Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
4.2.มารดาที่มีเลือดออกในระยะตั้งครรภ์ ระยะคลอด และระยะหลังคลอด (1…
4.2.มารดาที่มีเลือดออกในระยะตั้งครรภ์
ระยะคลอด และระยะหลังคลอด
(1.เลือดออกในครึ่งแรกของการตั้งครรภ์)
การแท้ง
การสิ้นสุดการตั้งครรภ์ก่อนที่ทารกจะสามารถมีชีวิตรอดภายนอกครรภ์มารดา ไม่ว่าจะเป็นการแท้งที่เกิดขึ้นเอง (spontaneous abortion / miscarriage) หรือการชักนำให้เกิดการแท้ง (induced abortion)
ชนิดของการแท้งที่เกิดขึ้นเอง (spontaneous abortion / miscarriage)
การแท้งคุกคาม (threatened abortion)
มีเลือดไหลออกทางช่องคลอดขณะตั้งครรภ์โดยที่
ปากมดลูกยังไม่เปิด
ออก ส่วนใหญ่มักเกิดในช่วงอายุครรภ์ไม่เกิน 20 สัปดาห์และส่งผลให้หญิงตั้งครรภ์เสี่ยงต่อการสิ้นสุดการตั้งครรภ์หรือนำไปสู่การแท้งบุตร
รักษา
-ให้นอนพัก 24-48 ชั่วโมง อาจพิจารณาให้ยานอนหลับอย่างอ่อน ยาระงับปวด morphine หรือ pethidine ห้ามใช้ยาระบาย -ลดการกระตุ้นการหดรัดตัวของมดลูก โดยงดร่วมเพศ งดทางานหนัก เมื่อเลือดหยุดไหลประมาณ 1 สัปดาห์ -ติดตามตรวจอัลตราซาวน์ เพื่อประเมินการเพิ่มขนาดของ gestational sac และตรวจ FHS สาหรับการให้ฮอร์โมนโปรเจสเตอโรน
การแท้งไม่ครบหรือการแท้งไม่สมบูรณ์ (incomplete abortion)
การที่ชิ้นส่วนของการตั้งครรภ์บางส่วนหลุดออกมา มีเลือดออกทางช่องคลอดมาก ทำให้ช็อกได้ ปวดท้องน้อยมาก ปากมดลูกมักเปิดอยู่
ขนาดมดลูกเล็กว่าอายุครรภ์
ตรวจด้วยคลื่นความถี่สูงพบชิ้นส่วนของการตั้งครรภ์บางส่วนค้างอยู่ในโพรงมดลูก
รักษา
-งดน้ำงดอาหารทางปาก เจาะเลือดตรวจ hematocrit, grouping/matching และให้เลือดเมื่อมีข้อบ่งชี้ แล้วให้ยา oxytocin ผสมสารน้าหยดเข้าทางหลอดเลือดดำ
-กรณีเลือดออกมาก พิจารณาให้ methergine 0.2 มิลลิกรัม ฉีดเข้าหลอดเลือดดำหรือฉีดเข้ากล้ามเนื้อ แล้วใช้ ovum forceps คีบชิ้นส่วนของการตั้งครรภ์ที่ค้างอยู่ออก จากนั้นขูดมดลูกอย่างระมัดระวัง กรณีที่อายุครรภ์ไม่เกิน 12 สัปดาห์ อาจพิจารณาขูดมดลูกได้เลย ส่งชิ้นเนื้อตรวจทางพยาธิวิทยา ให้ยาปฏิชีวนะตามความเหมาะสม และนัดตรวจภายหลังขูดมดลูก 1-2 สัปดาห์
การแท้งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ (inevitable abortion)
การแท้งที่การตั้งครรภ์ต้องสิ้นสุดลง
ไม่สามารถดำเนินการตั้งครรภ์ต่อไปได้
อาการและอาการแสดง ได้แก่ มีเลือดออกจากโพลงมดลูก ปวดท้องน้อยมาก
ปากมดลูกเปิด
โดยที่ยังไม่มีชิ้นส่วนของการตั้งครรภ์ออกมาทางช่องคลอด อาจมีถุงน้าคร่ำแตก ตรวจด้วยคลื่นความถี่สูงพบชิ้นส่วนของการตั้งครรภ์อยู่ในมดลูกส่วนล่างหรือในปากมดลูก
รักษา
ให้นอนพักและให้ยาระงับปวด ตรวจความเข้มข้นของเลือด ให้เลือดเมื่อมีข้อบ่งชี้ บางรายอาจทาให้การตั้งครรภ์สิ้นสุดลงโดยใช้ Misoprostol เหน็บทางช่องคลอด หรือใช้ยา oxytocin ผสมในสารน้าหยดเข้าหลอดเลือดดา รวมทั้งเฝ้าระวังอาการและอาการแสดงของการแท้งติดเชื้อ
การแท้งครบหรือการแท้งสมบูรณ์ (complete abortion)
การที่ชิ้นส่วนของการตั้งครรภ์บางส่วนหลุดออกมาจากมดลูก เป้นการแท้งสิ้นสุดด้วยตัวเอง มักพบในการแท้งที่มีอายุครรภ์น้อยกว่า 6 สัปดาห์ ช่วงแรกมีอาการปวดท้องมากและมีเลือดออกมาก เมื่อชิ้นส่วนหลุดออกมาหมดแล้วเลือดที่ออกลดลงจนหยุดไปเอง
ปากมดลูกปิด
ขนาดของมดลูกเล็กกว่าอายุครรภ์ ตรวจด้วยคลื่นความถี่สูงไม่พบชิ้นส่วนของการตั้งครรภ์
รักษา
ตรวจอัลตราซาวด์ยืนยันว่าไม่มีชื้นส่วนค้างอยู่ในโพรงมดลูกและให้การรักษาตามอาการ เช่น ให้ยากระตุ้นการหดรัดตัวของมดลูก ferrous sulfate วิตามินบำรุงร่างกาย
การแท้งค้าง (missed abortion)
การที่ทารกเสียงชีวิตค้างอยู่ในโพรงมดลูกเป็นเวลาหลายวัน หลายสัปดาห์ หรืออาจจะหลายเดือน
โดยที่ปากมดลูกยังปิดอยู่
ในช่วงที่เกิดการแท้งค้าง อาการต่างๆ ของการตั้งครรภ์จะหายไป มดลูกมีขนาดเล็กลงหรือไม่โตตามอายุครรภ์ การตรวจด้วยคลื่นความถี่สูวพบตัวอ่อนที่ตายค้างอยู่ในโพรงมดลูก
รักษา
รักษาด้วยการขูดมดลูก กรณีอายุครรภ์เกิน 12 สัปดาห์ พิจารณาชักนำให้เกิดการแท้งด้วยการใช้ยา รวมทั้งเฝ้าระวังความผิดปกติเกี่ยวกับการแข็งตัวของเลือด
การแท้งเป็นอาจิณ หรือ การแท้งซ้า (habitual หรือ recurrent abortion)
การแท้งเองก่อนอายุครรภ์ 20 สัปดาห์ ติดต่อกันตั้งแต่ 3 ครั้งขึ้นไป โดยไม่รวมการตั้งครรภ์นอกมดลูก ครรภ์ไข่ปลาอุก สาเหตุส่วนใหญ่มาจากปากมดลูกปิดไม่สนิท การขาดฮอร์โมนเพศ และความผิดปกติของโครโมโซม
รักษา
-การแท้งที่มีสาเหตุจากการที่ corpus luteum ทำงานได้ไม่สมบูรณ์ พิจารณาให้การรักษาโดยให้ฮอร์โมน progesterone
-การแท้งที่มีสาเหตุจากปากมดลูกเปิดหรือปิดไม่สนิท (cervical incompetent) พิจารณาเย็บปากผูกปากมดลูก (cervical cerclage) เมื่อปากมดลูกยาวน้อยกว่า 25 มิลลิเมตรก่อนอายุครรภ์ 24 สัปดาห์
การแท้งติดเชื้อ (septic abortion)
การติดเชื้อในโพรงมดลูกที่เป็นผลมาจากการแท้ง อาจมีการอักเสบติดเชื้อเฉพาะที่อวัยวะสืบพันธุ์หรือกระจายไปทั่วร่างกาย โดยมีไข้สูงกว่า 37.5 องศาเซลเซียส ปวดท้องน้อย ปวดมดลูก กดเจ็บบริเวณท้องน้อย มีสารคัดหลั่งที่มีกลิ่นเหม็นหรือหนองอยู่ใน cervical os อาจมีอาการหนาวสั่น รายที่มีการติดเชื้อในกระแสเลือด (sepsis) จะพบอาการแสดงสาคัญ คือ ความดันโลหิตต่า ชีพจรเร็ว และหายใจเร็ว
รักษา
ให้งดน้ำและอาหารทางปาก ตรวจสัญญาณชีพ ตรวจภายใน ตรวจร่องรายการทำแท้ง ปริมาณสารน้ำเข้าออก เจาะเลือดตรวจหาการติดเชื้อ
สาเหตุของการแท้งที่เกิดขึ้นเอง
สาเหตุจากทารก
ความผิดปกติของโครโมโซมที่พบบ่อย ได้แก่ trisomy ที่ 13, 16, 18, 21, 22 และ monosomy (45X) หรือ turner syndrome
สาเหตุจากสตรีตั้งครรภ์
การตั้งครรภ์อายุมากกว่า 35 ปี
ประวัติการแท้งในครรภ์ก่อน
ความผิดปกติของมดลูก โพรงมดลูก หรือปากมดลูก
ประวัติเคยขูดมดลูก
สาเหตุด้านพฤติกรรมทางสังคมและสิ่งแวดล้อม
การสูบบุหรี่ ดื่มสุรา ใช้สารเสพติด
สารเคมีในโรงพยาบาล ได้แก่ ยาเคมีบำบัด ยาดมสลบ
การใช้ยากลุ่ม NSAID
ชนิดของการชักนำให้เกิดการแท้งหรือการทำแท้ง (induced abortion)
การทำแท้งเพื่อการรักษา (therapeutic abortion)
การทำแท้งเมื่อมีข้อบ่งชี้ทางการแพทย์ และกระทำโดยแพทย์ โดยเป็นการยุติการตั้งครรภ์ด้วยเหตุผลทางการแพทย์ เช่น การตั้งครรภ์นั้นเป็นอันตรายต่อสุขภาพกายหรือสุขภาพจิตของมารดา
การเลือกยุติการตั้งครรภ์ (elective abortion)
เป็นการยุติการตั้งครรภ์ตามความสมัครใจของสตรีตั้งครรภ์ โดยไม่มีสาเหตุทางการแพทย์ ซึ่งจัดเป็นการแท้งผิดกฎหมาย (criminal/illegal abortion)
การประเมินและวินิจฉัย
การซักประวัติ
การขาดประจำเดือนและการตั้งครรภ์ ประวัติการมีเลือดออกทางช่องคลอด อาการปวดหน่วงหรือปวดบีบที่ท้องน้อย การมีชิ้นส่วนของทารกหรือรกหลดออกทางช่องคลอด
การตรวจร่างกาย
ตรวจพบเลือดหรือชิ้นส่วนของทารกหรือรกออกทางช่องคลอด อาการปวดท้องน้อย ขนาดมดลูกโตไม่สัมพันธ์กับอายุครรภ์หรือระยะเวลาที่ขาดประจาเดือน การตรวจสัญญาณชีพ
การตรวจทางห้องปฏิบัตติการ
ตรวจ free beta-hCG พบต่ากว่า 20 ng/ml หรือ ระดับ beta-hCG เพิ่มขึ้นน้อยกว่าร้อยละ 66 ใน 48 ชั่วโมง ตรวจพบฮอร์โมนโปรเจสเตอโรน น้อยกว่า 45 nmol/l ในไตรมาศแรก
การตรวจพิเศษ
ตรวจด้วยคลื่นความถี่สูงจะช่วยแยกภาวะการตั้งครรภ์ไข่ปลาอุกหรือการตั้งครรภ์นอกมดลูกออกจากการแท้งได้
การพยาบาล
1) การพยาบาลด้านจิตใจ
ปล่อยให้สตรีตั้งครรภ์ได้ระบายความรู้สึก ดูแลให้ได้รับการสนับสนุนด้านอารมณ์จากสามีและครอบครัว กรณีสตรีที่มีปัญหาซับซ้อน หรือมีปัญหาสุขภาพจิต ควรส่งต่อให้รับการปรึกษา (counselling) จากผู้เชี่ยวชาญ
2) การพยาบาลขณะอยู่ในโรงพยาบาล
ดูแลให้พักบนเตียง (bed rest) ให้ยานอนหลับ หรือยาระงับปวดตามแผนการรักษา เพื่อให้ร่างกายได้พักเต็มที่
ในรายแท้งคุกคาม ให้งดการตรวจทางช่องคลอดและงดสวนอุจจาระ เพื่อลดการกระตุ้นการหดรัดตัวของมดลูก
ในรายแท้งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ แท้งไม่ครบ แท้งครบ และแท้งค้าง ให้เตรียมร่างกายและจิตใจให้พร้อมทั้งการรักษาด้วยยา หรือด้วยหัตถการ เจาะเลือดส่งตรวจ และเตรียมเลือดไว้ให้พร้อมใช้ ประเมินสัญญาณชีพ ปริมาณเลือดที่ออก ปริมาณน้าเข้า-ออก การหดรัดตัวของมดลูก
3) คำแนะนำการปฏิบัติตัวเมื่อกลับไปอยู่บ้าน
3.1) สังเกตปริมาณเลือดที่ออกทางช่องคลอด ซึ่งปริมาณเลือดที่ออกจะค่อยๆลดลงและค่อยๆหยุดภายใน 1-2 วัน
3.2) สังเกตอาการผิดปกติ ได้แก่ เลือดไม่หยุดไหล มีสิ่งขับหลั่งมีกลิ่นเหม็นออกทางช่องคลอด มีไข้ ปวดท้องน้อย และในรายแท้งคุกคาม ให้สังเกตอาการที่การตั้งครรภ์ดาเนินต่อไปได้
3.3) ภายหลังเลือดหยุดไหลให้พักผ่อนต่อ งดทำงานที่ใช้แรง หรืองานหนักอย่างน้อย 1 สัปดาห์ เพื่อให้ร่างกายกลับคืนสู่สภาพปกติ และงดการมีเพศสัมพันธ์ประมาณ 2 สัปดาห์ เพื่อลดความเสี่ยงของการติดเชื้อ
3.4) รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ครบ 5 หมู่ โดยเฉพาะอาหารและยาเพิ่มธาตุเหล็ก
3.5) สาหรับสตรีที่ต้องการตั้งครรภ์ครั้งใหม่หลังการแท้ง แนะนำให้เว้นระยะเวลาอย่างน้อย 1 รอบประจำเดือนปกติ
การตั้งครรภ์นอกมดลูก (ectopic pregnancy)
การตั้งครรภ์ที่ไข่ที่ถูกผสมแล้ว (fertilized ovum) หรือตัวอ่อน (blastocyst) ฝังตัวอยู่บริเวณอื่นภายนอกโพรงมดลูก พบได้ประมาณร้อยละ 1-2 ของการตั้งครรภ์ทั้งหมด
ปัจจัยเสี่ยงของการตั้งครรภ์นอกมดลูก
1) ความเสี่ยงสูง
มีประวัติเคยผ่าตัดท่อนำไข่หรือผ่าตัดทำหมัน เคยตั้งครรภ์นอกมดลูก เคยเป็นอุ้งเชิงกรานอักเสบ ตั้งครรภ์ขณะใส่ห่วงคุมกำเนิด และได้รับ diethylstilbestrol ขณะอยู่ในครรภ์
2) ความเสี่ยงปานกลาง
ภาวะมีบุตรยากนานเท่ากับหรือมากกว่า 2 ปี มีคู่นอนหลายคน และตั้งครรภ์อายุมากกว่า 35 ปี และความเสี่ยงเพิ่มขึ้นเมื่อตั้งครรภ์อายุมากกว่า 40 ปี
3) ความเสี่ยงเพิ่มขึ้นเล็กน้อย
เคยผ่าตัดอุ้งเชิงกราน สูบบุหรี่ สวนล้างช่องคลอด และมีเพศสัมพันธ์ก่อนอายุ 18 ปี
อาการและอาการแสดง
ปวดท้องน้อย อาการปวดท้องน้อยเฉียบพลัน อาจเริ่มด้วยปวดแบบตื้อๆ
เลือดออกผิดปกติทางช่องคลอดลักษณะเลือดที่ออกมักเป็นสีคล้ำหรือสีน้าตาลเก่า อาจมีปริมาณมากหรือเป็นหยดๆ (spotting) เลือดที่ออกไม่สัมพันธ์กับรอบประจำเดือน
ขาดประจำเดือน ปวดร้าวที่หัวไหล่ วิงเวียนศีรษะ คัดตึงเต้านม คลื่นไส้อาเจียน ถ่ายปัสสาวะบ่อย
กดเจ็บบริเวณปีกมดลูก กดเจ็บบริเวณอุ้งเชิงกราน หรือกดเจ็บบริเวณหน้าท้อง
อาการเจ็บเมื่อโยกปากมดลูก อาการปล่อยเจ็บ
การประเมินและวินิจฉัย
การซักประวิติ
ประวัติการขาดประจำเดือน การมีเลือดออกทางช่องคลอด อาการปวดท้องน้อยหรืออุ้งเชิงกราน อาการแน่นท้อง หรืออาการปวดร้าวไปที่หัวไหล่
การตรวจร่างกาย
กดเจ็บบริเวณท้องน้อยโดยเฉพาะในรายที่ตรวจพบก้อนเจ็บที่ปีกมดลูกร่วมด้วย อาการเจ็บเมื่อโยกปากมดลูก
การตรวจทางห้องปฏิบัติการ
-ตรวจ serum beta human chorionic gonodotropihin (beta-hCG) สูงกว่า 1,500-2,500 mlU/ml
ตรวจด้วยคลื่นเสียงความถี่สูงไม่พบการตั้งครรภ์ในโพรงมดลูก ให้สงสัยว่ามีการตั้งครรภ์นอกมดลูก หากได้ค่าน้อยกว่านี้ให้ตรวจซ้าในอีก 48 ชั่วโมงต่อมา โดยพิจารณา ดังนี้
ระดับของ beta-hCG เพิ่มขึ้นเกินร้อยละ 66 ให้นึกถึงการตั้งครรภ์ในโพรงมดลูกระยะแรก
ระดับของ beta-hCG เพิ่มน้อยกว่าร้อยละ 66 ให้นึกถึงการตั้งครรภ์นอกโพรงมดลูก
ระดับของ beta-hCG ลดลงมากกว่าร้อยละ 50 ให้นึกถึงภาวะแท้งหลีกเลี่ยงไม่ได้
การตรวจพิเศษ
ตรวจด้วยคลื่นเสียงความถี่สูงทางช่องคลอด พบตัวอ่อนมีชีวิตอยู่นอกโพรงมดลูก คือ มองเห็นถุงการตั้งครรภ์ (gestational sac) ร่วมกับถุงไข่แดง (york sac) หรือตัวอ่อน (embryo) หรือพบทั้งคู่ที่ปีกมดลูก
แนวทางการรักษา
การรักษาแบบประคับประคองและการเฝ้าสังเกตอาการ
การรักษาด้วยยา Methotrexateในรายที่ได้รับการยืนยันการวินิจฉัยว่าเป็นการตั้งครรภ์นอกมดลูกที่ยังไม่แตก (rupture ectopic) มีขนาดเล็กกว่า 3.5 เซนติเมตร มีสัญญาณชีพคงที่
การผ่าตัด
การผ่าตัดแบบ linear salpingostomy เป็นการผ่าตัดมาตรฐานโดยการกรีดท่อนาไข่ยาวประมาณ 1 เซนติเมตร แล้วคีบหรือดูดชิ้นเนื้อของการตั้งครรภ์ออก ห้ามเลือดด้วยการจี้ไฟฟ้าเปิดแผลผ่าตัด
การผ่าตัดแบบ salpingectomy เป็นการตัดท่อนำไข่ข้างที่เกิดการตั้งครรภ์นอกมดลูกออก โดยอาจจะตัดออกทั้งหมด (total salpingectomy) มักทำในผู้ที่ท่อนำไข่มีความผิดปกติรุนแรง ถุงการตั้งครรภ์มีขนาดใหญ่มากกว่า 5 เซนติเมตร
การพยาบาล
1) อธิบายให้เข้าใจเกี่ยวกับพยาธิสรีรภาพของการตั้งครรภ์นอกมดลูก แผนการรักษา และการปฏิบัติตน
2) ให้การประคับประคองด้านจิตใจ เปิดโอกาสให้ระบายความรู้สึกกลัว วิตกกังวล
3) สังเกตอาการเจ็บปวดในช่องท้อง ตำแหน่งและความรุนแรงของความเจ็บปวด ลักษณะและปริมาณเลือดที่ออกทางช่องคลอด ซึ่งมักไม่สัมพันธ์กับอาการแสดงของการเสียเลือด
4) ประเมินสัญญาณชีพเป็นระยะ เฝ้าระวังอาการแสดงของภาวะช็อกจากการเสียเลือดมาก
5) เจาะเลือดตรวจหาค่า hemoglobin, hematocrit และหมู่เลือด จัดเตรียมเลือดไว้ให้พร้อมและให้สารน้ำทางหลอดเลือดดา หรือให้เลือดตามแผนการรักษา
6) ในรายที่มีอาการแสดงของภาวะช็อก จัดให้นอนราบไม่หนุนหมอน ห่มผ้าให้อบอุ่น ให้สารน้ำทางหลอดเลือดดำให้เร็วขึ้น ให้ออกซิเจน 4-5 ลิตรต่อนาที รายงานแพทย์ทันที รวมทั้งเตรียมยา เตรียมอุปกรณ์สาหรับภาวะฉุกเฉิน
7) ในรายที่ได้รับการรักษาด้วยยา Methotrexate อธิบายผลข้างเคียงของยาที่อาจเกิดขึ้น ได้แก่ อาการคลื่นไส้ อาเจียน ใจสั่น ผลต่อการทำงานของตับและไต
8) ในรายที่ได้รับการรักษาด้วยการผ่าตัด ให้เตรียมร่างกายและจิตใจให้พร้อม แนะนาวิธีปฏิบัติตัวก่อนและหลังผ่าตัด การตรวจหาค่า serum beta-hCG ภายหลังการผ่าตัด รวมทั้งอธิบายและตอบข้อซักถาม
9) ให้คำแนะนำเรื่องการวางแผนครอบครัว ในรายที่มีบุตรเพียงพอแล้วแนะนำให้ทำหมัน
การตั้งครรภ์ไข่ปลาอุก
เป็นโรคของเนื้อรก (gestational trophoblastic disease [GTXD]) ชนิดหนึ่งที่เกิดจากความแปรปรวนทางพันธุกรรมในเนื้อรก ทาให้เนื้อรก (chorionic villi) เสื่อมสภาพกลายเป็นถุงน้าเล็กๆใสๆ เกาะเป็นกระจุก คล้ายพวงองุ่น ซึ่ง GTD เป็นกลุ่มโรคที่เกิดขึ้นสืบเนื่องจากการตั้งครรภ์ ที่เกิดการแบ่งตัวผิดปกติของ placental trophoblast โดยโรคกลุ่มนี้แบ่งออกเป็น 2 ประเภท
Benign GTD ได้แก่ ครรภ์ไข่ปลาอุก แบ่งเป็นcomplete mole และ partial mole
Malignant GTD รวมเรียกเป็นมะเร็งเนื้อรก (gestational trophoblastic tumor/ neoplasia) ได้แก่ invasive mole, placental-site trophoblastic tumor และ choriocarcinoma
ชนิดของการตั้งครรภ์ไข่ปลาอุก
ครรภ์ไข่ปลาอุกที่เป็นถุงน้ำทั้งหมด (complete hydatidiform mole)
มีลักษณะเป็นdiploid mole จะมีโครโมโซมเป็น 46,XX เป็นส่วนใหญ่ โดยทั้งหมดถ่ายทอดมาจากโครโมโซมของบิดา โดยไม่มีโครโมโซมของมารดา (androgenesis) เกิดจากโครโมโซมของ sperm 23,X ที่เข้าไปแบ่งตัวใน ovum เป็นสองชุด (diploid) ส่วนในกรณีที่เป็น 46,XY เกิดจาก sperm 2 ตัว 23,X และ 23,Y เข้าไปปฏิสนธิใน ovum เปล่าที่ไม่มีนิวเคลียส เมื่อตรวจด้วยกล้องจุลทรรศน์จะพบ chorionic villi บวมและโตทั่วไป มีขนาดแตกต่างกัน ซึ่งต่างจากรกปกติที่ villi มีขนาดเท่าๆกัน ไม่พบหลอดเลือดใน villi (avascular villi) และไม่พบเนื้อเยื่อของทารกเลย
ครรภ์ไข่ปลาอุกที่เป็นถุงน้าบางส่วน (partial หรือ incomplete hydatidiform mole)
มีลักษณะเป็น polyploidy mole โดยประมาณร้อยละ 90 เป็น triploid เกิดจาก sperm 2 ตัว ผสมกับovumมักจะเกิดการแท้งเอง หรือแท้งค้าง การตรวจด้วยคลื่นเสียงความถี่สูงไม่พบความผิดปกติของ chorionic villi ระดับฮอร์โมน hCG ต่ากว่าชนิด complete mole และเมื่อการตั้งครรภ์สิ้นสุดลง ระดับฮอร์โมน hCG จะลดต่าลงทันที และมีอุบัติการณ์ของการเกิดโรคมะเร็งเนื้อรกน้อย
สาเหตุและปัจจัยเสี่ยง
การตั้งครรภ์อายุน้อยกว่า 16 ปี และอายุมากกว่า 40 ปี
ประวัติแท้งเองมากกว่าสองครั้ง
ภาวะมีบุตรยากซึ่งมักพบร่วมกับการกระตุ้นให้ไข่ตกด้วยยาclomiphene (Clomid)
ประวัติเคยตั้งครรภ์ไข่ปลาอุกมากก่อนจะมีโอกาสเกิดมากกว่าคนทั่วไปถึง 16 เท่า
อาการและอาการแสดง
เลือดออกผิดปกติทางช่องคลอด
เม็ดโมลหลุดออกมาทางช่องคลอด
ขนาดมดลูกโตกว่าอายุครรภ์ เกิดจากการเพิ่มจำนวนของ trophoblast และมีเลือดค้างอยู่ในโพรงมดลูก
อาการแพ้ท้องรุนแรง ถุงน้ำรังไข่ ครรภ์เป็นพิษ คอพอกเป็นพิษ
Trophoblastic embolization
การประเมินและวินิจฉัย
การประเมินและวินิจฉัยการตั้งครรภ์ไข่ปลาอุก สามารถวินิจฉัยได้จาก การซักประวัติ การตรวจร่างกาย การตรวจทางห้องปฏิบัติการ และการตรวจด้วยคลื่นเสียงความถี่สูง
ตรวจด้วยอัลตราซาวน์ เป็นวิธีการตรวจที่แม่นยาและนิยมมากที่สุด โดยจะตรวจพบลักษณะ ดังนี้
1) ลักษณะของ complete mole ที่พบ ได้แก่ snow storm pattern ไม่พบถุงการตั้งครรภ์หรือทารก ไม่มีน้ำคร่ำ และพบถุงน้ารังไข่ทั้ง 2 ข้าง
2) ลักษณะของ partial mole ที่พบ ได้แก่ ตรวจพบ cystic space เฉพาะที่ในเนื้อรก พบส่วนของทารก พบมีน้ำคร่ำแต่อาจมีปริมาณลดลง และไม่พบถุงน้ำรังไข่
แนวทางการรักษา
ทำให้การตั้งครรภ์สิ้นสุดลง ส่วนใหญ่ทำโดยการขูดมดลูกด้วยเครื่องดูดสุญญากาศ (suction curettage) ร่วมกับการให้ oxytocin เพื่อช่วยให้มดลูกหดรัดตัวดี ป้องกันการตกเลือด
ติดตามระดับฮอร์โมน hCG เป็นการประเมินการเกิดมะเร็งเนื้อรกที่ได้ผลดี
ประเมินระดับฮอร์โมน serum bête-hCG ทุก1-2 สัปดาห์ จนกระทั่งให้ผลลบ หลังจากนั้นตรวจทุกเดือนเป็นเวลา 6 เดือน เมื่อพบค่าปกติตรวจทุก 2 เดือน จนครบ 6 เดือนหรือ 1 ปี หากพบค่าอยู่ในเกณฑ์ปกติอาจงดตรวจเมื่อครบ 1 ปี
ประเมินสภาพร่างกายทั่วไปไว้เป็นเกณฑ์ (baseline physical examination) และนัดตรวจเป็นระยะจนครบ 1 ปี
ถ่ายภาพรังสีปอดเป็นระยะ ควรนัดตรวจทุกเดือนถ้ายังตรวจพบฮอร์โมน hCG และตรวจทุก 2 เดือนจนไม่พบ hCG หลังจากนั้นควรตรวจปีละครั้ง
ตรวจประเมินอวัยวะสืบพันธุ์ภายนอกและอวัยวะสืบพันธุ์ภายในเป็นระยะเพื่อดูการแพร่กระจายของมะเร็งเนื้อรก
ให้คุมกำเนิดอย่างเคร่งครัดอย่างน้อย 1 ปี เพราะการตั้งครรภ์จะทาให้ระดับฮอร์โมน hCG สูงขึ้นซึ่งอาจเกิดความสับสนกับการเกิดมะเร็งของเนื้อรก
กรณีที่เกิดมะเร็งเนื้อรก (chroriocacinoma) พิจารณาให้การรักษาด้วยยาเคมีบำบัด
การพยาบาล
1) อธิบายให้เข้าใจเกี่ยวกับ พยาธิสภาพของการตั้งครรภ์ไข่ปลาอุก แผนการรักษา และการปฏิบัติตน
2) ให้การประคับประคองด้านจิตใจ เปิดโอกาสให้ระบายความรู้สึกกลัว วิตกกังวล โดยรับฟังด้วยความเข้าใจ พร้อมทั้งให้กาลังใจ และเปิดโอกาสให้ครอบครัวมีส่วนร่วมในการดูแล
3) เตรียมความพร้อมด้านร่างกายและด้านจิตใจในการขูดมดลูก โดยอธิบายวิธีการ และแนะนาวิธีการปฏิบัติตนทั้งก่อนทำ ขณะทำ และหลังทำ ดูแลการงดน้ำและอาหารอย่างน้อย 6 ชั่วโมงก่อนขูดมดลูก ให้ถ่ายปัสสาวะ และทำความสะอาดอวัยวะสืบพันธุ์ภายนอกก่อนทำ
4) ดูแลการให้สารน้ำ เลือด และยา ซึ่งส่วนใหญ่เป็นยาบรรเทาปวด และยากระตุ้นการหดรัดตัวของมดลูกตามแผนการรักษา
5) ประเมินและบันทึกสัญญาณชีพทุก 15 นาที ในช่วงเวลา 1 ชั่วโมงแรก ทุก 30 นาที ในช่วงเวลา 1 ชั่วโมงต่อมา และทุก 1 ชั่วโมงจนกว่าอาการจะคงที่ เพื่อเฝ้าระวังการตกเลือด
6) เก็บเนื่อเยื่อที่ได้จากการขูดมดลูกส่งตรวจและติดตามผล
7) อธิบายให้เข้าใจการดาเนินของโรค แผนการรักษา ความจำเป็นที่ต้องได้รับการรักษาอย่างต่อเนื่อง และการมาตรวจตามนัดอย่างเคร่งครัด
8) อธิบายให้เข้าใจความสาคัญของการคุมกำเนิด และการเลือกวิธีคุมกำเนิด
นางสาวชื่นนภา มูลนิคม รหัส 602701020