Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
การเปลี่ยนแปลงของมารดาในระยะหลังคลอด, นางสาวอาทิตยา มุขรักษ์ ชั้นปีที่ 2…
การเปลี่ยนแปลงของมารดาในระยะหลังคลอด
การเปลี่ยนแปลงทางกายวิภาคและสรีรวิทยา
การเปลี่ยนแปลงด้านร่างกาย
มดลูก
หลังคลอด มดลูกจะลดลงทันทีที่ทารกคลอด โดยลักษณะมดลูกจะมีก้อนแข็งอยู่ระดับสะดือหรือต่ำกว่าสะดือเล็กน้อย
24 ชั่วโมงหลังคลอด มดลูกจะลอกเหนือยสะดือเล็กน้อยและจะเอียงไปทางขวา
10 วันหลังคลอด มดลูกจะอยู่ระดับหัวเหน่า
มดลูกลงสู่อุ้งเชิงกราน วันละ 0.5-1นิ้ว จนมดลูกอยู่ในระดับปกติ เรียกว่า
"มดลูกเข้าอู่"
น้ำคาวปลา
Lochia rubra เป็น 1-3วัน มีสีแดงเข้ม อาจมีขี้เทา ไข และขนอ่อนของบุตรปนออกมาด้วย
Lochia serosa 4-9วัน มีสีแดงจางๆหรือชมพูจนเป็นสีน้ำตาล มีเม็ดเลิอดขาว เม็ดเลือดแดง เศษเยื่อบุมดลูก
Lochia alba 10-14วัน สีจะเปลี่ยนเป็นสีขาว มีเม็ดเลือดขาว เมือก และอาจมีเศษเยื่อบุมดลูก
ปากมดลูก
หลังคลอดทันที จะมีลักษณะนุ่มมาก ไม่เป็นรูปเป็นร่าง ทั้ง Internal และ External os
หลังคลอด 1 สัปดาห์ มีลักษณะแข็ง กว้างประมาณ 1 cm
ุ6 สัปดาห์หลังคลอด ลักษณะเหมือนมีรอยตะเข็บหรือรอยแตก ด้านนอกไม่กลมเหมือนระยะก่อนคลอด สามารถบอกให้ทราบว่าสตรีรายนี้ได้ผ่านการทำคลอดมาแล้ว
ช่องคลอด
หลังคลอดช่องคลอดจะนุ่มมาก รอยย่นภายในช่องคลอดลดน้อยลง เส้นผ่่าศูนย์กลางจะกว้างกว่าระยะก่อนระยะก่อนคลอด
วิธีการแก้ไข : Kegel's exercise คือ การออกกำลังกล้ามเนื้อของอุ้งเชิงกราน ที่เป็นส่วนควบคุมหูรูดของช่อง/ปากทวารเบา และปากช่องคลอดให้แข็งแรง กระชับ ซึ่งจะช่วยให้สามารถกลั้นปัสสาวะได้ดีขึ้น
การมีประจำเดือน
การเลี้ยงลูกด้วยนม
เมื่อทารกดูดนมมารดา จะเกิดการกระตุ้นต่อมไฮโปทาลามัส ส่งผลให้เส้นประสาท/สมองกดไม่ให้หลั้ง FSH&LH จึงทำให้ไม่มีการตกไข่และไม่มีประจำเดือน
เต้านม
หลั่ง Prolactin hormone เพื่อกระตุ้นให้ผลิตน้ำนม เกิดเป็นการสร้างน้ำนมออกมา สามารถเกิกลไก Let down reflex หรือ Milk ejection reflex
ต่อมไร้ท่อต่างๆ
ทำให้ฮอร์โมนต่างๆในร่างกายลดลงเพื่อเป็นการปรับสมดุลในร่างกายให้เป็นปกติ
การเปลี่ยนแปลงระบบต่างๆ
ระบบทางเดินปัสสาวะ
ร่างกายจะปรับสมดุลโดยการกำจัดน้ำและโซเดียมเพื่อให้ความดันไม่เพิ่มขึ้น
ระบบหัวใจและหลอดเลือด
เม็ดเลือดขาวจะสูงขึ้น เนื่องจากมารดาอาจมีไข้หลังคลอดได้เนื่องจากขาดน้ำและกลไกป้องกันการติดเชื้อที่ช่วยในการหายของแผล
ส่วนประกอบของเลือดลดลงเพื่อปรับสมดุลในร่างกายให้ปกติ
ระบบทางเดินอาหาร
อาจะมีอาการท้องผูกเนื่องจากกล้ามเนื้อหน้าท้องหย่อน และNPOนาน
ระบบผิวหนัง
มีฝ้าขึ้นที่ใบหน้า
สีลานนมอาจจะเข้มขึ้น
การส่งเสริมสุขภาพมารดาหลังคลอด
การรับประทานอาหาร
ควรรับประทานอาหารที่มีคุณค่าเพื่อส่งเสริมให้ร่างกายแข็งแรงและผลิตน้ำนมได้อย่างเพียงพอต่อความต้องการของบุตร
ดื่มน้ำเป็นประจำ
อย่างน้อยวันละ 8-10 แก้ว ควรงดอาหารหมักดอง น้ำชา กาแฟ เครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ เนื่องจากสามารถผ่านทางน้ำนมได้ ทำให้ทารกได้รับอาหารเหล่านี้ไปด้วย
การพักผ่อน
ควรพักผ่อนมากๆ โดยใน 2 สัปดาห์แรกในตอนกลางวันควรพักผ่อนประมาณ 1-2 ชั่วโมงหรือพักผ่อนในช่วงที่ทารกหลับ ส่วนตอนกลางคืนควรพักผ่อนอย่างน้อย 8-10 ชั่วโมง
การทำงาน
ในระยะ 2 สัปดาห์แรกหลังคลอด สามารถทำงานบ้านเบาๆได้ ไม่ควรยกของหนักหรือทำงานที่ต้องออกแรงมากเพราะกล้ามเนื้อและเอ็นต่างๆยังไม่แข็งแรง ซึ่งอาจจะส่งผลทำให้มดลูกหย่อนในภายหลังได้ ในหลังคลอด 2 สัปดาห์ไปแล้ว จึงจะค่อยๆทำงานเพิ่มขึ้นทีละน้อยจนครบ 6 สัปดาห์จึงจะทำงานได้ตามปกติ
การรักาษาความสะอาดของร่างกาย
ควรอาบน้ำวันละ 2 ครั้ง ไม่ควรแช่ในอ่างน้ำเพราะอาจจะทำให้เชื้อโรคผ่านเข้าไปในโพรงมดลูกทำให้เกิดการติดเชื้อได้ ควรสระผมสัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง ตัดเล็บให้สั้น เสื้อผ้าต้องสะอาดอยู่เสมอ เพื่อให้ร่างกายสะอาด สามารถดูแลบุตรในวัยทารกแรกเกิดได้ ไม่ติดเชื้อหรือได้รับอันตรายจากผู้ที่ให้การเลี้ยงดู
การดูแลรักษาเต้านมและหัวนม
ขณะอาบน้ำควรล้างให้สะอาดและเช็ดหัวนมทุกครั้งหลังให้นมเสร็จเพราะอาจจะมีคราบน้ำนมแห้งติดทำให้หัวนมแห้งและแตกเป็นแผลได้ ควรสวมเสื้อยกทรงเพื่อเป็นการพยุงเต้านมไว้เนื่องจากเต้านมจะมีขนาดโตขึ้นและอาจจะทำให้เต้านมหย่อนได้ในภายหลังหากไม่สวมยกทรง
การมีเพศสัมพันธุ์
ควรงดการมีเพศสัมพันธุ์จนกว่าจะได้รับการตรวจหลังคลอดเมื่อครบ 4-6 สัปดาห์เนื่องจากช่วงหลังคลอดใหม่ๆยังมีแผลในโพนลรงมดลูก น้ำคาวปลาและมีแผลฝีเย็บที่ยังไม่ติดดี อาจจะทำให้เกิดการติดเชื้อได้
การเปลี่ยนแปลงด้านสังคม
การปรับตัวต่อบทบาทมารดา
1.สัมพันธภาพระหว่างสามี
2.การรับรู้ถึงการมีส่วนร่วมในการดูแลบุตรของสามี
3.ความพึงพอใจของมารดาที่มีต่อประสบการณ์ในระยะเจ็บครรภ์และระยะคลอด
4.ความพึงพอใจของมารดาต่อสภาพชีวิตและฐานะทางครอบครัว
5.ความมั่นใจของมารดาในการทำตามบทบบาท
6.ความพึงพอใจในการเลี้ยงดูบุตร
แบ่งตามระยะ
Taking - in phase
คือ 1-2 วัน มุ่งแต่ตนเอง สนใจแต่ความสุขสบายของตนมากกว่าบุตร
Taking - hold phase
คือ ประมาณ 10 วัน จะสนใจตนเองน้อยลงและจะสนใจบุตรของตนเพิ่มมากขึ้น
Taking -go phase
คือ ระยะที่มารดากลับบ้านแล้ว สามารถทำหน้าที่
พัฒนกิจกรรมการเป็นมารดา
ได้
ปัจจัยที่มีผลต่อการปรับตัวสู่บทบาทการเป็นมารดา
บุคลิกภาพและการเลี้ยงดูที่รับในวัยเด็ก
อายุ จะบ่งบอกถึงวุฒิภาวะและความพร้อมของการมีบุตร
ประสบการณ์ในการเลี้ยงดูเด็ก
การศึกษา
รายได้
สัมพันธภาพในชีวิตสมรส
บทบาทการเป็นมารดา
1.การปรับตัวเข้าสู่บทบาทใหม่
มารดาต้องเรียนรู้ภารกิจมารดาที่ต้องกระทำในการเลี้ยงดูบุตร
2.การสร้างสัมพันธภาพที่ดีระหว่างมารดา-บิดาและบุตร
เป็นการเรียนรู้พฤติกรรมการแสดงต่างๆของบุตร มีความชื่นชมและคงไว้ซึ่งการมีสัมพันธภาพที่ดีระหว่างสามี-ภรรยา
3.การจัดแบ่งหน้าที่รับความผิดชอบของสมาชิกในครอบครัวให้เหมาะสม
4.การวางแผนครอบครัว
เอกสารอ้างอิง
วราวุธ สุมาวงศ์
.การดูแลภายหลังคลอด
.คู่มือการฝากครรภ์และการคลอด.พิมพ์ครั้งที่ 12. กรุงเทพมหานคร : คณะแพทยศาสตร์ โรงบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล,2527 : 342-372
ชัยรัตน์ คุณาวิกติกุล.
ระยะหลังคลอด
: ธีระ ทองสง, ชเนนทร์ วนารักษ์,บรรณาธิการ.สูติศาสตร์(ฉบับเรียบเรียงครั้งที่ 4).กรุงเทพมหานคร:พี.บี.ฟอเรน บุีค เซนเตอร์,2541:169-178
Gabbe SG, Niebyl JR, Galan HL, Jauniaux ERM, Landon MB, Simpon JL, et al. Obstetrics : Normal and Problem Pregnancies.Elsevier Health Sciences : 2012.
อภิรัช อินทรางกูร ณ อยุธยา. (2554).
ความรู้เบื้องต้นการพยาบาลผดุงครรภ์ เล่ม 2 (ระยะคลอดและหลังคลอด
).เชียงใหม่: ครองช่างพริ้นติ้ง.
สร้อย อนุสรณ์ธีรกุล. (2557).
การดูแลฝีเย็บในระยะคลอดและหลังคลอด
. ขอนแก่น: โรงพิมพ์มหาวิทยาลัยขอนแก่น.
นางสาวอาทิตยา มุขรักษ์ ชั้นปีที่ 2 รุ่นที่ 26
เลขที่ 33 ห้องB
รหัสนักศึกษา 613020111241
: