Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
การพยาบาลหญิงตั้งครรภ์ที่มีความดันโลหิตสูงขณะตั้งครรภ์, นางสาว ชุติมณฑน์…
การพยาบาลหญิงตั้งครรภ์ที่มีความดันโลหิตสูงขณะตั้งครรภ์
ประเภทความดันโลหิต
ACOG 2013
Preeclamsia - eclampsia
Chronic hypertension
Chronic hypertension with superimposed
Gestational hypertension
ลักษณะจำเพาะอีก 3 ประเภท
New - onset Hypertension
SBP ≥ 140mmHg or DBP ≥ 90 mmHg เมื่อวัด2ครั้งห่างกัน 4 ชั่วโมง
SBP ≥ 160mmHg or DBP ≥ 110 mmHg เมื่อวัด2ครั้งห่างกัน 15 นาที
New - onset Protienuria
Urine protien 24 hr ≥ 300 mg OR
UPCI ≥ 0.3 mg/dL OR
Urine dipstick ≥ 2+
Severe features
SBP ≥ 160mmHg or DBP ≥ 110 mmHg เมื่อวัด2ครั้งห่างกัน 4 ชั่วโมง
Thrombocytopenia
Impaired liver function
Renal insufficiency
Pulmonary edema
มีอาการปวดศรีษะ ตาพร่ามัวที่พึ่งเกิดขึ้นใหม่
แบ่งตามแนวทางการรักษา
Chronic Hypertension
ตรวจพบ HT ก่อนตั้งครรภ์
New - onset Hypertension ก่อน GA 20 wks
ตรวจพบ HT หลังคลอด 12 wks
ไม่มีNew - onset Protienuria
ไม่มีSevere features
Pregnancy-induced hypertension without severe features
Gestational hypertension
New - onset Hypertension หลัง GA 20 wks
ไม่มีSevere features
ไม่มีNew - onset Protienuria
ฺBP ไม่เกิน 160/110 mmHg
Chronic hypertension with superimposed preeclampsia without severe features
Chronic hypertension ร่วมกับ New-onset Proteinuria
ไม่มี Severe features
Preeclampsia without severe features
New-onset Hypertension ที่เกิดหลังGA 20 wks + New-onset Proteinuria
ไม่มี Severe features
Pregnancy-induced hypertension with severe features
Gestational hypertension with severe-range BP
Gestational hypertension ที่มี SBP ≥ 160 mmHg or DBP ≥ 110 mmHg วัด 2 ครั้ง ห่างกันใน 15 นาที
ไม่มี Severe features
ให้วินิจฉัยและรักษา เหมือนเป็น Preeclampsia with severe features
Preeclampsia with severe features
New-onset Hypertension ที่เกิดหลังGA 20 wks + New-onset Proteinuria + Severe features
Chronic hypertension with superimposed preeclampsia with severe features
HELLP syndrome
LDH > 600 U/L
AST/ALT สูงกว่า 2 เท่าของค่า Upper normal limit
เกล็ดเลือด < 100,000 cell/mm3
Eclampsia
New-onset tonic-clonic, focal or multifocal seizures in pregnancy
ไม่จำเป็นต้องมี New-onset Hypertension หรือ New-onset Proteinuria หรือ Severe features ก็ได้
แนวทางการดูแลสตรีตั้งครรภ์ที่มีภาวะ CHT
เจาะเลือดเพื่อประเมิน Baseline CBC with platelet, BUN, Cr, AST, ALT, uric acid และส่งตรวจปัสสาวะเพื่อประเมิน Baseline urine protein 24 hr
Anti-hypertensive agents จะพิจารณาให้ในรายที่วัดความดันโลหิตที่ รพ.ได้ ≥ 140/90 mmHg
แนะนำให้วัดความดันโลหิตที่บ้านทุกวัน
พิจารณาให้ Low dose aspirin คือ Aspirin(81) 1x1 oral pc ตั้งแต่ GA 12-36 wks
ไม่แนะนำให้คลอดก่อนอายุครรภ์ 38 สัปดาห์
แนวทางการดูแลหญิงตั้งครรภ์ที่เป็น preeclampsia without severe features
GA ≥37 wks
พิจารณาให้คลอด
GA < 37 wks
วัด BP 2 ครั้ง/wks
CBC c platelet และ Liver Function Test (LFT) สัปดาห์ละครั้ง
U/S ทุก 2-4 wks
EFM ทุก week
ความหมาย
ภาวะโปรตีนรั่ว
urine protein ≥ 300 mg in urine 24 hr
urine dipstick ≥ 1+
urine protein creatinine index ≥ 0.3
ความดันโลหิตสูง
SBP ≥ 140 mmHg DBP ≥ 90 mmHg
หลักการดูแลด้วย Expectant management
Admit ตลอดการตั้งครรภ์
ให้ MgSO4 นาน 48 ชม.
วัดความดันโลหิต และประเมินอาการปวดศีรษะ/ตามัว/จุกลิ้นปี่ ทุก 2-4 ชั่วโมง
บันทึก fluid intake/ urine output
ติดตาม Lab: CBC c platelet, BUN/Cr, Electrolyte, AST/ALT อย่างน้อยสัปดาห์ละสองครั้ง
สอนนับลูกดิ้นวันละครั้ง
แนวทางการดูแลสตรีตั้งครรภ์ Chronic Hypertension+Superimposed preeclampsia+ severe features
เข้ารับการรักษาแบบผู้ป่วยใน (Admit)
ให้ยาลดความดันโลหิต ในรายที่BP ยังคงสูงกว่า 160/110 mmHg
Nicardipine
Hydralazine
Labetalol
ป้องกันชัก (Stabilization) ด้วย MgSo4
การพิจารณาให้คลอด จำแนกตามอายุครรภ์
การพยาบาลหญิงตั้งครรภ์ที่มีภาวะ Preeclampsia ในระยะคลอด
การพักผ่อน (bed rest)
จัดสภาพแวดล้อมให้สงบ และลดการกระตุ้นผู้ป่วยทั้งจากแสง เสียง สัมผัส
วัดBP และ Deep tendon reflex ทุก 1-2 ชั่วโมง
ประเมิน Headache, visual disturbance, epigastric pain
ตรวจ Urine protein 24 ชั่วโมง
ให้ได้รับยาป้องกันภาวะชักคือ Magnesium sulfate
ใส่สายสวนปัสสาวะคาไว้
ติดตามระดับแมกนีเซียมในเลือด
เตรียมและให้ยาแคลเซียมกลูโคเนททางหลอดเลือดดำ
ประเมินและให้ความรู้เกี่ยวกับภาวะของโรค
ติดตามความก้าวหน้าของการคลอด
ประเมินและเฝ้าระวังสุขภาพทารกในครรภ์อย่างใกล้ชิด
เตรียมผู้ป่วยเพื่อการคลอดตามความเหมาะสม และช่วยแพทย์ในการท าสูติศาสตร์หัตถการ
การพยาบาลผู้ป่วยที่ได้รับยา Magnesium sulfate
ดูแลให้ได้รับยาป้องกันภาวะชักคือ Magnesium sulfate และใช้เครื่อง Infusion pump
ดูแลความสุขสบายของผู้ป่วย
ประเมินอาการ magnesium toxicity
Monitor intake and output
เตรียม 10% Calcium gluconate
Monitor magnesium level
เฝ้าติดตามอัตราการหายใจ และ urine output ทุก 1 ชั่วโมง ประเมิน deep tendon reflex ทุก 2- 4 ชั่วโมง
Maintain electronic fetal monitoring
การพยาบาลผู้ป่วยที่มีภาวะชัก
จัดท่านอนตะแคง และตะแคงหน้า
ให้ออกซิเจนทาง face mask 10 ลิตรต่อนาที
Suction กรณีที่มี secretion
ให้สารน้ำทางหลอดเลือดดำ
ควบคุมอาการชักโดยการให้ยา Magnesium sulfate ทางหลอดเลือดดำ
Electronic fetal heart rate monitoring ทุก 15นาที
วัดV/S ทุก 15 นาที
เจาะเลือดส่งตรวจทางห้องปฏิบัติการ
ติดตามระดับแมกนีเซียมในเลือด ให้อยู่ในระดับของการรักษา
พิจารณาให้เกิดการคลอดโดยเร็ว
ให้ยา Magnesium sulfate เข้าทางหลอดเลือดดำอย่างต่อเนื่องจนครบ 24 ชั่วโมงหลังคลอด
การพยาบาลมารดาที่มีภาวะความดันโลหิตสูงในระยะหลังคลอด
ในรายไม่รู้สึกตัวให้นอนราบตะแคงหน้าส่วนในรายที่รู้สึกตัวให้นอนท่าFowler’s position
ประเมินการการหดรัดตัวของมดลูก
Observe Bleeding จากแผลผ่าตัดหรือจากช่องคลอด
บันทึกสัญญาณชีพ และบันทึก I / O
ให้ IV Fluid ที่ผสม Mg SO4 drip ด้วยเครื่อง Infusion pump
จัดอาหาร Low Salt และ High Protein
การให้นมบุตร
มารดา BP < 150 /100 - mmHg. สามารถให้ทารกมาดูดนมได้และต้องดูแลอย่างใกล้ชิด
มารดา BP ≥ 160 /110 mmHg ควรงดดูดนมก่อนจนกว่าความดันโลหิตจะลดลง
นางสาว ชุติมณฑน์ อุดมศรี เลขที่ 21