Please enable JavaScript.

Coggle requires JavaScript to display documents.

ภาวะน้ำคร่ำอุดกั้นหลอดเลือดในปอด (Amniotic fluid embolism/AFE) :warning…

- - - - อาการเขียว เส้นเลือดหัวใจหดเกร็ง (cardiovascular collapse)
      - ระบบหายใจล้มเหลว (respiratory distress)
      - เลือดออก ไม่รู้สติ
    - - เลือดจากกระแสเลือดไปปอดของมารดา
        หรือจากในสายของซีวีพี (CVP line)
      - เสมหะ การถ่ายภาพรังสีทรวงอก การตรวจคลื่นไฟฟูาหัวใจ (ECG)tachycardia STและ T wave
      - การตรวจหาเซลล์ผิวหนัง ขนอ่อน (lanugo hair) เมือกของทารกหรือเซลล์จากรก (fetal squamous cell, fetal debris, trophoblasts) ตรวจได้จากการชันสูตรศพ
      - ตรวจการไหลเวียนของเลือดในปอด
      - การตรวจหา Sialy 1TH antigen จะพบมีระดับสูงขึ้น
        ในน้ำคร่ำที่มีขี้เทาปนเปื้อน
  - - - ทำให้ผู้คลอดเสียชีวิตจากการเสียเลือด
      - ถ้ามีผู้รอดชีวิตมักมีอาการทางระบบประสาท เนื่องจากมีภาวะขาดออกซิเจนรุนแรง
    - - โอกาสรอดของทารกมีค่อนข้างน้อย แต่เกือบครึ่งของทารกที่รอดชีวิตจะมีภาวะบกพร่องทางระบบประสาท
- - - - ให้สารน้ำ
      - เฝ้าระวังการเกิดภาวะตกเลือดหลังคลอด
      - ให้ออกซิเจน
      - สังเกตการหดรัดตัวของมดลูก
      - จัดให้มารดานอนในท่า fowler
      - เตรียมช่วยเหลือการคลอดโดยคีมหรือผ่าตัดคลอดทางหน้าท้อง และเตรียมช่วยฟื้นคืนขีพ
      - ใช้เครื่องช่วยหายใจใน 2-3 วันแรก
      - ดูแลและให้กำลังใจต่อครอบครัว ถ้ามารดาและทารกเสียชีวิต
  - - - ในมารดาที่ถุงน้ำคร่ำแตก ถ้าลักษณะของน้ำคร่ำมีขี้เทาปน ควรสังเกตอาการเปลี่ยนแปลงของมารดาอย่างใกล้ชิด
      - ประเมินการหดรัดตัวของมดลูกถ้ารุนแรงผิดปกติควรรายงานแพทย์
      - สังเกตอาการแสดงระยะแรก ได้แก่ อาการหอบเหนื่อย อาการเขียว
      - ประเมินเสียงหัวใจของทารกในครรภ์
      - เฝูาระวังในมารดาที่ได้รับยาเร่งคลอดอย่างใกล้ชิด ประเมินการหดรัดตัว
      - ให้การพยาบาลมารดาด้วยท่าทีที่เป็นมิตร
    - - สังเกตอาการผิดปกติ เช่น หน้ามืด ใจสั่น เหงื่อออก ตัวเย็น ความดันโลหิตต่ำ
      - เตรียมช่วยมารดาในภาวะฉุกเฉิน
      - งดน้ำและอาหาร เตรียมช่วยเหลือการคลอดด้วยสูติศาสตร์หัตถการ
      - บันทึกจำนวนปัสสาวะ
      - ให้สารน้ำและให้เลือดตามแผนการรักษา
      - บันทึกสัญญาณชีพ โดยเฉพาะความดันโลหิตทุก 15 นาที
    - - บันทึก V/S ทุก 15 นาที
      - ฟังและบันทึกเสียงการเต้นของหัวใจทารกในครรภ์ทุก 15 นาที
      - ให้ออกซิเจนให้เพียงพอ
      - ดูแลมารดาอย่างใกล้ชิดตลอดเวลา
      - จัดท่านอน Fowler’s position