Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
การพยาบาลเด็กเมื่อเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล, อ้างอิง ณัฏฐา วรรธนะวิโรจน์…
การพยาบาลเด็กเมื่อเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล
ความเจ็บป่วยและการอยู่ในโรงพยาบาลของเด็ก
ทำให้เด็กเกิดการเปลี่ยนแปลงในด้านต่างๆ
ได้แก่
ร่างกาย
การนอนหลับผิดปกติ
ฝันร้าย
การถดถอยของพัฒนาการ
จิตใจ
วิตกกังวล จากการพรากจาก
เฉื่อยชา
อารมณ์
โศกเศร้า
มีอารมณ์หงุดหงิด
สังคม
แยกตัว
ไม่ อยู่นิ่ง
ก้าวร้าว
เด็กต้องการได้รับความช่วยเหลือเกื้อกูล
ครอบครัว
พี่น้อง
ความคิดรวบยอดเกี่ยวกับความตายของเด็กแต่ละช่วงวัย
ความคิดรวบยอดเกี่ยวกับความเจ็บป่วยของเด็ก
อายุ
ระดับของพัฒนาการ
ด้านสติปัญญา
พื้นฐานทางครอบครัว
ประสบการณ์
แบ่งเป็น ประเภทดังนี้
ประเภท 0
ตอบแบบไม่เข้าใจ
เด็กจะตอบไม่สัมพันธ์กันกับคําถาม
ประเภทที่ 1
ตอบตามปรากฏการ
ความเจ็บป่วยเป็นปรากฏการณ์ ธรรมชาติ
ประเภทที่ 2
ความเจ็บป่วยเกิดจากการติดต่อ สัมพันธ์กับวัตถ
ประเภทที่ 3
การปนเปื้อน
ความเจ็บป่วย เกิดขึ้นจากสิ่งที่อยู่ นอกตัวเอง จากสิ่งที่ไม่ดี
ประเภทที่ 4
ภายในร่างกาย
ความเจ็บป่วยเกิดขึ้นภายในร่างกาย
ประเภทที่ 5
ความเจ็บป่วยเกิดจากอวัยวะภายในร่างกายทํางานไม่ด
ประเภทที่ 6
เข้าใจถึงสาเหตุของความเจ็บป่วยที่พัฒนาถึงขึ้นสูงสุด
ความคิดรวบยอดเกี่ยวกับความตายของเด็กแต่ละช่วงวัย
วัยแรกเกิดและวัยทารก
ยังไม่เข้าใจเกี่ยวกับความตาย
เข้าใจเพียงว่าคนๆนั้นหายไป
วัยอนุบาลหรือวัยก่อนเรียน
เข้าใจว่าความตายเกิดขึ้นชั่วคราว
สามารถ กลับฟื้นคืนได้
วัยเรียน
เข้าใจว่าความตายเป็นสภาวะที่ร่างกายหยุดทํางานอย่างสมบูรณ์
ไม่สามารถ กลับฟื้นคืนได้อีก
วัยรุ่น
เข้าใจในเรื่องของความตายใกล้เคียงกับผู้ใหญ
ภาวะสิ้นสุดของการทํางาน ของร่างกาย
ไม่สามารถกลับฟื้นคืนได้อีก
เป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้และทุกคนต้องเผชิญ
ปฏิกิริยาของเด็กป่วยที่เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล
การเปลี่ยนแปลง ทางด้านร่างกายและสิ่งแวดล้อม
ผลกระทบต่อเด็กและครอบครัว
ปฏิกิริยาตอบสนองของเด็กเมื่อเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล
มีดังนี้
ความวิตกกังวลเนื่องจากการแยกจาก (separation anxiety)
อายุ ระหว่าง 6 เดือนถึง 3 ปี
มี 3 ระยะ
ระยะประท้วง (protest)
เด็กจะร้องไห้อย่างรุนแรงมาก
เด็กจะแสดงความต้องการพบผู้เลี้ยงดู ร้องดิ้นทุรนทุราย แสดง
อารมณ์โกรธ ปฏิเสธการดูแลจากบุคคลอื่น
ระยะสิ้นหวัง(despair)
ความสิ้นหวังแสดงอาการโศกเศร้าเสียใจอย่างลึกซึ้ง แยกตัวอยู่เงียบ ๆ
เป็นระยะที่แสดงอาการถอยหนี แยกตัว ไม่สนใจ
สิ่งแวดล้อม เบื่ออาหาร รู้สึกผิดหวัง ซึมเศร้า
ระยะปฏิเสธ(denial)
งอยู่โรงพยาบาลเป็นเวลานานวันและได้รับการ พยาบาลจากพยาบาล
เป็นระยะที่เริ่มปรับตัวใหม่ เริ่มรับประทานอาหารมากขึ้น
พฤติกรรมถดถอย(regression)
เป็นกลไกการปรับตัว
เลิกดูดนิ้วและกลับมาดูดนิ้ว
เลิกปัสสาวะรดที่นอนและกลับมาปัสสาวะรดที่นอนอีก
การสูญเสียการควบคุมตัวเอง (loss of control)
เด็กวัยก่อนเรียน
่ทําให้เด็กสูญเสียการควบคุมตัวเอง
เด็กวัยเรียน
สามารถช่วยเหลือตัวเองได้โดยอิสระ
วัยรุ่น
มีความเป็นอิสระ เอาแต่ใจตัวเอง
การบาดเจ็บและความเจ็บปวด
ปรับตัวโดยการเข้าหาผู้อื่น
ปรับตัวโดยการต่อสู้และต่อต้าน ไม่ไว้วางใจผู้อื่น
ปรับตัวโดยการถอยหนีจากคนอื่น สร้างโลกของตนเอง
ครอบครัวของผู้ป่วยเด็ก
บิดามารดาจะเกิดความวิตกกังวล
ความสามารถในการปรับตัว ขึ้นอยู่กับปัจจัยต่าง ๆ
ได้แก่
ความรุนแรงของการรักษา
วิธีปฏิบัติเพื่อการวิเคราะห์โรคและการรักษา
ประสบการณ์เกี่ยวกับการเจ็บป่วยและการอยู่ในโรงพยาบาล
ปัจจัยการช่วยเหลือค้ำจุน
ความเข็มแข้งของบิดามารดา
ความสามารถในการปรับตัวครั้งก่อน ๆ
ความเคร่งเครียดที่เพิ่มขึ้นเนื่องจากระบบครอบครัว
ความเชื่อถือเกี่ยวกับขนบธรรมเนียมประเพณีและศาสนา
แบบแผนการสื่อสารของสมาชิกในครอบครัว
ปฏิกิริยาของบิดามารดาต่อการเจ็บป่วยของเด็ก
การปฏิเสธ และไม่เชื่อ
ความรู้สึกโกรธและโทษตัวเอง
ความรู้สึกกลัวและวิตกกังวล
ความรู้สึกหงุดหงิด คับข้องใจ และการขาดอํานาจต่อรอง
ความรู้สึกเศร้า บิดามารดาที่มีปฏิกิริยาตอบสนองต่อการป่วยของเด็ก
แนวคิดและหลักการพยาบาลใช้ครอบครัวเป็นศูนย์กลาง
การตระหนักและการเคารพ (Respect)
เคารพและยอมรับในความแตกต่าง
วัฒนธรรม
ความเป็นบุคคล
ค่านิยม
ความเชื่อ
ความมีอิสระทางความคิด
การกระทํา การตัดสินใจ
การร่วมมือ (Collaboration)
ครอบครัวและบุคลากรวิชาชีพมีความเท่าเทียมกัน
การมีส่วนร่วมในการตัดสินใจเกี่ยวกับการดูแลสุขภาพ
ยอมรับว่าผู้ป่วย/บิดามารดา/บุคคลที่มีความสําคัญต่อ ผู้ป่วย
ตระหนักว่าบิดามารดามีความต้องการในการมีส่วนร่วม
ข้อมูลที่ได้รับจากบุคลากรทีมสุขภาพและบิดามารดา
ใช้การปฏิสัมพันธ์ในการสร้างความมั่นใจและเพิ่ม ความสามารถ
บทบาทของพยาบาลเด็กในการใช้ครอบครัวเป็นศูนย์กลาง
เสริมสร้างความสามารถของครอบครัว
เสริมสร้างพลังอํานาจแก่ครอบครัวในการควบคุมชีวิต
มีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ทักษะ และทรัพยากรกับครอบครัว
พยาบาลสร้างกลไกความสัมพันธ์กับบิดามารดาเป็นแบบหุ้นส่วน
การจัดการการพยาบาลเด็กที่เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล
การวางแผนและการดําเนินการ
2.1 การจัดสิ่งแวดล้อม (environment)
2.2 การอํานวยความสะดวก (facilitative)
1) การทําให้เด็กไม่ตื่นกลัวขณะที่อยู่รับการรักษา
2) การทําให้เด็กพักรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลอย่างมีความสุข
2.3 การประสานงาน (coordination)
2.4 การสื่อสาร (communication)
วัยทารก
ให้ข้อมูลกับบิดามารดา
วัยเตาะแตะ
ให้ข้อมูลกับบิดามารดาร่วมกับการให้ข้อมูลเด็ก
วัยก่อนเรียน
บางเรื่องต้องให้ข้อมูลผ่านบิดามารดา
วัยเรียน
สามารถอธิบายผ่านหนังสือภาพ แผ่นพับ ภาพพลิก
วัยรุ่น
สามารถสื่อสารได้หลายรูปแบบ
2.5 การให้การพยาบาลตามระยะพัฒนาการของเด็ก
การพยาบาลทั่วไป
การพยาบาลเพื่อความสุขสบายทางกายและความปลอดภัย
การพยาบาลเพื่อส่งเสริมความรู้ความเข้าใจ
การพยาบาลด้านจิตสังคมและอารมณ์
การประเมินและการวินิจฉัยทางการพยาบาล
3 การประเมินผล
การให้การพยาบาลแก่เด็กเป็นระยะ ๆ
สร้างความสัมพันธ์ที่ดีและความไว้วางใจกับผู้ปกครองและเด็ก
พูดคุยโดยให้เหมาะสมกบัพัฒนาการของเด็ก
ใช้การอธิบายในรูปแบบอื่นๆ นอกจากการพูดเพื่อช่วยให้เด็กเข้าใจมากขึ้น
เปิดโอกาสให้เด็กได้ซักถามหรอืเล่าถึงความรู้สึกของตนเอง
สําหรับเด็กโตหรือเด็กวัยรุ่น ควรเปิดโอกาสให้เด็กมีสว่นร่วมในการตัดสินใจบางอย่าง
่วยให้เด็กเข้าใจว่า ไม่ว่าจะเป็นอย่างไร เด็กจะยังคงเป็นที่รัก
อ้างอิง
ณัฏฐา วรรธนะวิโรจน์.ความสุขของเด็กปฐมวัย.สืบค้น 19/05/63.ที่มา
http://164.115.41.60/excellencecenter/?author=2
ปฏิกิริยาของเด็กแต่ละวัยเมื่อเจ็บป่วย.สืบค้น 19/05/63.ที่มาwww.elnurse.ssru.ac.th/muntanavadee_ma/pluginfile... · PPT file · Web view.
The nurse take care of psychological of child when must.สืบค้น 19/05/63.ที่มา
https://my.dek-d.com/KATAI-Zaa/blog/?blog_id=10074519
นางสาวชญาดา ลอยแก้ว เลขที่ 26 รหัสนักศึกษา 612001027 รุ่น36/1