Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
การบำบัดโดยหัตถการ :smiley: - Coggle Diagram
การบำบัดโดยหัตถการ
:smiley:
การเย็บแผลและการได้รับยาชาเฉพาะที่ :<3:
การเย็บแผล
:star:
วัตถุประสงค์ :check:
ห้ามเลือด
ช่วยในการ healing ของแผล
เป้าหมาย :check:
ใช้งานได้ตามปกติ
มีแผลเป็นน้อยที่สุด คงความสวยงามไว้
ไม่ติดเชื้อ
แผลที่ไม่ควรเย็บ
:check:
สุนัขกัด ตกน้ำคร่ำ แผลติดเชื้อ
อุปกรณ์
:check:
ต้องเตรียมเพิ่ม
Syringe
ยาชาเฉพาะที่
เข็มเบอร์ 18 หรือ20 และเบอร์ 24หรือ 25 เพื่อ draw และฉีดยาชา
ไหมเย็บแผล
ละลาย
Dexon,Chromiccatgut
ไม่ละลาย
Silk, Dermalon, Nylon, Ethilon
การเลือกขนาด
เบอร์ 2/0, 3/0 เย็บที่ศีรษะ ฝ่าเท้า
เบอร์ 3/0, 4/0 เย็บที่ แขนขา ลำตัว
เบอร์ 5/0, 6/0 เย็บที่หน้า
เบอร์ 4/0, 5/0 เย็บที่ฝ่ามือ
Set suture
กรรไกรตัดไหม
สำลี
ผ้าสี่เหลี่ยมเจาะกลาง
Tooth/ non tooth forceps
Gauze Povidone iodineหรือ Betadine/NSS.
Needle holder
Needle
เข็มโค้งมาก เย็บแผลที่แคบ
เข็มโค้งน้อย เย็บแผลที่กว้าง
เข็ม round/taper ใช้เย็บเนื่อเยื่อที่อ่อน ไม่ต้องการให้ขอบเข็มบาดเนื่อเยื่อ
ลำใส้
กล้ามเนื้อ
หลอดเลือด
เข็ม Cutting มีความคมด้านข้าง ใช้เย็บเนื้อเยื่อที่หนา เหนียว
เส้นเอ็น
ผิวหนัง
พังผืด
หลักการเย็บแผล :check:
ใส่ถุงมือ sterile
ปูผ้าสี่เหลี่ยมเจาะกลางคลุม บริเวณแผล
เตรียมอุปกรณ์เย็บแผล เลือกชนิด/ขนาดของเข็ม และเส้นไหมให้ เหมาะกับแผลที่จะเย็บ
ตรวจดูแผลอีกครั้ง หากมีเนื้อตาย ขอบแผลกระรุ่งกระริ่งให้ใช้ กรรไกรตัดเนื้อเล็มเศษเนื้อตายและตัดเล็มขอบแผลให้เรียบ
ทำการเย็บแผล
5.1 การจับ Needle holder ควรจับให้อยู่ในอุ้งมือ
5.2 การจับเข็ม จับที่ประมาณ 1/3 ค่อนมาทางหัวเข็มหรือโคนเข็ม
5.3 การสนด้าย/ ไหมเย็บ สนเข้าที่รูเข็ม
5.4 การปักเข็ม ปักลงไปตรงๆให้ตั้งฉากกับผิวหนังและห่างจากปากแผลพอสมควร
5.5 หมุนเข็มให้ปลายเสยขึ้นโดยใช้ข้อมือ อย่าดันตรงๆ
5.6 ปล่อย needle holder จากโคนเข็ม มาจับที่ปลายที่โผล่พ้น skin ออกมาแล้วหมุนเข็มตามโค้งของเข็ม จนกระทั่งโคนเข็มหลุดจากผิวหนัง
5.7 ใช้มือที่ไม่ถนัดจับโคนเชือกไว้ มืออีกข้างจับด้ายรูดออกไป แล้วใช้ needle holder ผกูเงื่อน ตาย
5.8 ใช้กรรไกรตัดไหมตัดด้ายให้เหลือโคนไว้ประมาณ 0.5 เซนติเมตร
ข้อห้าม :check:
ห้ามตัดหนังทิ้ง ในบริเวณใบหน้าและฝ่าเท้าทิ้งโดยเด็ดขาด
ห้ามเย็บแผลโดยไม่ remove FB ออกก่อน
ห้ามใช ้Xylocaine with adrenaline โดยเด็ดขาด ถ้าใช้ต้องแพทย์ สั่ง และห้ามเด็ดขาด คือ บริเวณนิ้วมือเท้า ใบหู อวัยวะเพศชาย nipple
ถ้าเย็บศีรษะ ควรตรวจสอบ hematoma ถ้าพบ pressure จนยุบ ทำหมอนรองศีรษะ
Interrupted suture :check:
การเย็บแบบธรรมดา (Simple suture หรือ Plain interrupted suture) เย็บแผลทั่วไปที่ไม่ดึงรั้งมาก แผลมีขนาดเล็กไม่เกิน 3 ซม.ลึกไม่เกิน 0.5ซม
การเย็บแบบสองชั้น (Mattress suture หรือ Mattress interrupted suture) เป็นการเย็บแผลแบบผูกเป็นเปราะ 2 ชั้น ใช้ในบาดแผลที่ต้องการความ แข็งแรง ลึก และยาว บาดแผลที่ไม่ต้องการให้ขอบแผลซ้อนกัน เย็บ บาดแผลที่มีการดึงรั้งมากๆ หรือมีการเคลื่อนไหวตลอดเวลา แผลมี ขนาดใหญ่ แผลลึกกว่า0.5 ซม.และ แผลยาวตั้งแต่ 3 ซม.ขึ้นไป
ข้อปฏิบัติหลังเย็บแผล :check:
ใช้ก๊อซซับแผลให้แห้ง
ปิดแผลด้วยผ้าก๊อซ
ตรวจความเรียบร้อยของแผล ดูตำแหน่งที่มีเลือดออกผิดปกติ เพื่อป้องกันการเกิด Hematoma ในภายหลัง ตรวจสอบได้โดยใช้ สำลีชุบ NSS เช็ดคราบเลือดออกให้หมด แล้วสังเกตดูว่ามี เลือดออกอยู่หรือไม่
ปิดด้วยพลาสเตอร์ใสตามแนวขวางของกล้ามเนื้อ ผ้าผู้ป่วยแพ้ พลาสเตอร์ใสให้เปลี่ยนชนิดพลาสเตอร์
การพยาบาลหลังเย็บแผล :check:
คำแนะนำ
รักษาแผลให้แห้งสะอาดอยู่เสมอโดยเฉพาะใน 24 ชม.แรก ห้ามแผลเปียกน้ำ
ยกอวัยวะที่มีแผลให้สูงกว่าหัวใจ
ไม่ให้เปลี่ยนผ้าปิดแผลหรือแกะแผลเอง
รับประทานอาหารที่มีโปรตีน แร่ธาตุ และวิตามินสูง
การสังเกตอาการผิดปกติที่ต้องมา รพ.ทันที เช่น มีไข้ ปวดแผลมากกว่าปกติ แผลบวมแดง แสบร้อน มี discharge ซึมมาก
ระยะเวลาในการตัดไหม
บริเวณศีรษะและใบหน้า 5 วัน
ลำตัว ผิวหนังไม่ตึงมาก 7 วัน
แขน ขา หรือผิวหนังที่ตึงมาก 7-10 วัน หรือ ในตำแหน่งที่มีการเคลื่อนไหวมาก 10- 14 วัน
ในกรณีที่ไม่แน่ใจว่าติดสนิทดีหรือยัง ให้ตัวไหมอันเว้นอันไปก่อน ถ้าแผลแห้งติดดีอาจพิจารณาตัดทั้งหมด แต่ถ้าไม่ติดสนิทนัด ตันในวันถัดไป
นัดมาทำแผลในวันรุ่งขึ้น ถ้าแผลแห้งดี รอบแผลไม่บวมแดงอาจนัดวันเว้นวัน จนกว่าจะครบตัดไหม ถ้าแผลมีdischarge บวม แดง นัดมาทำแผลทุกวัน
ขั้นตอนการตัดไหม :check:
เช็ดด้วย 70 % Alcohol บริเวณที่จะตัดไหม รอจนแห้ง
มือไม่ถนัดจับ non tooth forceps หยิบชายไหมหรือปมผูกแต่ละปมขึ้นให้ตึง
มือที่ถนัดจับกรรไกรตัดไหม สอดกรรไกรด้านที่มีปลายแหลมเข้าไปโดยอ้า กรรไกรเพียงเล็กน้อยเท่านั้น กดผิวหนังด้านนอกชิดรูที่ด้ายผ่านเพื่อให้ด้าย ส่วนที่จมอยู่โผล่ขึ้นมา ให้กรรไกรขนานกับผิวหนังบริเวณแผล แล้วตัดส่วน ที่ชิดกับผิวหนัง
ดึงไหมที่ตัดแล้วเข้าหาแผล เพื่อป้องกันแผลแยกขณะดึงออก
ยาชาเฉพาะที่ (Local anesthetics)
:star:
ยาที่ออกฤทธิ์ปิดกั้นการส่งกระแสประสาท กับเส้นประสาทเท่านั้น ทำให้หมดความรู้สึกบรเิวณที่เส้นประสาทนั้นไปเลี้ยง แต่ผู้ป่วยจะยังรู้สึกตัวตลอดเวลา
นิยมใช้ :fire:
Procaine Hydrochloride หรือ Novocaine ราคาถูก ออกฤทธิ์ เร็ว มีฤทธิ์นาน 30 นาทีถึง 2 ชม. มีฤทธิ์อยู่ได้นานขึ้นโดย เติม Adrenaline ลงไป 0.5 cc. ต่อยาชา 100 cc. (Adrenaline ทา ให้ หลอดเลือดหดตัว ยาซึมหายไปช้า ทำให้มีฤทธิ์อยู่นาน)
Lignocaine hydrochloride หรือ Lidocaine หรือ Xylocaine นิยมใช้ เนื่องจากออกฤทธิ์ต่อประสาทส่งความรู้สึกมากกว่าประสาทสั่งการ เคลื่อนไหวพิษของยาชา เช่นเดียวกับ Procaine ขนาดของยาชาที่นิยม ใชค้ือ 0.5%, 1%, 2% และมีชนิดผสม Adrenaline เพื่อให้ออกฤทธิ์นาน
Pontocaine hydrochloride ระงับความรู้สึกดี แต่มีพิษมาก มี ประโยชน์ในการทาลงบนเยื่อเมือกต่างๆ เพื่อให้หมดความรู้สึก ใช้ นการทำหัตถการที่ลูกตา จมูก ปาก และคอ ขนาดของยาขึ้นกับ ตำแหน่งของอวัยวะที่ต้องการให้ยาออกฤทธิ์
ข้อห้าม :fire:
ยาชาที่มีส่วนผสมของ Adrenaline จะทำ ให้มีฤทธิ์อยู่นาน เพราะทำให้หลอดเลือดหดตัวลด ปริมาณเลือดออก ไม่ควรฉีดที่นิ้วมือ นิ้วเท้า ใบหู penis nipple เนื่องจากอาจทำให้อวัยวะส่วนนั้น ขาดเลือดไปเลี้ยงทำให้เกิดเนื้อตายได้
อาการไม่พึงประสงค์ :fire::
ผลต่อระบบเลือด :ความดันโลหิตต่ำ หัวใจเต้นช้าลง อาการแพ้ แบบ anaphylaxis ซึ่งพบได้น้อย
2.ผลต่อระบบประสาท : คลื่นไส ้อาเจียน มึนงง ตื่นเต้น กระสับกระส่าย กล้ามเนื้อกระตุก ชัก โคม่า หมดสติ ศนูย์ควบคุม การหายใจอาจถูกกด
1.ถ้าความเข้มข้นของยาในกระแสเลือดสงู อาจเกิดจากการใช้ยาชา เกินขนาด หรือฉีดยาชาเข้าหลอดเลือดโดยไม่ตั้งใจ หรือการดูดซึม ของยาเป็นไปอย่างรวดเร็ว
การแก้ไขการแพ้ยาชา :fire::
หากหัวใจหยุดเต้นอาจให ้Adrenaline 1:1,000 IV.
ให้การพยาบาลช่วยหายใจ เตรียมอุปกรณ์ใส่ ETT. เตรียมช่วย CPR
หากผู้ปู่วยชักให ้Valium 10 mg. IV. push ช้าๆตามแผนการรักษา
วัดสัญญาณชีพ บันทึกอาการและอาการเปลี่ยนแปลงใกล้ชิด ถ้า BP ต่ำแสดงว่ามีแนวโน้มช็อก ควรให้ 5%D/NSS IV. Drip อย่างเร็วระหว่างรอแพทย์
ให้นอนพักศีรษะสูง ให้ออกซิเจน
ดูแลทางเดินหายใจให้โล่ง+ รายงานแพทย์
วิธีการใช้ยาชา :fire:
การฉีดเฉพาะที่ (Infiltration): การฉีดยาชาเขา้ไปในบริเวณที่จะทำ การผ่าตัดโดยตรง เพื่อให้เกิดการชาเฉพาะที่ ใช้ในการผ่าตัดขนาด เล็ก เช่น การเย็บแผล
การสกัดบริเวณ (Field block): การฉีดยาเข้าไปที่ เส้นประสาทที่ไปเลี้ยงบริเวณใดบริเวณหนึ่ง แล้วทำให้ บริเวณนั้นชา ไม่ต้องฉีดยาชาเข้าบริเวณที่จะผ่าตัด
การใช้ทาหรือหยอด (Topical): การใชย้าชาชนิดที่ดูดซึม ง่าย เช่น Cocaine หรือ Tetracaineทาหรือหยดไปบนเยื่ออ่อน ของร่างกาย
การฉีดยาสกดัเส้นประสาท (Nerve block): การฉีดยาเขา้ไปที่เส้นประสาทเส้นใดเส้น หนึ่งโดยเฉพาะ ทำให้บริเวณที่เส้นประสาทนั้นไปเลี้ยงชาทั้งหมด โดยไม่ต้องฉีดเข้า บริเวณที่จะผ่าตัดโดยตรง ซึ่งผู้ฉีดจะต้องรู้ตำแหน่งของเส้นประสาท และบริเวณที่ เส้นประสาทนั้นมาเลี้ยง เช่นการทำ Digital nerve block
การทำให้ชาโดยฉีดที่ไขสันหลัง (Spinal block): การฉีดยาเข้าที่ไขสันหลังแล้วทำให้ชาที่ลำตัวและขาทั้งสองข้าง
หลักการฉีดยาชา :fire::
ก่อนฉีดยาชา
อธิบายใหท้ราบถึงวตัถุประสงคข์องการฉีดยาชา
ให้ข้อมูลเกี่ยวกับอาการแพ้ หรืออาการแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้น จากการได้รับยาชา
ซักประวัติเกี่ยวกับการแพ้ยา ประวัติการถอนฟัน
ฉีดยาชาสกัดกั้นเส้นประสาท (Nerve block) กรณีบาดแผลอยู่ที่นิ้วมือ นิ้วเท้า รอ 1 นาที เพื่อให้ยาชาออกฤทธิ์
ฉีดยาชารอบๆแผล (Infiltration) ในกรณีที่บาดแผลอยู่บริเวณอื่น ไม่ใช่นิ้วมือนิ้วเท้า รอ 1 นาทีเพื่อให้ยาชาออกฤทธิ์
ขณะแทงเข็มผ่าวผิวหนังเข้าสู่ชั้น intramuscular ควรทดสอบทุกครั้งเพื่อป้องกันการ ฉีดเข้าหลอดเลือด
ใช้สำลีชุบ 70 % alcohol เช็ดผิวหนังบริเวณที่จะฉีดยาชา โดยเช็ดวนออกห่างจาก ตำแหน่งที่จะฉีดยาชาเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 1 นิ้ว
ดูดยาชา 2% Lidocaine ชนิดไม่ผสม Adrenaline ขนาด 4.5 mg./kg
เตรียมอุปกรณ์ฉีดยาชา : Syringe sterile 3,5, 10 cc. ขึ้นกับขนาดแผล เข็มดูดยาชา เบอร์ 20 และเขม็ฉีดยาชาเบอร์ 24 -25 ความยาว 1.5 นิ้ว