Please enable JavaScript.

Coggle requires JavaScript to display documents.

ผู้ป่วยชายไทยอายุ 62 ปี Dx.โรคกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด (NSTEMI) …

- - - - ข้อสนับสนุน :
        
        เจ็บหน้าอกร้าวไปหัวไหล่ทั้งสองข้าง
        
        กิจกรรมการพยาบาล
        
        1.ประเมินสัญญาณชีพ T,P,R,BP, O2 sat
        
        2.ประเมินคลื่นไฟฟ้าหัวใจ 12 lead
        
        3.ประเมินอาการเจ็บหน้าอก โดยประเมินตำแหน่งของอาการปวดร้าว ระยะเวลาปวดและระดับความปวดโดยใช้ pain scale
        
        4.ดูแลให้ออกซิเจนตามแผนการรักษา
        
        5.จัดท่านอนศรีษะสูง 45 องศา
        
        6.Absolute bed rest และกิจกรรมบนเตียง
        
        7.ดูแลให้สารน้ำทางหลอดเลือดดำตามแผนการรักษา
        
        8.ดูแลให้ยาแก้ปวด Morphine Sulfate ตามแผนการรักษา
        
        9.ดูแลให้ยาอมใต้ลิ้น เมื่อรู้สึกเจ็บหน้าอก ตามแผนการรักษา
        
        10.ดูแลให้ยาละลายลิ่มเลือดตามแผนการรักษา
        
        11.สังเกตอาการเจ็บแน่นหน้าอก อาการเหนื่อยของผู้ป่วยและอาการทั่วไป ตลอดจนติดตามสัญญาณชีพและคลื่นไฟฟ้าหัวใจอย่างใกล้ชิด หลังผู้ป่วยได้รับยาละลายลิ่มเลือด
  - - - ข้อสนับสนุน:
      - S: - เจ็บหน้าอกร้าวไปหัวไหล่ทั้งสองข้าง
      - O: - ผล EKG : พบมี Q wave และมีภาวะกล้ามเนื้อหัวใจตาย บริเวณผนังด้านหน้าของกล้ามเนื้อหัวใจ
        
        ผล Echo cardiograms: พบผนังด้านหน้าของกล้ามเนื้อหัวใจห้องล่างซ้ายมีการทำงานต่ำกว่าปกติ บีบตัวได้ 20- 30 % และมีการบีบตัวของหัวใจลดลงที่ตำแหน่งผนังด้านหน้าของกล้ามเนื้อหัวใจ anterior wall
        
        Troponin T = 0.293 ng/ ml
        
        กิจกรรมการพยาบาล
        
        1.ประเมินสัญญาณชีพและระดับความรู้สึกตัวทุก 4 ชม. โดยสังเกตอาการกระสับกระส่ายและสับสน
        
        2.ประเมินอาการเจ็บหน้าอกโดยใช้ pain scale
        
        3.ประเมินลักษณะผิวหนัง ความเย็นชื้นและสีผิว
        
        4.ประเมิน capillary refilled
        
        5.ประเมิน I/O
        
        7.Monitor EKG
        
        8.ดูแลจัดอาหารเหลวหรืออาหารอ่อน ย่อยง่าย หลีกเลี่ยงอาหารทอดหรือผัด
        
        9.ดูแลให้จำกัดน้ำวันละ 1000 ซีซี
        
        10.แนะนำหลีกเลี่ยงการเบ่งอุจจาระ
  - - - กิจกรรมการพยาบาล
      - จัดท่าให้ผู้ป่วยนอนราบไม่หนุนหมอน
        
        ตรวจวัดและบันทึกสัญญาณชีพ
      - สังเกตและบันทึกอาการเกี่ยวกับระดับความรู้สึกตัวและภาวะน้ำตาลในเลือดสูง ได้แก่ ปัสสาวะบ่อย กระหายน้ำ น้ำหนักลด อ่อนเพลีย คลื่นไส้อาเจียน หอบ ระดับความรู้สึกตัวลดลง ซึมลง หมดสติ
      - ดูแลการได้รับยารับประทานลดระดับน้ำตาล ตามแผนการรักษาของแพทย์
      - ติดตามผลระดับน้ำตาลในเลือดเพื่อประเมินภาวะน้ำตาลในเลือดอย่างสม่ำเสมอ
    - - กิจกรรมการพยาบาล
        
        ประเมินความสามารถในการทำกิจวัตรประจำวันผู้ป่วย
        
        ดูแลช่วยเหลือผู้ป่วยในการเคลื่อนไหว และเปลี่ยนอิริยาบถของร่างกายเพื่อช่วยให้ผู้ป่วยเกิดความมั่นใจ และกล้าที่จะเคลื่อนไหวร่างกายด้วยตนเองและทำกิจวัตรประจำวันด้วยตนเองได้ ให้การช่วยเหลือตามความเหมาะสม เช่น การช่วยพยุงเดินไปห้องน้ำ
        
        จัด Unit ของผู้ป่วยให้สามารถหยิบของใช้ได้สะดวก
        
        ดูแลผู้ป่วยให้บรรเทาอาการเจ็บหน้าอก เพื่อจะได้สามารถปฏิบัติภาระกิจวัตรประจำวันได้ดีขึ้น
        
        ระวังเรื่องอุบัติเหตุที่อาจจะเกิดขึ้น
        
        การตกเตียงจากการพลิกตะแคงตัวได้ไม่ดีโดยการยกไม้กั้นเตียงขึ้นทั้งสองข้าง และผู้ป่วยยังสามารถที่จะจับไม้กั้นเตียงเพื่อช่วยในการพลิกตะแคงตัวได้ดีขึ้น
        
        การลื่นหกล้ม ต้องดูแลให้ความช่วยเหลือเมื่อผู้ป่วยจะไปห้องน้ำ ทางเดินต้องไม่ลื่น พื้นแห้ง ไม่มีสิ่งของวางเกะกะ
      - ผู้ป่วยพร่องความรู้ในการดูแลตนเอง
        ข้อสนับสนุน: มีโรคประจำตัวคือ โรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือดสูง นาน 4- 5 ปี รักษาโดยการรับประทานยาที่ รพ.บำราศนราดรู แต่ขาดยามานาน 4 เดือน
        
        กิจกรรมการพยาบาล
        
        ให้ความรู้เรื่องโรคหัวใจขาดเลือด
        
        ให้ความรู้เรื่องโรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือดสูง
        
        1.ให้คำแนะนำเกี่ยวกับเรื่องอาหาร การเลือกรับประทานอาหารที่ถูกต้องแลเหมาะสมกับโรคควร หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหาร ควรรับประทานอาหารให้ตรงเวลา ครบ 3 มื้อ
        
        แนะนำให้รับการรักษาอย่างต่อเนื่องห้ามหยุดรับประทานยาโดยที่แพทย์ไม่ได้สั่ง
        
        ผู้ป่วยมีความวิตกกังวล เนื่องจากความเจ็บป่วยของตนเอง
        
        8.แนะนำวิธีการผ่อนคลายความเครียด เช่น ทำสมาธิ เปิดเพลง หรืออ่านหนังสือ เป็นต้น
        
        6.ให้ผู้ป่วยมีส่วนร่วมในการตัดสินใจในกิจกรรมการพยาบาลและประเมินผลของการพยาบาล
        
        5.ให้การพยาบาลอย่างนุ่มนวล
        
        4.เปิดโอกาสให้ผู้ป่วยได้ซักถามปัญหาที่สงสัย พูดระบายความรู้สึก โดยรับฟังด้วยความเต็มใจ
        
        3.อธิบายให้ผู้ป่วยเข้าใจ แผนการรักษา อาการของโรค พยาธิสภาพ ลักษณะการเจ็บหน้าอก สาเหตุของการเจ็บหน้าอกและปฏิบัติตัว
        
        2.สร้างสัมพันธภาพกับผู้ป่วยด้วยวาจาที่สุภาพ อ่อนโยน เป็นมิตรและจริงใจ
        
        1.ประเมินระดับความวิตกกังวล
        
        กิจกรรมการพยาบาล