Please enable JavaScript.

Coggle requires JavaScript to display documents.

เด็กที่มีปัญหาระบบแระสาท - Coggle Diagram

- - - - -ติดเชื้อระบบประสาทส่วนกลาง
        -ภยันตรายระหว่างการคลอด
        -ความผิดปกติพัฒนาการทางสมอง
        -โรคทางพันธุกรรม
    - - จากความผิดปกติของ Neurotransmission
    - - มีพยาธิสภาพในสมอง
  - - - -เกิดขึ้นทันทีทันใด
        -เกิดในระยะสั้นๆไม่เกิน 5 นาที เเละหยุดเอง
    - - ระยะก่อนอาการชักประกอบไปด้วย
        -อาการนำ
        -อาการเตือน
    - - เริ่มตั้งเเต่ระยะเวลาหลังการชักหนึ่งสิ้นสุดลงไปจนถึงเริ่มชักครั้งใหม่ โดยทั่วไปจะไม่มีอาการ
    - - -ระยะเวลาเมื่อการชักสิ้นสุดลง
        -มีการเปลี่ยนเเปลงคลื่นไฟฟ้าสมอง
        -ระยะนี้อาจเกิดนานหลายวินาทีถึงหลายวันก็ได้ ส่วนใหญ่ไม่เกิน 24 ชม.
        -มีอาการ ได้เเก่สับสน อ่อนเพลีย ปวดศีรษะ
- - - - ค่าปกติของน้ำไขสันหลัง ปกติจะไม่มีสี
      - ความดันระหว่าง 75-180 มม.น้ำ (5-15 มม.ปรอท)
      - ไม่มีเม็ดเลือดเเดงเเละเม็ดเลือดขาว
      - โปรตีน 15-45 mg/100 ml
      - กลูโคส 50-75 mg/100 ml
      - คลอไรด์ 700-750 mg/100 ml
- - - - Meningococcemia
        
        Acute Meningococcemia เกิดขึ้นอย่างเฉียบพลัน ปวดหัว เจ็บคอเเละไอ เป็นอาการนำ
        
        Chronic Meningococcemia พบได้น้อย มักมีไข้
        ผื่นตามผิวหนัง ผื่นเเงจ้ำ ปวดเเละเจ็บข้ออยู่เป็นเดือน
        
        Fulminant Meningococcemia เป็นอย่างรุนเเรง ระบบไหลเวียนโลหิตไม่ทำงาน อาจ ช็อคถึงเสียชีวิต
      - Meningitis
        
        มีไข้ ปวดศีรษะ คอเเข็ง ซึมสับสน อาการจะเเย่ลงอย่างรวดเร็ว อาจมีจ้ำเลือดออกตามผิวหนัง
  - - - บุคคลที่อยู่ร่วมกับผู้ป่วยในบ้านเดียวกัน เเละผู้ที่สัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วย ต้องได้รับยาได้เเก่
        -Rifampicin
        -Ceftriaxonr
        -Ciprofloxacin
- - - - ศีนษะโตตั้งเเต่กำเนิด, กระหม่อมหน้าโปร่ง
      - ปวดศีรษะ ซึม ไม่ดูดนม อาเจียรพุ่ง
      - Congenital Hydrocephalus ความผิดปกติในการสร้างน้ำไขสันหลัง
      - Obstructive Hydrocephalus
        ความผิดปกติในการดูดซึมน้ำไขสันหลัง
      - Communicate Hydrocephalus ความผิดปกติในการดูดซึมน้ำไขสันหลัง
    - - หัวบาตร (Cranium enlargement)
      - รอยต่อศีรษะเเยกออกจากกัน
      - รอยเปิดศีรษะโป่งตึง
      - หนังศรีษะบางเห็นเส้นเลือดดำ
      - เสียงเคาะกะโหลกเหมือนหม้อเเตก
      - ตากลอกขึ้นบนลงล่างไม่ได้
      - พัฒนาการช้ากว่าปกติ สติปัญญาต่ำกว่าปกติ
      - เด็กเลี้ยงยาก
    - - รักษาด้วยยา ยาขับปัสสาวะ Acetazolamide
      - การรักษาด้วยการผ่าตัด
        -การผ่าตัดใส่สายระบายน้ำในโพรงสมองออกนอกร่างกาย
        -การผ่าตัดใส่สายระบายน้ำในโพรงสมองสู่ช่องในร่างกาย ผ่าตัดใส่สายระบายจาก โพรงสมองลงสู่ช่องท้อง, ช่องหัวใจ
        , ช่องปอด, ช่องใต้เยื่อหุ้มสมอง, โพรงสมองทารกในครรภ์ลงถุงน้ำคร่ำ
      - สายระบายน้ำในโพรงสมองประกอบด้วย
        
        สายระบายจากโพรงสมอง (Ventricular shunt)
        
        วาล์ว (Vaive) เเละส่วนที่เก็บน้ำหล่อสมอง (Reservoir)
        
        สายระบายลงช่องท้อง (Peritoneal shunt)
      - ภาวะเเทรกซ้อนจากการผ่าตัด (Complication)
        
        ความผิดปกติของสายระบายน้ำในโพรงสมอง
        
        การติดเชื้อของสายระบายน้ำในโพรงสมอง
        
        การอุดตันสายระบายน้ำในโพรงสมอง Overdrainage
        
        ภาวะโพรงสมองตีบเเคบ Slit ventricle
        
        ภาวะเลือดออกในศีรษะ
  - - - รักษาเฉพาะ : รักษาเหตุที่ทำให้เกิด IICP เช่น เนื้องอก การอุดกั้นทางเดินน้ำไขสันหลัง
      - การรักษาเบื้องต้น กรณีมี IICP สูงอย่างเฉียบพลัน
        -จัดท่านอนราบศีรษะสูง 15-30 องศา
        -กรณีที่ผู้ป่วยซึมไม่รู้ตัว เเพทย์จะใส่ท่อหลอดลมช่วยหายใจ
        -การให้ยาขับปัสสาวะ (Diuretic) ทางหลอดเลือดดำ
      - การรักษาความผิดปกติที่เกิดต่อเนื่องจากพยาธิสภาพเดิมหรือที่เกิดร่วม
        -Hydrocephalus: Obstructive, Communicating
        -ภาวะสมองบวม
- - - - Spina bifida occulta : ผิดปกติกระดูกสันหลังส่วน Vetebral archesไม่รวมตัวกัน เกิดเป็นช่องโหว่ระหว่างแนวกระดูกสันหลัง
      - Spina bifida cystica : ผิดปกติของการปิดของส่วนโค้งกระดูกสันหลังทาให้มีการยื่นของไขสันหลัง หรือเยื่อหุ้มสมองผ่านกระดูกออกมาให้เห็นเป็น ถุงหรือก้อน มี 2 ชนิด
        
        2.1 Meningocele : ก้อนหรือถุงนาประกอบไปด้วยเยื่อหุ้มสมอง
        น้ำไขสันหลัง ไม่มีเนื อเยื่อประสาทไขสันหลัง ไขสันหลังอยู่ตาแหน่งปกติ ไม่เกิดอัมพาต
        
        2.2 Myelomeningocele หรือ Meningomyeloceleกระดูกสันหลัง
        ผิดปกติ มีก้อนยื่นออกมา ก้อนหรือถุง มีเยื่อหุ้มสมอง น้ำไขสันหลัง
        และไขสันหลัง พบบ่อย อันตรายและเกิดความพิการ
    - - spida bifida occulta ไม่จาเป็นต้องรักษาแต่ชนิด Cystica ต้องผ่าตัดภายใน 24 – 48 ชั่วโมงภายหลังเกิด
    - - ให้กรดโฟลิคแก่หญิงตั้งครรภ์จะช่วยลดการเกิดโรคได้
- - - - Extrapyramidol cerebral palsy (athetoidsis) การเคลื่อนไหวผิดปกติตลอดเวลาขณะตื่น บังคับส่วนต่างๆของร่างกายให้ไปในทิศทางที่ต้องการไม่ได้
      - กล้ามเนื้อหดเกร็ง
      - Ataxia cerebral palsy มีเดินเซ ล้มง่าย กล้ามเนื อตึงตัวน้อย ทรงตัวได้ไมดี สติปัญญาปกติ
      - Mixed type หลายอย่างร่วมกัน
    - - มีการเจริญเติบโตและพัฒนาการช้า
      - ปัญญาอ่อน
      - อาการอื่นๆ ร่วม เช่น ชัก หูหนวก ตาบอด การรับรู้ผิดปกติปัญหาด้านการพูด
    - - ซักประวัติ : มารดามีการติดเชื้อขณะคลอด เช่น เป็นหัดเยอรมัน คลอดท่าก้นเด็กมีพัฒนาการช้ากว่าวัย ตัวเกร็งแข็ง
      - ประเมินร่างกาย : เส้นรอบศีรษะไม่เพิ่มขึ้น ท่าทางการเคลื่อนไหวผิดปกติพัฒนาการไม่เป็นไปตามวัย
- - - - จัดท่านอนของเด็กให้เหมาะสม โดยให้นอนตะแคงข้างเพื่อป้องกันการสาลัก
      - ดูแลไม่ให้มีอาหาร หรือเศษอาหารอยู่ในช่องปากเพราะเด็กอาจสาลักได้
      - ดูดเสมหะให้เด็กเป็นระยะๆ
      - เตรียมอุปกรณ์ช่วยเหลือให้พร้อม
  - - - จัดให้เด็กนอนศีรษะสูง ประมาณ 15 – 30 องศา
      - หลีกเลี่ยงท่านอนหรือกิจกรรม ที่จะทาให้แรงดันภายในสมองเพิ่ม เช่น การกดหลอดเลือดที่คอ (neck vein) การก้มคอหรือแหงนหน้าไปด้านหลังอย่างเต็มที่
      - จัดท่านอนให้ข้อสะโพกงอไม่เกิน 90 องศา
      - ป้องกันไม่ให้ท้องผูก
      - ถ้าพบว่า เด็กแสดงอาการเจ็บปวดพยาบาลควรดูแลให้ยาแก้ปวดตามแผนการรักษา
      - วางแผนการพยาบาล โดยให้มีการรบกวนเด็กให้น้อยที่สุด
  - - - ด้านอาหาร
        
        ดูแลให้เด็กได้รับสารอาหารอย่างครบถ้วน ตามภาวะสุขภาพของแต่ละบุคคล
        
        ดูแลให้เด็กได้รับอาหารทางหลอดเลือดดาตามแผนการรักษา
        
        บันทึกปริมาณน้าดื่ม และปัสสาวะทุกวัน
        
        ควรชั่งน้าหนักทุกวันหรือตามแผนการรักษา
      - ด้านการขับถ่าย
        
        ถ้าเด็กมีสายสวนปัสสาวะ พยาบาลควรดูแลความสะอาดให้เพียงพอ
        
        ทาความสะอาดผิวหนังทุกครั้งหลังการขับถ่ายทั้งปัสสาวะและอุจจาระ
        
        เปลี่ยนผ้าอ้อมหรือกางเกงทุกครั้งที่เด็กขับถ่าย
        
        ประเมินบริเวณหน้าท้อง เพื่อตรวจสอบว่ากระเพาะปัสสาวะตึงหรือไม่
        
        ดูแลให้ยาระบาย เพื่อป้องกันอาการท้องผูกตามแผนการรักษา
      - ด้านความสะอาด
        
        อาบน้าให้เด็กทุกวัน
        
        เปลี่ยนเสื้อผ้าให้เด็ก เพื่อความสะอาดและความรู้สึกสบา
        
        สระผมให้เด็กบ่อยๆ เพื่อให้ผมสะอาด
        
        ดูแลความสะอาดของปาก ฟัน ผิวหนัง และเล็บ อย่างสม่าเสมอ
  - - - ภาวะแทรกซ้อนระบบหายใจ
        
        หมั่นพลิกตะแคงตัวเด็กทุก 2 ชั่วโมง ยกเว้นเด็กที่มีปัญหาความดันในสมองสูง เพื่อป้องกันภาวะแทรกซ้อนเกี่ยวกับปอด เช่น ปอดอักเสบ
        
        ดูแลไม่ให้ผู้ที่มีอาการติดเชื้อทางระบบหายใจ เข้าไปใกล้ชิดเด็ก
        
        ก่อนและหลังสัมผัสเด็ก ควรล้างมือให้สะอาดทุกครั้ง
      - ภาวะแทรกซ้อนเกี่ยวกับตา
        
        สังเกตและประเมินอาการที่บ่งชี้ว่า จะมีการระคายเคืองหรือการอักเสบของตา
        
        อาจต้องใช้ผ้าปิดตา (eye pad) เพื่อไม่ให้ตาแห้ง
        
        ถ้าตาแห้ง อาจต้องใช้น้าตาเทียม (artificial tears) หยอด
      - ภาวะแทรกซ้อนทางผิวหนัง
        
        ประเมินสภาพผิวหนังเป็นระยะๆ
        
        หมั่นเปลี่ยนท่านอน หรือพลิกตะแคงตัวบ่อยๆ เพื่อป้องกันการเกิดแผล กดทับ
        
        ดูแลผิวหนังให้สะอาดและชุ่มชื่นอยู่ตลอดเวลา โดยเฉพาะจุดที่เสี่ยงต่อการเกิดแผลกดทับ
        
        ควรทาครีมบารุงผิวหนัง (lotion) และนวดผิวหนังทุกวันเพื่อกระตุ้นการไหลเวียนของเลือด
        
        ดูแลบริเวณอวัยวะเพศภายนอก ฝีเย็บ (perineum) และทวารหนักให้สะอาด
  - - - ประเมินความต้องการข้อมูลของครอบครัว
      - รับฟังปัญหาของครอบครัวอย่างตั งใจ และอดทน
      - ตอบคำถามที่ครอบครัวต้องการทราบอย่างชัดเจน
      - ให้ข้อมูลเกี่ยวกับแหล่งความช่วยเหลือที่ครอบครัวต้องการ
      - ให้กาลังใจและประคับประคองด้านจิตใจแก่ครอบครัว
      - เเนะนำเกี่ยวกับสุขภาพ
        
        รับประทานอาหารครบ 5 หมู่
        
        การออกกาลังกายที่เหมาะสมกับผู้ป่วย
        
        การพักผ่อนให้เพียงพอ
        
        สุขวิทยาทั่วไป ระบบขับถ่าย ระวังท้องผูก
        
        มาตรวจสุขภาพตามนัดทุกครั้งหากมีอาการผิดปกติมาก่อนนัด
        
        แพทย์สั่งเจาะเลือดหาระดับยากันชัก แนะนางดยากันชักมื้อเช้าก่อนเจาะเลือด
      - คำเเนะนำในการรับประทานยากันชัก
        
        รับประทานยากันชักสม่าเสมอต่อเนื่องตามเวลา
        
        ห้ามหยุด/เพิ่ม/ลดยาเอง
        
        เมื่อไม่สบายไม่ควรซื้อยารับประทานเอง
        
        ถ้าลืมรับประทานยากันชักทาอย่างไร
        
        ลืมในวันเดียวกันให้รับประทานยาทันทีที่นึกได้
        
        ลืมข้ามวันแล้วมีอาการชัก ให้ไปพบแพทย์
        
        ลืมข้ามวันไม่มีอาการชักให้รับประทานยาต่อไป
        ถ้ารับประทานยาแล้วอาเจียนภายในครึ่งชั่วโมง
        ให้รับประทานยาซ้าในขนาดเดิม
        ถ้าเกินครึ่งชั่วโมงไม่ควรให้ยาซ้าอีก