Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
การคลอดเฉียบพลัน (Precipitate labor) - Coggle Diagram
การคลอดเฉียบพลัน (Precipitate labor)
การคลอดที่เกิดขึ้นเร็วผิดปกติ ซึ่งเป็นผลจากแรงต้านทานของ เนื้อเยื่อที่หนทางคลอดไม่ดี ความผิดปกติของมดลูกที่แรงมาก
สาเหตุและปัจจัยส่งเสริม
แรงต้านทานของเนื้อเยื่อที่ช่องคลอดไม่ดี
การหดรัดตัวของกล้ามเนื้อมดลูก และกล้ามเนื้อหน้าท้องแรงผิดปกติ โดยเกิดขึ้นเองหรือจากการให้ยาเร่งคลอดมากผิดปกติ
ผู้คลอดครรภ์หลังเนื้อเยื่อต่างๆมีการยืดขยายมากจึงทำให้ส่วนต่างๆได้แก่ คอมดลูก พื้น เชิงกรานช่องคลอดและฝีเย็บหย่อนตัว
ผู้คลอดที่มีเชิงกรานกว้าง
เคยมีประวัติการคลอดเฉียบพลัน
คลอดไม่มีความรู้สึกเจ็บปวดจากการคลอดหรือไม่รู้สึกอยากเบ่ง ซึ่งพบได้น้อยมาก
ทารกตัวเล็กหรืออายุครรภ์น้อยกว่ากำหนดทำให้เคลื่อนต่ำลงมาได้ง่าย
ผู้คลอดที่ไวต่อการได้รับยากระตุ้นการหดรัดตัวของมดลูก
การวินิจฉัย
ระยะเวลาในการเจ็บครรภ์และคลอดน้อยกว่า 3 ชั่วโมง
การเปิดขยายของปากมดลูกเปิดมากกว่า 5 เซนติเมตร/ชั่วโมงในครรภ์แรก และเปิดมากกว่า 10 เซนติเมตร/ชั่วโมงในครรภ์หลัง
มีการหดรัดตัวของมดลูกถี่และรุนแรง มีการหดรัดตัวทุก 2 นาทีหรือบ่อยกว่านั้นและ ระยะเวลาของการหดรัดตัวของมดลูกนานมากกว่า 90 วินาที หรือไม่มีการคลายตัวในระยะที่ควรเป็นระยะพัก
5.ความดันภายในโพรงมดลูกประมาณ 50-70 มิลลิเมตรปรอท
4.ผู้คลอดอยากเบ่งขณะปากมดลูกเปิดไม่หมด
ภาวะแทรกซ้อน
มารดา
เนื้อเยื่อบริเวณช่องทางคลอดเกิดการฉีกขาด
มีการติดเชื้อที่แผลฉีกขาด
ตกเลือดหลังคลอด
อาจเกิดภาวะน้ำคร่ำอุดตัน
มดลูกแตกจากมดลูกหดรัดตัวรุนแรง
เกิดการคั่งของเลือดใต้ชั้นผิวหนังที่ฉีกขาด
อาจเกิดมดลูกปลิ้นเนื่องจากความดันในโพรงมดลูกลดลงอย่างรวดเร็ว
ทารก
เลือดออกในสมอง (subdural hemorrhage) ซึ่งพบว่า ทารกมีโอกาสเกิดภาวะปัญญาอ่อนมากกว่าทารกปกติ
ภาวะ Erb’palsy
อาจเกิดภาวะขาดออกซิเจน (asphyxia)
ทารกได้รับบาดเจ็บเนื่องจากการกระทบกระแทกเพราะการช่วยคลอดไม่ทัน
สายสะดือขาดเนื่องจากสายสะดือสั้นหรือรกยังไม่ลอกตัว
ถ้าคลอดออกมาทั้งถุงน้ำคร่ำ (caul delivery) ทารกอาจสำลักน้ำคร่ำได้ ซึ่งมักพบในทารกที่อายุครรภ์น้อย
ทารกอาจเกิดการติดเชื้อเนื่องจากไม่ได้เตรียมทำความสะอาดก่อนคลอด
รกลอกตัวก่อนกำหนด
ถ้าให้การช่วยเหลือช้า ทารกอาจเกิดภาวะหนาวสั่น หรือการช่วยฟื้นคืนชีพช้าทำให้เสียชีวิต
การรักษา
ให้การดูแลตามอาการ ถ้าประสบกับการคลอดเฉียบพลันให้ช่วยคลอด
การให้ยา รายที่ให้ยากระตุ้นการหดรัดตัวของมดลูก ควรหยุดให้และดูแลอย่างใกล้ชิด อาจให้ยาช่วยยับยั้งการหดรัดตัวของมดลูก รายที่มีการคลอดเฉียบพลันภายหลังคลอด แพทย์มักจะให้ยาปฏิชีวนะ เพื่อป้องกันการติดเชื้อ และให้ยา methergin หลังคลอดเพื่อป้องกันการตกเลือด
การผ่าตัดคลอด ทำในรายที่มีภาวะแทรกซ้อนจากภาวะมดลูกแตก (uterine rupture) หรือ น้ำคร่ำอุดตันในกระแสเลือดของผู้คลอด (amniotic fluid embolism)
การประเมินสภาพ
1.การซักประวัติ ได้แก่ ประวัติการคลอดเฉียบพลัน หรือการคลอดเร็วในครรภ์ก่อน ความไวต่อการเร่งคลอด ลักษณะอาการเจ็บครรภ์
การตรวจร่างกาย
2.1 การตรวจภายใน
2.2 ประเมินการหดรัดตัวของมดลูก
2.3 การฟังเสียงหัวใจทารกในครรภ์ ร่วมกับการ monitor EF เพื่อประเมินภาวะสุขภาพของ ทารกในครรภ
ภาวะจิตสังคม ได้แก่ ประเมินความวิตกกังวล และความหวาดกลัวของผู้คลอดเกี่ยวกับภาวะ สุขภาพของทารกเนื่องจากการคลอดเร็ว
การพยาบาล
มารดาที่มีประวัติการคลอดเร็ว
1.1. ประเมินและบันทึกการหดรัดตัวของมดลูก และFHS ทุก 30 นาที
1.2 PV เมื่อมารดาอยากเบ่ง เพื่อประเมินความก้าวหน้าของการคลอด
1.3 พิจารณาย้ายมารดาเข้าห้องคลอด เมื่อปากมดลูกเปิด 5 เซนติเมตร เพื่อเตรียมการช่วยคลอดโดยเร็ว
ให้การดูแลตามอาการ กรณีที่จะมีภาวะคลอดเฉียบพลัน
2.1 กระตุ้นให้มารดาใช้เทคนิคการหายใจแบบตื้นๆ เร็วๆ เบา ๆ เข้าออกทางปากและจมูก เพื่อควบคุมไม่ให้มารดาเบ่งเร็ว
2.2 ใช้ผ้าสะอาดกดบริเวณฝีเย็บ พร้อมทั้งใช้มืออีกข้างกดศีรษะทารกให้ก้มลงก่อนที่ศีรษะทารกจะคลอด เพื่อป้องกันการฉีกขาดของฝีเย็บและอวัยวะสืบพันธุ์ภายนอก
2.3 ในกรณีที่มารดาไม่สามารถหยุดเบ่งและศีรษะทารกคลอดออกมาแล้ว ให้กางขามารดาออกเพื่อป้องกันศีรษะทารกถูกหนีบ
2.4 จับให้ทารกนอนศีรษะต่ำ ตะแคงหน้าไปด้านใดด้านหนึ่ง และดูดน้ำคร่ำในปากและจมูกทารกออก เพื่อป้องกันทารกสำลักน้ำคร่ำ
หลังคลอดดูแลมารดาที่มีการฉีกขาดของช่องทางคลอดและมดลูกหดรัดตัวไม่ดีอย่างใกล้ชิดเพื่อป้องกันการตกเลือดหลังคลอด
แนะนำการรักษาความสะอาดอวัยวะสืบพันธุ์และดูแลให้ได้รับยาปฏิชีวนะตามแผนการรักษา เพื่อป้องกันการติดเชื้อหลังคลอด