Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
การพยาบาลมารดาที่มีภาวะตกเลือดหลังคลอด, นางสาวปิยดา จำปีพันธุ์ 601001077 -…
การพยาบาลมารดาที่มีภาวะตกเลือดหลังคลอด
ภาวะตกเลือดหลังคลอด
ความหมาย
ภาวะที่มีการเสียเลือดหลังคลอด ตั้งแต่ 500 มิลลิลิตรขึ้นไป หลังจากเสร็จสิ้นการคลอดในระยะที่ 3 (ภายหลังรกคลอด)
เมื่อมีการลดลงของความเข้มข้นของเลือด ร้อยละ 10 หรือ
มากกว่าร้อยละ 1 ของน้ าหนักตัว
ผู้ที่มีรูปร่างเล็กหรือมีภาวะโลหิตจาง แม้สูญเสียเลือดไม่ถึง 500 มิลลิลิตร ก็อาจมีภาวะช็อคได้
ชนิดของการตกเลือดหลังคลอด
การตกเลือดหลังคลอดระยะแรก/ระยะปฐมภูมิ (Early or immediate postpartum hemorrhage)
สาเหตุ
การหดรัดตัวของมดลูก (Tone)
การมดลูกหดรัดตัวไม่ดี (uterine atony)
การเจ็บครรภ์คลอดที่เนินนาน หรือ การคลอดเร็วเกินไป
กล้ามเนื้อมดลูกมีการยืดขยายมากผิดปกติ
คลอดบุตรหลายครั้ง โดยเฉพาะมากกว่า 5 ครั้ง
การคลอดยาก หรือ การใช้สูติศาสตร์หัตถการช่วยคลอด
การใช้ยาบางชนิด
ภาวะเลือดออกก่อนคลอดจากภาวะรกเกาะต่ำ หรือ รกลอกตัวก่อนกำหนด
การติดเชื้อของมดลูก ทำให้มีการอักเสบ บวม มี สารคัดหลั่ง ส่งผลให้มดลูกหดรัดตัวไม่ดี
มารดามีภาวะทุพโภชนาการ โลหิตจาง ความดันโลหิตสูง รวมทั้งมีประวัติการตกเลือดหรือประวัติเกี่ยวกับการแข็งตัวของเลือดผิดปกตb
การหดรัดตัวที่ไม่สม่ำเสมอของกล้ามเนื้อมดลูกบางชนิด ได้แก่ Hour – glass contraction
Constriction ring คือ การที่กล้ามเนื้อมดลูกส่วนบนและส่วนล่าง จะขวางกั้นรกไว้ แม้รกจะลอกตัวแล้ว โดยที่มดลูกส่วนบนมีการคลายตัว จึงมีเลือดออกได้มากและขังอยู่ในมดลูกส่วนบนได
สาเหตุอื่น ได้แก่ มีก้อนเลือดหรือมีเศษรกค้าง มีเนื้องอกในโพรงมดลูก หรือ เคยได้รับการผ่าตัดมดลูก
การฉีกขาดของช่องทางคลอด (Trauma)
การทำคลอดและการช่วยคลอดที่ไม่ถูกต้อง การใช้สูติศาสตร์หัตถการช่วยคลอด ในขณะที่ปากมดลูกเปิดยังไม่หมด
การคลอดเร็วผิดปกติ ทำให้ช่องทางคลอดปรับตัวหรือขยายตัวไม่ทัน
การตัดฝีเย็บที่ไม่ถูกวิธี
ในรายที่มีปัญหาเชิงกรานไม่ได้สัดส่วนกับขนาดของทารก ทำให้เกิดมดลูกแตกได้
ในรายที่มีปัญหาเชิงกรานไม่ได้สัดส่วนกับขนาดของทารก ทำให้เกิดมดลูกแตกได้
รกหรือเศษรกค้างภายในโพรงมดลูก (Tissue)
การมีรกค้าง
การมีเศษรกค้าง ปัจจัยเสริมให้มีเศษรกค้าง
การมีรกน้อย
ความผิดปกติของรก เช่น รกมีขนาดใหญ่ หรือ
รกเกาะลึกร่วมกับการทำคลอดรกผิดวิธี
การทำคลอดรกผิดวิธี เช่น การดึงสายสะดือ การล้วงรก เป็นต้น
ความผิดปกติของการแข็งตัวของเลือด (Thrombin)
ภาวะเลือดแข็งตัวผิดปกติ
การวินิจฉัยการตกเลือดหลังคลอดระยะแรก
การตรวจทางห้องปฏิบัติการ
ตรวจดูชิ้นส่วนของรกที่อาจค้างอยู่
โดยการตรวจรกที่คลอดแล้วอย่างละเอียด หรือ การใช้มือตรวจภายในโพรงมดลูก
อาการและอาการแสดง
การมีเลือดออก
เกิดเลือดคั่งที่เอ็นยึดมดลูก จะไม่ปรากฏเลือดไหลออกมาให้เห็นภายนอก
มดลูกปลิ้นก็จะพบว่ามีเลือดพุ่งออกมาให้เห็นเป็นจำนวนมาก และอาจมีลิ่มเลือดสีแดงคล้ำปนออกมาด้วย
ผลจากการตกเลือดหลังคลอดระยะแรก
ผู้คลอดจะมีอาการใจสั่น ซีดลง ชีพจรเบาเร็ว ความดันโลหิตต่ำ ช็อก มีการขาดออกซิเจน
เกิดภาวะอวัยวะล้มเหลว ได้แก่ ไตวาย หัววาย
ความผิดปกติในการแข็งตัวของเลือดจากภาวะไฟปริโนเจนในเลือดต่ำและอาจตายได้ ผู้คลอดจะมีภูมิต้านทานโรคต่ำลง ทำให้มีโอกาสติดเชื้อได้ง่าย
ปริมาณน้ำนมของมารดาไม่เพียงพอ สำหรับเลี้ยงทารก อ่อนเพลีย ซีดสุขภาพทรุดโทรม
อาจจะเกิด Anterior pituitary necrosis ซึ่งเซลล์ของต่อมใสมองตายและเป็นผลทำให้การทำงานของระบบต่อมไร้ท่อเกิดความบกพร่องขึ้น
ทำให้มีอาการไม่มีน้ำนมหลังคลอด เต้านมเหี่ยว ระดูขาดและขนของอวัยวะเพศร่วง อ่อนเพลีย
ขาดความสนใจสิ่งแวดล้อมซึ่งเป็นกลุ่มอาการที่เรียกว่า Shechan’s Syndromes
การป้องกันการตกเลือดหลังคลอดระยะแรก
ระยะก่อนคลอด
การซักประวัติอย่างละเอียดเพื่อหาปัจจัยเสี่ยงที่จะเกิดการตกเลือดหลังคลอด
การตรวจร่างกาย ค้นหาภาวะโลหิตจาง รวมทั้งแก้ไขและให้ธาตุเหล็กเสริมกับผู้ปุวยที่มาฝากครรภ์ทุกราย
ระยะคลอด
ดูแลไม่ให้เกิดการคลอดยาวนาน
ระวังการให้ยาแก้ปวดในขนาดที่มากเกินไป เพราะอาจเกิดผลต่อการหดรัดตัวของมดลูก
ทำคลอดในระยะที่ 2 และระยะที่ 3 อย่างถูกต้องเหมาะสม
หลีกเลี่ยงการทำสูติศาสตร์หัตถการอย่างยาก
ตรวจรกและช่องทางคลอดอย่างละเอียด
ระยะหลังคลอด
ดูแลให้กระเพาะปัสสาวะว่าง โดยกระตุ้นให้ถ่ายปัสสาวะภายใน 2 ชั่วโมงแรกหลังคลอด
ในรายที่ได้รับยากระตุ้นให้เกิดการเจ็บครรภ์ อาจให้ Oxytocin ต่อภายหลัง การคลอดอย่างน้อย 2 ชั่วโมง
กระตุ้นให้บุตรดูดนมมารดาทันทีหลังคลอด เพื่อกระตุ้นให้ฮอร์โมน Oxytocin หลั่งมากขึ้นเพื่อให้มดลูกหดรัดตัวดี
การรักษาการตกเลือดหลังคลอดระยะแรก
การตกเลือดภายหลังรกคลอด
กรณีมดลูกหดรัดตัวไม่ดี
คลึงมดลูกให้หดรัดตัวตลอดเวลา
สวนปัสสาวะออกให้หมด แล้วคาสายสวนไว้ เพื่อให้กระเพาะปัสสาวะว่าง ไม่ขัดขวางการหดรัดตัวของมดลูก
ให้ 5%D/W หรือ 5% D/NSS หรือ Ringer lactase solution (RLS) 1,000 ml. ร่วมกับ Oxytocin 10 – 20 unit ผสมอยู่ (กรณีที่ยังไม่ได้ให้) และขอเลือดเตรียมไว้ 2 – 4 unit
ฉีด Methergin 0.2 mg เข้าทางหลอดเลือดดำ
วางกระเป๋าน้ำแข็งบริเวณหน้าท้อง และคลึงให้มดลูกหดรัดตัวตลอดเวลา
กรณีมีการฉีดขาดของช่องทางคลอด
ถ้ามดลูกหดรัดตัวดีแล้ว แต่ยังมีเลือดไหลออกมาเรื่อยๆและสีค่อนข้างแดงสด ให้ใช้เครื่องมือถ่างขยายช่องคลอดให้เห็นภายในช่องคลอด และปากมดลูก ตรวจหารอยฉีกขาด บริเวณที่พบได้บ่อยคือ มีการฉีกขาด ต่อจากแผลฝีเย็บและบริเวณด้านข้างของปากมดลูกให้เย็บรอยฉีกขาดเหล่านั่นจนเลือดหยุด
การตกเลือดก่อนรกคลอด
ให้สารน้ำทางหลอดเลือดด า คือ 5% D/W หรือ 5% D/NSS หรือ Ringer lactase solution (RLS) 1,000 ml. ร่วมกับ Oxytocin 10 – 20 unit โดยเร็ว
ตรวจวัดความดันโลหิต ชีพจร การหายใจ
เจาะเลือดมารดาเพื่อตรวจหาระดับความเข้มข้นของเลือด พร้อมทั้งของเลือด เตรียมไว้อย่างน้อย 2 Unit
ใส่สายสวนปัสสาวะคาไว้
ให้ยา Oxytocin 10 – 20 unit เมื่อไหล่หน้าหรือศีรษะทารกคลอดแล้ว
ทำคลอดรกโดยวิธี Cord traction ถ้ารกไม่คลอดให้ล้วงรกภายใต้ยาระงับความรู้สึกหรือยาระงับความเจ็บปวด/ฉีด Pethidine 50 mg เข้าทางหลอดเลือดดำ
ตรวจรกที่คลอดแล้วอย่างละเอียด
คลึงมดลูกให้หดรัดตัวตลอดเวลา
ฉีด Methergin 0.2 mg เข้าทางหลอดเลือดดำอีก ถ้าจำเป็น เพื่อกระตุ้นการหดรัดตัวของมดลูก(ยกเว้นรายที่มีภาวะความดันโลหิตสูง)
การตกเลือดหลังคลอดระยะหลัง (Late or Delay postpartum hemorrhage) เป็นการตกเลือดระยะที่เกิดขึ้นภายหลังคลอด 24 ชั่วโมงไปแล้วจนถึง 6 สัปดาห์หลังคลอด
สาเหตุ
เลือดออกจากแผลภายในช่องคลอดมักเกิดจากการติดเชื้อบริเวณแผลภายในช่องคลอด
สาเหตุร่วมกันที่พบได้บ่อย ได้แก่ ภาวะมีเศษรกค้างในโพรงมดลูกร่วมกับการติดเชื้อภายในโพรงมดลูก
ภาวะติดเชื้อภายในโพรงมดลูก ผู้ปุวยมักมีอาการของการติดเชื้อ เช่น มีไข้ น้ าคาวปลามีกลิ่นเหม็นปวดท้องน้อย มดลูกเข้าอู่ไม่ดี
เลือดออกจากแผลของมดลูกภายหลังผ่าตัดคลอดทางหน้าท้องและมะเร็งไข่ปลาอุก เป็นสาเหตุที่พบได้น้อยมาก มักเกิดภายหลังคลอด 4 สัปดาห์
มีก้อนเลือด หรือเศษรกค้างอยู่ภายในโพรงมดลูก พบได้บ่อยที่สุด เกิดภายหลังคลอดประมาณ 1 – 2 สัปดาห์
การวินิจฉัย
จากอาการและอาการแสดง ได้แก่ มีเลือดออกทางช่องคลอด มักเกิดอาการภายใน 3 สัปดาห์หลังคลอด ส่วนใหญ่พบระหว่างวันที่ 7 – 14 หลังคลอด
อาการอื่นๆ คล้ายกับการตกเลือดหลังคลอดระยะแรก
ผลของการตกเลือดหลังคลอดระยะหลัง
ภาวะซีด อ่อนเพลีย สุขภาพทรุดโทรม
ภูมิต้านทานโรคต่ำ ติดเชื้อได้ง่าย
เกิด Necrosis ของต่อมใต้สมองส่วนหน้า (Sheehan’ s syndrome)
การรักษา
รายที่มีเศษรกค้าง หรือมีก้อนเลือดค้างอยู่ในโพรงมดลูก ให้Oxytocin แล้วทำการขูดมดลูกด้วยความระมัดระวัง เนื่องจากผนังมดลูกมีลักษณะนุ่ม และทะลุได้ง่าย
รายที่มีการติดเชื้อภายในโพรงมดลูก พิจารณาให้ยาช่วยการหดรัดตัวของมดลูก เพื่อช่วยให้มดลูกหดรัดตัวดี ร่วมกับให้ยาปฏิชีวนะ
รายที่มีเลือดออกจากแผลภายในช่องคลอด ให้ทำความสะอาดและเย็บแผลให้เลือดหยุด ถ้าเนื้อเยื้อบริเวณแผลยุ่ยมาก เย็บแล้วเลือดไม่หยุด อาจต้องกดไว้หรือใช้ผ้าก๊อซอัดไว้ในช่องคลอดร่วมกับการใช้ยาปฏิชีวนะ
กระบวนการพยาบาล
การประเมินสภาพ
การซักประวัติ
ประวัติส่วนตัว เช่น โลหิตจาง
ประวัติทางสูติศาสตร์ เช่น การคลอดเร็ว ได้รับยา
ประวัติความผิดปกติในระยะตั้งครรภ์ เช่น ภาวะครรภ์เป็นพิษ Aminionitis
การตรวจร่างกาย
การหดรัดตัวของมดลูก มักคล าได้นุ่ม ตรวจระดับยอดมดลูก อาจถึงระดับสะดือ หรือเหนือ ระดับสะดือ
การฉีกขาดของช่องทางคลอด
การบวมเลือดของอวัยวะสืบพันธ์
การมีรกหรือเศษเยื่อหุ้มรกค้างในโพรงมดลูก
มีเลือดสดออกทางช่องคลอด
ซีด ตัวเย็น ชีพจรเบาเร็ว อ่อนเพลีย ความดันโลหิตต่ำ กระสับกระส่าย
ความรุนแรงของการเสียเลือด การมีเลือดออกทางช่องคลอด ปริมาณเลือด ลักษณะ สี กลิ่น
ความสามารถในการเข้าอู่ของมดลูก ประเมินจากระดับยอดมดลูก
อาการติดเชื้อ เช่น มีไข้ น้ำคาวปลามีกลิ่นเหม็น ปวดท้องน้อย
การตรวจทางช่องคลอด พบเศษเยื้อหุ้มรกที่ปากมดลูก
การตรวจทางห้องปฏิบัติการที่จำเป็น
CBC, การตรวจหาหมู่เลือด และการตรวจเลือดเพื่อประเมิน
การแข็งตัวของเลือด เช่น Platelets, PT, PTT , Fibrinogen depression เป็นต้น
การพยาบาล
การพยาบาลเพื่อป้องกันการตกเลือด
ประเมินปัจจัยเสี่ยง
ระมัดระวังการทำคลอดทุกระยะให้ถูกวิธ
ในรายที่คาดว่าจะมีการตกเลือดให้เตรียมสารน้ำ ยา และอุปกรณ์กู้ชีวิต
ตรวจหากลุ่มเลือดขณะตั้งครรภ์
ดูแลในระยะ 2 ชั่วโมงหลังคลอดอย่างใกล้ชิด
การพยาบาลขณะตกเลือด
ตรวจและบันทึกสัญญาณชีพ ทุก 15 นาที จนกว่าจะคงที่
จัดท่าให้นอนราบเพื่อให้เลือดไปเลี้ยงหัวใจและสมองดีขึ้น
คลึงมดลูกให้แข็งตัวเป็นระยะ
ดูแลการให้สารน้ำทางหลอดเลือดดำและยากระตุ้นการหดรัดตัวของมดลูก
ให้ออกซิเจน
ดูแลกระเพาะปัสสาวะให้ว่าง ปูองกันการขัดขวางการหดรัดตัวของมดลูก
ตรวจการมีเลือดออก และการหดรัดตัวของมดลูก
การพยาบาลระยะหลังการตกเลือด
ใส่ผ้าอนามัยเพื่อสังเกตปริมาณเลือดที่ออกทางช่องคลอด
ดูแลให้ได้รับการพักผ่อนอย่างเพียงพอ
ดูแลให้รับประทานอาหารและยาวิตามิน ธาตุเหล็ก ตามแผนการรักษา
ระวังอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้นจากอาการหน้ามืด เมื่อลุกนั่ง
แนะนำการคลึงมดลูก
แนะนำการปฏิบัติตัวหลังคลอด ได้แก่การเปลี่ยนแปลงของน้ำคาวปลา ระดับยอดมดลูก การดูแลความสะอาดอวัยวะสืบพันธุ์
แนะน าอาการผิดปกติที่ควรมาพบแพทย์
ข้อวินิจฉัยการพยาบาล
มารดาเกิดการตกเลือดหลังคลอด เนื่องจากมดลูกหดรัดตัวไม่ดี
มารดาวิตกกังวล กลัวอันตรายจากการตกเลือดหลังคลอด
มารดาต้องการส่งเสริมสัมพันธภาพระหว่างมารดาและทารก
นางสาวปิยดา จำปีพันธุ์ 601001077