Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
การพยาบาลผู้ป่วยเด็กที่มีปัญหาระบบประสาท - Coggle Diagram
การพยาบาลผู้ป่วยเด็กที่มีปัญหาระบบประสาท
ภาวะชักและโรคลมชัก
(Seizure and Epilepsy )
สาเหตุ
ภาวะติดเชื้อที่กะโหลกศีรษะ
ภาวะเลือดออกในกะโหลกศีรษะ
ภาวะผิดปกติทาง metabolism
ภาวะผิดปกติทางไต เช่น Uremia
เนื้องอกในกะโหลกศีรษะ
โรคบาดทะยัก
ภาวะไข้สูงในเด็กเล็ก
ความผิดปกติของสมองโดยกาเนิด
โรคลมบ้าหมู/โรคลมชัก (Epilepsy)
ชนิดและลักษณะเฉพาะ
Partial seizure
Simple partial seizure
ไม่เสียการรู้ตัวขณะที่มีอาการชัก
Complex partial seizure
เสียการรู้ตัวขณะที่มีอาการชัก
Generalized seizure
Generalized tonic-clonic seizure
ผู้ป่วยจะมีอาการหมดสติเกร็งทั้งตัวตามด้วยการกระตุกเป็นจังหวะ
Absence
ผู้ป่วยมีอาการเหม่อ ตาลอย อาการจะเกิดขึ้นและสิ้นสุดอย่างรวดเร็ว
Myoclonic
มีลักษณะกระตุกเป็นระยะเวลาสั้นๆ เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วคล้ายสะดุ้ง
Clonic
มีลักษณะกระตุกเป็นจังหวะ
Tonic
มีลักษณะกล้ามเนื้อเกร็งอย่างรุนแรง
Atonic
มีลักษณะสูญเสียความตึงตัวของกล้ามเนื้อที่เกิดขึ้นทันที
Unclassified epileptic seizure
ไม่สมารถจัดกลุ่มได้
ชักจากไข้สูง
(Febrile Seizure)
สาเหตุ
ยังไม่ทราบสาเหตุของ Febrile Seizure แต่เชื่อว่ามีปัจจัยร่วมกันหลายชนิด ได้แก่ พันธุกรรม
อาการและอาการแสดง
ไข้
38-39 ºC
ลักษณะการชัก
generalized tonic-clonic
ชักเป็นเวลาสั้นๆ ไม่เกิน 1 2 นาที
ช่วงเวลาที่ชัก
ร้อยละ 21 ชักก่อนตรวจพบไข้หรือภายในเวลา 1 ชั่วโมงของไข้
ร้อยละ 57 ชักใน 1 24 ชั่วโมงของไข้
ร้อยละ 22 ชักหลังจากมีไข้ 24 ชั่วโมง
การชักซ้าภายใน 24 ชั่วโมง
การพยาบาล
ประเมินและบันทึกลักษณะการชัก
ขณะชักจัดให้ผู้ป่วยตะแคงหน้าเพื่อให้น้ำลายไหลออกจากปาก
ดูแลดูดเสมหะออกจากปากและจมูกบ่อยๆเพื่อให้ทางเดินหายใจโล่ง
จัดให้ผู้ป่วยนอนราบ ใช้ผ้านิ่มๆหนุนบริเวณใต้ศีรษะเพื่อป้องกันศีรษะกระแทกกับพื้นเตียง
Observe vital signs ทุก 4 ชั่วโมง เพื่อประเมินลดลง อุณหภูมิและการหายใจ
ดูแลเช็ดตัวลดไข้ด้วยน้าอุ่นนาน 10–15 นาที ทุก 2 ชั่วโมงเวลามีไข้สูงเกิน 38 องศาเซลเซียส
ดูแลสิ่งแวดล้อมข้างเตียงให้สะอาดเหมาะแก่การพักผ่อนเผื่อลดเมตาบอลิซึมของร่างกาย
ดูแลให้ Oxygen, สารน้า, และยาตามแผนการรักษา
สมองพิการ
(Cerebral Palsy)
สาเหตุ
ระยะก่อนคลอด
เลือดออกทางช่องคลอด
มารดามีภาวะชักหรือปัญญาอ่อน
การเกิดก่อนกาหนด
ระยะคลอด
สมองขาดออกซิเจน
รกพันคอ คลอดท่าก้น
ระยะหลังคลอด
ตัวเหลืองเมื่อแรกเกิด
เส้นเลือดที่สมองมีความผิดปกติ
การแบ่งสาเหตุและพยาธิสภาพ
Spastic diplegia
Spastic hemiplegia
Spastic quadriplegia
Dyskinetic
การพยาบาล
การเคลื่อนไหวร่างกายบกพร่อง
ดูแลเรื่องการเคลื่อนไหวของร่างกายที่บกพร่อง
จัดหาของเล่นที่จะกระตุ้นให้เด็กเกิดการเคลื่อนที่หรือการเคลื่อนไหว
ช่วยเด็กในการใช้อุปกรณ์เสริมต่าง ๆ
ส่งเด็กไปทากายภาพบาบัดเพื่อป้องกันความพิการอื่น ๆ
ให้ยาคลายกล้ามเนื้อในเด็กที่มีอาการเกร็ง
พร่องการดูแลตนเอง
กระตุ้นให้เด็กดูแลตนเองตามความสามารถ
ระวังการเกิดภาวะอุดกั้นทางเดินหายใจ
ช่วยเหลือเด็กในการรับประทานอาหาร
แนะนาเรื่องการฝึกการขับถ่าย
พัฒนาการช้ากว่าวัย
ส่งเสริมพัฒนาการในแต่ละด้านโดยใช้ของเล่นหรือกิจกรรมที่ให้เด็กได้และมีส่วนร่วมมากที่สุด
แนะนาบิดามารดา ญาติ หรือผู้ดูแลเด็กในการดูแลส่งเสริมพัฒนาการเด็กอย่างสม่ำเสมอ
ติดตามและประเมินพัฒนาการเป็นระยะ ๆ
ศีรษะโตผิดปกติ
(Hydrocephalus)
การประเมินสภาพ ( Assessment )
หัวโตเมื่อเทียบกับลำตัว
เมื่อมีน้ำมากขึ้น หน้าผากโปนเด่น หนังศีรษะแยกออก
มี Sun Set Eye หรือ Setting Sun Sign กล้ามเนื้อแขนขากว้าง ซึม อาเจียน เบื่ออาหาร เลี้ยงไม่โต
การวินิจฉัย
เปรียบเทียบรอบศีรษะกับขนาดปกติของเด็กแต่ละวัย
ถ่ายภาพรังสีกะโหลกศีรษะจะเห็นการแยกของ Suture
Transillumination จะเห็นการแบกของ Suture
CT Scan หรือ Ventriculography จะเห็น Ventricle ขยาย
แนวทางการรักษา
ศีรษะโตไม่มาก
เจาะหลังใส่ยา ก็อาจให้ความดันของน้าไขสันหลังปกติ
ศีรษะโตมากขึ้นเรื่อย ๆ
ต้องผ่าตัดเอาส่วนที่อุดตันออก เช่น เนื้องอก
ทา Shunt ให้น้าไขสันหลังจาก Ventricle ไปสู่บริเวณที่มีการไหลเวียนปกติ
การพยาบาลก่อนผ่าตัด
มีโอกาสเกิดภาวะความดันในกะโหลกศีรษะสูง เนื่องจากมีการสะสมของน้าไขสันหลังในกะโหลกศีรษะ
อาจเกิดภาวะขาดสารน้าและอาหาร เนื่องจากดูดกลืนลาบาก อาเจียน
ความแข็งแรงของผิวหนังผิดไปจากคนปกติ เนื่องจากศีรษะโต
ความสัมพันธ์ระหว่างบิดามารดาและเด็ก อาจไม่เป็นไปตามปกติ
การพยาบาลหลังผ่าตัด
อาจเกิดการติดเชื้อหรือมีภาวะแทรกซ้อน เนื่องจากการผ่าตัดใส่ Shunt
อาจเกิดภาวะขาดสารน้าและอาหาร เนื่องจากดูดกลืนลาบาก อาเจียน
ท่อ Shunt อาจเกิดการอุดตัน เนื่องจากการกดหรือการผ่าตัด
อาจทาให้พัฒนาการล่าช้าเนื่องจากความเจ็บป่วย
บิดามารดามีความวิตกกังวล เนื่องจากขาดความเข้าใจในการดูแลบุตร
คำแนะนำแก่บิดามารดาเมื่อเด็กมี Shunt
แนะนาให้สังเกตอาการของความดันในกะโหลกศีรษะเพิ่ม
สังเกตบริเวณที่มี Pump ว่าบวมหรือไม่
จัดท่านอนให้เด็กนอนศีรษะสูงเล็กน้อย ห้ามนอนศีรษะต่ำ
แนะนาเกี่ยวกับเรื่องอาหาร เช่น ให้รับประทานผักผลไม้เพื่อป้องกันท้องผูก
ส่งเสริมพัฒนาการตามวัย พาเด็กมาตรวจตามนัดทุกครั้ง หรือเมื่อมีอาการ
ภาวะความดันสูง
ในกะโหลกศีรษะสูง
การเจาะตรวจดูน้ำไขสันหลังถ้าความดันของน้ำไขสันหลังที่เจาะได้สูงเกินกว่า 200 มิลลิเมตรน้ำ
การเปลี่ยนแปลงในปริมาตรของสิ่งใดสิ่งหนึ่งคือ สมองหลอดเลือดและน้ำไขสันหลังก็จะมีผลทำให้ความดันในกะโหลกศีรษะสูงขึ้นอยางผิดปกติได้
พบบ่อยในเด็กไดแก้เนื้องอกในสมอง, Hydrocephalus
การพยาบาลเพื่อป้องกันภาวะ
ความดันในกะโหลกศีรษะสูง
จัดท่านอนให้ศีรษะสูง 15-30 องศา
ประเมินสัญญาณชีพและการเปลี่ยนแปลงทางระบบประสาททุก 1--2 ชั่วโมง
เพิ่มอัตราการหายใจให้มากกว่าปกติ (Hyperventilation)
จำกัดน้ำ
Hypothermia เป็นการทาให้อุณหภูมิร่างกายอยู่ระหว่าง 32-33 องศาเซลเซียส
ให้ผู้ป่วยได้รับยา Acetazolamine (diamox) ตามแผนการรักษา
ผู้ป่วยที่ทำ Ventriculostomy เพื่อระบายน้ำไขสันหลัง
ผู้ป่วยโรคสมองบวมน้ำ (Hydrocephalus) ก่อนผ่าตัดต้องเฝ้าระวังภาวะความดันในกะโหลกศีรษะสูง
การพยาบาลเพื่อป้องกันภาวะ CO2 คั่ง
Myelodysplasia
ความผิดปกติของการเจริญเติบโต
และพัฒนาการของ spinal column
Spina bifida occulta
Meningocele
Myelomeningocele
สาเหตุ
การขาดอาหาร โดยเฉพาะ สังกะสี โฟเลต วิตามิน
อายุของมารดา วัยรุ่น และอายุมากกว่า 35 ปี
ข้อวินิจฉัยการพยาบาล
เสี่ยงต่อการเกิดการติดเชื้อบริเวณที่มีพยาธิสภาพและสมอง เนื่องจากมี open membranous sac, CSF ไหลจากบริเวณที่มีพยาธิสภาพ
เสี่ยงต่อการเกิดภาวะความดันสูงในกะโหลกศีรษะ เนื่องจากบางรายอาจมี hydrocephalus ร่วมด้วย
มี/อาจเกิดภาวะ bowel and bladder dysfunction เนื่องจากเส้นประสาทที่มาเลี้ยง อวัยวะควบคุมการขับถ่ายมีน้อย
สมองอักเสบ
(Encephalitis)
อาการและอาการแสดง
ไข้ มักสูงได้มาก ๆ ปวดศีรษะ ปวดต้นคอ คอแข็ง
ซึมลง จนกระทั่งถึงขั้นโคม่า ภายใน 24 –72 ชั่วโมง
ชัก มีการเคลื่อนไหวผิดปกติ (Involuntary movement)
กระสับกระส่าย อารมณ์ผันแปร เพ้อคลั่ง อาละวาด มีอาการทางจิต
การหายใจไม่สม่าเสมอ อาจหยุดเป็นห้วง ๆ
การวินิจฉัยโรค
ประวัติจากผู้เลี้ยงดู ให้ข้อมูลว่าผู้ป่วยมีไข้สูง ซึม คอแข็ง เป็นต้น
อาการและอาการแสดงดังที่กล่าวข้างต้น
3. การตรวจทางห้องปฏิบัติการ
การตรวจนับเม็ดเลือดขาวในเลือด
การตรวจน้ำไขสันหลัง
การตรวจคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าสมอง (MRI)
การตรวจคลื่นไฟฟ้าสมอง (EEG)
การตรวจวินิจฉัยแยกสาเหตุของเชื้อ
การรักษา
ดูแลระบบหายใจของผู้ป่วยให้ปกติ
2. การให้ยา
ยาระงับชัก
ยาป้องกันและรักษาความสมองบวม
ยานอนหลับ
ยา acyclovir
ยาลดไข้
ยาต้านจุลชีพหรือยาปฏิชีวนะ
รักษาสมดุลของปริมาณน้าเข้า-ออกของร่างกาย
การให้สารสารอาหารที่มีแคลอรีเพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย
สาเหตุ
Primary viral encephalitis
การที่มีไวรัสเข้าไปสู่สมองแล้วทำให้เกิดการอักเสบขึ้น
ไวรัสที่นาโดยแมลง
ไวรัสเริม
ไวรัสโรคพิษสุนัขบ้า
Secondary viral encephalitis
มีไวรัสเข้าสู่ร่างกายซึ่งปกติไวรัสนั้นไม่ได้เข้าสู่สมอง
เยื่อหุ้มสมองอักเสบ
(Meningitis)
เยื่อหุ้มสมองอักเสบ
จากเชื้อแบคทีเรีย
อาการและอาการแสดง
อาการที่แสดงว่ามีการติดเชื้อ คือ มีไข้สูง หนาวสั่น เบื่ออาหาร
อาการที่แสดงว่ามีการระคายของเยื่อหุ้มสมอง (Meningeal Irritation)
อาการคอแข็ง (Stiftness of Neck)
Kernig’s Sign Positive
Brudzinski’s Sign Positive
อาการที่แสดงถึงภาวะแทรกซ้อน
สมองบวม
มีน้าหรือหนองในช่องใต้เยื่อหุ้มสมอง
มีฝีในสมอง
การรักษา
การรักษาเฉพาะ
การรักษาทั่วไปตามอาการและการรักษาแบบประคับประคอง
ให้ยาลดไข้เมื่อมีไข้สูง
ให้ยานอนหลับเพื่อลดอาการกระสับกระส่าย
ให้ยากันชักในผู้ป่วยที่มีอาการชักเกร็ง
ให้ยาลดอาการบวมของสมอง
ให้สารน้าทางหลอดเลือดดำ
เจาะคอ หรือใช้เครื่องช่วยหายใจ
การรักษาภาวะแทรกซ้อน
ของเหลวคั่งในช่องใต้เยื่อหุ้มสมอง (subdural effusion)
ความดันในกะโหลกศีรษะสูง
การมองเห็นและการได้ยินผิดปกติ
การวินิจฉัย
ประวัติของผู้ป่วย
การตรวจห้องปฏิบัติการและการตรวจพิเศษ
การตรวจเลือด พบปริมาณเม็ดเลือดขาวมีจานวนสูงขึ้น
การตรวจน้ำไขสันหลัง
ลักษณะน้ำไขสันหลัง
ความดันน้ำไขสันหลัง
จำนวนเซลล์ในน้ำไขสันหลัง
โปรตีนในน้าไขสัน
น้ำตาลในน้าไขสันหลัง
การย้อมสีน้าไขสันหลัง (gram stain)
การตรวจคอมพิวเตอร์สมอง (CT scan)
เยื่อหุ้มสมองอักเสบจากเชื้อวัณโรค
(Tuberculous meningitis)
อาการและอาการแสดง
แบบเฉียบพลัน
แบบเรื้อรัง
ระยะนำ (prodomal stage)
ระยะเปลี่ยนแปลง (transitional stage)
ระยะสุดท้าย (terminal stage)
การวินิจฉัย
จากประวัติ
อาการอาการแสดงที่กล่าวข้างต้น
การตรวจทางห้องปฏิบัติการ และการตรวจพิเศษ
การทดสอบทูเบอร์คูลิน (tuberculin test)
การเจาะหลัง (Lumbar puncture)
ลักษณะน้ำไขสันหลังใสอาจมีสีเหลืองอ่อน
การตรวจย้อมสีน้ำไขสันหลังเพื่อหาเชื้อจุลินทรีย์
การเพาะเชื้อน้าไขสันหลังจะพบเชื้อวัณโรค
ถ้านำน้ำไขสันหลังตั้งทิ้งไว้ค้างคืนจะมีเยื่อผิว
การถ่ายภาพรังสีทรวงอกจะพบ primary tuberculosis ที่ปอด
การตรวจคอมพิวเตอร์สมอง (CT scan)
การรักษา
การรักษาเฉพาะ
การรักษาแบบประคับประคอง
การให้สารน้ำ
การให้นม/อาหารที่ให้พลังงาน
การรักษาภาวะแทรกซ้อน
การให้ยากันชักในรายที่มีอาการชักเกร็ง
การให้ยาลดอาการบวมของสมอง
ภาวะแทรกซ้อน
ระดับสติปัญญาลดลง
หูหนวกหรือพูดได้ช้า
อาการชัก
ภาวะน้าคั่งในโพรงสมอง
การพยาบาล
ผู้ป่วยเด็กมีภาวะความดันสูงในกะโหลกศีรษะและเสี่ยงตอการเกิดอันตรายจากการชัก
อาจได้รับสารอาหารและน้ำไม่เพียงพอ เนื่องจากอาการและพยาธิสภาพทางสมองและการได้รับยาขับน้ำ
ไม่สุขสบายพักหลับไดนอยเนื่องจากภาวะ ICP มีการระคายเคืองจากการอักเสบของเยื่อหุ้มสมองหรือเนื้อเยื่อสมอง มีไขมีความเจ็บปวด
เสี่ยงตอการเกิดภาวะอุดกั้นของทางเดินหายใจ และเซลล์สมองขาดออกซิเจน
พัฒนาการล่าช้า