Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
มดลูกปลิ้น (Inversion of the uterus or uterine inversion), ป1 - Coggle…
มดลูกปลิ้น (Inversion of the uterus or uterine inversion)
หมายถึงภาวะที่ยอดมดลูกรั้งลงมาส่วนล่างของโพรงมดลูก ซึ่งอาจพ้นปากมดลูกออกมา หรือโผล่ออกมาถึงปากช่องคลอด
ชนิดของมดลูกปลิ้น
1.มดลูกปลิ้นแบบไม่สมบูรณ์ (incomplete inversion) ยอดมดลูกเคลื่อนต่ าลง แต่ยังไม่พ้นปากมดลูก
2.มดลูกปลิ้นแบบสมบูรณ์ (complete inversion) ยอดมดลูกเคลื่อนพ้นปากมดลูก แต่ยังไม่ถึงปากช่องคลอด
3.มดลูกปลิ้นแบบสมบูรณ์และเคลื่อนต่ำลงมานอกปากช่องคลอด (prolapsed of complete inverted uterus)
สาเหตุ
1.รกเกาะบริเวณส่วนยอดของมดลูก
2.การดึงสายสะดือแรงเกินไป
3.ทำคลอดรกในขณะที่รกยังไม่ลอกตัว หรือรกเกาะแน่น
4.ดันยอดมดลูกที่หน้าท้องมารดามากเกินไป ในการช่วยทำคลอดรก
5.มดลูกและปากมดลูกอยู่ในภาวะคลายตัว
6.สาเหตุส่งเสริม
6.1 มีพยาธิสภาพที่มดลูก เช่น ผนังมดลูกบางและยืดมาก
6.2 ผนังมดลูกหย่อนพบมดลูกปลิ้นภายหลังคลอดที่มีความดันในช่องท้องเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในขณะที่มดลูกคลายตัว
ผลกระทบ
ต่อมารดา
เลือดออกอย่างรุนแรง เจ็บปวดมาก หรือช็อคจากการเสียเลือด และอาจเป็นอันตรายถึงขั้นเสียชีวิตได้
ต่อทารก
ทำให้ทารกได้รับความอบอุ่นจากมารดาล่าช้ารวมถึงการสร้างเสริมสัมพันธภาพระหว่างมารดาและทารกล่าช้า
การรักษา
1.การป้องกันสิ่งที่สำคัญที่สุดเช่นการช่วยเหลือการคลอดรกอย่างถูกวิธีการตรวจภายในหลังจากทำคลอดรกและหลังการเย็บแผลสามารถประเมินสภาพได้รวดเร็ว
2.ให้การรักษาสภาพทั่วไปเช่น ให้สารน้ าและให้เลือดอย่างเพียงพอหรือการฉีดมอร์ฟีนเพื่อระงับอาการปวด
3.ดันมดลูกกลับภายใต้การดมยาสลบ โดยใช้ฮาโลเธน(halothane) เพื่อให้ทุกส่วนของร่างกายคลายตัวและอาจให้สารคลายตัวของมดลูกด้วยกลุ่มของโทโคไลซีส(tocolysis)
4.ถ้ารกลอกตัวแล้วให้เริ่มทำการดันมดลูกกลับได้ทันทีถ้ารกยังไม่ลอกตัวให้เซาะรกออกก่อน และใช้ ฝุามือส่วนปลายและนิ้วหงายขึ้นแล้วดันยอดมดลูกที่ปลิ้นมาอยู่ข้างนอก ให้กลับเข้าไปตามแนวแกนของช่องทางคลอด ในการดันมดลูกกลับ(repositioning) ใช้ส่วนปลายสุดของนิ้วมืออยู่ตรงจุดศูนย์กลางของการ ดัน คือยอดมดลูก และใช้นิ้วตรวจหาขอบของปากมดลูกด้วย
5.เมื่อดันเข้าที่แล้วให้oxytocinทันทีเพื่อช่วยให้มดลูกหดรัดตัวดี
6.ในกรณีที่ไม่สามารถดันกลับคืนได้ต้องผ่าตัดทางหน้าท้องช่วยทันที
7.ให้ยาป้องกันการติดเชื้อ และให้ยากลุ่มธาตุเหล็กรักษาภาวะเลือดจาง
การรักษา
1.การป้องกันการเกิดภาวะมดลูกปลิ้น
1.1 ห้ามดึงสายสะดือ เพื่อให้รกคลอดก่อนการตรวจสอบว่ารกมีการลอกตัวสมบูรณ์แล้ว
1.2 ก่อนทำคลอดรก ต้องตรวจสอบว่ารกมีลการตัวสมบูรณ์แล้วทุกครั้ง จากนั้นหากมีอาการแสดงของรกลอกตัว ให้คลึงมดลูกให้มีการหดรัดตัวกลมแข็ง
1.3 ก่อนทำคลอดรกหรือไล่ก้อนเลือดไม่ว่าโดยวิธีใดก็ตาม เมื่อรกคลอดออกมาแต่เยื่อหุ้มรกยังค้างอยู่ ผู้ทำคลอดควรคลำยอดมดลูกว่าหดรัดตัวแข็งก่อนที่จะดึงรกเพื่อรั้งให้เยื่อหุ้มรกออกมา
1.4 หลังทำคลอดรก คลึงให้มดลูกหดรัดตัวกลมแข็ง การตกเลือดเพื่อป้องกัน
2.ให้สารน้ำทางหลอดเลือดดำและ/หรือให้เลือด เพื่อป้องกันภาวะช็อคจากการเสียเลือด
2.1 ดูแลมดลูกที่ปลิ้นมานอกปากช่องคลอดให้ชุ่มชื้นไม่แห้ง โดยใช้ผ้าก๊อซชุบน้ำเกลือผนังมดลูกที่ปลิ้นไม่ให้เลือดไหลออกมามาก ในขณะรอแพทย์มาดันมดลูกกลับ
2.2 รายงานแพทย์ เพื่อมาดันมดลูกกลับ
2.3 ให้ยาแก้ปวดตามแผนการรักษาของแพทย์
2.4 สังเกตภาวะช็อค ได้แก่ เหงื่อออก ตัวเย็น ความดันโลหิตต่ำหากมีอาการให้รายงานแพทย์เพื่อให้การช่วยเหลือต่อไป
ข้อวินิจฉัยทางการพยาบาล
1.มารดามีโอกาสเกิดมดลูกปลิ้น เนื่องจากทำคลอดรกไม่ถูกวิธี และ/หรือการฝังตัวของรกแน่ปกติ
1.ตรวจสอบอาการแสดงการลอกตัวของรกอย่างสมบูรณ์
2.คลึงมดลูกให้แข็งก่อนปฏิบัติการช่วยคลอดรกและเมื่อรกคลอดออกมาแต่เยื่อหุ้มรกยังค้างอยู่ ผู้ทำคลอดควรคลำยอดมดลูกว่าหดรัดตัวแข็งก่อนที่จะดึงรกเพื่อรั้งให้เยื่อหุ้มรกส่วนที่เหลือคลอดออกมา
3.หลังคลอดรกคลึงให้มดลูกหดรัดตัวแข็งเสมอ
4.ประเมินลักษณะมดลูก โดยคลำยอดมดลูกบริเวณหน้าท้อง
2.มารดามีโอกาสตกเลือดหรือช็อค เนื่องจากมีภาวะมดลูกปลิ้น
1.สารน้ำหรือเลือดทดแทนตามแผนการรักษาของแพทย์ เพื่อป้องกันภาวะช็อค
2.บันทึกสัญญาณชีพทุก 1 ชั่วโมง เพื่อประเมินอาการเปลี่ยนแปลง
3.ตรวจดูปริมาณเลือดที่ออกทางช่องคลอดเพื่อประเมินปริมาณการสูญเสียเลือด
4.รายงานแพทย์ เพื่อดันมดลูกกลับหรือผ่าตัดมดลูก
5.บันทึกปริมาณปัสสาวะที่ออก เพื่อประเมินการทำงานของไต
6.สังเกตอาการและอาการแสดง เช่น หน้ามืด ใจสั่น เหงื่อออก ตัวเย็น ชีพจรเบาเร็ว ความ ดันโลหิตลดลง ถ้ามีอาการให้รายงานแพทย์เพื่อให้การช่วยเหลือต่อไป
3.มารดาปวดมดลูกมาก เนื่องจากมดลูกปลิ้น
1.ดูแลให้ได้รับยาบรรเทาอาการปวดตามแผนการรักษาของแพทย์
2.สังเกตอาการและอาการแสดงของภาวะช็อคจากความเจ็บปวดที่รุนแรง เช่น หน้ามืด ใจสั่น เหงื่อออก ตัวเย็น ชีพจรเบาเร็ว ความดันโลหิตลดลงถ้ามีอาการายงานแพทย์
4.มารดาและครอบครัวมีความวิตกกังวลและกลัว เนื่องจากภาวะมดลูกปลิ้น
1.อธิบายให้มารดาและครอบครัวเข้าใจเกี่ยวกับการวางแผนให้การช่วยเหลือเพื่อความร่วมมือคลายความวิตกกังวลและความกลัว
2.ให้การพยาบาลด้วยท่าทีที่เป็นมิตรและเต็มใจช่วยเหลือ เพื่อให้มารดาเกิดความมั่นใจและ อบอุ่นทั้งด้านร่างกายและจิตใจ
3.เปิดโอกาสให้มารดาและครอบครัวซักถามข้อสงสัย ระบายความรู้สึกโดยรับฟังอย่างตั้งใจเประเมินระดับความวิตกกังวลและความกลัวของมารดาและครอบครัว
พยาธิสภาพ เมื่อเกิดการปลิ้นของมดลูกภายหลังทารกคลอดหรือภายหลังคลอดรกแล้วปากมดลูกและมดลูกส่วนล่างจะมีการหดรัดตัวเป็นวงแหวนล้อมรอบส่วนของมดลูกที่หย่อนตัวลงมาทำให้บริเวณที่ถูกรัเลือดไปเลี้ยงเกิดการบวมและมีเนื้อตาย ในที่สุดเนื้อตายนั้นจะหลุดออกมา
อาการและอาการแสดง
1.มีเลือดออกมาทันทีภายหลังคลอดในกรณีที่รกคลอดแล้ว เนื่องจากผนังมดลูกด้านในซึ่งมีหลอดเลือดบริเวณที่รกเกาะถูกปลิ้นกลับออกมาอยู่ภายนอกบริเวณที่มดลูกปลิ้นไม่สามารถหดรัดหลอดเลือด ปิดสนิท เลือดจึงไหลออกมามาก
2.มีอาการปวดท้องอย่างรุนแรง ถ้ารกยังไม่ลอกตัว หรือรกติดแน่น
3.มีอาการช็อคจากการปวด และการเสียเลือดมาก
4.การตรวจหน้าท้องในรายที่เป็นมดลูกปลิ้นชนิดไม่สมบูรณ์ จะพบว่ายอดมดลูกเป็นแอ่ง หรือปล่องภูเขาไฟ ในรายที่มดลูกปลิ้นสมบูรณ์ จะคลำไม่พบยอดมดลูก
5.การตรวจภายในจะคลำได้ก้อนเนื้อบริเวณปากมดลูกหรือคลำได้ก้อนในช่องคลอดหรือก้อนออกมานอกช่องคลอด ถ้ารกยังไม่หลุดก็จะเห็นรกติดกับก้อนเนื้อนั้น