Please enable JavaScript.

Coggle requires JavaScript to display documents.

บทที่ 4 ภาวะผู้นํา 4143751DA8A1462290761392907ADD79 - Coggle Diagram

- - - - 1.การแสดงตัว (Identity)
      - 2.การยึดเกาะระหว่างสมาชิก (Cohesion)
    - - 1.การไม่ยอมรับกัน มีการตั้งเงื่อนไขที่ทําให้โอกาสที่จะทํางานร่วมกันเป็นไปได้ยาก
      - การนิ่งดูดายโดยปล่อยให้สมาชิกแต่ละคนทํางานโดยมีความคิดเพียงว่างานของตน
    - - การทํางานเป็นทีมจําเป็นต้องขึ้นอยู่กับประสิทธิภาพของการปฏิบัติงานของแต่ละคนในทีมเปรียบเสมือนเหมือนกับเครื่องพิมพ์ดีดที่ทุกแป้นอักษรจะต้องใช้งานได้ดีจึงจะทํางานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- - - - 1.พฤติกรรมมุ่งงาน (Initiating Structure behavior) หมายถึงผู้นําที่มีลักษณะของความกระตือรือร้น มีความคิดริเริ่ม มีมนุษยสัมพันธ์ในกลุ่ม
      - 2.พฤติกรรมมุ่งคน (Consideration behavior) หมายถึง ผู้นําที่มีลักษณะของการดูแลเอาใจใส่ มีความเป็นมิตรภาพ มีความไว้วางใจต่อกัน ยอมรับฟังความคิดเห็น
    - - 2) พฤติกรรมผู้นําแบบประชาธิปไตย (Democratic leader behavior)
      - 3) พฤติกรรมผู้นําแบบปล่อยตามสบาย (Laissez-faire leader behavior)
      - 1) พฤติกรรมผู้นําแบบเผด็จการ (Autocratic leader behavior)
    - - -พฤติกรรมที่มุ่งงาน (Job-Centered Behavior) เป็นพฤติกรรมของผู้นําที่มุ่งให้ความสนใจในงานที่ผู้ใต้บังคับบัญชาปฏิบัติ และสนใจว่าผู้ใต้บังคับบัญชาทํางานดังกล่าวได้ดีเพียงใด
      - -พฤติกรรมี่มุ่งให้ความสําคัญแก่ผู้ใต้บังคับบัญชา (People-CenteredBehavior)พฤติกรรมที่มุ่งให้ความสําคัญแก่ผู้ใต้บังคับบัญชาในฐานะที่เขาเป็นมนุษย์(subordinates as people) มุ่งในความสนใจในความต้องการของบุคคล เน้นการสร้างความร่วมมือและเน้นการทํางานร่วมกันเป็นทีม
    - - ผู้นําควรปรับบทบาทให้ผู้ใต้บังคับบัญชาได้เข้ามามีบทบาทในการตัดสินใจมากขึ้นในระยะยาว เพราะจะเป็นการสร้างแรงจูงใจในทางบวก ช่วยปรับปรุงคุณภาพการตัดสินใจ การทํางานเป็นทีม การสร้างขวัญและกําลังใจในการทํางาน และถือว่าเป็นการพัฒนาบุคลากร
      - พวกเขาเสนอแนะว่ามีปัจจัยที่สําคัญ 3 ประการที่ส่งผลต่อการพัฒนาสไตล์ของภาวะผู้นําที่มีประสิทธิผล
        
        พลังที่มีอยู่ในตัวผู้บริหาร (forces in the manager)
        
        พลังที่มีอยู่ในตัวของผู้ใต้บังคับบัญชา (forces in the subordinate)
        
        พลังที่มีอยู่ในสถานการณ์ (forces in the situation)
  - - - 3.1.1 พฤติกรรมของผู้นําที่มุ่งงาน (task motivation)
      - 3.1.2 พฤติกรรมของผู้นําที่มุ่งมนุษยสัมพันธ์ (relationship motivation) ไฟด์เลอร์ได้พัฒนาเครื่องมือในการวิจัย เป็นแบบสอบถามเรียกว่า “ แบบสอบถามเพื่อวัดระดับความพึงพอใจที่บุคคลมีต่อเพื่อนร่วมงานน้อยที่สุด (The Least Preferred Co-worker Questionnaire :LPC)”
    - - R1 : ผู้ตามไม่มีความสามารถและไม่เต็มใจที่จะทํางาน
      - R2 : ผู้ตามไม่มีความสามารถในการทํางาน แต่เต็มใจที่จะทํางาน
      - R3 : ผู้ตามมีความสามารถในการทํางาน แต่ไม่เต็มใจที่จะให้ผู้บริหารบอกว่าต้องทําอะไร
      - R4 : ผู้ตามมีทั้งความสามารถและเต็มใจที่จะทํางาน
  - - - 4.2.1 การฟังด้วยความตั้งใจ (Listening Closely) ผู้นําแบบสอนงานพยายาจะมองปัญหาทั้งสองด้าน
      - 4.2.2 สนับสนุนจูงใจพนักงาน (Gives Emotional Support) ผู้นําแบบสอนงานจะต้องให้กําลังใจในการจูงใจพนักงาน
      - 4.2.3 สามารถแสดงพฤติกรรมให้เป็นแบบอย่างแก่ผู้ใต้บังคับบัญชาได้อย่างเหมาะสม(Shows by Example)
    - - ผู้นําแบบพิเศษจะประสบผลสําเร็จได้ก็ต่อเมื่อพวกเขาสามารถพัฒนาผู้ตาม(followers) ให้เป็นบุคคลที่มีประสิทธิภาพสูง ทํางานได้อย่างอิสระ และต้องการให้ผู้นําเข้ามาควบคุมน้อยที่สุด
    - - 4.1.1 ทําให้บุคลากรตระหนัก (awareness) ถึงปัญหาขององค์การ
      - 4.1.2 กําหนดวิสัยทัศน์ขององค์การ (create vision)
    - - ภาวะผู้นําแบบผู้ประกอบการอยู่บนพื้นฐานที่ว่า ผู้นําเป็นนายจ้างของตนเอง(selfemployed) ผู้นําตามทฤษฎีนี้มีความสําคัญยิ่งต่อองค์การในการแกปัญหาวิกฤติ เขาจะดําเนินการราวกับว่าเขาเป็นผู้ที่มีความเสี่ยงในทางการเงินสูงในการลงทุน