Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
กรดนิวคลีอิก (Nucleic acid), นางสาวจันทิมา ศิรินพกร เลขที่12…
กรดนิวคลีอิก (Nucleic acid)
กรดนิวคลีอิก (Nucleic acid)เป็นสารชีวโมเลกุลที่มีขนาดใหญ่ทำหน้าที่เก็บและถ่ายทอดข้อมูลทางพันธุกรรมของสิ่งมีชีวิต จากรุ่นหนึ่งไปยังรุ่นต่อไปให้แสดงลักษณะต่างๆของสิ่งมีชีวิต นอกจากนี้ยังทำหน้าที่ควบคุมการเจริญเติบโตและกระบวนการต่างๆของสิ่งมีชีวิต
nucleic acid เป็นสารพันธุกรรมของสิ่งมีชีวิตทุกชนิด
มี2 ชนิด ทั้งสองเรียกรวมกันเป็น polynucleotide
Deoxyribonucleic acid (DNA)
Ribonucleic acid (RNA)
กรดที่มีอยู่ในนิวเคลียสภายหลังพบทั้งในพลาสมิดไมโตคอนเดรีย และ คลอโรพลาส
Mononucleotide มีองค์ประกอบ
2.ไนโตรจีนัสเบส
3.กรดฟอสโฟลิก
1.น้ำตาลเพนโทส
หน่วยย่อยของกรดนิวคลีอิก คือ mononucleotide
Nucleoside & Mononucleotide
Mononucleotide
Nucleoside + 3(Phosphate) = nucleoside triphosphate
Nucleoside + 2(Phosphate) = nucleoside diphosphate
การเรียกชื่อ Mononucleotide
cytidine-5’-diphosphate (CDP)
uridine-5’-diphosphate (UDP)
adenosine-5’-triphosphate (ATP)
adenosine-5’-diphosphate (ADP)
adenosine-5’-monophosphate (AMP)
Nucleoside +Phosphate = nucleoside monophosphate
ความสำคัญทางชีวภาพของนิวคลีโอไทด์
3.ส่งสัญญาณและควบคุมเมตาบอลิซึมและการสืบพันธุ์ ของเซลล์ คือ c -AMP
4.ทำหน้าที่เป็นโคเอนไซม์ เช่น UDP , CDP
2.เป็นสารเก็บพลังงาน เช่น ATP , GTP
1.เป็นองค์ประกอบของกรดนิวคลีอิก ทั้ง DNA , RNA
ไดนิวคลีโอไทด์(Dinucletide)
Mononuleotide2 หน่วย เชื่อมกันด้วยพันธะฟอสโฟไดเอสเทอร์(phospho-diesterbond)
กรดดีออกซีไรโบนิวคลีอิก (DNA)
เขียนย่อ pdApdCpdGpdT pdA-dC-dG-dT ACGT
โครงสร้างของ DNA
2.โครงสร้างทุติยภูมิ
DNA 2 สายพันกันเป็นสายเกลียวคู่วนขวา (right-handed helix)
เบสทั้ง2 สายจับคู่กันด้วยพันธะไฮโดรเจน
A – T , C – G เรียกว่าเบสคู่สม (Complementary Base Paring)
Watson –Crick doudle helix
3.โครงสร้างตติยภูมิ
วงแหวน( Circular DNA )
เกลียวคู่ยิ่งยวด ( Super Coil )
relax
Positive Super Coil (ตามเข็มนาฬิกา)
Negative Super Coil(ทวนเข็มนาฬิกา)
ขึ้นอยู่กับชนิดของ DNA
1.โครงสร้างปฐมภูมิ
ลำดับการเรียงตัวของเบส
สมบัติทางกายภาพของ DNA
3 การดูดกลืนแสงของ DNA
ดดูกลืนแสงที่ 260 nm เนื่องจากเบส
4 สมบัติการลอยตัวของ DNA
ลอยตัวในสารละลายที่มีความหนาแน่นเท่ากัน
2 การคืนสภาพ(Renaturation)
กลับมารวมกันเป็นสายคู่เมื่อปรับสภาพให้เหมาะสม
5 Melting Temperature ( Tm )
อุณหภูมิที่ทำให้ DNA คลายเกลียวออกครึ่งหนึ่ง
ค่า GC content สูง จะทำให้ค่า Tm สูง
1 การแปลงสภาพ ( Denaturation )
การแยกกันของสายเกลียวคู่ สาเหตุจากความร้อน, pH , สารเคมี
การแปลงสภาพ ( Denaturation )ของ DNA
ยีนส์หลายตัวและไวรัสหลายชนิด ก็ถูกกระตุ้นให้เกิดการ เปลี่ยนแปลงโดยรังสี UV เช่นกัน
DNA ถูกทำลายได้ด้วยรังสี UVB (280 -315 nm) และ UVC (100 -280)
กรดไรโบนิวคลีอิก (RNA)
ส่วนใหญ่พบในไซโตพลาสซึมของเซลล์ โดยเฉพาะที่ไรโบโซม
รับข้อมูลทางพันธุกรรมจาก DNA นำไปสังเคราะห์โปรตีน เอนไซม์ฮอร์โมน เป็นต้น
ส่วนใหญ่เป็นชนิดสายเดี่ยว นอกจากในไวรสับางชนิดเป็นสายคู่
จับคู่กันเองในสาย โดย A จับคู่กับ U และG จับคู่กับ C
ไรโบนิวคลีโอไทด์หลายหน่วยต่อกันด้วยพันธะ 3’ , 5’ –ฟอสโฟไดเอสเทอร์
RNA uses the DNA code to make proteins
RNA มี 3 ชนิด
tRNA (transfer RNA)
rRNA (ribosomal RNA)
mRNA (messenger RNA )
similar to DNA, except that the base T is replaced by base U
อาร์เอ็นเอนำรหัส (mRNA)
Codon : The genetic code (3 bases) on m-RNA that codes For each amino acid
Messenger-RNA: (m-RNA) copies the DNA code of a gene to carry out of nucleus
อาร์เอ็นเอถ่ายโอน (tRNA)
Anticodon: The genetic code on t-RNA that fits to the codon of m-RNA
อาร์เอ็นเอไรโบโซม (rRNA)
รหัส CODON บนอาร์เอ็นเอนำรหัส
T-RNA Code :UUU CCU GAU ACU
Amino Acids : L G L Stop
m-RNA Code : AAA GGA CUA UGA
DNA Code : TTT CCT GAT ACT
ความสัมพันธ์ของ DNA RNA และ โปรตีน
นางสาวจันทิมา ศิรินพกร เลขที่12 รหัสนักศึกษา622801012