Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
การเปลี่ยนแปลงหน้าที่ของระบบสืบพันธุ์ - Coggle Diagram
การเปลี่ยนแปลงหน้าที่ของระบบสืบพันธุ์
2.ความผิดปกติในอวัยวะสืบพันธุ์เพศชาย
2.1 ส่วนท่อปัสสาวะ: Urethritis, Urethra stricture
2.1.1 Urethritis
การอักเสบของท่อปัสสาวะ พบในเพศหญิงมากกว่าเพศชายเนื่องจากท่อปัสสาวะของเพศชายยาวกว่าเพศหญิงและมี prostatic fluid เป็นเหมือนตัวต้านแบคทีเรียเคลือบอยู่ในท่อทางเดินปัสสาวะ
สาเหตุ
Ascending infection จากการติดเชื้อแบคทีเรีย เช่น E. coli, Klebsiella,Proteus, Enterobacter, Pseudomonas
การติดเชื้อเรื้อรังอาจเกิดจาก โรคนิ่วในทางเดินปัสสาวะ ต่อมลูกหมากอักเสบเรื้อรัง
พยาธิสรีรวิทยา
เชื้อโรคจะเข้าไปตามท่อทางเดินปัสสาวะ ทําให้ท่อปัสสาวะอักเสบและการอักเสบนี้จะลุกลามไปจนถึงกระเพาะปัสสาวะ ซึ่งเชื้อโรคจะเจริญเติบโตได้ในกระเพาะปัสสาวะและเกิดการอักเสบติดเชื้อตามกลไกการอักเสบของร่างกาย การถ่ายปัสสาวะตามปกติไมสามารถขับเชื้อโรคออกได้
อาการและอาการแสดง
Urgency, frequency, dysuria
กระเพาะปัสสาวะบีบเกร็ง
ปวดแสบปวดร้อนขณะถ่ายปัสสาวะหรือคันในท่อปัสสาวะ
Nocturia
มีมูกหรือหนองไหลออกจากท่อปัสสาวะ
Hematuria, Fever, chill
อาการทั่วไป ได้แก่ malaise, nausea, vomiting, low back pain, flank pain
ปวดหน่วงบริเวณอวัยวะเพศหรืออัณฑะ
การตรวจทางห้องปฏิบัติการ
Urinalysis (U/A) เพื่อตรวจหา หนอง เลือด และแบคทีเรียในปัสสาวะ
Clean–catch midstream urine พบเชื้อแบคทีเรียมากกว่า100,000/milliliter
2.1.2 Urethra stricture
สาเหตุ
อาจเป็นแต่กําเนิด
จากการได้รับบาดเจ็บที่ท่อทางเดินปัสสาวะและขาดการรักษาที่ดีพอ
การอักเสบติดเชื้ออย่างแรง
การใส่สายสวนปัสสาวะนานจนท่อปัสสาวะเกิดเนื้อตาย
การใส่เครื่องมือทางการแพทย์ที่มีขนาดใหญ่
การเป็นมะเร็งท่อปัสสาวะ
พยาธิสรีรวิทยา
เซลล์ของท่อปัสสาวะที่ได้รับบาดเจ็บจนเกิดการตีบแคบ ทําให้ท่อปัสสาวะตีบมีการคั่งค้างของปัสสาวะ และมีการไหลย้อนกลับของปัสสาวะ ส่งผลเกิดให้ต่อมลูกหมากอักเสบ ทางเดินปัสสาวะอักเสบ และทําให้ไตเสียหน้าที่ได้
อาการและอาการแสดง
เบ่งถ่ายปัสสาวะ ปัสสาวะลําเล็กลง double stream, spraying
ปัสสาวะบ่อย ปัสสาวะไม่สุด ปวดเล็กน้อยเวลาถ่ายปัสสาวะ
อาการเฉียบพลันจะมีการคั่งค้างของปัสสาวะจากการปัสสาวะไม่ออก
การตรวจทางห้องทดลอง
Ultrasound
Voiding cystourethrogram
2.2 ส่วนองคชาติ: Phimosis, Balanitis, Penile cancer
2.2.1 Phimosis
ภาวะหนังหุ้มปลายองคชาติมีรูเปิดแคบ
สาเหตุอาจเป็นตั้งแต่กําเนิดหรือเกิดขึ้นภายหลังการอักเสบบวม
ผู้ป่วยส่วนใหญ่มีอาการอักเสบ บวม ปวดบริเวณหนังหุ้มปลายอวัยวะเพศ หรือไม่สามารถดึงหนังหุ้มปลายอวัยวะเพศขึ้นได้
รักษาโดยการขลิบหนังหุ้มปลายองคชาติออกเล็กน้อยเพื่อเปิดส่วนหัวขององคชาติให้ปัสสาวะได้สะดวก แต่ถ้าอาการไม่มากควรแนะนําให้ทําความสะอาดบริเวณหนังหุ้มปลายองคชาติให้สะอาด
2.2.2 Balanitis and Posthitis
การอักเสบของ glans penis and mucousmembrane บริเวณรอบ ๆ องคชาติ มักเกิดร่วมกับหนังหุ้มปลายอักเสบ
สาเหตุเกิดจากการระคายเคืองเสียดสีจนเกิดรอยถลอกและมีการติดเชื้อซ้ํา ร่วมกับการไม่รักษาความสะอาดและหนังหุ้มปลายองคชาติตีบ
จะมีอาการผื่นแดงบริเวณปลายองคชาติมีหนองไหลและมีกลิ่นเหม็น
การรักษาควรแนะนําให้ทําความสะอาดบ่อย ๆ และซับให้แห้ง
ให้ยาปฏิชีวนะถ้ามีการอักเสบมาก ในบางรายอาจต้องขลิบ
ปลายอวัยวะ
2.2.3 Penile cancer or Cancer of the penis
พบมากในผู้ชายอายุ45- 60 ปีขึ้นไป
สาเหตุเกิดจากการหมักหมมของสิ่งสกปรกบริเวณใต้หนังหุ้มปลาย ต่อมา
เปลี่ยนแปลงกลายเป็นเซลล์มะเร็ง
ปัจจัยเสี่ยงคือ มีประวัติเคยติดเชื้อ HPV การสูบบุหรี่
การป้องกันทําได้โดยรูดหนังองคชาติ ให้เปิดและล้างทําความสะอาดอย่างสม่ำเสมอทุกครั้งที่อาบน้ํา
2.2.4 Priapism
ภาวะอวัยวะเพศชายไม่อ่อนตัว
สาเหตุหรือปัจจัยเสี่ยงอาจเกิดจากโรคเลือดบางชนิดหรือเป็นผลจากยาบางชนิด
การใช้ยาฉีดเข้าอวัยวะเพศชายเกินขนาด หลังฉีดระยะแรกอวัยวะเพศจะมีขนาดใหญ่ขึ้นแต่ภายหลังไม่กี่เดือนจะเกิดเนื้อพังผืดเข้ามาแทนท
การรักษาระยะแรกคือให้ยาแก้ปวด ยาชา และสารน้ํา
2.2.5 Peyronie’ disease
ภาวะที่มีfibrous plaques มาเกาะที่ปลายหนังหุ้มองคชาติ
จะมองไม่เห็นถ้าองคชาติยังอ่อนตัวอยู่แต่จะทําให้เกิดความเจ็บปวดตอนองคชาติแข็งตัวและมีผลกระทบต่อการมีเพศสัมพันธ์ทําให้ล้มเหลวได้
พบได้ในอายุวัยกลางคนขึ้นไป
รักษาโดยการผ่าตัด
2.ความผิดปกติในอวัยวะสืบพันธุ์เพศชาย
2.3ส่วนอัณฑะ: Orchitis, Testicular torsion
2.3.1 Orchitis, Epididymitis
สาเหตุ
เกิดจากการติดเชื้อจากต่อมลูกหมาก
กระเพาะปัสสาวะและท่อปัสสาวะย้อนเข้า
ไปในท่อนําอสุจิจนถึงอัณฑะ
Chlamydia trachomatis, N. gonorrhea ในชายสูงอายุสาเหตุมักเกิดจากการติดเชื้อในระบบทางเดินปัสสาวะหรือต่อมลูกหมากอักเสบ
อาการแสดง
1) ปวดถุงอัณฑะและขาหนีบข้างเดียวตามตําแหน่งของ Vas deferens จะปวดมากขึ้นเวลาเดิน
2) อาการค่อยเป็นค่อยไป ต่อมาอัณฑะบวม ปวด กดเจ็บมาก มีไข้สูง หนาวสั่นหากทิ้งไว้จะเกิดปัสสาวะเป็นหนอง
3) หากเกิดหลังเป็นคางทูม 3-4 วัน จะมีอาการไข้ ปวดและบวมบริเวณอัณฑะไม่พบอาการปัสสาวะเป็นเลือด
2.3.2 Testicular torsion
สาเหตุ
1) ความผิดปกติของถุงหุ้มลูกอัณฑะและตําแหน่งถุงอัณฑะ
2) การยึดติดกันของ spermatic fascia และผนังถุงลูกอัณฑะไม่ดีทําให้มีช่องว่างและท่ออสุจิบิดตัวได้
3) การออกกําลังกายอย่างหนักทําให้ cremaster muscle เกิดแรงดึงรั้งมากจนท่ออสุจิบิดตัว
พยาธิสรีรวิทยา
ในภาวะปกติ Tunica vaginalis จะห่อหุ้มอัณฑะและยึดติดกับท่อนําอสุจิการหดตัวตามปกติของ cremaster muscle จะทําให้อัณฑะข้างซ้ายหดตัวในทิศทางทวนเข็มนาฬิกาส่วนอัณฑะข้างขวาจะหดตัวในทิศทางตามเข็มนาฬิกา
ในภาวะ testicular torsionอัณฑะจะหดตัวตามขั้วหลอดเลือดทําให้มีเลือดคั่ง บวม และเกิดภาวะขาดเลือดได้
อาการและอาการแสดง
1) ปวดร้าวลงอัณฑะข้างที่บาดเจ็บหรือขาหนีบข้างนั้น
2) อัณฑะบวม ช้ํา
3) ไม่มี cremasteric reflex ของอัณฑะข้างที่บาดเจ็บ
4) ปวดท้อง คลื่นไส้ อาเจียน
5) Lightheadedness (วิงเวียนศีรษะ)
การตรวจทางห้องปฏิบัติการ
1) Doppler ultrasonography ได้ยินเสียงการไหลเวียนของเลือดไปเลี้ยงอัณฑะข้างที่บาดเจ็บลดลง
2.4 ส่วนต่อมลูกหมาก: Benign prostate hypertrophy (BPH),Prostatitis, Prostate cancer
2.4.1 Benign prostate hypertrophy (BPH)
สาเหตุ
1) อายุที่เพิ่มมากขึ้นทําให้มีการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน
2) Arteriosclerosis
3) การอักเสบ
4) การเผาผลาญและภาวะโภชนาการเปลี่ยนแปลง
พยาธิสรีรวิทยา
เมื่ออายุมากขึ้นการหลั่งฮอร์โมนแอนโดรเจนลดลง ทําให้เกิดความไม่
สมดุลระหว่างฮอร์โมนเอสโทรเจน และฮอร์โมนแอนโดรเจน
มีระดับฮอร์โมน dihydrotestosterone สูง
อาการและอาการแสดง
1) ระยะแรก
ปัสสาวะลําบาก ลําปัสสาวะเล็กลง
รู้สึกว่าถ่ายปัสสาวะไม่หมด ปัสสาวะสะดุด
2) ระยะอุดกั้น
ปัสสาวะบ่อย ปัสสาวะตอนกลางคืน
ปัสสาวะค้าง ปัสสาวะเป็นหยด กลั้นปัสสาวะไม่อยู่
อาจมีปัสสาวะเป็นเลือด
ทางเดินปัสสาวะอักเสบ
การตรวจทางห้องปฏิบัติการ
1) Cystoscopy
2) Blood urea nitrogen (BUN), creatinine สูงจากภาวะไตเสียหน้าที่
3) Urinalysis พบ hematuria, pyuria, bacteria > 100,000/ µL
2.4.2 Prostatitis
อาการแสดง
1) ปวดบริเวณฝีเย็บ ปวดแสบเวลาปัสสาวะบ่อย
2) ปัสสาวะบ่อย
3) ปวดขณะหรือภายหลังการหลั่งน้ำอสุจ
ต่อมลูกหมากอักเสบเฉียบพลัน
จะมีอาการไข้ หนาวสั่น ปวดบริเวณฝีเย็บ ทวารหนัก
และหลัง ปวดเวลาถ่ายปัสสาวะ ถ่ายปัสสาวะบ่อย และถ่ายปัสสาวะตอนกลางคืน
ต่อมลูกหมากอักเสบเรื้อรัง
จะมีอาการปวดเวลาถ่ายปัสสาวะเล็กน้อย ถ่ายปัสสาวะบ่อย
และมี Discharge ไหลออกจากท่อปัสสาวะ มักทําให้เกิดภาวะอักเสบติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะ
ภาวะแทรกซ้อน
1) ต่อมลูกหมากบวมโต ปัสสาวะคั่งค้้าง
2) Epididymitis (ท่อนําอสุจิอักเสบ)
3) Bacteremia (การอักเสบติดเชื้อในกระแสเลือด)
4) Pyelonephritis (กรวยไตอักเสบ)
การตรวจทางห้องปฏิบัติการ
1) ถ้าจะตรวจการอักเสบติดเชื้อของระบบทางเดินปัสสาวะส่วนล่าง จะใช้วิธี4 glass bottle แต่วิธีนี้จะยุ่งยากจึงมักใช้วิธี 2 glass bottle แทน
2) ตรวจทางช่องทวารหนักกดที่ต่อมลูกหมากจะปวดมาก และรีดเอาน้ำจากต่อมลูกหมากมาตรวจจะพบเม็ดเลือดขาวจํานวนมาก และอาจเพาะเชื้อขึ้น
2.4.3 Prostate cancer
ปัจจัยเสี่ยง
1) กรรมพันธุ์เชื้อชาติการสัมผัสมลภาวะ เช่น รังสี สารเบนซิน ไฮโดรคาร์บอน
2) การติดเชื้อโรคทางเพศสัมพันธ์
3) การรับประทานอาหารที่มีไขมันสูง
พยาธิสรีรวิทยา
เซลล์มะเร็งที่พบส่วนใหญ่เป็นชนิด adenocarcinoma มักเริ่มต้นจากด้านหลังต่อมลูกหมาก หรือเริ่มต้นบริเวณใกล้ท่อปัสสาวะ และวลุกลามไปยังเปลือกหุ้มต่อมลูกหมากท่อนําอสุจิแล้วแพร่กระจายไปตามทางเดินน้ําเหลือง
อาการและอาการแสดง
1) ระยะแรก ไม่มีอาการแต่อาจคลําพบก้อน ระยะต่อมามีอาการ
2) ถ่ายปัสสาวะลําบาก ปัสสาวะเป็นหยด ปัสสาวะคั่ง
3) กระเพาะปัสสาวะอักเสบ
4) ปัสสาวะเป็นเลือด
5) อัณฑะหรือขาบวม
6) คลําพบต่อมลูกหมากโต ขอบไม่เรียบ
การตรวจทางห้องปฏิบัติการ
1) Serum prostate - specific antigen (PSA) test – มีค่าสูงกว่าปกติ
2) Transrectal prostatic ultrasonography - ตรวจพบต่อมมีขนาดโต ลักษณะผิดปกติ
3) Bones scan, CT, MRI
4) Digital rectal examination คลําพบต่อมโต ลักษณะผิดปกติควรตรวจเป็นประจําทุกปีในผู้ชายที่อายุ 70 ปีขึ้นไป (American Cancer Society)
2.4.4 ส่วนเต้านม: Gynecomastia, Breast cancer
2.4.4.1 Gynecomastia
เป็นภาวะเต้านมโตผิดปกติในเพศชาย พบได้ทั้งในวัยเจริญพันธ์และวัยสูงอายุ
ภาวะนี้อาจพบได้ในวัยรุ่นเนื่องจากมีการหลั่งฮอร์โมนจากลูกอัณฑะะ และมีปัจจัยส่งเสริมคือการมีระดับฮอร์โมน estrogen สูงกว่าปกติ
อาการและอาการแสดง
อาจเป็นข้างเดียวหรือสองข้างก็ได้อาการอาจเป็นชั่วคราวแล้วยุบไปเองได้ถ้าสิ่งกระตุ้นลดลง ในวัยสูงอายุจะพบก้อนโตใต้ลานนม
การตรวจทางห้องปฏิบัติการ
Testicular ultrasound
2.4.4.2 Breast cancer
มะเร็งเต้านมเพศชายพบน้อยมาก มักพบในผู้ชายอายุ
ประมาณ 60 ปีมากกว่าอายุเฉลี่ยของผู้หญิงที่เป็นมะเร็งเต้านม 10 ปี
ปัจจัยที่เกี่ยวข้องการเกิด ได้แก่ กรรมพันธุ์ ความผิดปกติของยีน (presence of the BRCA2 gene) โรคตับ การสัมผัสรังสี การสัมผัสความร้อนนาน ๆ