Please enable JavaScript.

Coggle requires JavaScript to display documents.

บทที่5 การใช้กระบวนการพยาบาลในการดูแลมารดา และทารกที่มีปัญหาสุขภาพร่วมกับก…

- - - - มีช่องติดต่อระหว่างหัวใจ2 ห้อง ทำให้
        เลือดไหลผ่านจากห้องซ้ายไปห้องขวา
        
        ถ้าหญิงตั้งครรภ์รายใดที่ไม่ได้รับการผ่าตัด การตกเลือดหลังคลอดจะทำให้ความดันโลหิตลดลง เลือดอาจจะไหลย้อนกลับเข้าสู่หัวใจซีกซ้าย และทำให้เสียชีวิตได้
    - - มีการตีบแคบที่เส้นเลือดต่างๆ
        
        ทำให้ความดันสูงในหลอดเลือดเลือดเดินไม่สะดวก อาจจะทำให้มีเลือดออกในสมอง หัวใจล้มเหลว
    - - มีความรุนแรงมากที่สุด
      - มีการไหลเวียนเลือดจากห้องขวาไปห้องซ้าย
      - เลือดดำไปปนกับเลือดแดงทำให้เนื้อเยื่อได้รับเลือดไม่เพียงพอ ขาดออกซิเจน มีผลทำให้แท้ง ทารกตายในครรภ์ คลอดก่อนกำหนด
    - - ลิ้นหัวใจข้างซ้ายตีบ
        
        เมื่อตั้งครรภ์ปริมาตรเลือดเพิ่มทำให้หัวใจต้องบีบตัวแรงขึ้น ในขณะลิ้นหัวใจตีบเลือดแดงผ่านไปห้องล่างซ้ายเพื่อเลี้ยงส่วนต่างๆได้ยาก ทำให้เกิดแรงดันในหัวใจห้องซ้ายบนสูงขึ้น ถ้าแรงดันยังสูงต่อไปทำให้เกิดน้ำคั่งในปอด
    - - มักพบในสตรีอ้วน มีไขมันในเลือดสูง มีความดันโลหิตสูงเรื้อรัง หัวใจต้องทำงานหนักมาก
    - - ไขมันอุดตันหลอดเลือดเลี้ยงหัวใจ ทำให้กล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด เกิดเนื้อตาย เสียชีวิตได้
    - - จะพบในรายที่เคยมีการอักเสบที่กล้ามเนื้อหัวใจ ทำให้หัวใจโต
    - - ผู้ป่วยจะมีอาการหัวใจเต้นเร็ว หรือเต้นช้าผิดปกติ ไม่ต้องให้ยา
- - - - ด้ร่วมกับการใช้ยาขับปัสสาวะ
    - - ควบคุมความดันโลหิตและอัตราการเต้นหัวใจ
  - - - รักษา atrial และ ventricular tachycardia
      - เฝ้าระวังระดับยาในเลือด และปฏิกิริยากับ warfarin
- - - - เตรียมรับผู้ป่วยเพื่อเตรียมคลอด 1-2 สัปดาห์ก่อนกำหนดคลอด
      - นอนตะแคงยกศีรษะสูง (Semi recumbent)
      - การระงับความเจ็บปวด
      - ตรวจชีพจรและการหายใจ
      - การคลอดบุตรทางช่องคลอดให้ผู้ป่วยนอนในท่า fowler ช่วยคลอดด้วยคีมหรือเครื่องดูดสุญญากาศไม่ต้องให้มารดาออกแรงเบ่งมาก
      - หากเกิดภาวะหัวใจล้มเหลว
        
        Mitral stenosis ร่วมกับ Pulmonary edema หญิงตั้งครรภ์ควรได้รับ diuresis
        
        Tachycardia หญิงตั้งครรภ์ควรได้รับ beta-blocking agent
      - ระยะหลังคลอด
        
        ให้นมบุตรได้
        
        หมันหลังคลอดควรให้ร่างกายปกติก่อน
        
        รายที่ไม่ทำหมันควรแนะนำการคุมกำเนิดที่
        เหมาะสม คือ ถุงยางอนามัย
  - - - นอนกลางคืน 10 ชั่วโมงและพักหลังอาหาร 30 นาที หลีกเลี่ยงการนอนราบ
      - ลดการทำงานปกติลงถ้าไม่รู้สึกเหนื่อยให้ทำงานเบาได้
      - ลดอาหารจำพวกแป้งและไขมัน หลีกเลี่ยงการเพิ่มเกลือ ป้องกันหลีกเลี่ยงเบ่งถ่าย รับประทานอาหารที่มีธาตุเหล็กป้องกันภาวะโลหิตจาง
      - งดเพศสัมพันธุ์
      - ให้มาฝากครรภ์ตามนัด
      - แนะนำให้ได้รับยาตามแผนการรักษา
    - - ประเมินสัญญาณชีพทุก 15 นาที
      - นอนท่าศีรษะสูงช่วยให้ปอดขยายได้ดี
      - สังเกตอาการเริ่มต้นของหัวใจวาย เช่น หายใจหอบตื้น ไอ น้ำหนักตัวเพิ่ม และบวมทั้งตัว
      - ดูแลให้ได้รับยาตามแผนการรักษา
        
        antibiotic เช่น benzatine penicillin, ampicillin, gentamycin
        
        digoxin 0.5 mg เมื่อหัวใจเต้นมากกว่า
        100 ครั้ง/นาที
        
        ยากล่อมประสาท
        
        ยาระงับอาการเจ็บครรภ์ เช่น pethidine
        
        ยาขับปัสสาวะเพื่อลดอาการบวม โดยบันทึกน้ำเข้า-ออก ร่างกายทุกวันและชั่งน้ำหนักทุกวัน
      - จัดเตรียมออกซิเจนและอุปกรณ์การช่วยเหลือมารดาไว้ให้พร้อม
      - ในระยะเบ่งคลอด
        
        นอนท่าศีรษะสูงแยกขาออกให้ขาอยู่ในแนวราบ
        
        ดูแลช่วยเหลือแพทย์ในการทำสูติศาสตร์หัตถการ
        
        ฟังเสียงหัวใจทารกในครรภ์ทุก 5 นาที
        
        เตรียมช่วยเหลือทารกให้พร้อม
      - ในระยะคลอดรก
        
        หลังทารกเกิดแล้วใช้มือค่อยๆกดหน้าท้องเหนือสะดือ
        
        ดูแลให้ได้รับยา oxytocin
        
        ดูแลให้ได้รับเลือดถ้าซีดมาก
    - - ประเมินสัญญาณชีพทุก 15-30 นาที ต่อมาทุก 1,2,4 ชั่วโมง
      - พักผ่อนบนเตียงและให้ยานอนหลับตามแผนการรักษา
      - ให้ยา digitalis
      - ให้ยา antibiotic
    - - มารดา class 3,4 ควรทำหมัน ควรทำเมื่อ 7วันหลังคลอด
      - มารดาโรคหัวใจ class 1,2 ควรคุมก าเนิดอย่างน้อย 2 ปี โดยการใส่ถุงยางอนามัย