Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
การพยาบาลแบบองค์รวมบนพื้นฐานทฤษฏีการดูแลด้วยความเอื้ออาทรแก่บุคคลที่มี …
การพยาบาลแบบองค์รวมบนพื้นฐานทฤษฏีการดูแลด้วยความเอื้ออาทรแก่บุคคลที่มี
ปัญหาสุขภาพจิตและจิตสังคม
ผู้ที่มีความวิตกกังวล/เครียด
ความวิตกกังวล (Anxiety)
หมายถึง
ความวิตกกังวลเป็นอารมณ์พื้นฐานของมนุษย์และเป็นปฏิกิริยาตอบสนองต่อสิ่งที่ก่อให้เกิดความเครียดภายในจิตใจ ความวิตกกังวลในระดับต่่าจะช่วยให้มนุษย์มีการตื่นตัวในการด่าเนินชีวิตให้สามารถ
ความรู้สึกไม่สบาย สับสน กระวนกระวาย กระสับกระส่ายหรือตื่นตระหนก
ต่อสถานการณ์ใดสถานการณ์หนึ่งที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคตและเกรงว่าจะเกิดอันตราย
สาเหตุของความวิตกกังวล
สาเหตุทางด้านชีวภาพ
ด้านชีวเคมี (Biochemical Factors)
ด้านการเจ็บปุวย (Medical Factors)
ด้านกายภาพของระบบประสาท (Neuroanatomical Factors)
สาเหตุทางด้านจิตสังคม
ด้านจิตวิเคราะห์ (Psychoanalytic Theory)
ด้านพฤติกรรมและการรู้คิด (Cognitive-Behavioral Theory)
สาเหตุทางด้านสังคม
ทฤษฎีความสัมพันธ์ระหว่างบุคคล เชื่อว่าความวิตกกังวลเกิดจากสัมพันธภาพระหว่างบุคคลไม่ดี ในระยะ 2 ปีแรกของชีวิตเป็นสัมพันธภาพระหว่างแม่กับลูก การยอมรับ หรือการปฏิเสธของแม่
จะมีการพัฒนามาในระดับที่แตกต่างกันในแต่ละบุคคล ระดับความมีคุณค่าในตนเองนี้มีความสัมพันธ์กับความวิตกกังวล
ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อความวิตกกังวล
ความส่าคัญต่อสิ่งที่มากระทบต่อบุคคล ถ้าบุคคลรู้สึกว่าสิ่งที่มากระทบนั้นคุกคามตนมาก หรือมีความรุนแรงมาก ก็จะก่อให้เกิดความวิตกกังวลสูง
ภาวะสุขภาพ บุคคลที่เจ็บป่วยจะเกิดความหวั่นไหว และวิตกกังวลในเรื่องต่างๆได้ง่ายกว่าคนที่อยู่
ในภาวะปกติ
ฐานะเศรษฐกิจ และแหล่งสนับสนุนทางสังคม
การพยาบาลผู้ป่วยที่มีความวิตกกังวล
การวินิจฉัยทางการพยาบาล
จะมุ่งเน้นการลดความวิตกกังวลให้แก่ผู้ป่วย โดยเฉพาะในผู้ปุวยที่มี
ความวิตกกังวลระดับรุนแรงสูงสุด ระดับรุนแรง หรือระดับปานกลาง
กิจกรรมการพยาบาล
พยาบาลมีท่าทีสงบ เข้าใจ และยอมรับพฤติกรรมของผู้ปุวย
ควรอยู่เป็นเพื่อนผู้ปุวยเพราะการอยู่คนเดียวเพียงล่าพังจะท่าให้ผู้ปุวยรู้สึกหวาดหวั่นโดดเดี่ยวเหมือนถูกทอดทิ้งมากขึ้น
การประเมินสภาวะความวิตกกังวล
การประเมินความเปลี่ยนแปลงทางด้านร่างกาย จิตใจ และสังคม เมื่อมีความวิตกกังวลเกิดขึ้น
การประเมินระดับความรุนแรงของความวิตกกังวล
ความเครียด (Stress)
สาเหตุและกลไกการตอบสนองต่อความเครียด
สาเหตุภายนอกตัวบุคคล
ความเจ็บปุวยของบุคคลอันเป็นที่รัก
การหย่าร้าง
สภาพภูมิอากาศ
ภาวะว่างงาน
ปัญหาด้านความสัมพันธ์กับครอบครัวและบุคคลอื่นๆ การขาดเพื่อน
สาเหตุภายในตัวบุคล
การเจริญเติบโต หรือพัฒนาการล่าช้า
ประสบการณ์ของแต่ละคนในการจัดการความเครียด
ความพิการ
ระดับของความเครียด (Level of Stress)
ความเครียดระดับกลาง (Moderate Stress) ความเครียดชนิดนี้รุนแรงกว่าความเครียดชนิดแรก
ความเครียดระดับสูง (Severe Stress) ความเครียดชนิดนี้จะแสดงอาการอยู่นานเป็นสัปดาห์
ความเครียดระดับต่่า (Mild Stress) ความเครียดชนิดนี้สิ้นสุดลงในระยะเวลาอันสั้น
การพยาบาลผู้ป่วยที่มีความเครียด
การประเมินสภาวะความเครียด
ประเมินอาการแสดงทางจิตใจ
ประเมินอาการแสดงทางร่างกายที่เป็นผลมาจากความเครียด
กิจกรรมการพยาบาล
ใช้เทคนิคการสร้างสัมพันธภาพเพื่อการบ่าบัดเพื่อให้ผู้ปุวยได้รู้และเข้าใจตนเองถึงสาเหตุที่ท่าให้เกิดความเครียด
ให้ก่าลังใจและฝึกให้ผู้ปุวยได้เรียนรู้กลวิธีในการจัดการความเครียดที่สร้างสรรค์มากขึ้นกว่าที่ผู้ป่วยเคยใช้
สอนและแนะน่าให้ประเมินระดับความเครียดด้วยตนเอง เมื่อต้องเผชิญกับเหตุการณ์ที่เข้ามากระตุ้นให้เกิดความเครียด
กระตุ้นและให้ก่าลังใจ ให้ผู้ปุวยวางแผนการเปลี่ยนแปลงตนเอง ในการใช้ชีวิตเพื่อผ่อนคลาย
ความเครียด เช่น การออกก่าลังกาย
ผู้ที่ประสบภาวะสูญเสีย เศร้าโศก
ประเภทของการสูญเสีย
การสูญเสียความสมบูรณ์ทางสรีระ จิตใจและสังคม
การสูญเสียสมบัติหรือความเป็นเจ้าของ
การสูญเสียบุคคลส่าคัญของชีวิต
ความสัมพันธ์ระหว่างการสูญเสียกับภาวะเศร้าโศก
ภาวะเศร้าโศก (Grief)
ปฏิเสธ (Denial) เมื่อเกิดการสูญเสีย บุคคลจะใช้กลไกการปูองกันตนเอง
โกรธ (Anger) บุคคลจะแสดงความโกรธต่อการสูญเสียที่เกิดขึ้น
ต่อรอง (Bargaining) บุคคลจะเริ่มมีการรับรู้การสูญเสีย
ซึมเศร้า (Depression) บุคคลจะมีพฤติกรรมแยกตัว
ยอมรับ (Acceptance) บุคคลจะยอมรับการสูญเสีย
การพยาบาลผู้ที่มีภาวะสูญเสีย/เศร้าโศก
ประเมินปัญหาทางการพยาบาล
ในช่วงแรกพบอาการช็อก ตกใจ ปฏิเสธ เอะอะ โวยวาย ไม่ยอมรับความจริงหรือร้องไห้ร่าพึงร่าพัน
ในระยะต่อมาจะประเมินพบว่า บุคคลเหล่านี้จะมีอาการทางกาย เช่น แน่นหน้าอก รู้สึกจุกแน่นที่คอ ใจสั่น หายใจไม่อิ่ใ
การวินิจฉัยทางการพยาบาล
ทุกข์เมื่อคาดว่าจะสูญเสีย
เผชิญปัญหาไม่เหมาะสมเนื่องจากมีการสูญเสียสิ่งส่าคัญในชีวิต
ความรู้สึกมีคุณค่าเปลี่ยนแปลงเนื่องจากเศร้าเสียใจจากการสูญเสีย
กิจกรรมทางการพยาบาล
สร้างเสริมความสัมพันธ์ที่เชื่อถือไว้วางใจ
ส่งเสริมให้ลดความรู้สึกเศร้าโศกลง
ส่งเสริมการสร้างและความคาดหวังที่เป็นจริง
กระตุ้นให้ผู้เศร้าโศกเข้าร่วมกิจกรรมต่างๆเพื่อหลีกเลี่ยงการหมกมุ่นและเกิดความรู้สึกภาคภูมิใจ
จัดสิ่งแวดล้อมเพื่อการบ่าบัด
สนับสนุนค้่าจุนจิตใจของญาติ และส่งเสริมสัมพันธภาพที่ดีระหว่างผู้เศร้าโศกและญาติโดยอธิบายให้ญาติเข้าใจความรู้สึกและพฤติกรรมของการแสดงออกและหนทางในการตอบสนองที่เหมาะสม
ป้องกันการเกิดปฏิกิริยาที่เศร้าโศกผิดปกติ
ผู้มีภาวะซึมเศร้า
บุคลิกภาพของบุคคลที่มีภาวะซึมเศร้า
การเปลี่ยนแปลงด้านร่างกาย
การเปลี่ยนแปลงด้านจิตใจและอารมณ์
การเปลี่ยนแปลงด้านสังคม
กลไกการป้องกันตนเองในบุคคลที่มีภาวะซึมเศร้า
การสะท้อนไปสู่บุคคลอื่น (Projection)
การสะท้อนเข้าสู่ตนเอง (Introjections)
การถดถอย (Regression)
การพยาบาลผู้ป่วยที่มีภาวะซึมเศร้า
การประเมินภาวะซึมเศร้า
ประเมินความสนใจต่อสิ่งแวดล้อม
ประเมินความรู้สึกมีคุณค่าในตนเองของผู้ปุวย
ประเมินความสมดุลระหว่างการท่ากิจกรรม และการพักผ่อนตามความต้องการของร่างกาย
การวินิจฉัยทางการพยาบาล
เสี่ยงต่อการฆ่าตัวตายเนื่องจากมีภาวะซึมเศร้าในระดับรุนแรง
เสี่ยงต่อการฆ่าตัวตายซ้่าเนื่องจากเคยมีประวัติการฆ่าตัวตายมาแล้ว 1 ครั้ง
นอนหลับพักผ่อนไม่เพียงพอเนื่องจากมีภาวะซึมเศร้าในระดับรุนแรง
ขาดทักษะในการเผชิญปัญหาต่างๆของชีวิต เนื่องจากคิดว่าตนเองไร้ค่าและไม่มีความหมาย
กิจกรรมการพยาบาล
ทักทายผู้ป่วยทุกวันพร้อมทั้งเรียกชื่อผู้ปุวยทุกครั้ง เสนอตัวให้ความช่วยเหลือผู้ป่วยและนั่งเป็นเพื่อนแม้ว่าผู้ปุวยปฏิเสธที่จะพูดสร้างสัมพันธภาพอย่างสม่่าเสมอ
การป้องกันการท่าร้ายตนเองและผู้อื่น
ส่งเสริมความรู้สึกมีคุณค่าในตนเองให้แก่ผู้ปุวย
ส่งเสริมการดูแลตนเองด้านสุขอนามัยและกิจวัตรประจ่าวัน
ผู้ที่มีภาวะวิกฤติทางอารมณ์
ลักษณะเฉพาะของภาวะวิกฤติ (Crisis Characteristics)
ภาวะวิกฤติเชื่อว่าเป็นความจ่ากัดในตัวเองจะอยู่ได้นานเพียง 4-6 สัปดาห์ ถ้าไม่ได้รับการช่วยเหลือจะมีอันตรายทางจิตใจของบุคคล
สิ่งที่จะต้องค่านึงถึงคือ จะต้องแน่ใจว่าบุคคลที่เราจะช่วยเหลืออยู่ในภาวะวิกฤติจริงๆ เพราะบุคคลบางคนแม้จะเผชิญกับปัญหาอย่างใหญ่หลวงเขาก็สามารถแก้ปัญหาได้โดยไม่ได้อยู่ในภาวะวิกฤติ
ภาวะวิกฤติเป็นช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อที่ให้โอกาสบุคคลเลือกหนทางที่จะไปสู่พฤติกรรมที่เลวร้าย หรือพฤติกรรมการเผชิญปัญหาที่มีประสิทธิภาพเกิดการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้น
ความรู้สึกและปฏิกิริยาตอบสนองต่อภาวะวิกฤติ
มีความรู้สึกหมดหนทาง (Helplessness)
มีความรู้สึกผิดและละอาย (Guilt and shame)
มีความวิตกกังวล (Anxiety)
ความลังเล (Ambivalence)
ความโกรธ (Anger)
การพยาบาลบุคคลที่มีภาวะวิกฤติ
การประเมินปัญหาของบุคคลที่มีภาวะวิกฤติ
ระดับความรุนแรงของอาการทางกายที่เป็นปฏิกิริยาตอบสนองต่อภาวะวิกฤติ
ตรวจสอบการใช้กลไกทางจิต หรือกลวิธีที่ใช้ในการเผชิญปัญหาว่ามีความเหมาะสม หรือส่งผลเสียต่อการด่าเนินชีวิตหรือไม่
ระดับความรุนแรงของปัญหาที่เกิดขึ้นกับผู้ป่วย โดยพยาบาลประเมินด้วยการสอบถามถึงความรู้สึกต่อปัญหาของผู้ป่วย ว่ามีผลกระทบทางลบต่อผู้ป่วยมากน้อยเพียงใด
ประเมินบุคลิกภาพเดิม ระดับความอดทน และความเข้มแข็งของผู้ปุวยต่อเหตุการณ์วิกฤติที่มากระตุ้น
ประเมินแหล่งสนับสนุนช่วยเหลือทางสังคมของผู้ปุวย โดยอาจสอบถามถึงบุคคลใกล้ชิดที่ส่าคัญต่อผู้ปุวย ที่สามารถให้ค่าปรึกษาได้
ประเมินสิ่งยึดเหนียวทางจิตวิญญาณ
การวินิจฉัยทางการพยาบาล
เสี่ยงต่อการท่าร้ายตนเองเนื่องจากมีภาวะซึมเศร้าอย่างรุนแรงจากสถานการณ์วิกฤติของชีวิต
เสี่ยงต่อภาวะเส้นเลือดในสมองแตกเนื่องจากมีความดันโลหิตสูงขึ้นสัมพันธ์กับสถานการณ์วิกฤติของตนเอง และครอบครัว
วิธีการเผชิญปัญหาขาดประสิทธิภาพ เนื่องจากรู้สึกผิด และคิดว่าตนเองไร้ค่า
แบบแผนการนอนหลับพักผ่อนเปลี่ยนแปลงจากการมีความเครียดสูงต่อสถานการณ์วิกฤติของชีวิต
ผู้ที่มีปัญหาฆ่าตัวตาย
ประเภทของการฆ่าตัวตาย (Type of suicide)
การฆ่าตัวตายแบบคุกคาม (Threatened Suicide)
การฆ่าตัวตายส าเร็จ (Completed Suicide or Committed Suicide)
การพยายามฆ่าตัวตาย (Attempted Suicide)
สาเหตุที่ทำให้คนฆ่าตัวตาย (Risk Factors)
รู้สึกหมดหวัง หมดหนทาง
การร้องขอความช่วยเหลือ
การเพ้อฝัน (Fantasy) คิดไปว่าการฆ่าตัวตายจะได้อยู่ใกล้คนรัก หรือเกิดใหม่ดีกว่านี้
มีความคับข้องใจ เกลียดตัวเองหรือลังเลใจ
มีความรู้สึกโกรธและไม่เป็นมิตรกับบุคคลอื่น คิดว่าการท่าร้ายตนเองจะมีผลให้คนอื่นเดือดร้อน ซึ่งการกระท่าเช่นนี้เป็นความตั้งใจที่จะเชิด (manipulate)
เพื่อพยายามรักษาหน้า (Save face) หรือเพื่อมีชีวิตใหม่ที่ดีกว่า
รู้สึกถูกทอดทิ้ง โดยเฉพาะวัยรุ่น อาจจะเริ่มทีละน้อย จนกระทั่งรู้สึกว่าตนไม่มีความหมายต่อสังคม
ระยะสุดท้ายของการเจ็บปุวยหรือการเจ็บปุวยเรื้อรัง
ปรับตัวต่อความตึงเครียดที่ท่วมท้นไม่ได้
กระบวนความคิดผิดปกติ
การพยาบาล
การประเมินพฤติกรรมการฆ่าตัวตาย
กลัวว่าจะนอนไม่หลับตอนกลางคืน และกลัวเวลากลางคืน
ซึมเศร้า และร้องไห้บ่อย
พูดเรื่องความตาย การฆ่าตัวตาย ต้องการตายและดูเหมือนอยู่ในภาวะคิดหนัก
แยกตัวอยู่ในห้อง
มีประวัติพยายามฆ่าตัวตาย
ตึงเครียด กังวล หมดหวัง สิ้นหวัง
การวินิจฉัยทางการพยาบาล
เสี่ยงต่อการฆ่าตัวตายซ้่าเนื่องจากมีภาวะซึมเศร้าในระดับรุนแรงและเคยมีประวัติการฆ่าตัวตาย
เสี่ยงต่อการฆ่าตัวตายเนื่องจากรู้สึกว่าตนเองไม่มีคุณค่า และใช้กลไกการเผชิญปัญหาไม่เหมาะสม
กิจกรรมการพยาบาล
สร้างสัมพันธภาพที่มั่นคงเต็มไปด้วยความไว้ใจ
ปฏิบัติต่อผู้ปุวยอย่างสม่่าเสมอ เมื่อผู้ปุวยประสบความส่าเร็จให้ค่าชมและสร้างเสริมความสามารถเฉพาะอย่างให้กับผู้ปุวย
ปูองกันอันตรายให้แก่ผู้ปุวย ไวต่อความรู้สึกผู้ปุวย สนใจผู้ปุวยอย่างสม่่าเสมอ
ช่วยเหลือให้ผู้ปุวยพัฒนาหรือเรียนรู้กลไกการต่อสู้อุปสรรคแบบใหม่ๆ เช่น การเข้าร่วมกิจกรรมกลุ่มบ่าบัด
การปฏิบัติการพยาบาลต่อผู้ที่มีพฤติกรรมท่าลายตนเองต้องเริ่มต้นด้วยการเข้าใจถึงปฏิกิริยาของตนต่อพฤติกรรมการฆ่าตัวตาย
ให้การพยาบาลต่อปัญหาเฉพาะอย่างของผู้ปุวย เช่น ความโกรธ การสูญเสีย รวมทั้งปัญหาด้าน
ความต้องการทางกาย เช่น อาหาร การพักผ่อน น้่า เป็นต้น
ให้ผู้ปุวยได้รู้จัก เข้าใจและยอมรับ ความรู้สึกที่เป็นผลให้เกิดพฤติกรรมท่าลายตนเอง
นางสาวจันทราทิพย์ แก้วไข่ เลขที่ 91 รหัส 602601013