหัวใจและหลอดเลือด
ปริมาณเลือด สูญเสียเลือด และประมาณ 1-2 สัปดาห์ปริมาณเลือดจะใกล้เคียงเหมือนก่อนการตั้งครรภ์
6-12 สัปดาห์ปริมาณเลือดที่ออกจากหัวใจจะกลับเข้าสู่สภาวะปกติ
หลังคลอด Plasma volume ลดลง
ชีพจรเกิด bradycadia ประมาณ 50-60/min
เกิด orthostatic hypotension
เกิดภาวะ Reactionary fever
การเปลี่ยนแปลงของระบบทางเดินอาหาร
มีความอยากอาหารเพิ่มขึ้นจากการสูญเสียพลังงานในการคลอด,NPO,สูญเสียน้ำ และเลือด ในระยะคลอด และหลังคลอดทางปัสสาวะ เหงื่อ และน้ำคาวปลา
ท้องผูก
-พบได้บ่อย 2-3 วันหลังคลอด
-ความตึงตัวของทางเดินอาหารและความดันในช่องท้องลดลง
-การสูญเสียน้ำในร่างกาย
-กลับคืนสู่สภาวะปกติ 8-14 วัน
น้ำหนัก
ลดลงทันทีหลังคลอด ประมาณ 4.5-5.5 กก. จากการคลอดทารก รกและการสูญเสียเลือด
สัปดาห์แรกหลังคลอด ลดลงอีก 2.3-3.6 กก.
การเปลี่ยนแปลงของระบบผิวหนัง
Linea nigra,Facial chlosma สีผิวที่เข้มขึ้นบริเวณลานนมจะจางลง และหายไป
Striae gravidarum บริเวณหน้าท้อง เต้านม และต้นขา ค่อยๆจางเป็นสีเงินและหายไป
หลอดเลือดที่ผิดปกติ เช่น spider angiomus,plamar erythema และ epulis โดยปกติจะลดลง
การเปลี่ยนแปลงของระบบกล้ามเนื้อและโครงสร้าง
กล้ามเนื้อและข้อต่อ
1-2 วันหลังคลอดมีอาการล้าและปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ
ประมาณ 6-8 สัปดาหืหลังคลอดข้อต่อจะกลับคืนเหมือนก่อนตั้งครรภ์
กล้ามเนื้อหน้าท้อง
ผนังกล้ามเนื้อมีการขยายจากการคลอด ความตึงตัวของกล้ามเนื้อลดลง พบ diastasis recti
อ้างอิง
อาจารย์ทัศน์วรรณ สุนันต๊ะ. 2563. การพยาบาลมารดาในระยะหลังคลอด
นางสาวเพ็ญพิชชา ราโชธร ชั้นปีที่ 2 เลขที่ 3 ห้อง B
รหัสนักศึกษา 613020110904