Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
การส่งเสริมสัมพันธภาพมารดาและทารกหลังคลอด - Coggle Diagram
การส่งเสริมสัมพันธภาพมารดาและทารกหลังคลอด
Bonding (ความผูกพัน) หมายถึง กระบวนการผูกพันทางอารมณ์ที่พ่ดแม่หรืดผู้เลี้ยงดู มีต่อทารกฝ่ายเดียว
Attachment (สัมพนัธาภาพ) หมายถึง ความรู้สึกรักใคร่ผูกพันระหว่างทารกกับพ่ดแม่ หรืดผู้เลี้ยงดู เกิดจากการมีปฏิสัมพันธ์ระหว่างบุคคลเป็นพิเศษและคงดยู่ถาวร
การพัฒนาสัมพันธภาพในระยะหลังคลอด
ตั้งแต่นาทีแรกหลังคลดดจนกระทั่งถึง 1 ชั่วโมงแรกหลังคลดดเป็นช่วงเวลาสำคัญ ที่ก่อให้เกิดความรักใคร่ผูกพันระหว่างมารดาทารก
กระบวนการพัฒนาสัมพันธภาพ
ระหว่างมารดากับทารก
ระยะตั้งครรภ์
การรับรู้การเคลื่vนไหวขvงทารกในครรภ์
4.การยอมรับว่าทารกในครรภ์เป็นบุคคลคนหนึ่ง
2.การยvมรับการตั้งครรภ์
1.การยืนยันการตั้งครรภ์
ระยะคลอดและระยะหลังคลอด
2.การมองดูทารก
3.การสัมผัสทารก
1.การสนใจดูแลสุขภาพตนเองและทารกในครรภ์และการแสวงหาการคลอดที่ปลดดภัย
4.การดูแลทารกและให้ทารกดูดนม
ระยะก่อนการตั้งครรภ์
การวางแผนการตั้งครรภ์
พฤติกรรมปฏิสัมพันธ์ระหว่างมารดาและทารก
การสัมผัส (Touch, Tactile sense) พฤติกรรมสำคัญที่จะผูกพันมารดาและบุตร คืด ความสนใจของมารดาในการสัมผัสบุตร
การรับกลิ่น (Odor) มารดาจำกลิ่นกายของทารกได้ตั้งแต่แรกคลอด ส่วนทารกสามารถแยกกลิ่นมารดา และหันเข้าหากลิ่นน้ำนมมารดาได้ภายในเวลา 6 –10 วนัหลังคลอด
การให้ความอบอุ่น (Body warmth หรือ Heat) หลังทำหรรตถการต่างๆแล้วทารกจะไม่เกิดการสูญเสียความร้อน และทารกจะเกิดความผ่อนคลายเมื่อได้รับความอบอุ่นจากมารดา
การเคลื่อนไหวเป็นจังหวะตามเสียงพูด (Entrainment) ทารกจะเคลื่อนไหวส่วนต่างๆ ขดงร่างกายเป็นจังหวะสัมพันธ์กับเสียงพูดสูงต่ำของมารดา
การให้ภูมิคุ้มกันทางน้ำนม (T and Blymphocyte) ทารกจะได้รับภูมิคุ้มกันในนมแม่
การใช้เสียง (Voice) การตอบสนองเริ่มทันทีที่ทารกเกิด มารดาจะรอฟังเสียงทารกร้องครั้งแรกเพื่อยืนยันภาวะสุขภาพของทารก
การให้ภูมิคุ้มกันทางเดินหายใจ (Bacterianasal flora) ขณะที่มารดาอุ้มโอบกอดทารก จะมีการถ่ายทอดเชื้อโรคในระบบทางเดินหายใจ (normal flora) ของมารดาสู่ทารก เกิดภูมิคุ้มกันช่วยป้องกันทารกติดเชื้ดจากสิ่งแวดลด้มภายนอก
การประสานสายตา (Eye to eye contact) เป็นสื่อที่สำคัญต่อการเริ่มต้นพัฒนาการด้า ความเชื่อมั่น ความไว้วางใจ และความสัมพันธ์กับบุคคลอื่น
จังหวะชีวภาพ (Biorhythmcity) หลังคลอดทารกจะต้องปรับตัวให้เข้ากับสิ่งแวดล้อม ภายนอกโดยขณะที่ทารกร้องไห ้มารดาอุ้มทารกไว้แนบอก ทารกจะรับรู้เสียงการเต้นขดงหัวใจมารดา ซ่ึงทารกจะคุ้นเคยตั้งแต่ในครรภ์
การประเมินสัมพันธภาพระหว่างมารดากับทารก
ความสามารถในการปฏิบัติบทบาทการเป็นมารดา
ความสามารถในการตอบสนองความต้องการขดงทารก
พฤติกรรมปฏิสัมพันธ์ระหว่างมารดาและทารก
พฤติกรรมของมารดาและทารกที่แสดงถึงการขาดสัมพันธภาพ (Lack of attachment)
พดูถึงบุตรในทางลบ
แสดงท่าทางหรือคำพูดที่ไม่พึงพอใจขณะดูแลบุตร
ไม่ตอบสนองต่อบุตร เช่น ไม่สัมผัส ไม่ยิ้ม ไม่อุ้มกอดทารก
ขาดความสนใจในการซักถามเกี่ยวกับพฤติกรรมของบุตรและการเลี้ยงดูบุตร
ไม่สนใจมองบุตร สีหน้าเมินเฉยหรือหนัหน้าหนี
ความสนใจในการดูแลตนเองของตนเองและทารก
บทบาทของพยาบาลผดุงครรภ์
ในการส่งเสริมสัมพันธภาพระหว่างมารดากับทารก
ระยะตั้งครรภ์
1.ยอมรับการตั้งครรภ์
ครอบครัวคอยให้กำลังใจ
การปรับบทบาทการเป็น บิดา มารดา
ยอมรับความเป็นบุคคลของทารกในครรภ์
การกระตุ้นพัฒนาการทารกในครรภ์
ระยะคลอด
สร้างบรรยากาศให้เกิดความไวว้างใจ
ลดความวิตกกังวลของผู้คลดด
ให้ข้อมูลเป็นสื่อกลาง ระหว่างผู้คลอดและครอบครัว
ส่งเสริมให้การคลอดผ่านไปอย่าปลอดภัย
ระยะหลังคลอด
1.ส่งเสริมให้มารดาสัมผัส โดยกอดทารกทันทีหลังคลดด ในระยะ sensitive period
2.Rooming in โดยเร็วที่สุด
3.ให้คำแนะนำในการดูแลบุตร
4.ตดบสนองความต้องการขดองมารดา
5.กระตุ้นให้มีปฏิสัมพันธ์กับทารก
6.เป็นตัวแบบในการสร้างสัมพันธภาพกับทารก
7.ให้มารดา ทารก บิดา ได้ดยู่ด้วยกัน ตามลำพัง