Please enable JavaScript.

Coggle requires JavaScript to display documents.

ปัญหาระบบประสาท - Coggle Diagram

- - - - แบบไม่มีอาการหรืออาการน้อย เชื้อเจริญในเนโซฟาริ้งซ์ ทำให้เกิดการอักเสบเฉพาะที่เล็กน้อย มักไม่มีอาการ
      - แบบเชื้อแพร่เข้ากระแสเลือดหรือเลือดเป็นพิษผู้ป่วยจะมี
        ผื่น เลือดออกตามผิวหนัง ในรายที่รุนแรงจะมีเลือดออกในลำไส้และต่อมหมวกไต
      - แบบเยื่อหุ้มสมองอักเสบ ทำให้เกิดโรคเยื่อหุ้มสมองอักเสบ
  - - - ปวดศีรษะรุนแรง
      - อาเจียน
      - คอแข็ง
      - จ้ำเลือด
    - - เกิดอย่างเฉียบพลัน
        
        อาการที่นำมาก่อน
        
        เจ็บคอและไอ
        
        มีอาการปวดศีรษะ
        
        อาการที่ตามมา
        
        ไข้สูง หนาวสั่น
        
        ปวดตามข้อและตาม
        กล้ามเนื้อ โดยเฉพาะที่ขาและหลัง
        
        อาจมาด้วยไข้และมีผื่นแดงจ้้ำขึ้นตามตัว ใน 2-3 วันต่อมา
      - เกิดแบบเรื้อรัง
        
        พบได้น้อย
        
        มีไข้ ผื่นตามผิวหนังอาจเป็น ผื่นแดงจ้ำ ปวดและเจ็บข้ออยู่เป็นเดือนไข้จะเป็นๆ หายๆ
      - เกิดแบบรุนแรง
        
        ระบบไหลเวียนโลหิตไม่ทำงานอาจช็อคถึงเสียชีวิตได้
        
        เป็นแบบสั้นๆและเสียชีวิตอย่างรวดเร็ว
    - - มีอาการไข้ ปวดศีรษะ
      - คอแข็ง
      - ซึมและสับสน
      - อาการแย่ลงอย่างรวดเร็ว
      - อาจพบอาการที่แสดงถึงการระคายเคืองของเยื่อหุ้มสมอง
      - ผู้ป่วยส่วนหนึ่งจะมีจ้ำเลือดออกตามผิวหนัง
- - - - แขนขางอเข้าหาลำตัว
    - - แขนขาเหยียดออกจากลำตัว
  - - - สมองได้รับการบาดเจ็บ
      - เนื้องอกในสมอง
      - โรคลมชัก
    - - ติดเชื้อที่เยื่อหุ้มสมองและไขสันหลัง
    - - Febrile convolsion
- - - - มีไข้ร่สมกับชักในเด็กอายุ 6 เดือน - 5 ปี
      - เป็นการชักแบบทั้งตัว
      - ระยะเวลาชักไม่เกิน 15 นาที
      - ไม่ชักซ้ำในการป่วยครั้งเดียวกัน
      - ก่อนและหลังชักไม่มีอาการทางระบบประสาท
    - - ชักแบบเฉพาะที่หรือทั้งตัว
      - ระยะเวลาในการชักมากกว่า 15 นาที
      - ชักซ้ำในการป่วยครั้งเดียวกัน
      - หลังชักมีความผิดปกติของระบบประสาท
      - เสี่ยงสูงต่อการ้กิดลมชัก
        
        ยาป้องกันการชักเช่น Phenobarbital หรือ Valproic acid
- - - - ยาขับปัสสาวะ Acetazolamide
    - - การผ่าตัดใส่สายระบายน้ำในโพรงสมองออกนอกร่างกาย
        
        สายระบายน้ำในโพรงสมอง
        
        สายระบายจากโพรงสมอง(Ventricular shunt)
        
        วาล์ว(Valve)และส่วนที่เก็บน้ำหล่อสมอง(Reservoir)
        
        สายระบายลงช่องท้อง(Peritoneal shunt)
      - การผ่าตัดใส่สายระบายน้ำในโพรงสมองสู่ช่องในร่างกายผ่าตัด
        ใส่สายระบายจาก
        
        โพรงสมองลงช่องท้อง
        
        โพรงสมองลงช่องหัวใจ
        
        โพรงสมองลงช่องปอด
        
        โพรงสมองลงช่องใต้เยื่อหุ้มสมอง
        
        โพรงสมองทารกในครรภ์ลงถุงน้ำคร่่ำ
        
        สายระบายน้ำในโพรงสมอง
      - ภาวะแทรกซ้อนจากการผ่าตัด
        
        สายระบายน้ำมีความผิดปกติ
        
        ติดเชื้อจาดสายระบายน้ำ
        
        สายระบายน้ำอุดตัน
        
        ภาระระบายน้ำในโพรงสมองมากเกิน
        
        โพรงสมองตีบแคบ
        
        เลือดออกในศีรษะ
        
        ไตอักเสบ
- - - - ติดเชื้อระบบประสาทส่วนกลาง
      - ภยันตรายระหว่างการคลอดหรือหลังคลอด
      - สมดุลน้ำในร่างกายผิดปกติ
      - น้ำตาลในเลือดต่ำ
      - พัฒนาการสมองผิดปกติ
      - โรคหลอดเลือดสมอง
      - ยาและสารพิษ
      - พันธุกรรม
    - - จากความผิดปกติของ Neurotransmission
        ซึ่งเกิดจากความผิดปกติของยีน
    - - มีพยาธิสภาพภายในสมอง
  - - - อาการนำ (Seizure prodromes)
        
        เกิดก่อนการชัก
        
        ไม่มีอาการจำเพาะ
        
        คลื่นไฟฟ้าในสมองไม่เปี่ยนแปลง
      - อาการเตือน (Aura)
        
        แตกต่างกันตามตำแหน่งของสมอง
    - - เกิดทันทีทันได
      - เกิดในระยะเวลาสั้นๆไม่เกิน 5 นาที
      - เกิดเองแต่บางครั้งมีปัจจัยกระตุ้น
      - มีอาการเหมือนกันทุกครั้ง
    - - มีการเปลี่ยนแปลงของคลื่นไฟฟ้าในสมอง
      - กล้ามเนื้ออ่อนแรงเฉพาะที่
      - เคลื่อนไหวร่างกายขณะชักที่ไม่มีจุดประสงค์
    - - เริ่มจากการชักสิ้นสุดลงรวมถึงการชักครั้งใหม่
  - - - ชักแบบมีสติ ขณะชักผู้ป่วยรู้ตัวตลอดเวลา
      - ชักแบบขาดสติ ขณะชักสูญเสียการรับรู้สติ
        เมื่อสิ้นสุดการชักจะจำเหตุการณ์ในช่วงชักไม่ได้
      - ตามด้วยอาการชักทั้งตัว เริ่มจากส่วนหนึ่งของร่างกายค่อยๆลามไปส่วนอื่น
    - - อาการชัดเหม่อ
        
        รู้สึกตัวเหม่อลอยไม่รู้สึกตัวชั่วครู่เกิดทันทีเป็นเวลาสั้นๆ
      - อาการชักเกร็งกระตุก
        
        ผู้ป่วยจะหมดสติ
        
        มีอาการเกร็งทั้งตัวไม่เกิน 30 วินาทีจามด้วยกระตุกเป็นจังหวะ
      - อาการชักกระตุก
        
        มีการกระตุกเป็นจังหวะของการชัก
      - อาการชักเกร็ง
        
        จากกล้ามเนื้อมีความตึงตัวมากขึ้นเกิดนานประมาณ 2 – 10 วินาที
        
        อาการจะมีลัษณะแขนขาเหยียดตรงอาจเกิดทันทีหรือค่อยเป็นไป
        
        มีการสั่นจากกล้ามเนื้อหดตัว ผู้ป่วยไม่รู้สติ เสี่ยงต่ออันตรายขณะชัก
      - อาการชักตัวอ่อน
        
        เสียความตึงตัวของกล้ามเนื้ออย่างทันทีเมื่อเกิดอาการชัก
        
        ประมาณ 1-2 วินาที
        
        มักพบในผู้ป่วยอายุน้อยกว่า 5 ปี และในรายที่
        มีพัฒนาการช้า
      - อาการชักสะดุ้ง
        
        กล้ามเนื้อหดรัดตัวอย่างรุนแรงและรวดเร็ว
        
        เวลาสั้นมาไม่กี่วินาที
- - - - Splastic quadriplegia
      - Splastic diplegia
      - Splastic hemiplegia