Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
การสำรวจความถนัดด้านต่างๆของนักเรียนห้องเรียนพิเศษมัธยมศึกษาปีที่2 -…
การสำรวจความถนัดด้านต่างๆของนักเรียนห้องเรียนพิเศษมัธยมศึกษาปีที่2
บทนิยามเฉพาะ
ความถนัดในด้านต่างๆของพหปุัญญาของเด็กนักเรียนห้องเรียนพิเศษ หมายถึง ความถนัดในด้าน ภาษา , ด้านตรรกะและคณิตศาสตร์ , ด้านมิติสัมพันธ์ , ด้านร่างกายและการเคลื่อนไหว , ด้านดนตรี , ด้าน มนษุย์สัมพันธ์ , ด้านความเข้าใจตนเอง และด้านธรรมชาติวิทยาของเด็กเรียนห้องเรียนพิเศษโรงเรียนสระแก้ว ระดบัชนั้มธัยมศกึษาปีที่ 2 ซึ่งอาจมีการผสมในหลายๆ ความถนัดได้
ข้อมูลทฤษฎีพหุปัญญา การปรับใช้และอาชีพที่เหมาะสมกับความถนัดในพหุปัญญา
ความสามารถทางปัญญาของมนษุย์ตามทฤษฎีพหปุัญญา แบง่ออกเป็น 8 ด้าน ได้แก่
1.ปัญญาด้านภาษา (Linguistic Intelligence)
ปัญญาด้านตรรกะและคณิตศาสตร์ (Logical–Mathematical Intelligence)
ปัญญาด้านมิติสมัพนัธ์ (Visual – Spatial Intelligence)
4.ปัญญาด้านร่างกายและการเคลอื่นไหว (Bodily– Kinesthetic Intelligence)
5.ปัญญาด้านดนตรี (Musical Intelligence)
6.ปัญญาด้านมนษุย์สัมพันธ์ (Interpersonal Intelligence)
7.ปัญญาด้านความเข้าใจตนเอง (Intrapersonal Intelligence)
8.ปัญญาด้านธรรมชาติวิทยา (Naturalist Intelligence)
1.ปัญญาด้านภาษา (Linguistic Intelligence) หมายถึง ความฉลาดที่จะเรียนรู้ด้วยการฟัง พดู และใช้ภาษา และมีทกัษะในการฟัง อ่าน เขียนคา เด็กพฒันาทกัษะด้านการฟังและการพดูได้ดี ความคิดมกัจะออกมาเป็นคาพดูมากกวา่เป็น ภาพ เก่งที่จะเลา่เรื่อง อธิบาย สอน อธิบายวิเคราะห์การใช้คําพูด - มีนิสยัรักการอ่าน ติดหนงัสอื ชอบเขียน ชอบพดู สามารถเลา่เรื่องตา่ง ๆ ได้ดี - เจ้าบทเจ้ากลอน มีอารมณ์ขนั ชอบเลน่ปริศนาค าทายชอบพดูเล่น คําสานวน - ชอบเรียนวิชาภาษาไทยภาษาตา่งประเทศ ประวัติศาสตร์ - ชอบพดูเล่น คําสํานวน คําผวน คาพ้อง
2.ปัญญาด้านตรรกะและคณิตศาสตร์ (Logical – Mathematical Intelligence) หมายถึง ความฉลาดที่จะเรียนรู้ด้วยเหตผุลตรรกะ และตวัเลข เด็กมกัคิดเป็นระบบ หรือ เรียงลา ดบัตามเหตกุารณ์ เก่งที่จะเชื่อมโยงข้อมลูตา่งๆเข้าเป็นภาพใหญ่ มกักระตือรือร้นสนใจสงิ่ รอบตวัเสมอๆมกัชอบคําถามและชอบทดลองเพื่อให้ได้คําตอบ อีกทั้งยังมีทักษะด้านการคํานวณและ รูปทรงเรขาคณิต - ชอบทดลองแก้ปัญหา สนกุที่ได้ทํางานกบัตวัเลข หรือเกมคิดเลข การคิดเลข - ชอบและมีทกัษะในการใช้เหตผุล การซกัถามปัญหาให้คิดเชิงเหตผุล - สนใจขา่วคราวความเคลอื่นไหวเกี่ยวกบัวิทยาศาสตร์ และวิทยาการตา่ง ๆ - ชอบค้นหาเหตผุลมาหกัล้างหรือวิพากษ์วิจารณ์การกระท าของผ้อูื่น - เชื่อถือเฉพาะแตส่งิ่ที่อธิบายได้ มีเหตผุลเพียงพอ - ชอบเรียนวิชาคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์
3.ปัญญาด้านมิติสัมพันธ์ (Visual – Spatial Intelligence) หมายถึง ความฉลาดที่จะเรียนรู้ด้วยการมองเห็นภาพ/มิติ เก็บข้อมลูจากการมองเห็นจนเกิด ความคิดในเชิงมิติ และปรากฏภาพในสมอง และจดจ าภาพเหลา่นนั้เป็นข้อมลูไว้ใช้ตอ่ไป ทกัษะของ เด็กที่เก่งด้านน ี้อาทิ ตอ่ภาพปริศนา การอ่าน เขียน และท าความเข้าใจแผนภมูิ กราฟ ลกัษณะ - ชอบวาดเขียน มีความสามารถทางศิลปะ - ชอบวาดภาพ บนัทกึเรื่องราวไว้ในภาพถ่ายหรือภาพวาด - ชอบเลน่เกมตอ่ภาพ (Jigsaw Puzzles) เกมจบัผิดภาพ หรือเกมที่เกี่ยวกบัภาพ -ชอบวาดภาพในลกัษณะมมุมองที่แตกตา่งออกไปจากธรรมดา - ชอบดหูนงัสอืที่มีภาพประกอบมากกวา่หนงัสอืที่มีแตข่้อความ
4.ปัญญาด้านร่างกายและการเคลื่อนไหว (Bodily – Kinesthetic Intelligence) หมายถึง ความฉลาดที่จะควบคมุร่างกาย การเคลื่อนไหว และจัดการงานต่างๆได้ดี มกัแสดงตัวตน ด้วยการเคลอื่นไหว มีทกัษะในการใช้สายตาร่วมกนัมือ เช่น เล่นบอลได้ดี หรือ ยิงเป้าได้แม่น ทําให้สามารถจดจําและจัดระบบข้อมลูสิ่งรอบตัวได้ดี ซึ่งท าให้มีทกัษะในการเต้นรํา ควบคมุความสมดลุ ร่างกาย กีฬา การทดลอง -ชอบการเคลื่อนไหว ไมอยู่นิ่ง ชอบสัมผัสอื่นเมื่อพดูคยุด้วย - เป็นนกักีฬา กระตือรือร้น ชอบเต้นรํา เลน่ละคร หรือบทบาทสมมตุิ - ชอบพดูคยุเสียงดัง เอะอะตึงตัง ชอบเลน่หกคะเมนตีลงักากบัเพื่อน - ชอบเรียนวิชาพลศึกษา งานประดิษฐ์กิจกรรมกลางแจ้ง - ชอบลงมือกระท าจริงมากกวา่การอ่านคมู่ือแนะนําหรือดูวูดีโอแนะนํา - ชอบคิดหรือใช้ความคิดขณะออกกําลงักาย เดิน วิ่ง
5.ปัญญาด้านดนตรี (Musical Intelligence) หมายถึง ความฉลาดที่จะสร้างและดื่มด ่ากบัสนุทรียทางดนตรี ท าให้เด็กกลมุ่นมี้กัคิดเป็นจงัหวะ และรูปแบบ (คล้ายกบัการเลน่ดนตรี แบบวงดนตรีเลน่ร่วมกนัเป็นเพลง) มกัตอบสนองตอ่เสยีงดนตรีทงั้ ด้านความชื่นชมหรือวิพากษ์วิจารณ์ มีทกัษะในการร้องเพลง ผิวปาก เลน่เครื่องดนตรี จดจ าจงัหวะและ แบบแผนของเสยีง ประพนัธ์เพลง จดจ าทว่งท านองเสนาะ และเข้าใจโครงสร้างและจงัหวะของดนตรี - ชอบร้องร าท าเพลง เลน่ดนตรี ชอบเสยีงตา่ง ๆ ชอบธรรมชาติ - แยกแยะเสยีงตา่ง ๆ ได้ดี รู้จกัทว่งท านอง เรียนรู้จงัหวะดนตรีได้ดี - มกัจะเคาะโต๊ะ หรือขยบัเท้าตามจงัหวะเมื่อฟังเพลง - สามารถจดจ าเสยีงที่เคยได้ยินแม้เพียงครัง้เดียวหรือสองครัง้ได้ - เลน่เครื่องดนตรีได้อยา่งน้อย 1 ชิน้
6.ปัญญาด้านมนุษย์สัมพันธ์ (Interpersonal Intelligence) หมายถึง ความฉลาดที่จะสร้างความสมัพนัธ์และเข้าใจผ้อูื่น มกัจะมองสง่ิตา่งๆด้วยมมุมองของคน อื่นๆรอบตวัเพื่อให้เข้าใจวา่คนอื่นๆคิดอยา่งไรและรู้สกึอยา่งไร เป็นนกัจดัการแม้บางครัง้อาจจะดวูา่เจ้า กีเ้จ้าการไปบ้าง แตก่็เพื่อให้เกิดความสงบสนัติในกลมุ่ และท าให้เกิดความร่วมมือกนั โดยใช้ทงั้ภาษา พดูและภาษากาย เช่น การสบตา การเอียง/โน้มตวั ยมิ้ เพื่อสร้างสมัพนัธ์ให้สอื่สารกนัได้ มีทกัษะในการ ฟังและเข้าใจคนอื่นใช้ความเห็นอกเห็นใจ และความเข้าใจอารมณ์ - ชอบมีเพื่อน ชอบพบปะผ้คูนร่วมสงัสรรค์กบัผ้อูื่น - ชอบเป็นผ้นู า หรือมีสว่นร่วมในกลมุ่ - ชอบพดูชกัจูงให้ผ้อูื่นท ามากกวา่จะลงมือท าด้วยตนเอง - เข้าใจผ้อูื่นได้ดี สามารถอ่านกิริยาทา่ทางของผ้อูื่นได้ชอบเข้าสงัคม
7.ปัญญาด้านความเข้าใจตนเอง (Intrapersonal Intelligence) หมายถึง ความฉลาดในการเข้าใจตนเอง สอื่สารกบัตนเอง โดยเฉพาะการมีสติกบัภาวะภายในของ ตน เข้าใจจุดแข็งจุดอ่อนของตน สะท้อนและวิเคราะห์ตนเอง วิเคราะห์แบบแผนการคิดของตน ให้เหตผุล กบัตน เข้าใจบทบาทหน้าที่และสมัพนัธภาพกบัผ้อูื่น - ชอบอยตู่ามลา พงัคนเดียวเงียบ ๆ คิดถึงเรื่องราวเกี่ยวกบัตนเอง - ติดตามสงิ่ที่ตนเองสนใจเป็นพิเศษ มีแรงจูงใจสงู - มีอิสระในความคิด รู้ตวัวา่ท าอะไร และพฒันาความรู้สกึนกึคิดอยเู่สมอ - ชอบท าอะไรด้วยตนเองมากกวา่ที่จะคอยให้คนอื่นช่วยเหลอื - ให้อยกู่บักลมุ่ ท างานร่วมกบัผ้อูื่นบ้าง
1 more item...
ผลการดําเนินงานศึกษาค้นคว้าผลการดําเนินงานศึกษาค้นคว้า
ด้านที่4
14คน
ด้านที่5
6คน
ด้านที่3
9คน
ด้านที่6
20คน
ด้านที่2
22คน
ด้านที่7
9คน
ด้านที่1
2คน
ด้านที่8
25คน
สรุปผล
จากผลการศึกษาพบวานักเรียนห้องเรียนพิเศษชนั้มธัยมศกึษาปี2 ( ม.2/13 ถึง ม.2/16 ) จํานวน 107 คน ของโรงเรียนสระแก้ว มีความถนดัในหลายๆด้าน ซงึ่เป็นสง่ิที่ดีเพราะการมีทกัษะหลายด้านจะ ท าให้เด็กมีความพร้อมที่จะเรียนรู้ในสงิ่ตา่งๆ ได้อยา่งหลากหลาย โดยสว่นใหญ่เด็กนกัเรียนกลมุ่นมี้ี ความถนดัด้านที่ 2ปัญญาด้านตรรกะและคณิตศาสตร์ (Logical–Mathematical Intelligence)ด้านที่ 6 ปัญญาด้านมนษุย์สมัพนัธ์ (Interpersonal Intelligence) และด้านที่ 8ปัญญาด้านธรรมชาติวิทยา (Naturalist Intelligence)นนั่หมายถึงเด็กกลมุ่นสี้ว่นใหญ่เป็นเด็กที่มีทกัษะความพร้อมที่จะเรียนรู้ ทางด้านตรรกะคณิตศาสตร์ ความเป็นเหตเุป็นผล มีความสนใจในสงิ่แวดล้อมรอบๆตวัซงึ่เป็นพนื้ฐาน สา คญัในการเรียนรู้ทางวิทยาศาสตร์ รวมทงั้มีทกัษะในการสร้างความสมัพนัธ์และเข้าใจผ้อูื่น ขณะที่ผลการศกึษาครัง้นกี้็บอกด้วยเช่นกนัวา่เด็กกลมุ่นสี้ว่นใหญ่ไม่ถนดัด้านที่ 1 ปัญญาด้าน ภาษา (Linguistic Intelligence)คือยงัต้องเสริมเรื่องของการเรียนรู้ ทกัษะการพดู และใช้ภาษา ทกัษะ ในการฟัง การเขียน จากผลการศกึษาสรุปได้วา่เด็กกลมุ่นมี้ีทกัษะที่เหมาะสมในการศกึษาหรือประกอบอาชีพด้าน วิทยาศาสตร์ สงิ่แวดล้อมหรือเทคโนโลยี เช่น อาชีพที่เกี่ยวกบัวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีตา่งๆ วิศวกร แพทย์ เภสชักร โปรแกรมเมอร์ นกัวิทยาศาสตร์ เป็นต้น