Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
โรคไข้เลือดออก (dengue hemorrhagic fever หรือ dengue shock syndrome) -…
โรคไข้เลือดออก (dengue hemorrhagic fever หรือ dengue shock syndrome)
สาเหตุของโรค
เชื้อไวรัสเดงกี่(Dengue Virus)
มี 4 สายพันธุ์ ได้แก่ DEN1 DEN2 DEN3 DEN4
หากเป็นไข้เลือดออกจากเชื้อ DEN1 ผู้ป่วยจะมีภูมิต่อเชื้อนี้ตลอดชีวิตมีภูมิต่อเชื้อแดงกีชนิดอื่นเพียง 6-12 เดือนเท่านั้น
ยุงลายที่มีเชื้อเป็นพาหะนำโรค
ยุงลายAedes aegyti ตัวเมีย
เชื้อไวรัสจะเพิ่มจำนวนในตัวยุง 8-10 วัน
พบมากในเด็กอายุ 5-9 ปี
เป็นได้ทั้งในเด็กและผู้ใหญ่
อาการที่เป็นสัญญาณอันตราย
ไข้ลดลงอย่างรวดเร็ว อ่อนเพลีย มือเท้าเย็น เหงื่อออก
กระหายน้ำ กระสับกระส่าย ชีพจรเบาเร็ว ซึมลง
ปัสสาวะน้อยลง
ปลายมือปลายเท้ามีสีคล้ำ รอบๆปากเขียว
อาเจียนเป็นเลือด หรือถ่ายอุจจาระเป็นเลือด
มีอาการช็อก กระสับกระส่าย เอะอะโวยวาย หรือร้องกวนมากในเด็กเล็ก
ความรุนแรงของโรค
Grade 2
ผู้ป่วยไม่ช็อก
มีจุดเลือดออกตามผิวหนัง
มีเลือดกำเดาไหล หรืออาเจียนเป็นเ
Grade 3
ผู้ป่วยช็อก
มีความดันโลหิตต่ำ ชีพจรเร็ว pulse pressure แคบ
เหงื่อออก กระสับกระส่าย
Grade 1
ผู้ป่วยไม่ช็อก
เป็นไข้เลือดออกโดยที่ไม่มีจุดเลือดออก
ทำ tourniquet test ให้ผลบวก
Grade 4
ผู้ป่วยช็อกรุนแรง
ดความดันโลหิตไม่ได้
DHF Grade 3 และ Grade 4 เรียกว่า DSS (ไข้เลือดออกเดงกีช็อก Dengue shock syndrome )
การรักษา
พยายามลดไข้ให้ผู้ป่วยโดยการเช็คตัวด้วยน้ำอุ่น หรือ น้ำธรรมดา
ให้ดื่มน้ำบ่อยๆ เช่น น้ำหวาน น้ำผลไม้ หรือน้ำเกลือแร่ที่ใช้ในโรคท้องร่วง
ไม่ควร ห่มผ้าหนาๆเพราะจะทำให้ไข้สูงขึ้น
รักษาเป็นไปตามอาการเพื่อประคับประคองให้ร่างกายของผู้ป่วยกลับเข้าสู่ภาวะปกติ
ในรายที่อาการไม่รุนแรง โรคไข้เลือดออกอาจหายได้เองภายใน 2-7 วัน
รับประทานอาหารอ่อน งดอาหารหรือเครื่องดื่มที่มีสีคล้ายเลือดเพื่อไม่ให้การวินิจฉัยคลาดเคลื่อน
รับประทานยาลดไข้ เช่น ยาพาราเซทตามอลได้แต่ในปริมาณที่แพทย์สั่ง
ข้อน่ารู้เกี่ยวกับยุงลาย
นำเชื้อโรคไข้เลือดออกมาสู่คน
สีดำ มีลายขาวที่ขา ท้องและลำตัว เป็นยุง ขนาดเล็ก
เป็นยุงบ้าน ชอบอยู่กับคนในบ้านตามมุมมืดของบ้าน จะออกมากัดและดูดเลือดคนในเวลากลางวัน
วางไข่ในน้ำสะอาด ไข่ยุงลายอยู่ในที่แห้งได้นาน 7-10 วัน
การยับยั้งการระบาดของโรคไข้เลือดออก
ตรวจดูตุ่มในบ้าน นอกบ้าน ถ้ารีบพบน้ำให้รีบใช้น้ำให้หมด หรือเทน้ำทิ้งเสีย
ทำลายเศษโอ่ง ไห กะลา ยางรถยนต์ที่ไม่ใช้ อย่าให้น้ำขัง
ใส่สารเคมีกำจัดลูกน้ำ หรือเกลือในภาชนะที่รองขาตู้กับข้าว เพื่อกำจัดลูกน้ำยุงลายหรือหมั่นเปลี่ยนน้ำใหม่อยู่เสมอ (ทุกๆ7วัน)
ปิดฝาโอ่ง หรือภาชนะที่ใช้ใส่น้ำให้มิดชิด และปิดฝาทุกครั้งหลังเปิดฝาใช้ เพื่อป้องกันยุงลายวางไข่
หากมีเจ้าหน้าที่มาดำเนินงานกำจัดยุงและลูกน้ำ ทั้งในบ้านและนอกบ้าน ต้องให้ความร่วมมือทุกครั้ง ยาที่นำมาใช้นี้ปลอดภัยต่อมนุษย์ และสัตว์เลี้ยง
ควรใส่เสื้อแขนยาวและกางเกงขายาวให้ลูกตลอดเวลา
ทากันยุงหลายยี่ห้อเริ่มผลิตให้มีความอ่อนโยนมากขึ้นและเหมาะสำหรับเด็ก
การวินิจฉัยโรคไข้เลือดออก
ตรวจความสมบูรณ์ของเม็ดเลือด (CBC)
เม็ดเลือดแดง เม็ดเลือดขาว เกล็ดเลือด และความเข้มข้นของเลือด
ผลการตรวจเลือด CBC มักจะปกติ ในช่วงไข้เม็ดเลือดขาวอาจจำต่ำ
เกร็ดเลือดมักจะมีจำนวนลดลง
ผลการทำงานของตับมักจะปกติ
ตรวจภูมิคุ้มกันต่อไข้เลือดออก (IgM) หรือตรวจ NS1 Ag ต่อเชื้อโดยตรง
การทดสอบภูมิที่นิยมทำได้แก่ Haemagglutination inhibition (HI) test
Neutralization test (NT)
IgG -ELISA
กลุ่มอาการติดเชื้อไข้เลือดออก
Undifferentiated fever (UF)
มีไข้ 2-3 วัน บางครั้งอาจมีผื่น
กลุ่มอาการไวรัส
Dengue fever (DF)
มีไข้ร่วมกับปวดศีรษะ เมื่อยตัว
Dengue hemorrhagic fever (DHF)
ไข้เลือดออกเดงกี
มีไข้ มีอาการเลือดออกตามร่างกาย
Dengue Shock Syndrom ( DSS )
ไข้เลือดออกเดงกีช๊อค
การติดเชื้อไข้เดงกี (Dengue Fever)
อาจจะไม่มีอาการ หรือมีอาการน้อยมากซึ่งอาการไม่แตกต่างจากไข้หวัดธรรมดา
การติดเชื้อครั้งแรกเรียกว่า Primary infection
ข้อพึ่งสังเกต
ไข้เหมือนการติดเชื้อไวรัส
เกิดกับเด็กโตหรือผู้ใหญ่
มีไข้ทันทีและมีอาการต่อไปนี้อย่างน้อย 2 อย่าง ปวดศีรษะ ปวดกระบอกตา ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ ปวดข้อ และผื่น
การดูแลผู้ป่วยเดงกี Dengue fever
การดูแลในระยะไข้สูง
การพักผ่อนในระยะที่มีไข้
การเช็ดตัวหรือการให้ยาลดไข้โดยพยายามให้อุณหภูมิของร่างกายต่ำกว่า 40 องศา ยาลดไข้ที่ใช้ได้ผลดี คือ พาราเซลตามอล (paracetamol)
ไม่ควรใช้แอสไพรินเพราะจะทำให้เลือดออกใน
ทางเดินอาหาร
ยาแก้ปวดสำหรับคนที่มีอาการปวด
การให้น้ำเกลือแร่ทางปากกรณีที่มีอาเจียนหรือเสียเหงื่อมาก
ผู้ป่วยควรได้รับการประเมินจนกระทั่งไม่มีไข้ และผลเลือดกลับสู่ปกติ
ไข้เลือดออก (Dengue hemorrhagic fever-DHF)
อาการไข้เลือดออกชนิดนี้จะมีลักษณะเหมือนไข้เดงกี
มีไข้เฉียบพลัน ปวดศีรษะ ปวดตามตัว หน้าแดง คลื่นไส้อาเจียน บางรายอาจจะมีอาการเจ็บคอ คอแดง
อาการที่แตกต่างคือ แน่นท้อง เจ็บชายโครงข้างขวา ปวดท้อง เนื่องจากตับโต มีจุดเลือดออกตามผิวหนัง แม้ว่าตับจะโตแต่มักจะไม่มีอาการตัวเหลืองตาเหลือง
การวินิจฉัย
ไข้สูงลอย 2-7 วัน
หลังจากได้รับเชื้อจากยุง 5-6 วัน
มีอาการเลือดออก ส่วนใหญ่จะพบที่ผิวหนัง
มีตับโต กดเจ็บ
มีการไหลเวียนล้มเหลว/ภาวะช็อก
การวินิจฉัยห้องปฏิบัติการ
เม็ดเลือดขาวมักจะปกติหรือสูงในช่วงแรกแต่เมื่อเข้าสู่วันที่ไข้จะลง เม็ดเลือดขาวจะลดลง และมี atypical lymphocytes เพิ่มมากขึ้น
เลือดข้นขึ้น การเพิ่มของความเข้มข้นของเลือด Hct 20% เมื่อเทียบกับ Hct เดิม
กลไกการเกิดโรค
มีการรั่วของพลาสมาเข้าในช่องเยื่อหุ้มปอด ในช่องท้อง
การแข็งตัวของเลือดผิดปกติ เกร็ดเลือดต่ำทำให้เลือดออกง่าย
ข้อสังเกตในการประเมินอาการเปลี่ยนแปลง
อาการไม่มาก ไข้จะลงและหายเป็นปกติ
มีอาการปานกลางถึงมาก ผู้ป่วยจะมีอาการแย่ลงหลังจากมีไข้ 2-3 วันไข้จะลง วันที่ 3-7 นับจากเริ่มมีไข้ จะมีลักษณะของช็อค คือผิวเย็น ผิวเป็นจ้ำๆ อาจจะมีเขียวปลายมือปลายเท้า ชีพจรเร็วและเบา บ่นแน่ท้อง บางรายมีอาการกระสับกระส่าย
รักษาไม่ทันผู้ป่วยจะมีอาการ ของช๊อคชัดเจนขึ้นคือ ผิวเย็น ผิวเป็นจ้ำๆ อาจจะมีเขียว ปลายมือปลายเท้า ชีพจรเร็วและเบา ความดันโลหิตพบว่าความดัน systolic และ diastolic ห่างกันน้อยกว่า 20 มม.ปรอท (ปกติเท่ากับ 30 มม.ปรอท) หากรักษาได้ทันผู้ป่วยจะฟื้นอย่างรวดเร็ว
ผู้ป่วยจะเข้าสู่ภาวะช๊อคเต็มรูปแบบ ปัสสาวะไม่ออก ซึมลงหรือ กระสับกระส่าย เลือดมีความเป็นกรดสูง
จะมีเลือดออกในทางเดินอาหาร ในสมอง
ไข้เลือดออกเดงกีที่ช็อก Denque Shock Syndrome
อาการ
ชีพจรเบาเร็ว
มีการเปลี่ยนแปลงในระดับความดันโลหิตโดยตรวจพบมี Pulse pressure แคบน้อยกว่า 20 mmHg โดยที่ความดันยังไม่ต่ำเช่น 100/80 หรือมีความดันโลหิตต่ำ
มือเท้าเย็น กระสับกระส่าย
poor capillary refilled <2 วินาที
การรักษาอย่างรีบด่วน
1.การให้น้ำเกลือต้องให้ปริมาณเพียงพอที่จะให้
ความดันกลับสู่ปกติ และให้ให้เร็ว
หากได้ปริมาณน้ำเกลือที่เพียงพอแล้วความ
ดันโลหิตยังไม่ขึ้น ให้สารน้ำที่เรียกว่า colloidal
ผู้ป่วยบางรายที่น้ำเกลืออย่างเพียงพอแล้ว แต่ความดันของเลือดยังไม่ขึ้น ให้สงสัยว่าอาจจะมีเลือดออกภายในร่างกาย
เมื่อสัญญาณชีพคงที่แล้วต้องรีบลดปริมาณน้ำเกลือ
จะหยุดน้ำเกลือเมื่อสัญญาณชีพคงที่ ความเข้มของเลือดคงที่ประมาณ 40% ผู้ป่วยรับประทานอาหารได้ ปัสสาวะออกดี
โดยทั่วไปการให้น้ำเกลือมักจะไม่เกิน 48 ชั่วโมงหลังช๊อค
การรักษาและการพยาบาล
ระยะไข้สูง
ให้ยาลดไข้
ดูแลเช็ดตัวลดไข้
ดูแลให้น้ำอย่างเพียงพอ หรือควรให้ดื่มน้ำผลไม้หรือ Oral rehydration solution (ORS)
ระยะช็อก
ดูแลให้ได้รับสารน้ำทางหลอดเลือดดำ
ดูแลเรื่องการรับประทานอาหารและหลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารที่มีสีดำ สีแดง
บันทึกปริมาณสารน้ำเข้า/ออก
วินิจฉัยทางการพยาบาล
มีไข้สูงเนื่องจากการติดเชื้อไวรัสเดงกี
เสี่ยงต่อการได้รับสารน้ำและสารอาหารไม่เพียงพอต่อความต้องการของร่างกายเนื่องจากรับประทายอาหารได้น้อย
มีความไม่สุขสบายจากอาการปวดท้อง ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ ปวดศีรษะ และเจ็บชายโครงขวา จากตับโต กดเจ็บ
เสี่ยงต่อการเกิดภาวะเลือดออก เนื่องจากหลอดเลือดเปราะแตกง่าย และมีเกล็ดเลือดต่ำ
เสี่ยงต่อการเกิดภาวะช็อก เนื่องจากมีการรั่วของพลาสมา และหรือมีเลือดออก
อาจเกิดภาวะน้ำเกิน จากการได้รับการรักษาและจากพยาธิสรีรวิทยาของโรค
มีความกลัวและความวิตกกังวลต่อความเจ็บป่วย การรักษาพยาบาลที่ได้รับ และต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล
บิดามารดามีความวิตกกังวลต่อความเจ็บป่วยของบุตรที่อาจคุกตามต่อชีวิต