Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
การเปลี่ยนแปลงของมารดา ในระยะหลังคลอด - Coggle Diagram
การเปลี่ยนแปลงของมารดา
ในระยะหลังคลอด
การเปลี่ยนแปลงทางกายวิภาคและสรีรวิทยา
การเปลี่ยนแปลงของระบบอวัยวะสืบพันธุ์
มดลูก
หลังจากนั้นในวันที่ 1 – 2 หลังคลอดมดลูกจะอยู่ที่ระดับสูงกว่าหรือต่ำกว่าสะดือเล็กน้อย
ประมาณ 1 สัปดาห์หลังคลอดมดลูกจะอยู่กึ่งกลางระหว่างกระดูกหัวหน่าวกับสะดือ
ประมาณสัปดาห์ที่ 2 หลังคลอดมดลูกจะลงไปอยู่ในอุ้งเชิงกรานไม่สามารถคลำได้จากหน้าท้อง
ในสัปดาห์ที่ 4 หลังคลอดมดลูกจะมีขนาดเท่ากับขณะที่ไม่ตั้งครรภ์หรือใหญ่กว่าเล็กน้อย
น้ำคาวปลา (lochia)
เป็นสิ่งคัดหลั่งที่ออกมาจากโพรงมดลูกหลังคลอด ประกอบไปด้วย decidua ที่หลุดลอก เม็ดเลือดแดง และแบคทีเรีย
Lochia rubra ระยะ 2 – 3 วันแรกหลังคลอดมีลักษณะสีแดงคล้้าและข้นประกอบด้วยเลือด
Lochia serosa ประมาณวันที่ 4 – 9 ลักษณะน้้าคาวปลาสีจะจางลงเป็นสีชมพูสีน้้าตาลหรือค่อนข้างเหลืองมีมูกปน
Lochia alba ประมาณวันที่ 10 หลังคลอดน้้าคาวปลาจะค่อยๆน้อยลงเป็นสีเหลืองจางๆหรือสีขาวประกอบด้วยเม็ดเลือดขาว
ปากมดลูก
:warning:ปากมดลูก (ไม่เคยผ่านการคลอด)
ปากมดลูก บวม บาง ซ้ำ มีรอยถลอกหรือรอบฉีกขาดเล็กน้อยและขยายกว้าง
:warning:ปากมดลูก (เคยผ่านการคลอดลักษณะคล้ายปากปลา Fish mouth)
บริเวณ external os ฉีกขาดไปทางด้านข้างอย่างถาวร มีรอยฉีกขาด
สิ้นสุดสัปดาห์ที่1 Cervix แคบลง มีเส้นผ่าศูนย์กลาง 1 cm.
ช่องคลอด
หลังคลอด : ช่องคลอดจะอ่อนนุ่มมาก
รอยย่อนภายในลดน้อยลง
เส้นผ่าศูนย์กลางจะกว้างกว่าระยะก่อนคลอด
การมีประจำเดือน
การดูดนมโดยทารก --->รกระตุ้นไฮโปธาลามัส (Hypothalamus) ผ่านทางเส้นประสาทและสมองไปกดไม่ให้มีการหลั่ง FSH+LH ---> ไม่มีการตกไข่และไม่มีมีประจำเดือน
เต้านม
หลั่ง H.prolactin เพิ่มขึ้น
สร้างน้ำนม
ต่อมใต้สมองผลิตฮอร์โมน prolactin เพิ่มขึ้นทำให้มีการสร้างน้ำนม
การเปลี่ยนแปลงของระบบต่างๆ
ระบบต่อมไร้ท่อ
ฮอร์โมนของรก(Placental hormone) ปลายสัปดาห์แรกหลังคลอดระดับของฮอร์โมนฮิวแมนคอริโอนิคโกนาโดโทรพิน (HumanChorionic Gonadotropin = HCG) จะลดลง
ฮอร์โมนจากต่อมใต้สมอง(Pituitary hormone)งคลอดมารดาที่ไม่เลี้ยงบุตรด้วยน้้านมตนเองระดับโพรแลคทินจะลดลงจนเท่ากับระดับก่อนตั้งครรภ์ภายใน 2สัปดาห์การให้บุตรดูดนม
ฮอร์โมนเกี่ยวกับการเจริญเติบโต(Growth hormone) ช่วงสัปดาห์แรกหลังคลอดมีระดับของฮอร์โมนหลายตัวขึ้นและลงอย่างรวดเร็วจนมีผลท้าให้ประเมินผลการท้างานของต่อมไทรอยด์สับสนไปด้วยโดยอาจเกิfภาวะต่อมไทรอยด์ขับน้้าคัดหลั่งไม่เพียงพอ(Postpartum hypothyroidism)
ระบบปัสสาวะ
ร่างกายปรับสมดุลโดยการกำจัดน้ำและเกลือโซเดียม
เพื่อให้ความดันไม่เพิ่มขึ้น
ระบบหัวใจและหลอดเลือด
ปริมาณเลือดจะลดลงทันทีแล้วค่อยๆลดลงเรื่อยประมาณ 3 – 4 สัปดาห์หลัง
คลอดปริมาณเลือดจึงจะลดลงสู่ระดับปกติ
จำนวนเม็ดเลือดขาวเพิ่มขึ้นพร้อมกับอัตราการตกตะกอนของเม็ดเลือดแดงเพิ่มขึ้นอาจท้าให้การวินิจฉัยภาวะการติดเชื้ออย่างเฉียบพลัน
ระบบทางเดินอาหาร
ท้องผูกจากการที่สูญเสียแรงดันภายในช่องท้องทันทีกล้ามเนื้อหน้าท้องหย่อนตัวประกอบกับมีการเคลื่อนไหวของล้าไส้ช้า
ระบบผิวหนัง
ร่างกายจะขับน้้าออกทางผิวหนังจำนวนมาก (Diaphoresis)
การเปลี่ยนแปลงด้านสังคม
ปัจจัยที่มีผลต่อการปรับตัวสู่
บทบาทการเป็นมารดา
:warning:บุคลิกและการเลี้ยงดูที่ได้รับในวัยเด็ก
:warning: อายุ : บ่งบอกถึงวุฒิภาวะของบุคคล
:warning: ประสบการณ์ในการเลี้ยงดูเด็ก
:warning:การศึกษา
:warning:รายได้
:warning:สัมพันธภาพในชีวิตสมรส
แบ่งการปรับตัวมารดาหลังคลอดเป็น 3 ระยะ
:explode: taking-hold phase
เป็นระยะที่เริ่มเป็นตัวของตัวเองมากขึ้น เกิดขึ้นในช่วง 3-10 วันหลังคลอด
:explode:letting-go phase
เป็นระยะที่มารดามีความเป็นตัวเองมากขึ้น เกิดขึ้นประมาณ2 สัปดาห์หลังคลอด.
:explode: taking-in phase
เป็นระยะที่ต้องพึ่งพาผู้อื่นทั้งร่างกายและจิตใจ เกิดใน 1-2 วันแรก
บทบาทการมารดา
การปรับตัวเข้าสู่บทบาทใหม่ : เรียนรู้ภารกิจมารดาที่ต้องกระทำในการเลี้ยงบุตร
การสร้างสัมพันธภาพที่ดีระหว่างมารดาบิดาและบุตร : เรียนรู้พฤติกรรมการแสดงต่างๆของบุตร มีความชื่นชมและคงไว้ซึ่งการมีสัมพันธภาพที่ดีระหว่างสามี-ภรรยา
การจัดแบ่งหน้าที่รับผิดชอบของสมาชิกในครอบครัวให้เหมาะสม
การวางแผนครอบครัว
การปรับตัวต่อบทบาทของมารดา
สัมพันธภาพระหว่างสามี
การรับรู้ถึงการมีส่วนร่วมในการดูแลบุตรของสามี
ความพึงพอใจของมารดาที่มีต่อประสบการณ์ในระยะเจ็บครรภ์และระยะคลอด
ความพึงพอใจของมารดาต่อสภาพชีวิตและฐานะทางครอบครัว
ความมั่นใจของมารดาในการทำตามบทบาท
ความพึงพอใจในการเลี้ยงดูบุตร
อ้างอิง
http://www.elnurse.ssru.ac.th/petcharat_te/pluginfile.php/58/block_html/content/PP%2827122556%29.pdf
https://w1.med.cmu.ac.th/obgyn/index.php?option=com_content&view=article&id=473:postpartum-care&catid=38&Itemid=480
https://npums365.sharepoint.com/sites/26B655/Shared%20Documents/General/สอนบทที่%205%20การเปลี่ยนแปลงในระยะหลังคลอดnew.pdf
http://www.ttmed.psu.ac.th/blog.php?p=73
นางสาวชลดา คำพิพากษ์ เลขที่61 ห้องB
รหัสประจำตัวนักศึกษา 613020111589
การส่งเสริมสุขภาพมารดาหลังคลอด
การรับประทานอาหาร
ควรรับประทานอาหารที่มีคุณค่าเพื่อส่งเสริมให้ร่างกายแข็งแรงและผลิตน้ำนมได้เพียงพอและดื่มน้ำอย่างน้อย วันละ 6-8 แก้ว อาหารที่ควรงดได้แก่ อาหารรสจัด ของหมักดอง กาแฟ
การทำงาน
ในระยะ 2 สัปดาห์แรกหลังคลอดสามารถทำงานบ้านเบาๆได้ ไม่ควรยกของหนักหรือทำงานที่ต้องออกแรงมาก เพราะกล้ามเนื้อและเอ็นต่างๆ ยังไม่แข็งแรงซึ่งอาจทำให้มดลูกหย่อนภายหลังได้ หลังคลอด 2 สัปดาห์ไปแล้วค่อยๆทำงานเพิ่มขึ้นทีละน้อยละน้อยจนครบ 6 สัปดาห์จึงทำงานได้ปกติ
การรักษาความสะอาดร่างกาย
เมื่อช่วยตัวเองได้ภายหลังคลอด 12-24 ชั่วโมง อาบน้ำได้แต่ไม่ควรอาบน้ำในอ่างน้ำ หรือแม่น้ำลำคลอง เพราะเชื้อโรคอาจเข้าไปภายในมดลูก นอกจากนี้ควรหมั่นเปลี่ยนเสื้อผ้า เนื่องจากระยะหลังคลอดแม่มักมีเหงื่อออกมากและมีน้ำนมไหลเปียกเสื้อตลอดเวลา
การดูแลเต้านมและหัวนม
ระหว่างที่ให้นมลูก แม่ควรสนใจความสะอาดของเต้านมและหัวนมให้มากเป็นพิเศษ โดยการทำความสะอาดทุกครั้งที่อาบน้ำและหลังจากให้นมลูก ถ้ามีอาการนมคัด ควรแก้ไขโดยบีบน้ำนมออกเสียบ้าง และใช้น้ำเย็นประคบหรือประคบร้อนชื้นบริเวณเต้านม จะทำให้ลดอาการปวด
การพักผ่อน
ควรนอนพักผ่อนมากๆใน 2 สัปดาห์แรก โดยในตอนกลางวันควรพักผ่อนประมาณ 1-2 ชั่วโมงหรือพักผ่อนในช่วงทารกหลับ ส่วนในตอนกลางคืนควรพักผ่อนอย่างน้อย 8-10 ชั่วโมง
การดูแลแผลบริเวณฝีเย็บ
ควรทำความสะอาด เช้า - เย็น และทุกครั้งที่ถ่ายปัสสาวะ หรืออุจจาระ เมื่อใช้กระดาษชำระภายหลังถ่ายอุจจาระ ระวังอย่าเช็ดย้อนจากทวารหนักมายังฝีเย็บ เพราะในอุจจาระมีเชื้อโรคมาก จะทำให้ติดเชื้อได้
การมีเพศสัมพันธ์
ควรงดเว้นอย่างน้อย 6 สัปดาห์หลังคลอดเพื่อป้องกันการติดเชื้อ และการฉีกขาดของช่องคลอด