Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
ตกเลือดหลังคลอด (Postpartum hemorrhage) - Coggle Diagram
ตกเลือดหลังคลอด
(Postpartum hemorrhage)
ความหมาย
การเสียเลือดผ่านทางช่องคลอด ภายหลังทารกคลอดในปริมาณ>500ml./ร้อยละ 1 ของน้ำหนักตัวมารดา แบ่งได้เป็น 2 แบบ
:red_flag:Early/Primary PPH ภายใน 24 hr.หลังคลอด
ภาวะตกเลือดหลังคลอดปฐมภูมิจำแนกระดับความรุนแรงของปริมาตรเลือดที่ออก
:!!:2,000-3,000ml.>รุนแรง>>หมดสติ หายใจลำบาก ไม่มีปัสสาวะ
:!!:1,500-2,000ml.>ปานกลาง>>กระสับกระส่าย ซีดลง ปัสสาวะออกน้อย
:!!:1,000-1,500ml.>เล็กน้อย>>อ่อนเพลีย ชีพจรเต้นเร็ว เหงื่อออก
:!!:500-1,000ml.>สามารถปรับตัวได้>>ใจสั่น เวียนศีรษะ
สาเหตุ
:!:
1.Tone/Uterine atony
มดลูกหดรัดตัวไม่ดี
มีรูเปิดของหลอดเลือดบริเวณที่รกลอกตัว ทำให้เลือดออกจำนวนมาก
พบ70%ของผู้ป่วยทั้งหมด
:fire:การติดเชื้อของมดลูกทำให้มีการอักเสบ บวม>>มดลูกหดรัดตัวไม่ดี
:fire:ภาวะเลือดออกก่อนคลอด
รกเกาะต่ำ>>เกิดแผลบริเวณมดลูกส่วนล่าง
รกลอกตัวก่อนกำหนด>>มีเลือดแทรกอยู่ระหว่างกล้ามเนื้อมดลูก>> ให้มดลูกหดรัดตัวไม่ดี
:fire:การคลอดยาก หรือการใช้สูติศาสตร์หัตถการช่วยคลอด
:fire:การใช้ยาบางชนิด เช่น ฮาโลเทน>>ฤทธิ์ทำให้มดลูกคลายตัว/Oxytocin>>ใช้เร่งคลอดปริมาณมาก>>มดลูกอ่อนล้าได้
:fire:การคลอดบุตรหลายครั้งโดยเฉพาะ>5ครั้ง
:fire:มดลูกมีการยืดขยายมากผิดปกติ>>twin/polyhydra./ทารกตัวโต
:fire:การเจ็บครรภ์คลอดที่เนินนานหรือการคลอดเร็วเกินไป
:!:
2.Trauma
การตกเลือดที่เกิดจากการฉีกขาดและการบวมเลือดของปากมดลูก/ช่องคลอด/ฝีเย็บ/รอบท่อปัสสาวะ
:fire:การตัดฝีเย็บที่ไม่ถูกวิธี/เร็วเกินไป>>เลือดออกมาก
:fire:เสียเลือดจากการฉีกขาดของหลอดเลือดฝอยหรือเส้นเลือดดำขอดพอง
:fire:การคลอดเร็วผิดปกติ>>ช่องคลอดฉีกขาด
:fire:CPD>>ทำให้เกิดมดลูกแตกได้
:fire:การทำคลอดและการช่วยคลอดที่ไม่ถูกต้อง การใช้สูติศาสตร์หัตถการช่วยคลอดในขณะที่ปากมดลูกเปิดยังไม่หมด
:fire:มดลูกบางกว่าปกติ>>จากตั้งครรภ์/คลอดหลายครั้ง/ผ่าตัดเนื้องอกมดลูก/C-S/มดลูกฉีกขาดและมีแผลต่อลงมาที่ปากมดลูกและช่องคลอด>>เกิดPPHได้
:!:
3.Tissues
การตกเลือดที่เกิดจากรก และเยื่อหุ้มทารก
:fire:
รกค้าง
กรณีลอกตัวหมดแล้ว แต่รกทั้งอันยังค้างอยู่ในโพรงมดลูก >> ทำให้มีเลือดออกมาก เกิดจากสาเหตุดังนี้ การให้ยากระตุ้นการหดรัดตัวของมดลูก/ทำคลอดรกไม่ถูกวิธี/การให้ยาก่อนคลอดรก หรือการกระตุ้นมดลูกอย่างรุนแรงก่อนตลอดรก
กรณีรกลอกตัวเป็นบางส่วน ซึ่งเกิดจากการที่รกเกาะลึกหรือเกาะติดแน่น >> ทำให้มีเลือดออกตลอดเวลา จากบริเวณที่รกลอกตัวไปแล้ว หรือรกมีInfractเป็นบริเวณกว้าง
:fire:
การมีเศษรกค้าง เกิดจากสาเหตุดังนี้
การทำคลอดรกผิดวิธี เช่น การดึงสายสะดือ การล้วงรก เป็นต้น
ความผิดปกติของรก เช่น รกมีขนาดใหญ่ หรือรกเกาะลึกร่วมกับการทำคลอดผิดวิธี
การมีรกน้อย เช่น Placenta succeturiata รกเหล่านี้ส่วนใหญ่จะลอกตัวหมด แต่ถ้าทำคลอดรกผิดวิธี จะเกิดการตกค้างของรกน้อยได้
:!:
4.Thrombin
การแข็งตัวของเลือดผิดปกติหรือเสียเลือดก่อนคลอด
-โรคเลือด เช่น aplastic anemia,ITP เป็นต้น
ได้รับยาanticoagulation
ประวิติเป็นโรคตับ
HELLP Syndrome
:red_flag:Late/Secondary PPH ภายหลังคลอด 24hr.-6wks.หลังคลอด
สาเหตุ
:!:มีก้อนเลือด หรือเศษรกค้างอยู่ภายในโพรงมดลูก เป็นสาเหตุที่พบได้บ่อยที่สุด มักเกิดภายหลังคลอดประมาณ1-2wk.
:!:ภาวะติดเชื้อภายในโพรงมดลูก ผู้ป่วยมักมีอาการของการติดเชื้อ เช่น มีไข้ น้ำคาวปลามีกลิ่นเหม็น ปวดท้องน้อย มดลูกเข้าอู่ไม่ดี
:!:เลือดออกจากแผลภายในช่องคลอดมักเกิดการติดเชื้อบริเวณภายในช่องคลอด
:!:สาเหตุร่วมกันที่พบได้บ่อย ได้แก่ ภาวะมีเศษรกค้างในโพรงมดลูกร่วมกับการติดเชื้อภายในโพรงมดลูก
:!:เลือดออกจากแผลของมดลุกภายหลังผ่าตัดคลอดทางหน้าท้องและมะเร็งไข่ปลาอุก เป็นสาเหตุที่พบได้น้อยมาก มักเกิดภายหลังคลอด 4wks.
การวินิจฉัยการตกเลือดหลังคลอดระยะแรก
อาการและอาการแสดง
:warning:การมีเลือดออก>>อาจเห็นหรือไม่เห็นทางช่องคลอดแตกต่างกัน ดังนี้
เกิดเลือดคั่งที่เอ็นยึดมดลูก>>ไม่ปรากฎเลือดไหลออกมาให้เห็นภายนอก
มดลูกปลิ้น>>มีเลือดพุ่งออกมาให้เห็นเป็นจำนวนมาก และอาจมีลิ่มเลือดสีแดงคล้ำปนออกมาด้วย
การฉีกขาดของช่องคลอด>>เลือดสีแดงสด
การฉีกขาดของหลอดเลือดฝอย>>พุ่งแรงตามจังหวะของชีพจร/ไหลไม่หยุด แม้มดลูกจะแข็งตัว
มดลูกหดรัดตัวไม่ดี>>เลือดจะมีสีคล้ำ ลิ่มเลือดปน>>หยุดไหลเมื่อมดลูกหดรัดตัวดี
เศษรกค้าง>>เกิดในPrimary PPHถ้าเศษรกเล็กมากๆ>>ทำให้เกิดSecondary PPH
:warning:มดลูกหดรัดตัวไม่ดี ระดับของมดลูกจะสูงและโตอาจถึงระดับสะดือหรือเหนือสะดือได้>>กรณีที่มดลูกหดรัดตัวดีแต่ยังมีเลือดออกจากช่องคลอดมาก>>เกิดจากการฉีกขาดของช่องคลอด
:warning:หน้าซีด ชีพจรเต้นเร็ว ระยะแรกจะหายใจเร็ว ต่อมาหายใจช้า ใจสั่น เหงื่อออกมาก อ่อนเพลีย ความดันต่ำ หมดสติและถึงแก่ชีวิต
ตรวจชิ้นส่วนของรกที่อาจตกค้างอยู่
ตรวจรกที่คลอดแล้วอย่างละเอียด หรือการใช้มือตรวจภายในโพรงมดลูก
การตรวจlab
Prothrombin time(PT)
PTT
Clotting time
Platelet count
ผลจากการตกเลือดหลังคลอดระยะแรก
:explode:
ระยะทันทีหลังคลอด
ใจสั่น ซีดลง ชีพจรเบาเร็ว BP drop shock อวัยวะล้มเหลว ได้แก่ ไตวาย หัวใจวาย อาจตายได้
:explode:หากเลือดมากจนAnterior pitiutaryขาดเลือดไปเลี้ยง ทำให้การทำงานของระบบต่อมไร้ท่อบ่กพร่อง ได้แก่ ต่อมไทรอยด์ ต่อมหมวกไต และรังไข่ เกิดอาการไม่มีน้ำนมหลังคลอด เต้านมเหี่ยว ระดูขาดและขนของอวัยวะเพศร่วง อ่อนเพลีย ขาดความสนใจสิ่งแวดล้อมซึ่งเป็นอาการSheehan's Syndrome
การป้องกันการตกเลือดหลังคลอดระยะแรก
ระยะก่อนคลอด
:forbidden:การซักประวัติ หาปัจจัยเสี่ยงของPPH
:forbidden:การตรวจร่างกาย
ค้นหาภาวะโลหิตจาง>>ให้ธาตุเหล็ก
keep hct มากกว่าหรือเท่ากับ33%(Hbมากกว่าเท่ากับ11g/dl)
เตรียมการดูแลรักษาสตรีตั้งครรภ์ที่มีโรคประจำตัวซึ่งเสี่ยงที่จะเกิดภาวะตกเลือดหลังคลอดปฐมภูมิ เช่น สตรีตั้งครรภ์ โรคธาลัสซีเมีย,กลุ่มRh D negative หรือ IPD เป็นต้น
ระยะคลอด
:forbidden:ดูแลไม่ให้คลอดยาวนาน
:forbidden:ระวังการให้ยาแก้ปวดในขนาดที่มากเกินไป เพราะอาจเกิดผลต่อการหดรัดตัวของมดลูก
:forbidden:ทำคลอดในระยะที่2และระยะที่3อย่างถูกต้องเหมาะสม
:forbidden:หลีกเลี่ยงการทำสูติศาสตร์หัตถการอย่างยาก
:forbidden:ตรวจรกและช่องทางคลอดอย่างละเอียด
ระยะหลังคลอด
:forbidden:ดูแลให้กระเพาะปัสสาวะว่างโดยการกระตุ้นให้ถ่ายปัสสาวะภายใน 2 hr.แรกหลังคลอด
:forbidden:กระตุ้นให้บุตรดูดนมมารดาทีนทีหลังคลอด เพื่อกระตุ้นให้ฮอร์โมนOxytocinหลั่งมากขึ้นเพื่อให้มดลูกหดรัดตัวดี
แนวทางการรักษาตามหลักการActive management of the thrid stage of labour
:spiral_note_pad:ได้รับการยอมรับว่าสามารถลดอุบัติการณ์ของภาวะตกเลือดหลังคลอดปฐมภูมิได้อย่างชัดเจน
:spiral_note_pad:การให้ยากระตุ้นการหดรัดตัวของมดลูก(Uterotonic drugs)
:spiral_note_pad:การทำคลอดรกด้วยวิธีControlled cord traction
:spiral_note_pad:การนวดมดลูกภายหลังคลอด(Uterine masage)
:spiral_note_pad:
การให้ยากระตุ้นการหดรัดตัวของมดลูก(Uterotonic drugs)
ยาที่ดีและปลอดภัยในการบริหารยามากที่สุด คือ Oxytocin เพราะสามารถลดความเสี่ยงPrimary PPHมากถึงร้อยละ60 แนะนำให้เลือกใช้เป็นอันดับแรก
สำหรับยาอื่นๆจำเป็นต้องใช้ด้วยความระมัดระวัง
ซึ่งยาที่แนะนำให้ใช้ในการป้องกันการตกเลือดหลังคลอดระยะแรกคือOxytocin,Mrthergin and Misoprostol(Cytotec)
:spiral_note_pad:
การทำคลอดรกด้วยวิธีControlled cord traction
การทำคลอดรกโดยไม่รอให้มีอาการแสดงของรกลอกตัว
จำเป็นต้องได้รับการเรียนรู้และฝึกฝนก่อนปฏิบัติจริง
เสี่ยงต่อการเกิดชิ้นส่วนรกและเยื่อหุ้มเด็กค้าง/สายสะดือขาด/มดลูกปลิ้น
พระราชบัญญัติวิชาชีพพยาบาลยังไม่รองรับให้พยาบาลวิชาชีพทำคลอดรกด้วยวิธีControlled cord traction
:spiral_note_pad:
การนวดมดลูกภายหลังคลอด(Uterine masage)
ไม่มีหลักฐานทางการแพทย์สรุปอย่างชัดเจนว่าป้องกันภาวะตกเลือดหลังคลอดหรือไม่
แต่ยังแนะนำให้ทำหัตถการนี้ในเวชปฏิบัติ
ขั้นตอนการนวดมดลูกหลังคลอด
:star:นวดมดลูกบริเวณยอดมดลูกผ่านทางหน้าท้องทันทีหลังการคลอดรกจนมดลูกหดรัดตัวดี
:star:ตรวจสอบการรดรัดตัวของมดลูกทุก15นาที และนวดคลึงมดลูกซ้ำหากตรวจพบว่ามีการหดรัดตัวที่ไม่ดีโดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วง 2 hr.แรกหลังคลอด
:star:หากจะหยุดการนวดมดลูกต้องมั่นใจว่าการหดตัวของมดลูกอยู่ในเกณฑ์ดีแล้ว
:star:ไม่จำเป็นต้องนวดมดลูกตลอดเวลา>>สร้างความไม่สุขสบายและความเจ็บปวดให้กับผู้ป่วย/สูญเสียบุคลากรโดยไม่จำเป็น
:star:หากมดลูกหดรัดตัวดีในระยะ2hr.แรกก็สามารถย้ายมารดาไปยังหอผู้ป่วยหลังคลอดได้
การรักษาการตกเลือดหลังคลอดระยะแรก
แบ่งเป็น 2 ระยะ
:champagne:
การตกเลือดก่อนรกคลอด
ตรวจV/S
ให้สารน้ำทางIV คือ5%D/Wหรือ5%D/NSSหรือRinger lactase solution(RLS)1,000ml.ร่วมกับOxytocin10-20unitโดยเร็ว
เจาะเลือดมารดาเพื่อตรวจหาระดับความเข้มข้นของเลือดพร้อมทั้งขอเลือดเตรียมไว้อย่างน้อย2unit
ใส่สายสวนปัสสาวะคาไว้เพื่อวัดปริมาณของปัสสาวะที่ออกมา และลดสิ่งขัดขวางการหดรัดตัวของมดลูก
ให้ยาOxytocin10-20unit IM/IV เพื่อไหล่หน้าหรือศรีษะทารกคลอดแล้ว
ทำคลอดโดยวิธีCord tractionถ้ารกไม่คลอดให้ล้วงรกภายใต้ยาระงับความรู้สึกปวดหรือฉีดPethidine50mg. IV
ตรวจรกที่คลอดแล้วอย่างละเอียด
คลึงมดลูกให้หดรัดตัวตลอดเวลา
ฉีดMethergin0.2mg. IVถ้าจำเป็นเพื่อกระตุ้นการหดรัดตัวของมดลูก(ยกเว้นรายที่มีภาวะความดันสูง)
กรณีภายหลังรกคลอดแล้วถ้าเลือดยังออกอยู่ให้ปฏิบัติข้อ2ต่อไป
:champagne:
การตกเลือดภายหลังรกคลอด
กรณีมดลูกหดรัดตัวไม่ดี และมีเลือดไหลออกมาทางช่องคลอดตลอดเวลาโดยมีทั้งน้ำเลือดและก้อนเลือดให้ปฏิบัติ ดังนี้
คลึงมดลูกให้หดรัดตัวตลอดเวลา
สวนปัสสาวะออกให้หมด แล้วคาสายสวนไว้ เพื่อให้กระเพาะปัสสาวะว่าง ไม่ขัดขวางการหดรัดตัวของมดลูก
ให้5%D/Wหรือ5%D/NSSหรือRLS1,000ml.ร่วมกับOxytocin10-20unitผสมอยู่(กรณีที่ยังไม่ได้ให้)และขอเลือดเตรียมไว้2-4unit
ฉีดMethergin0.2mg.IV
วางกระเป๋าน้ำแข็งบริเวณหน้าท้อง และคลึงให้มดลูกหดรัดตัวตลอดเวลา
:beer_mugs::กรณีมีการฉีกขาดของช่องคลอด ถ้ามดลูกหดรัดตัวดีแล้ว แต่ยังมีเลือดไหลออกมาเรื่อยๆและสีค่อนข้างแดงสดให้ใช้เครื่องมือถ่างขยายช่องคลอดให้เห็นภายในช่องคลอด และปากมดลูกได้ชัดเจน ตรวจหารอยฉีกขาดบริเวณที่พบได้บ่อยคือ มีการฉีกขาดต่อจากฝีเย็บและบริเวณด้านข้างของปากมดลูก ให้เย็บรอยฉีกขาดเหล่านั้นจนเลือดหยุด
:beer_mugs:กรณีทำตามข้อ1และ2แล้วเลือดยังออกเรื่อยๆให้ตรวจภายในโพรงมดลูก ภายใต้การดมยาสลบโดยงดเว้นการฮาโลเทนดูว่ามีก้อนเลือดหรือเศษรกค้างอยู่หรือไม่ ถ้ามีก็พยายามล้วงออกให้หมดหรือขูดมดลูก เพื่อให้มดลูกหดรัดตัวดียิ่งขึ้น และถ้าพบว่ามดลูกมีรอยฉีกขาดหรือทะลุให้รีบผ่าตัดเปิดช่องท้องทันที
:beer_mugs:กรณีทำตามข้อ1,2และ3แล้วเลือดยังออกเรื่อยๆจะให้รักษาดังนี้
ตรวจVeus clotting time,clot retraction timeและclot lysisโดยเฉพาะในกรณีที่เลือดออกเป็นน้ำเลือดไม่แข็งตัวเป็นก้อน
ถ้าพบว่าVenus clotting time เกิน15นาทีหรือมีclot lysisเกิดขึ้นภายใน1-2hr.แสดงว่าเกิดภาวะfibrinogenในเลือดต่ำ
แก้ไขโดยให้พลาสมาสดหรือพลาสมาแช่แข็งหรือCryoprecipitate(1unit มีfibrinogen200-500mg.)
ทำBimanual compressionบนตัวมดลูก ในขณะที่ยังให้ยาสลบ
โดยสอดกำมือขวาเข้าไปในช่องคลอด กดบริเวณAnterior fornixและใช้มือซ้ายคลึงมดลูกบริเวณหน้าท้องให้แข็งตัวตลอดเวลา
พร้อมกับโกยมดลูกมากดบริเวณกระดูกหัวเหน่าด้านหน้า เป็นการยึดUterine vesselsให้ตีบลง ลดปริมาณเลือดที่ไหลมายังมดลูก
กดบีบผนังมดลูกให้เข้าหากันร่วมกับการคลึงมดลูกให้หดรัดตัวตลอดเวลา ใช้เวลาประมาณ30นาทีขึ้นไป
:beer_mugs:กรณีที่ทำตามขั้นตอนดังกล่าวแล้วเลือดไม่หยุด ควรพิจารณาฉีดProstaglandin ที่นิยทใช้มี2ชนิด ให้เลือกใช้ชนิดใดชนิดหนึ่งได้แก่
Prostaglandin E2 analogue ได่แก่ nalador 0.5mg. IMหรือฉีดที่ปากมดลูกอาจฉีดซ้ำทุก10-15นาทีและให้ได้ไม่เกิน6ครั้ง
Prostaglandin E2 alpha 0.25mg IMหรือฉีดที่ปากมดลูกอาจฉีดซ้ำทุก15-90นาทีและให้ได้ไม่เกิน8ครั้ง
:recycle:หาทำตามข้อ1-4แล้วยังคงมีเลือดออกอยู่เรื่อยๆถ้าลูกมากหรือมีบุตรเพียงพอแล้วให้ตัดมดลูกออก ถ้าอายุน้อยและยังต้องการมีบุตรอีกให้ทำการผ่าตัดผูกหลอดเลือดInternal iliac hypogastric เพื่อเก็บมดลูกไว้
การดูแลอย่างใกล้ชิดโดยเฉพาะ24-48hr.แรกหลังคลอด
V/S:ความดัน หายใจ GCS
ตรวจหาระดับความเข้มข้นของเลือด และอาจต้องให้เลือดเพิ่มเติมถ้าจำเป็น
คำนวณI/Oเพื่อป้องกันการให้สารน้ำมากหรือน้อยเกินไป
ให้ยาATBประเภทครอบคลุมเชื้อได้กว้างขวาง
ให้ยาบำรุงเลือด และอาหารที่มีประโยชน์อย่างเพียงพอ
การวินิจฉัยการตกเลือดระยะหลัง
:mag:อาการและอาการแสดง ได้แก่ มีเลือดออกทางช่องคลอด มักเกิดอาการภายใน3wks.หลังคลอด
:mag:ส่วนใหญ่พบระหว่าง7-14วันหลังคลอด
:mag:อาการอื่นๆคล้ายกับการตกเลือดหลังคลอดระยะแรก
ผลของการตกเลือดหลังคลอดระยะหลัง
:explode:ภูมิต้านทานโรคต่ำ ติดเชื้อได้ง่าย
:explode:เกิดNecrosisของต่อมสมองส่วนหน้า(Sheehan's syndrome)
:explode:ภาวะซีด อ่อนเพลีย สุขภาพทรุดโทรม
การรักษาการตกเลือดหลังคลอดระยะหลัง
:hammer_and_wrench:มีเลือดออกจากแผลภายในช่องคลอด ให้ทำความสะอาดและเย็บแผลให้เลือดหยุด ถ้าเนื้อเยื่อบริเวณแผลยุ่ยมาก เย็บแล้วเลือดไม่หยุด อาจต้องกดไว้หรือใช้ผ้าก๊อซอัดไว้ในชองคลอดร่วมกับการใช้ยาATB
:hammer_and_wrench:มีการติดเชื้อภายในโพรงมดลูก>>ให้ยาช่วยการหดรัดตัวของมดลูก และให้ATB
:hammer_and_wrench:มีเศษรกค้าง หรือมีก้อนเลือดค้างในโพรงมดลูก>>ให้Oxytocin/ขูดมดลูกด้วยความระมัดระวัง>>ผนังมดลูกมีลักษณะนุ่ม และทะลุได้ง่าย
กระบวนการพยาบาลในการดูแลมารดาหลัง
คลอดที่มีภาวะตกเลือด
การประเมินสภาพ
:mag:การซักประวัติ ได้แก่
ประวัติส่วนตัว เช่น ภาวะโลหิตจาง การแข็งตัวของเลือดผิดปกติ
ประวัติทางสูติศาสตร์>>การคลอดเร็ว คลอดยาวนาน ได้รับยาที่มีผลต่อการหดรัดตัวของมดลูก สูติศาสตร์หัถตการ เคยตกเลือดหลังคลอด มดลูกแตกหรือการผ่าตัดมดลูก ทำคลอดขณะรกยังไม่ลอกตัว
ประวัติความผิดปกติในระยะตั้งครรภ์ เช่น ครรภ์เป็นพิษ Aminionitis และทารกตายในครรภ์ ภาวะรกเกาะต่ำ แฝดครรภ์น้ำ หรือครรภ์แฝด
:mag:การตรวจร่างกาย
การหดรัดตัวของมดลูก>>นุ่ม/ยอดมดลูกสูง
การฉีกขาดของช่องคลอด
การบวมเลือดของอวัยวะสืบพันธ์
การมีรกหรือดเศษเยื่อหุ้มรกค้างในโพรงมดลูก
มีเลือดสดออกทางช่องคลอด
ซีด ตัวเย็น ชีพจรเบาเร็ว อ่อนเพลีย ความดันต่ำ กระสับกระส่าย
การตรวจทางช่องคลอด พบเศษเยื่อหุ้มรกที่ปากมดลูก
อาการติดเชื้อ เช่น มีไข้ น้ำคาวปลามีกลิ่นเหม็น ปวดท้องน้อย
ความสามารถในการเข้าอู่ของมดลูก ประเมินจากระดับยอดมดลูก
ความรุนแรงของการเสียเลือด การมีเลือดออกทางช่องคลอด ปริมาณเลือดลักษณะ สี กลิ่น
:mag:
การตรวจlab
CBC
การตรวจหาหมู่เลือด
Platelets,PT,PTT,Fibrinogen depression
ข้อวินิจฉัยทางการพยาบาล
:pencil2:เสี่ยงต่อการเกิดภาวะตกเลือดหลังคลอด เนื่องจากช่องคลอดมีการฉีกขาดที่ลึก
:pencil2:อาจเกิดภาวะHypovolemic shock เนื่องจากเสียเลือดในระยะหลังคลอดเป็นจำนวนมาก
:pencil2:อาจเกิดภาวะตกเลือดหลังคลอด เนื่องจากมีความผิดปกติในการแข็งตัวของเลือด มดลูกหดรัดตัวไม่ดี ช่องคลอดฉีกขาด มีเศษรกหรือเยื่อหุ้มทารกค้างในโพรงมดลูก
:pencil2:สัมพันธภาพระหว่างมารดาและทารกล่าช้า เนื่องจากมีภาวะตกเลือดหลังคลอด