Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
บทที่ 5.1.1 ความผิดปกติของการไหลเวียนเลือด - Coggle Diagram
บทที่ 5.1.1 ความผิดปกติของการไหลเวียนเลือด
Pregnancy-induced hypertension
ความดันโลหิตสูง คือ ภาวะที่มี systolic blood pressure (SBP) ≥ 140 mmHg หรือ diastolic blood pressure (DBP) ≥ 90 mmHg ภาวะโปรตีนรั่วในปัสสาวะ หรือ proteinuria คือ ภาวะที่มี urine protein ≥ 300 mg ในปัสสาวะที่เก็บต่อเนื่อง 24 ชั่วโมง หรือ urine protein creatinine index (UPCI) ≥ 0.3 หรือ urine dipstick ≥ 1+(1,2) แต่ urine dipstick จะใช้เฉพาะกรณีที่ไม่สามารถตรวจด้วย urine protein 24 hr หรือ UPCI ได้
ประเภท
Preeclampsia-eclampsiaมักเกิดหลังอายุครรภ์ (Gestational age; GA) 20 สัปดาห์ ร่วมกับตรวจพบโปรตีนในปัสสาวะ (Proteinuria)
Chronic hypertension: หญิงตั้งครรภ์ที่มีภาวะความดันโลหิตสูงตั้งแต่ก่อนตั้งครรภ์ ไม่ว่าจากสาเหตุใดใดก็ตาม หรือตรวจพบความดันโลหิตสูงก่อนอายุครรภ์ 20 สัปดาห์
Chronic hypertension with superimposed preeclampsia : Preeclampsia ที่เกิดในหญิงตั้งครรภ์ที่เป็น Chronic hypertension
Gestational hypertension: ภาวะความดันโลหิตสูงที่จาเพาะกับการตั้งครรภ์ ที่ตรวจพบหลังอายุครรภ์ 20 สัปดาห์ แต่ไม่พบ Proteinuria
เกณฑ์การวินิจฉัย
New-onset Hypertension- Systolic BP (SBP) ≥ 140 mmHg or Diastolic BP (DBP) ≥ 90 mmHg เมื่อวัด 2 ครั้งห่างกัน 4 ชั่วโมง- Systolic BP (SBP) ≥ 160 mmHg or Diastolic BP (DBP) ≥ 110 mmHg เมื่อวัดห่างกัน 15 นาที
New-onset Proteinuria
Urine Dipstick or Urine analysis reading ≥ 2+
Urine protein/creatinine ratio/index (UPCI) ≥ 0.3 mg/dL OR
Urine protein 24 hours ≥ 300 mg OR
Severe features
Systolic BP (SBP) ≥ 160 mmHg หรือ Diastolic BP (DBP) ≥ 110 mmHg เมื่อวัด 2 ครั้งห่างกัน 4 ชั่วโมง
Thrombocytopenia คือ เกล็ดเลือด < 100,000 cell/mm3
Impaired liver function คือ AST/ALT สูงกว่า 2 เท่าของค่า Upper normal limit หรือมีอาการปวดจุกใต้ลิ้นปี่รุนแรงและไม่หายไป (Severe persistence)
Renal insufficiency คือ Serum creatinine ≥ 1.1 หรือมากกว่า 2 เท่าของค่า Serum creatinine เดิมโดยไม่มีโรคไตอื่น
Pulmonary edema
มีอาการปวดศีรษะหรือตาพร่ามัวที่เกิดขึ้นใหม่
การแบ่งโรคต่างๆ ออกเป็น 3 กลุ่ม ตามแนวทางการรักษา
กลุ่ม Chronic Hypertension (CHT) เป็นภาวะความดันโลหิตสูงที่มี
Hypertension ที่ตรวจพบก่อนการตั้งครรภ์ (Pregestational hypertension) หรือ
New-onset Hypertension ที่เกิดก่อนอายุครรภ์ 20 สัปดาห์ หรือ
ตรวจพบความดันโลหิตสูงหลังคลอด 12 สัปดาห์
ไม่มี New-onset Proteinuria
ไม่มี Severe features
กลุ่ม Pregnancy-induced hypertension without severe features
2.1 Gestational hypertension (GHT) เป็นภาวะความดันโลหิตสูงที่มี
New-onset Hypertension ที่เกิดหลังอายุครรภ์ 20 สัปดาห์ ร่วมกับ ไม่มี New-onset Proteinuria
ไม่มี Severe features
ความดันโลหิต ต้องไม่สูงเกิน 160/110 mmHg
ตรวจพบ proteinuria หรือ end-organ dysfunction โดยเฉพาะ GHT ที่วินิจฉัยก่อนอายุครรภ์ 32 สัปดาห์
2.2 Preeclampsia without severe features เป็นภาวะความดันโลหิตสูงที่มี- New-onset Hypertension ที่เกิดหลังอายุครรภ์ 20 สัปดาห์ ร่วมกับ New-onset Proteinuria
ไม่มี Severe features
2.3 Chronic hypertension with superimposed preeclampsia without severe features เป็นภาวะความดันโลหิตสูงที่มี- Chronic hypertension ร่วมกับ New-onset Proteinuria
ไม่มี Severe features
กลุ่ม Pregnancy-induced hypertension
3.1 Gestational hypertension with severe-range blood pressure
3.2 Preeclampsia with severe features
3.3 Chronic hypertension with superimposed preeclampsia with severe features
3.4 HELLP syndrome
3.5 Eclampsia
พยาธิสรีรวิทยา
ตัวอ่อนไม่สามารถฝังตัวในเยื่อบุโพรงมดลูกได้อย่างปกติ
2.ความสมดุลระหว่างโปรตีนที่มีฤทธิ์ยับยั้งและส่งเสริมการสร้างหลอดเลือดผิดปกติและเซลล์ของรกที่ขาดเลือด มีการตายอย่างต่อเนื่อง และหลั่งสารเคมีหลายชนิดที่ทาให้หลอดเลือดหดรัดตัว
การพยาบาลหญิงตั้งครรภ์ที่มีภาวะความดันโลหิตสูงในระยะคลอด
การพยาบาลหญิงตั้งครรภ์ที่มีภาวะ Preeclampsia ในระยะคลอด
การพักผ่อน (bed rest) โดยนอนพักบนเตียงให้มากที่สุด
จัดสภาพแวดล้อมให้สงบ
วัดความดันโลหิต และ Deep tendon reflex ทุก 1-2 ชั่วโมง
ประเมิน Headache, visual disturbance, epigastric pain
ตรวจ Urine protein เพื่อประเมินการทางานของไต
ดูแลให้ได้รับยาป้องกันภาวะชักคือ Magnesium sulfate
ใส่สายสวนปัสสาวะคาไว้
การพยาบาลผู้ป่วยที่ได้รับยา Magnesium sulfate
ดูแลให้ได้รับยาป้องกันภาวะชักคือ Magnesium sulfate ตามแนวทางการรักษาผู้ป่วยความดันโลหิตสูง
ขณะตั้งครรภ์และใช้เครื่อง Infusion pump
ดูแลความสุขสบายของผู้ป่วย เช่น เช็ดตัว
ประเมินอาการ magnesium toxicity เช่น absent Deep tendon reflex, RR < 14 /min
ประเมินผลข้างเคียงของยาอื่นๆที่จะเกิดขึ้นคือ ผิวหนังแดง ร้อนวูบวาบ เหงื่อออก คลื่นไส้ / อาเจียน ความดันโลหิตต่า กล้ามเนื้ออ่อนแรง
Monitor intake and output โดยเฉพาะรายที่มี decreased renal function
เตรียม 10% Calcium gluconate กรณีฉุกเฉิน
Monitor magnesium level (Therapeutic serum level 4.8-8.4 mg/dl)
การพยาบาลผู้ป่วยที่มีภาวะชัก
จัดท่านอนตะแคง และตะแคงหน้า เพื่อป้องกัน aspiration
ให้ออกซิเจนทาง face mask 10 ลิตรต่อนาทีเพื่อป้องกันภาวะ hypoxia
Suction กรณีที่มี secretion เพื่อให้ทางเดินหายใจโล่ง
ให้สารน้าทางหลอดเลือดดา
ควบคุมอาการชักโดยการให้ยา Magnesium sulfate
ประเมินและเฝ้าระวังสุขภาพทารกในครรภ์อย่างใกล้ชิด
วัดความดันโลหิตทุก 15 นาที
การพยาบาลมารดาที่มีภาวะความดันโลหิตสูงในระยะหลังคลอด
ในรายไม่รู้สึกตัวให้นอนราบตะแคงหน้าส่วนในรายที่รู้สึกตัวให้นอนท่าFowler’s position
ประเมินการการหดรัดตัวของมดลูก
Observe Bleeding จากแผลผ่าตัดหรือจากช่องคลอด
บันทึกสัญญาณชีพ และบันทึก I / O ถาีพบว่า RR < 14 ครั้งต่อนาที BP ≥ 160 /110 mmHg Urine Out Put < 30 ml ใน 1 ชั่วโมง รายงานแพทย์เพื่อร่วมดูแลรักษาต่อไป
ให้ IV Fluid ที่ผสม Mg SO4 drip ด้วยเครื่อง Infusion pump โดยอธิบายถึงผลข้างเคียงที่จะเกิดขึ้น เช่น อาการคลื่นไส้อาเจียนและร้อนวูบวาบตามร่างกาย พร้อมทั้งให้การพยาบาล เมื่อเกิดอาการข้างเคียง หลังให้ยาให้บันทึกสัญญาณชีพและตวงปัสสาวะทุก 1 ชม
จัดอาหาร Low Salt และ High Protein ในรายที่สามารถรับประทานอาหารได้
ในการให้นมบุตร ในกรณีมารดาหลังคลอดได้รับ IV Fluid ที่ผสม Mg SO4 และ BP < 150 /100
mmHg. สามารถให้ทารกมาดูดนมได้และต้องดูแลอย่างใกล้ชิด และหากมารดา BP ≥ 160 /110 mmHg ควรงดดูดนมก่อนจนกว่าความดันโลหิตจะลดลง