Please enable JavaScript.

Coggle requires JavaScript to display documents.

การประเมินภาวะสุขภาพการดูแลช่วยเหลือ มารดาและทารกในระยะที่ 2 ,3 และ 4 ของ…

- - - - ชั้น Chorion
        
        เยื่อชั้นนอกที่ติดกับผนังมดลูก
        
        มีลักษณะไม่ใสและไม่เรียบ ฉีกขาดได้ง่าย
      - ชั้น Amnion
        
        เยื่อหุ้มทารกชั้นใน
        
        ลักษณะเป็นมัน มี สีขาวขุ่นและเหนียวมาก
        
        ห่อหุ้มตัวทารก
    - - ยาวประมาณ 35 - 100 ซม.
        (โดยเฉลี่ย 50 ซม.)
      - บิดเป็นเกลียว ทำให้สายสะดือไม่หักพับ
      - มีเส้นเลือด 3 เส้น คือ Vein 1 เส้น และ Artery 2 เส้น
    - - ลักษณะของรก
        
        รกด้านมารดา
        
        มีสีแดงเข้มเหมือนสีลิ้นจี่
        
        ด้านที่ติดกับผนังมดลูก
        
        ปกคลุมด้วย Decidua บาง ๆ ซึ่งลอกติดออกมาพร้อมกับรกและมองเห็นเป็นแผ่นเดียวกันตลอด ทีฉีกขาดได้ง่าย มองเห็นเป็นก้อน ๆ แต่ละก้อนเรียกว่า Cotyledon
        
        รกด้านเด็ก
        
        สีเทาอ่อนและเป็นมัน เนื่องจากมีเยื่อหุ้มทารกชั้น amnion คลุมอยู่
        
        เรียบและมีสีเทา
        
        วงสีขาวโดยรอบ ซึ่งเป็นบริเวณที่ขอบของ Decidua vera มาเชื่อมกับ Decidua capsularis เรียกว่า Closing ring of wrinker waldeyer
        
        ลักษณะของโรค
        
        น้ำหนักประมาณ 500 กรัม
        
        กว้างประมาณ15 - 20 ซม. หนาประมาณ 2 - 3 ซม.
        
        รกมีลักษณะกลมแบนหรืออาจเป็นรูปรี
    - - Insertio centralis หรือ Central insertion
        สายสะดือติดอยู่กลาง Chorionic plate
      - Insertio lateralis หรือ Lateral insertion
        สายสะดือติดไปทางด้านใดด้านหนึ่งบน Chorionic plate
      - Insertio marginalis หรือ Marginal insertion สายสะดือจะติดอยู่ที่ริมขอบรก
        
        Battledore placenta
- - - - คือการตัดเนื้อเยื่อและกล้ามเนื้อบางส่วนของช่องคลอดและฝีเย็บ
        เพื่อขยายทางคลอดให้กว้างขึ้น
    - - ความไม่สมดุลระหว่างศีรษะทารกกับฝีเย็บ
      - การคลอดเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว
      - คลอดโดยใช้สูติศาสตร์หัตถการ โดยเฉพาะการใช้คีม
    - - ลดอันตรายต่อสมองทารก
      - ปูองกันการฉีกขาดของ Perineal body, External anal sphincter
        และผนังของ rectum
      - ปูองกันการฉีกขาดหรือการยืดหย่อนของ Pelvic floor
      - สะดวกแก่การซ่อมแซมฝีเย็บ
    - - ผู้คลอดครรภ์แรก
      - ผู้คลอดครรภ์หลังที่เคยเย็บฝีเย็บมาแล้ว
      - การคลอดท่าก้น
      - การคลอดทารกก่อนกำหนด
      - ทารกมีขนาดใหญ่
      - ทารกที่คลอดโดยเอาท้ายทอยอยู่ทางด้านหลัง
      - ในรายที่ต้องท าสูติศาสตร์หัตถการ
      - ในรายที่เคยมีการฉีกขาดจนถึง Rectum ในการคลอดครั้งก่อน ๆ
      - ฝีเย็บแคบ สูง หรือ หนา
    - - Lateral episiotomy
      - Median episiotomy
      - Medio - Lateral episiotomy
    - - ในกรณีที่คลอดปกติ
        
        ขณะที่ผู้คลอดเบ่ง เห็น perineum โปุงตึง บาง เป็นมันใส
        และเห็นส่วนนำโผล่ที่ปากช่องคลอด
      - ในรายที่ใช้เครื่องมือช่วยคลอด
        
        ส่วนนำมีการเคลื่อนต่่ำลงมา จึงตัดฝีเย็บ
      - ในกรณีที่ช่วยคลอดท่าก้นทางช่องคลอด
        
        ตัดขณะที่ก้นทารกโผล่ออกมาให้เห็นเล็กน้อย
    - - ต้องตัดให้แผลยาวพอ
      - เลือกวิธีตัดให้เหมาะสม
      - ระวังตัดถูกกล้ามเนื้อรอบหูรูดทวารหนัก ( Sphinctor ani)
      - เริ่มตัดจากตรงกลางของ Fourchette
    - - การติดเชื้อ
      - ความเจ็บปวด
      - การเสียเลือด
      - มีความเจ็บปวดเวลาร่วมเพศ
    - - บอกให้ผู้คลอดทราบ
      - ฉีดยาชาอย่างถูกวิธีให้ในขนาดที่เหมาะสมและระวังไม่ฉีดเข้าไปในหลอดเลือด
      - ตัดฝีเย็บในเวลาที่เหมาะสม
      - สังเกตฤทธิ์ข้างเคียงของยาชา
      - สังเกตปริมาณเลือดที่ออกจากฝีเย็บ ถ้ามีเลือดออกมาก ควร stop bleeding
    - - ระดับการฉีกขาดของฝีเย็บ
        
        First degree tear
        
        Second degree tear
        
        Third degree tear
        
        Fourth degree tear
      - ชนิดของการเย็บแผล
        
        Interrupted simple suture
        
        Horizontal figure-of-eight suture
        
        Continuous non-locking
        
        Continuous lock
        
        Subcuticular stitch
- - - - การหดรัดตัวของมดลูก ดู ขนาด ตำแหน่ง และความสูงของมดลูก มดลูกที่หดรัดตัวดีจะมีลักษณะกลมแข็ง ต่ำกว่าระดับสะดือ
    - - ควรจะประเมินสภาวะของกระเพาะปัสสาวะว่าเต็มหรือว่าง
        เพราะถ้ามีปัสสาวะคั่งค้าง
    - - คาดคะเนปริมาณโลหิตที่ออกจากช่องคลอด ว่าเป็น Normal bleeding หรือ Active bleeding
    - - ประเมินสภาพของช่องทางคลอดและแผลฝีเย็บ
    - - อาการอ่อนเพลีย
      - ความเจ็บปวด
      - การรับรู้ต่อสิ่งแวดล้อมภายหลังคลอด
  - - - ข้อมูลทั่วไป
      - ประวัติการตั้งครรภ์
      - ประวัติหลังคลอดในอดีต
      - ประวัติการคลอด
    - - สีหน้า ท่าทาง การเคลื่อนไหว
      - ความอ่อนเพลีย
      - ภาวะซีด
    - - อุณหภูมิร่างกาย ปกติ คือ 38 องศาและลดลงเป็นปกติใน 24 ชั่วโมง
      - ชีพจร อัตราปกติ 50-90 ครั้ง/นาที จะกลับสู่ภาวะปกติใน 10 วัน
      - การหายใจ ถ้าหายใจเร็วหรือผิดปกติ เกิดจากโรคทางเดินหายใจ
      - ความดันโลหิตถ้าสูงกว่า 140/90 mmHg อาจเกิดความดันโลหิตสูง ถ้าเกิดความดันต่ำกว่า 140/70 mmHg เกิดจากการเสียเลือด.
    - - ประเมินเกี่ยวกับลักษณะเต้านม หัวนม ลักษณะการไหลของน้ำนม
    - - มดลูดหลังคลอดต้องมีการหดตัวอยู่เสมอ มดลูกต้องมีขนาดลดลงเรื่อยๆ
      - ดูการหดตัวและคลายตัวของกล้ามเนื้อ
      - ตรวจดูการหดรัดตัวของมดลูก ยอดมดลูก การลดระดับของยอดมดลูก และอาการปวดมดลูก
    - - จำนวน สี กลิ่น ของน้ำคาวปลาและเลือดที่ออกจากช่องคลอด ในระยะ 24 ชั่วโมงหลังคลอด
    - - ประเมินฝีเย็บและทวารหนัก เพื่อดูการติด การแยกและการหายของแผล
      - สังเกตความผิดปกติ
    - - ประเมินมารดาสามารถปรับตัวต่อบทบาทมารดาได้หรือไม่
      - ประเมินพฤติกรรมและการปฎิบัติตัว
    - - ประเมินทารก
      - ตรวจร่างกาย
      - วัด V/S
      - การตอบสนองต่อการกระตุ้น
    - - สัมพันธภาพระหว่างมารดาและบุตร และสมาชิกในครอบครัว
    - - การพักผ่อน
      - การอยู่ไฟ
      - การเลี้ยงดูบุตร
      - การรับประทานอาหาร
    - - การเคลื่อนไหวของลำไส้ลดลง
      - 2-3 วัน จะกลับถ่ายอุจจาระตามปกติ