Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
ภาวะน้ำคร่ำอุดกั้นหลอดเลือดในปอด - Coggle Diagram
ภาวะน้ำคร่ำอุดกั้นหลอดเลือดในปอด
ความหมาย
ภาวะที่น้ำคร่ำผ่านเข้าสู่กระแสเลือดของมารดา เข้าไปในหลอดลมฝอยในปอด แล้วไปอุดกั้นบริเวณหลอดเลือดดำที่ปอด ทำให้เกิดภาวะล้มเหลวของการทำงานของระบบหายใจ ระบบหัวใจ และการไหลเวียนโลหิต ระบบการแข็งตัวของโลหิต ช็อคและเสียชีวิตในที่สุด
ลักษณะเฉพาะ
1.ภาวะความดันโลหิตต่ำทันทีทันใด
2.ภาวะขาดออกซิเจน
3.ภาวะความผิดปกติของการแข็งตัวของเลือด
ปัจจัยส่งเสริม
1.การเร่งคลอดโดยการใช้ยากระตุ้นการหดรัดตัวของมดลูก
2.ทารกตายในครรภ์เป็นเวลานาน ทำให้มีการเปื่อยยุ่ย ขาดง่าย อาจเกิดการฉีกขาดของหลอดเลือด ทำให้น้ำคร่ำเข้าสู่กระแสเลือด
3.การคลอดเฉียบพลัน
4.รกเกาะต่ำ
5.รกลอกตัวก่อนกำหนด
6.มดลูกแตก
7.การบาดเจ็บในช่องท้อง
8.การผ่าตัดเอาทารกออกทางหน้าท้อง
9.มารดามีบุตรหลายคน
10.มารดาตั้งครรภ์หลังที่มีอายุมากกว่า 35 ปี
11.น้ำคร่ำมีขี้เทาปน
12.การเบ่งคลอดขณะถุงน้ำคร่ำยังไม่แตก
13.การเจาะถุงน้ำคร่ำ
14.การรูดเพื่อเปิดขยายปากมดลูก
15.การตรวจวินินฉัยน้ำคร่ำก่อนคลอด
16.การหมุนเปลี่ยนท่าทารกภายในและภายนอกครรภ์
อาการและอาการแสดง
1.มีอาการหนาวสั้น
2.เหงื่อออกมาก
3.คลื่นไส้ อาเจียน วิตกกังวล
4.หายใจลำบาก เกิดภาวะหายใจล้มเหลวทันทีทันใด เขียวตามใบหน้า และลำตัว
5.เกิดภาวะน้ำคั่งในปอด
6.เส้นเลือดที่หัวใจตีบ
7.ความดันโลหิตต่ำมาก
8.ชัก
9.หมดสติ
10.ถ้าเกิดอาการนานกว่า 1 ชม. ผู้คลอดยังมีชีวิตอยู่จะเกิดภาวะกลไกการแข็งตัวของเลือดเสียไป เกิดอาการตกเลือดอย่างรุนแรง
การวินิจฉัย
จากอาการและอาการแสดง
1.ระบบหายใจล้มเหลว
2.อาการเขียว
3.เส้นเลือดหัวใจหดเกร็ง
4.เลือดออก
5.ไม่รู้สติ
การตรวจทางห้องปฏิบัติการ
1.ตรวจหาเซลล์ผิวหนัง ขนอ่อน เมือกของทารกหรือเซลล์จากรก
2.การถ่ายภาพรัวสีทรวงอก
3.การตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ
4.ตรวจการไหลเวียนของเลือดในปอดอาจพบความบกพร้องในการกำซาบ
5.ตรวจหา Sialy 1 TH antigen จะพบมีระดับสูงขึ้นในน้ำคร่ำที่มีขี้เทาปนเปื้อน
ผลกระทบ
ต่อมารดา
ทำให้ผู้คลอดเสียชีวิตจากการเสียเลือด ช็อค ร้อยละ 39 ของผู้เสียชีวิตเกิดขึ้นภายใน 1 ชม. 1ใน 3 ของผู้เสียชีวิตทั้งหมด มักเสียชีวิตภายใน 30 นาที ถ้ารอดชีวิตมักมีอาการทางประสาท จากขาดออกซิเจนรุนแรง
ต่อทารก
มารดาที่หัวใจและปอดหยุดทำงาน โอกาสรอดของทารกมีค่อนข้างน้อย รอดร้อยละ 70 แต่เกือบครึ่งของทารกที่รอดชีวิตจะบกพร่องทางระบบประสาท
การป้องกัน
ให้ Oxytocin ระมัดระวัง ไม่ควรเร่ง
ไม่เจาะถุงน้ำก่อนปากมดลูกเปิดหมด
การเจาะถุงน้ำควรทำด้วยความระมัดระวังไม่ให้ถูกปากมดลูก
ไม่ควรทำ Membranes stripping เลือดดำบริเวณปากมดลูกด้านในฉีกขาด
การตรวจภาวะรกเกาะต่ำ ควรทำด้วยความระมัดระวัง
สังเกตอาการในผู้คลอดที่ถุงน้ำแตกแล้วมดลูกมีการหดรัดตัวรุนแรง ร่วมกับมีการฉีกขาดของผนังมดลูก ปากมดลูก
จัดให้นอนท่าศีรษะสูงพร้อมทั้งให้ออกซิเจน 6-8 LPM ทางหน้ากาก
การรักษา
ดูแลทางเดินหายใจให้โล่ง โดยการจัดท่านอน Fowler's position ให้ออกซิเจน 100 %
แก้ไขภาวะความดันโลหิตต่ำโดยการให้สารละลายทางหลอดเลือดดำ เพื่อเพิ่มปริมาณเลือด พลาสมาและสารไฟบริโนเจนแก้ไขภาวะสารไฟบริโนเจนในเลือดต่ำ
ดูแลการหดรัดตัวของมดลูก โดยให้ยา Oxytocin หรือ Methergin ทางหลอดเลือดดำ
เตรียมยาในการเตรียมช่วยชีวิตผู้คลอดถ้ามีความดันโลหิตต่ำ เช่น Dopamine,Norepinephrine,Epinephrine
รักษาภาวะการแข็งตัวของเลือดผิดปกติ โดยให้ยา Heparin
ประเมินการเสียเลือดทางช่องคลอด
ให้ Morphine ลดการคั่งของเลือดดำในปอด อาการหอบเขียว
ให้ Digitalis ช่วยให้หัวใจบีบตัวช้าลง แรงขึ้น เลือดออกจากหัวใจมากขึ้น
ให้ยา Hydrocortisone 1 gm. IV drip ช่วยภาวะหดเกร็งของหลอดเลือดแดงฝอยของปอด ทำให้การดูดซึมกลับของสารน้ำในเนื้อเยื่อต่างดีขึ้น
ให้ FFP, Platelet concentrated แก้ไขภาวะ fibrinogen ในเลือดต่ำหรือเพิ่ม blood volume
ถ้าทารกในครรภ์ยังมีชีวิตอยู่ ผ่าตัดเอารกออกทางหน้าท้องโดยด่วน
หาก PPH ให้ยาช่วยการหดรัดตัวของมดลูกหรือคลึงมดลูกตลอดเวลา หากไม่ได้ผลควรพิจารณาผ่าเอามดลูกออก
ถ้าผู้คลอดรอดชีวิต ติดตามแก้ไขภาวะแทรกซ้อนต่างๆเช่น Pneumonia,Renal failure,Sheehan's syndrome
พยาธิสภาพ
ปฏิกิริยาต่อต้าน ทำให้การไหลเวียนของเลือดในปอดลดลง ส่งผลต่อการแลกเปลี่ยนก๊าซออกซิเจนกับคาร์บอนไดออกไซด์ทำให้เกิดภาววะขาดออกซิเจนในเลือด
ภาวะการแข็งตัวของเลือดเป็นลิ่มเล็กๆแพร่กระจายในหลอดเลือด ผู้คลอดจะเสียเลือดมากและเสียชีวิตในที่สุดจากภาวะระบบหายใจและระบบหัวใจล้มเหลว
การพยาบาล
จัดให้มารดานอนท่า Fowler'position
ให้ออกซิเจน
ให้สารน้ำและเลือดตามแผนการรักษา
เฝ้าระวังการเกิดภาวะตกเลือดหลังคลอดเนื่องจากมดลูกหดรัดตัวไม่ดีและกลไกการแข็งตัวของเลือดสูญเสียไป
สังเกตการหดรัดตัวของมดลูก
เตรียมตัวช่วยคลอดโดยคีมหรือผ่าตัดคลอดทางหน้าท้อง
เตรียมช่วยฟื้นคืนชีพในรายที่เกิดหัวใจล้มเหลว
ใช้เครื่องช่วยหายใจใน 2-3 วันแรก ภายใต้การดูแลในหน่วยอภิบาลผู้ป่วยหนัก เพื่อดูแลระบบหายใจและระบบไหลเวียนเลือด
ดูแลและให้กำลังใจต่อครอบครัวถ้ามารดาทารกเสียชีวิต