Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
การจัดการเรียนรู้และการพัฒนาคุณภาพการศึกษาอย่างต่อเนื่อง - Coggle Diagram
การจัดการเรียนรู้และการพัฒนาคุณภาพการศึกษาอย่างต่อเนื่อง
พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542
มาตรา 22
การจัดการศึกษาต้องยึดหลักที่ว่าผู้เรียนทุกคนมีความสามารถเรียนรู้และพัฒนาตนเองได้และถือว่าผู้เรียนมี
ความสำคัญที่สุด กระบวนการจัดการศึกษาต้องส่งเสริมให้ผู้เรียนสามารถพัฒนาตามธรรมชาติและเต็มตามศักยภาพ
มาตรา 24
จัดกิจกรรมให้ผู้เรียนได้เรียนรู้จากประสบการณ์จริง ฝึกการปฏิบัติให้คิดได้ คิดเป็น ทำเป็น รักการอ่านและเกิดการใฝ่รู้อย่างต่อเนื่อง
จัดการเรียนการสอน โดยผสมผสานสาระความรู้ด้านต่างๆ อย่างได้สัดส่วนสมดุลกัน รวมทั้งปลูกฝังคุณธรรม ค่านิยมที่ดีงามและคุณลักษณะอันพึงประสงค์ไว้ในทุกวิชา
ฝึกทักษะ กระบวนการคิด การจัดการการเผชิญสถานการณ์และการประยุกต์ความรู้มาใช้เพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหา
ส่งเสริมสนับสนุนให้ครูสามารถจัดบรรยากาศ สภาพแวดล้อม สื่อการเรียนและอำนวยความสะดวก เพื่อให้เกิดการเรียนรู้และมีความรอบรู้
จัดเนื้อหาสาระและกิจกรรมให้สอดคล้องกับความสนใจและความถนัดของผู้เรียนโดยคำนึงถึงความแตกต่างระหว่างบุคคล
การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ให้เกิดขึ้นได้ทุกเวลา ทุกสถานที่ มีการประสานความร่วมมือกับบิดา มารดา ผู้ปกครองและบุคคลในชุมชนทุกฝ่าย เพื่อร่วมกันพัฒนาผู้เรียนตามศักยภาพ เพื่อให้บรรลุตามเป้าหมายดังกล่าว
ความหมาย
กิจกรรมการเรียนรู้
การปฏิบัติต่างๆ ของผู้เรียนที่ก่อให้เกิดการเรียนรู้อย่างมีประสิทธิภาพตามเป้าหมายวัตถุประสงค์ผลการเรียนรู้หรือมาตรฐานตัวชี้วัดที่กำหนดไว้ในหลักสูตรสถานศึกษา หรืออีกความหมายหนึ่ง
วิธีการ/กิจกรรมที่ครูหรือผู้เกี่ยวข้องนำมาใช้เพื่อให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้
ความสำคัญ
ฝึกความรับผิดชอบ การทำงานร่วมกัน ช่วยเหลือเกื้อกูลตามศักยภาพ และคุณลักษณะที่ดี
ส่งเสริมทักษะกระบวนการต่างๆ เช่น การคิดสร้างสรรค์การสื่อสาร การแก้ปัญหากระบวนการกลุ่ม การบริหารจัดการ ฯลฯ
ปลูกฝังความเป็นประชาธิปไตย การใช้ทักษะชีวิต
ฝึกการใช้เทคโนโลยีให้เกิดประโยชน์ เป็นเครื่องมือการเรียนรู้ตลอดชีวิต
เปิดโอกาสให้ประสบความสำเร็จในการเรียนรู้
สร้างปฏิสัมพันธ์ที่ดีระหว่างผู้เรียนกับผู้เรียนกับครูและบุคคลที่เกี่ยวข้องอื่น ๆ
กระตุ้นความสนใจ สนุกสนาน ตื่นตัวในการเรียน มีการเคลื่อนไหว
เข้าใจบทเรียนและส่งเสริมพัฒนาการผู้เรียนในทุกๆด้าน
หลักการ
หลักการจัดประสบการณ์การเรียนรู้
เป็นกิจกรรมที่ส่งเสริมจุดมุ่งหมายในการจัดการเรียนรู้หลายๆ ด้าน
คำนึงถึงความแตกต่างระหว่างบุคคล จึงควรจัดกิจกรรมให้หลากหลาย
ประสบการณ์รอง (Contrived experience)
ประสบการณ์นาฏการ (Dramatized experience)
ประสบการณ์ตรง (Direct experience)
การสาธิต (Demonstration)
การศึกษานอกสถานที่ (Field trip)
นิทรรศการ (Exhibition)
ภาพยนตร์และโทรทัศน์ (Movie and television)
การบันทึกเสียง วิทยุ และภาพนิ่ง (Sound recording, Radio and Slide)
ทัศนสัญลักษณ์( Visual symbols)
สัญลักษณ์ของภาษา/วจนสัญลักษณ์ (Verbal symbol)
เลือกกิจกรรมที่เหมาะสมกับความสามารถทางด้านร่างกายของผู้เรียนที่จะปฏิบัติได้ และควรคำนึงถึงประสบการณ์เดิม
เลือกประสบการณ์ที่ผู้เรียนพึงพอใจ สนุก น่าสนใจ ไม่ซ้้ำซาก มีประโยชน์ต่อการนำไปใช้ในชีวิตประจำวัน และทำให้ผู้เรียนมีเจตคติที่ดีต่อการเรียน
เลือกประสบการณ์ที่สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ของการจัดการเรียนรู้/ตัวชี้วัด/ผลการเรียนรู้
หลักการจัดกิจกรรมการเรียนรู้
ผู้เรียนมีส่วนร่วมทำกิจกรรมและการประเมินผล
ส่งเสริมกระบวนการคิดและทักษะต่างๆ
ใช้สื่อ/แหล่งเรียนรู้ที่หลากหลายและเหมาะสม
ใช้เทคนิควิธีการเรียนรู้ที่หลากหลาย
จัดเรียงเนื้อหาตามลำดับขั้นตอน
มีการวัดและประเมินผลหลากหลายและเหมาะสมสอดคล้องกับกิจกรรม
เหมาะสมกับวัย ความสามารถและความสนใจของผู้เรียน
ผู้เรียนมีความสุข มีเจตคติที่ดีและอยากเรียนรู้มากขึ้น
สอดคล้องกับเจตนารมณ์ของหลักสูตร จุดประสงค์การจัดการเรียนรู้ ลักษณะเนื้อหาวิชา
ลักษณะการจัดการเรียนรู้
การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของผู้เรียน
ทักษะพิสัย (Psychomotor Domain)
จิตพิสัย (Affective Domain)
พุทธิพิสัย (Cognitive Domain)
ผู้สอนต้องใช้ทั้งวิชาการ (ศาสตร์) และทักษะ/เทคนิค (ศิลป์)
กระบวนการปฏิสัมพันธ์ระหว่างผู้สอนและผู้เรียน
กระบวนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้
กระบวนการความรู้ความเข้าใจ
แบ่งความรับผิดชอบไปแสวงหาความรู้
พัฒนาความรู้ความเข้าใจ
วางแผนกำหนดแนวทาง
สรุปสาระสำคัญ
สังเกตและตระหนัก
กระบวนการสร้างความตระหนัก
วิจารณ์
สรุปผล
สังเกต
กระบวนการกลุ่ม
กำหนดจุดประสงค์และวิธีการ
รับฟังความคิดเห็นจากสมาชิก
สรุปผล
เลือกผู้นำกลุ่ม
กระบวนการแก้ปัญหา
สร้างทางเลือก
เก็บรวบรวมข้อมูลหรือทดสอบ
วิเคราะห์
สรุปผล
สังเกต
กระบวนการสร้างค่านิยม
การเลือกกำหนดเป็นค่านิยม
เห็นคุณค่าและนำไปปฏิบัติ
การวิเคราะห์
สรุปเป็นค่านิยมของตนเอง
สังเกตและตระหนัก
กระบวนการความคิดสร้างสรรค์
รวบรวมข้อมูลและปล่อยความคิดไว้เงียบๆ
เชื่อมโยงความคิด
เตรียมข้อมูล
ทดสอบความคิดและพิสูจน์ให้เห็นจริง
กระบวนการสร้างเจตคติ
วิเคราะห์
สรุป
สังเกต
กระบวนการทางคณิตศาสตร์
ทักษะการคิดคำนวณ
ยกตัวอย่างและสรุปเป็นกฎ
ฝึกประยุกต์ใช้ในสถานการณ์ใหม่
สร้างความคิดรวบยอด
สรุปผล
ทักษะการแก้โจทย์ปัญหา
กำหนดแนวทางแก้โจทย์ปัญหา
หาค าตอบ
ทำความเข้าใจโจทย์ปัญหา
กระบวนการปฏิบัติ
ทำตามแบบ
ทำเองโดยไม่มีแบบ
สังเกตและรับรู้
ฝึกให้เกิดความชำนาญ
กระบวนการทางวิทยาศาสตร์
ทดลอง/รวบรวมข้อมูล
วิเคราะห์ข้อมูล
ตั้งสมมติฐาน
สรุปผล
กำหนดปัญหา
กระบวนการคิดอย่างมีวิจารณญาณ
การรับฟัง
การเชื่อมโยงความสัมพันธ์
การอธิบาย
วิเคราะห์ วิจารณ์
สรุป
สร้างความคิดรวบยอด
กระบวนการทางภาษาศาสตร์
สร้างความคิดรวบยอด
ถ่ายทอดหรือสื่อความหมาย ความคิด
ทำความเข้าใจสัญลักษณ์
พัฒนาความสามารถ
กระบวนการสร้างความคิดรวบยอด
จำแนกลักษณะร่วมและสรุป
ทดสอบความเข้าใจ
สังเกตและคิด
สรุปแนวทางความคิด
การรับรู้
กระบวนการจัดการเรียนรู้ 9 ประการ
ประเมินผลทางเลือก
วางแผนการปฏิบัติ
สร้างทางเลือกหลากหลาย
ปฏิบัติอย่างชื่นชม
คิด วิเคราะห์ วิจารณ์
ประเมินระหว่างปฏิบัติ
ตระหนักในปัญหาและความจำเป็น
ปรับปรุงแก้ไข
ประเมินผลรวมเพื่อให้เกิดความภาคภูมิใจ
กิจกรรมที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ
การแสดงความคิดเห็นเพื่อแก้ปัญหา
การตั้งข้อสังเกตหรือบอกวิธีแก้ปัญหาอาจพูดหรือเขียนบรรยายหรือแสดงท่าทาง
การค้นหา
การศึกษาค้นคว้าหาข้อเท็จจริง/ข้อมูลสารสนเทศ/ทักษะกระบวนการซึ่งอาจทำโดยการรวบรวม การสังเกต การทดลอง การตรวจสอบ หรือการฝึกฝน
การอภิปราย
หัวข้อเป็นข้อความหรือคำถามก็ได้ อธิบายแสดงเหตุผลสนับสนุน/โต้แย้ง โดยไม่แบ่งฝ่าย ไม่มีการลงมติ
ลงมือปฏิบัติด้วยตนเอง
รวมถึงการรวบรวมปรับปรุงจากผลงานที่มีผู้ทำไว้ โดยเสนอเป็นข้อเขียน
การซักถาม
ตั้งคำถามให้ช่วยกันตอบรายบุคคล/กลุ่ม/ชั้นเรียน เกี่ยวกับเรื่องที่เรียนหรือกิจกรรม
บทบาทครู
การให้คำแนะนำ
ชี้แนะกิจกรรม หัวข้อศึกษาค้นคว้าหรือสถานการณ์ โดยเสนอให้เลือกหรือให้ผู้เรียนกำหนดเองและผู้สอนปรับแก้ให้เป็นไปตามหลักสูตร
ชี้แนะวิธีดำเนินการ โดยให้คำปรึกษา
การกำกับดูแลกิจกรรม
กำกับดูแลการทำงาน โดยแนะนำวิธีการทำงานให้เป็นไปอย่างถูกวิธี ถูกรูปแบบ
ประเมินผลตามสภาพจริง โดยการสังเกตพิจารณาระหว่างปฏิบัติงานตามขั้นตอนต่างๆ อย่างต่อเนื่อง
เทคนิคและวิธีการจัดการเรียนรู้
การเรียนรู้แบบบูรณาการ (Integrating Method)
กำหนดเนื้อเรื่อง (สอดคล้องกับสาระการเรียนรู้ช่วงชั้นแต่ละวิชา)
กำหนดขอบเขตการเรียนรู้ (กิจกรรมและเวลา)
กำหนดจุดประสงค์ (สอดคล้องกับมาตรฐานการเรียนรู้ช่วงชั้น)
ดำเนินกิจกรรม (วิธีการหลากหลาย ค้นคว้าจากแหล่งในท้องถิ่น/ชุมชน)
กำหนดหัวข้อ (ที่เกี่ยวกับชีวิตประจำวัน)
ประเมินผลตามสภาพจริง (แฟ้มสะสมงาน สังเกต กิจกรรม การตอบสนองและพัฒนาการ)
การเรียนรู้แบบถามตอบ (Ask and Question Model)
วางแผน
ดำเนินการถามตอบ
ศึกษาความรู้
ทบทวนและสรุปความรู้
กิจกรรมสร้างสรรค์
แนะนำกิจกรรม
การเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้(Inquiry Based)
การอธิบาย (Explanation) : ทำความเข้าใจปัญหา
การทำนาย (Prediction) : หาแนวทางแก้ปัญหา
การสังเกต (Observation) : ได้ข้อมูล/ข้อเท็จจริงที่เป็นปัญหา
การนำไปใช้และสร้างสรรค์ (Control and Creativity) : ได้ข้อค้นพบและนำไปใช้
การเรียนรู้ด้วยรูปแบบซิปปา (CIPPA Model)
แลกเปลี่ยนความรู้ความเข้าใจกับกลุ่ม (CIPP)
สรุปและจัดระเบียบความรู้ (CIPP)
ศึกษาทำความเข้าใจ (CIPP)
แสดงผลงาน (CIPPA)
ประยุกต์ใช้ความรู้ (CIPPA)
แสวงหาความรู้ใหม่ (CIPP)
ทบทวนความรู้เดิม (CI)
การเรียนรู้แบบศูนย์กลางเรียน (Learning Center)
เข้าศึกษาประจำศูนย์การเรียน หัวหน้ากลุ่มหยิบบัตรคำสั่ง สมาชิกปฏิบัติตาม
ครบกำหนดเวลาผู้สอนบอกเปลี่ยนศูนย์เมื่อศึกษาครบทุกศูนย์พบปะพร้อมกันทั้งชั้นเรียน เพื่ออภิปรายซักถามหรือ เสนอรายงาน
ทำความตกลงวิธีเรียน เวลา ความรับผิดชอบ
การเรียนรู้แบบโครงงาน (Project Work)
เขียนเค้าโครง
ปฏิบัติโครงงาน
ศึกษาเอกสารที่เกี่ยวข้อง
เขียนรายงาน
คิดและเลือกหัวข้อ
แสดงผลงาน
การเรียนรู้แบบโครงสร้างความรู้ (Graphic Organizer)
The Circle (แผนผังความคิดแบบวงจร)
The Fish Bone (แผนผังก้างปลา)
Venn Diagram (แผนผังรูปแบบเวนน์)
The Grid (แผนผังแบบจำแนกรายละเอียด)
Web (แผนผังใยแมงมุม)
The Ranking Ladder (แผนผังความคิดแบบเปรียบเทียบเรียงลำดับ)
Mind Mapping (แผนผังความคิด)
การเรียนรู้ด้วยรูปแบบการเรียนรู้เป็นคู่ (Learning Cell)
ก่อนวันเรียน ผู้สอนชี้แจงวิธีการเรียน -ผู้สอนเตรียมเนื้อหาให้ผู้เรียนศึกษาอย่างละเอียด (ศึกษาได้ด้วยตนเองไม่เกิน 1-2 ชั่วโมง) –ผู้เรียนเขียนคำถามที่ครอบคลุมเนื้อหาไม่ต่ำกว่า 10 ข้อ เตรียมไว้ 2 ชุด พร้อมคำตอบก่อนเข้าห้องเรียน
ในคาบเรียน ผู้สอนกระตุ้นการทำกิจกรรม ควบคุมเวลาและการทดสอบหลังเรียนรายบุคคล -ผู้เรียนทุกคนส่งคำถามให้ผู้สอน 1 ชุด เก็บไว้ถามเพื่อน 1 ชุด -จับกันเป็นคู่ เพื่อถามและตอบ -ด าเนินการถาม
การเรียนรู้แบบร่วมมือร่วมใจ
ขั้นตอนการเรียนแบบร่วมมือร่วมใจ
บอกสิ่งที่คาดหวังและกำหนดเวลาการทำงาน
เสนอเนื้อหาโดยใช้วิธีการที่เหมาะสม
แบ่งผู้เรียนเป็นกลุ่ม
ช่วยเหลือผู้เรียนขณะทำงาน
กำหนดวัตถุประสงค
ทดสอบความรู้ /ทักษะ (การเรียนรู้ การใช้อุปกรณ์)
เลือกเนื้อหาและกำหนดเกณฑ์
บันทึกผลทั้งรายบุคคลและกลุ่ม
การเรียนรู้โดยใช้กิจกรรมในแหล่งชุมชน (The use of CommunityActivities)
ขั้นกำหนดวัตถุประสงค์
ขั้นวางแผน
จัดวางกฎระเบียบในการศึกษา โดยใช้กิจกรรมในแหล่งชุมชน
วางแผน เรื่องวัสดุอุปกรณ์ในการเรียนรู้
เตรียมคำถามและปัญหาให้สอดคล้องกับวัตถุประสงค์
วางแผนร่วมกับผู้เกี่ยวข้อง ในการจัดการเรียนรู้โดยใช้กิจกรรมในแหล่งชุมชน
แบ่งกลุ่มศึกษาค้นคว้า เลือกประธานและเลขานุการกลุ่ม
วางแผนแก้ไขปัญหา/อุปสรรคที่อาจจะเกิดขึ้น
ขั้นนำเสนอ
ขั้นดำเนินการ
ปฏิบัติตามขั้นตอนที่วางแผนไว้
ปัจจัยที่ส่งเสริมให้การจัดการเรียนรู้ของผู้เรียนมีคุณภาพ
ด้านการเรียนการสอน
มีคณาจารย์ประจำหลักสูตรที่มีคุณวุฒิ ความรู้ความสามารถ และเพียงพอต่อการจัดการเรียนการสอน
ห้องเรียนต้องเป็นห้องเรียนที่มีชีวิต มีการจัดกิจกรรมที่น่าสนใจ กระตุ้นความคิดสร้างสรรค์
เป็นหลักสูตรที่ได้รับการรับรองอย่างถูกต้อง และผู้เรียนสามารถนำไปประกอบวิชาชีพได้จริง
ให้ความสำคัญกับวัฒนธรรม ขนบประเพณี วิถีชีวิต ประวัติศาสตร์ ภูมิศาสตร์รวมถึงภูมิปัญญาท้องถิ่นของตนเอง
มีการ “ปรับการเรียนเปลี่ยนการสอน” โดยเน้นให้ผู้เรียน เรียนผ่านการปฏิบัติหรือประสบการณ์ตรง
ด้านการบริหารจัดการ
มีระบบการคัดกรองและการประเมินผลที่มีคุณภาพและเหมาะสม
สถานศึกษาต้องมีเสรีภาพทางวิชาการและในการจัดการศึกษามีอิสรภาพในการบริหารจัดการ ให้คำชี้แนะและเป็นที่พึ่งของสังคมได้
ผู้บริหารมีวิสัยทัศน์ มีคุณธรรม ยึดมั่นและบริหารภายใต้หลักธรรมาภิบาล
ด้านนโยบาย
การกำหนดนโยบายควรสอดคล้องกับบริบทของสังคม มีความต่อเนื่อง ชัดเจนสามารถชี้ำสังคมเป็นที่ยอมรับและไม่มุ่งประโยชน์ทางการเมือง
มีการทบทวน ตรวจสอบ และปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง สม่ำเสมอ
ด้านสถานที่และงบประมาณ
มีอาคารสถานที่และบริเวณที่สะอาด ถูกสุขอนามัย สวยงาม กระตุ้น จูงใจให้อยากมาเรียน และเพียงพอต่อความต้องการ
สื่อ อุปกรณ์ เช่น ห้องสมุดที่ทันสมัย หนังสือจำนวนมากให้ค้นคว้าในสิ่งที่อยากรู้ อยากเห็น อยากทำความเข้าใจ มีระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ตที่เชื่อมโยงห้องเรียนกับโลกกว้างได้